ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๖ พระอภิธรรมปิฎกเล่มที่ ๓ [ฉบับมหาจุฬาฯ] ธาตุกถา-ปุคคลบัญญัติปกรณ์

พระอภิธรรมปิฎก ธาตุกถา [๑๒. ทวาทสมนัย]

๑๒. สัมปยุตเตนสังคหิตาสังคหิตปทนิทเทส

๑๒. ทวาทสมนัย
๑๒. สัมปยุตเตนสังคหิตาสังคหิตปทนิทเทส
[๔๑๗] สภาวธรรมเหล่าใดสัมปยุตด้วยเวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๓ อายตนะ ๒ และธาตุ ๘ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๒ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๐ [๔๑๘] สภาวธรรมเหล่าใดสัมปยุตด้วยวิญญาณขันธ์ มนายตนะ จักขุวิญญาณ- ธาตุ ฯลฯ มโนธาตุ มโนวิญญาณธาตุ สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๓ อายตนะ ๑ และธาตุ ๑ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๒ อายตนะ ๑๑ และธาตุ ๑๗ [๔๑๙] สภาวธรรมเหล่าใดสัมปยุตด้วยสมุทยสัจ มัคคสัจ สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๒ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๖ [๔๒๐] สภาวธรรมเหล่าใดสัมปยุตด้วยมนินทรีย์ สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๓ อายตนะ ๑ และธาตุ ๑ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๒ อายตนะ ๑๑ และธาตุ ๑๗ [๔๒๑] สภาวธรรมเหล่าใดสัมปยุตด้วยสุขินทรีย์ ทุกขินทรีย์ โสมนัสสินทรีย์ โทมนัสสินทรีย์ สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๓ อายตนะ ๒ และธาตุ ๒ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๖ หน้า : ๑๐๕}

พระอภิธรรมปิฎก ธาตุกถา [๑๒. ทวาทสมนัย]

๑๒. สัมปยุตเตนสังคหิตาสังคหิตปทนิทเทส

สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๒ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๖ [๔๒๒] สภาวธรรมเหล่าใดสัมปยุตด้วยอุเปกขินทรีย์ สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๓ อายตนะ ๒ และธาตุ ๗ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๒ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๑ [๔๒๓] สภาวธรรมเหล่าใดสัมปยุตด้วยสัทธินทรีย์ วิริยินทรีย์ สตินทรีย์ สมาธินทรีย์ ปัญญินทรีย์ อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ อัญญินทรีย์ อัญญาตาวินทรีย์ อวิชชา สังขารที่เกิดเพราะมีอวิชชาเป็นปัจจัย สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๒ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๖ [๔๒๔] สภาวธรรมเหล่าใดสัมปยุตด้วยวิญญาณที่เกิดเพราะมีสังขารเป็นปัจจัย สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๓ อายตนะ ๑ และธาตุ ๑ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๒ อายตนะ ๑๑ และธาตุ ๑๗ [๔๒๕] สภาวธรรมเหล่าใดสัมปยุตด้วยผัสสะที่เกิดเพราะมีสฬายตนะเป็นปัจจัย สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๘ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๐ [๔๒๖] สภาวธรรมเหล่าใดสัมปยุตด้วยเวทนาที่เกิดเพราะมีผัสสะเป็นปัจจัย สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๓ อายตนะ ๒ และธาตุ ๘ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๒ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๐ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๖ หน้า : ๑๐๖}

พระอภิธรรมปิฎก ธาตุกถา [๑๒. ทวาทสมนัย]

๑๒. สัมปยุตเตนสังคหิตาสังคหิตปทนิทเทส

[๔๒๗] สภาวธรรมเหล่าใดสัมปยุตด้วยตัณหาที่เกิดเพราะมีเวทนาเป็นปัจจัย อุปาทานที่เกิดเพราะมีตัณหาเป็นปัจจัย กัมมภพ สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๒ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๖ [๔๒๘] สภาวธรรมเหล่าใดสัมปยุตด้วยโสกะ ทุกข์ โทมนัส สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๓ อายตนะ ๒ และธาตุ ๒ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๒ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๖ [๔๒๙] สภาวธรรมเหล่าใดสัมปยุตด้วยอุปายาส สติปัฏฐาน สัมมัปปธาน สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๒ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๖ [๔๓๐] สภาวธรรมเหล่าใดสัมปยุตด้วยอิทธิบาท สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๓ อายตนะ ๑ และธาตุ ๑ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๒ อายตนะ ๑๑ และธาตุ ๑๗ [๔๓๑] สภาวธรรมเหล่าใดสัมปยุตด้วยฌาน สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๓ อายตนะ ๒ และธาตุ ๒ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๒ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๖ [๔๓๒] สภาวธรรมเหล่าใดสัมปยุตด้วยอัปปมัญญา อินทรีย์ ๕ พละ ๕ โพชฌงค์ ๗ อริยมรรคมีองค์ ๘ สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๒ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๖ หน้า : ๑๐๗}

พระอภิธรรมปิฎก ธาตุกถา [๑๒. ทวาทสมนัย]

๑๒. สัมปยุตเตนสังคหิตาสังคหิตปทนิทเทส

สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๖ [๔๓๓] สภาวธรรมเหล่าใดสัมปยุตด้วยผัสสะ เจตนา มนสิการ สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๘ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๐ [๔๓๔] สภาวธรรมเหล่าใดสัมปยุตด้วยเวทนา สัญญา สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๓ อายตนะ ๒ และธาตุ ๘ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๒ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๐ [๔๓๕] สภาวธรรมเหล่าใดสัมปยุตด้วยจิต สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๓ อายตนะ ๑ และธาตุ ๑ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๒ อายตนะ ๑๑ และธาตุ ๑๗ [๔๓๖] สภาวธรรมเหล่าใดสัมปยุตด้วยอธิโมกข์ สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๓ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๕ [๔๓๗] สภาวธรรมเหล่าใดสัมปยุตด้วยสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนา สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอทุกขม- สุขเวทนา สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจาร สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมี เพียงวิจาร สภาวธรรมที่สหรคตด้วยปีติ สภาวธรรมที่สหรคตด้วยสุข สภาวธรรมที่สหรคตด้วยอุเบกขา สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑ และธาตุ ๑ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๖ หน้า : ๑๐๘}

พระอภิธรรมปิฎก ธาตุกถา [๑๒. ทวาทสมนัย]

๑๒. สัมปยุตเตนสังคหิตาสังคหิตปทนิทเทส

สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๑๑ และธาตุ ๑๗ [๔๓๘] สภาวธรรมเหล่าใดสัมปยุตด้วยสภาวธรรมที่เป็นเหตุ สภาวธรรมที่เป็น เหตุและมีเหตุ สภาวธรรมที่เป็นเหตุและสัมปยุตด้วยเหตุ สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๒ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๖ [๔๓๙] สภาวธรรมเหล่าใดสัมปยุตด้วยสภาวธรรมที่มีเหตุแต่ไม่เป็นเหตุ สภาว- ธรรมที่สัมปยุตด้วยเหตุแต่ไม่เป็นเหตุ สภาวธรรมที่ไม่เป็นเหตุแต่มีเหตุ สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑ และธาตุ ๑ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๑๑ และธาตุ ๑๗ [๔๔๐] สภาวธรรมเหล่าใดสัมปยุตด้วยสภาวธรรมที่เป็นอาสวะ สภาวธรรมที่ เป็นอาสวะและเป็นอารมณ์ของอาสวะ สภาวธรรมที่เป็นอาสวะและ สัมปยุตด้วยอาสวะ สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๒ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๖ [๔๔๑] สภาวธรรมเหล่าใดสัมปยุตด้วยสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอาสวะแต่ไม่ เป็นอาสวะ สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑ และธาตุ ๑ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๑๑ และธาตุ ๑๗ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๖ หน้า : ๑๐๙}

พระอภิธรรมปิฎก ธาตุกถา [๑๒. ทวาทสมนัย]

๑๒. สัมปยุตเตนสังคหิตาสังคหิตปทนิทเทส

[๔๔๒] สภาวธรรมเหล่าใดสัมปยุตด้วยสภาวธรรมที่เป็นสังโยชน์ สภาวธรรมที่ เป็นคันถะ สภาวธรรมที่เป็นโอฆะ สภาวธรรมที่เป็นโยคะ สภาวธรรม ที่เป็นนิวรณ์ สภาวธรรมที่เป็นปรามาส สภาวธรรมที่เป็นปรามาสและ เป็นอารมณ์ของปรามาส สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๒ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๖ [๔๔๓] สภาวธรรมเหล่าใดสัมปยุตด้วยสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยปรามาส สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑ และธาตุ ๑ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๑๑ และธาตุ ๑๗ [๔๔๔] สภาวธรรมเหล่าใดสัมปยุตด้วยสภาวธรรมที่เป็นจิต สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๓ อายตนะ ๑ และธาตุ ๑ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๒ อายตนะ ๑๑ และธาตุ ๑๗ [๔๔๕] สภาวธรรมเหล่าใดสัมปยุตด้วยสภาวธรรมที่เป็นเจตสิก สภาวธรรมที่ สัมปยุตด้วยจิต สภาวธรรมที่ระคนกับจิต สภาวธรรมที่ระคนกับจิต และมีจิตเป็นสมุฏฐาน สภาวธรรมที่ระคนกับจิตมีจิตเป็นสมุฏฐาน และเกิดพร้อมกับจิต สภาวธรรมที่ระคนกับจิตมีจิตเป็นสมุฏฐานและ เป็นไปตามจิต สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑ และธาตุ ๗ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๑๑ และธาตุ ๑๑ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๖ หน้า : ๑๑๐}

พระอภิธรรมปิฎก ธาตุกถา [๑๒. ทวาทสมนัย]

รวมบทธรรมในทวาทสมนัย ๑๒๐ บท

[๔๔๖] สภาวธรรมเหล่าใดสัมปยุตด้วยสภาวธรรมที่เป็นอุปาทาน สภาวธรรมที่ เป็นกิเลส สภาวธรรมที่เป็นกิเลสและเป็นอารมณ์ของกิเลส สภาวธรรม ที่เป็นกิเลสและกิเลสทำให้เศร้าหมอง สภาวธรรมที่เป็นกิเลสและสัมปยุต ด้วยกิเลส สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๒ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๖ [๔๔๗] สภาวธรรมเหล่าใดสัมปยุตด้วยสภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองแต่ไม่ เป็นกิเลส สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยกิเลสแต่ไม่เป็นกิเลส สภาวธรรม ที่มีวิตก สภาวธรรมที่มีวิจาร สภาวธรรมที่มีปีติ สภาวธรรมที่สหรคต ด้วยปีติ สภาวธรรมที่สหรคตด้วยสุข สภาวธรรมที่สหรคตด้วยอุเบกขา สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑ และธาตุ ๑ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๑๑ และธาตุ ๑๗
รวมบทธรรมในทวาทสมนัย ๑๒๐ บท
อรูปขันธ์ ๔ มนายตนะ ๑ วิญญาณธาตุ ๗ สัจจะ ๒ อินทรีย์ ๑๔ ปัจจยาการ ๑๒ บท ต่อจากปัจจยาการนั้น ๑๖ บท ในติกะ ๘ บท ในโคจฉกะ ๔๓ บท ในมหันตรทุกะ ๗ บท ในปิฏฐิทุกะ ๖ บท บทธรรมเหล่านี้สงเคราะห์เข้าในนิเทศแห่งบทที่ ๙
สัมปยุตเตนสังคหิตาสังคหิตปทนิทเทสที่ ๑๒ จบ
{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๖ หน้า : ๑๑๑}


                  เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๓๖ หน้าที่ ๑๐๕-๑๑๑. http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/m_siri.php?B=36&siri=13              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2], [3].                   อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=36&A=1767&Z=1891                   ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=36&i=413              พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=36&item=413&items=31              อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=55&A=532              The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=36&item=413&items=31              The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=55&A=532                   สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๖ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu36



บันทึก ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :