ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๓ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๕ [ฉบับมหาจุฬาฯ] ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๒ -พุทธวังสะ-จริยาปิฎก
๙. สัพพผลทายกเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระสัพพผลทายกเถระ
(พระสัพพผลทายกเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า) [๕๑] ครั้งนั้น ข้าพเจ้าได้เป็นพราหมณ์มีนามว่าวรุณ เรียนจบมนตร์แล้วละทิ้งบุตร ๑๐ คน เข้าป่า [๕๒] สร้างอาศรมอย่างดี สร้างบรรณศาลา จัดไว้เป็นสัดส่วนน่ารื่นรมย์ใจ อยู่ในป่าใหญ่ [๕๓] พระพุทธเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ ผู้ทรงรู้แจ้งโลก ผู้สมควรรับเครื่องบูชา พระองค์ทรงประสงค์จะช่วยเหลือข้าพเจ้า จึงเสด็จมายังอาศรมของข้าพเจ้า [๕๔] พระรัศมีได้แผ่ไปทั่วไพรสณฑ์ ครั้งนั้น ป่าใหญ่สว่างไสวด้วยพุทธานุภาพ [๕๕] ข้าพเจ้าเห็นปาฏิหาริย์ของพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐที่สุด ผู้คงที่ จึงได้เก็บใบไม้มาเย็บเป็นกระทงแล้วใส่ผลไม้จนเต็ม [๕๖] เข้าไปเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วได้ถวายทั้งหาบ เพราะจะทรงอนุเคราะห์ข้าพเจ้า พระพุทธเจ้าจึงได้ตรัสพระดำรัสนี้ว่า {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๓ หน้า : ๒๑๐}

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๕๒. ผลทายกวรรค]

๙. สัพพผลทายกเถราปทาน

[๕๗] ท่านจงหาบตามหลังเรามา เมื่อพระสงฆ์ฉันแล้ว บุญจักมีแก่ท่าน [๕๘] ข้าพเจ้าได้หอบห่อผลไม้ถวายภิกษุสงฆ์ ทำจิตให้เลื่อมใสในภิกษุสงฆ์นั้นแล้ว ได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดุสิต [๕๙] ข้าพเจ้าผู้ประกอบด้วยบุญกรรม เสวยยศ พร้อมด้วยการฟ้อนรำ ขับร้อง และประโคมดนตรีอันเป็นทิพย์ อยู่ในสวรรค์ชั้นดุสิตนั้น [๖๐] ข้าพเจ้าเกิดในกำเนิดใดๆ คือจะเกิดเป็นเทวดาหรือมนุษย์ก็ตาม (ในกำเนิดนั้นๆ) ข้าพเจ้าไม่มีความพร่องด้วยโภคะเลย นี้เป็นผลแห่งการถวายผลไม้ [๖๑] เพราะได้ถวายผลไม้แด่พระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าจึงครองความเป็นใหญ่ ตลอดทวีปทั้ง ๔ พร้อมทั้งทะเลและภูเขา [๖๒] แม้ฝูงนกเท่าที่โผบินอยู่ในอากาศ ก็อยู่ในอำนาจของข้าพเจ้า นี้เป็นผลแห่งการถวายผลไม้ [๖๓] ยักษ์ ภูต รากษส กุมภัณฑ์ และครุฑ เท่าที่มีอยู่ในไพรสณฑ์ ต่างก็มาบำรุงข้าพเจ้า [๖๔] แม้จระเข้ หมาใน ผึ้ง เหลือบ และยุงทั้ง ๒ ก็อยู่ในอำนาจของข้าพเจ้า นี้เป็นผลแห่งการถวายผลไม้ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๓ หน้า : ๒๑๑}

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๕๒. ผลทายกวรรค]

๙. สัพพผลทายกเถราปทาน

[๖๕] แม้นกครุฑและเหล่าปักษีที่มีกำลังมาก ก็มานับถือข้าพเจ้าเป็นที่พึ่ง นี้เป็นผลแห่งการถวายผลไม้ [๖๖] แม้พวกนาคที่มีอายุยืน มีฤทธิ์ มียศมาก ก็อยู่ในอำนาจของข้าพเจ้า นี้เป็นผลแห่งการถวายผลไม้ [๖๗] ราชสีห์ เสือโคร่ง เสือเหลือง หมี หมาป่า หมาใน ก็อยู่ในอำนาจของข้าพเจ้า นี้เป็นผลแห่งการถวายผลไม้ [๖๘] รุกขเทวดาที่มีรัศมีดังดาวประกายพรึก และเหล่าอากาสัฏฐเทวดา ทั้งหมดล้วนนับถือข้าพเจ้าเป็นที่พึ่ง นี้เป็นผลแห่งการถวายผลไม้ [๖๙] ธรรมที่เห็นได้โดยยาก ละเอียด ลึกซึ้ง ซึ่งพระศาสดาทรงประกาศไว้ดีแล้ว ข้าพเจ้าก็ได้บรรลุแล้ว นี้เป็นผลแห่งการถวายผลไม้ [๗๐] ข้าพเจ้าบรรลุวิโมกข์ ๘ เป็นผู้มีความเพียร และมีปัญญาเครื่องรักษาตนอยู่อย่างผู้ไม่มีอาสวะ นี้เป็นผลแห่งการถวายผลไม้ [๗๑] บรรดาพุทธบุตรผู้บรรลุอรหัตตผล สิ้นโทสะ มียศยิ่งใหญ่ ข้าพเจ้าก็เป็นผู้หนึ่ง นี้เป็นผลแห่งการถวายผลไม้ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๓ หน้า : ๒๑๒}

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๕๒. ผลทายกวรรค]

๙. สัพพผลทายกเถราปทาน

[๗๒] ข้าพเจ้าได้สำเร็จอภิญญา ถูกกุศลมูลตักเตือนแล้ว กำหนดรู้อาสวะทั้งปวงแล้ว อยู่อย่างผู้ไม่มีอาสวะ [๗๓] บรรดาพุทธบุตรผู้ได้วิชชา ๓ มีฤทธิ์ มียศยิ่งใหญ่ มีหูทิพย์ ข้าพเจ้าก็เป็นผู้หนึ่ง [๗๔] ในกัปที่ ๑๐๐,๐๐๐ นับจากกัปนี้ไป ข้าพเจ้าได้ถวายผลไม้ไว้ในครั้งนั้น จึงไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการถวายผลไม้ [๗๕] กิเลสทั้งหลายข้าพเจ้าก็เผาได้แล้ว ภพทั้งปวงข้าพเจ้าก็ถอนได้แล้ว ข้าพเจ้าตัดกิเลสเครื่องผูกพันได้แล้วอยู่อย่างผู้ไม่มีอาสวะ ดุจพญาช้างตัดเครื่องพันธนาการได้แล้วอยู่อย่างอิสระ [๗๖] การที่ข้าพเจ้ามาในสำนักของพระพุทธเจ้า เป็นการมาดีแล้วโดยแท้ วิชชา ๓ ข้าพเจ้าได้บรรลุแล้วโดยลำดับ คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว [๗๗] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าก็ได้ทำให้แจ้งแล้ว คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล ได้ทราบว่า ท่านพระสัพพผลทายกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
สัพพผลทายกเถราปทานที่ ๙ จบ
{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๓ หน้า : ๒๑๓}


                  เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๓๓ หน้าที่ ๒๑๐-๒๑๓. http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/m_siri.php?B=33&siri=109              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [คลิกเพื่อฟัง]                   อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=33&A=2393&Z=2437                   ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=33&i=109              พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=33&item=109&items=1              The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=33&item=109&items=1                   สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๓ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu33              อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://suttacentral.net/tha-ap521/en/walters



บันทึก ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :