ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๖ พระอภิธรรมปิฎกเล่มที่ ๓ [ฉบับมหาจุฬาฯ] ธาตุกถา-ปุคคลบัญญัติปกรณ์

พระอภิธรรมปิฎก ธาตุกถา [๑๔. จุททสมนัย]

๑๔. วิปปยุตเตนสังคหิตาสังหิตปทนิทเทส ๑. สภาวธรรมมีขันธ์เป็นต้น

๑๔. จุททสมนัย
๑๔. วิปปยุตเตนสังคหิตาสังคหิตปทนิทเทส
๑. สภาวธรรมมีขันธ์เป็นต้น
[๔๕๖] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากรูปขันธ์ สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๘ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๐ [๔๕๗] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากเวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์ มนายตนะ มนินทรีย์ สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สภาวธรรมเหล่านั้น เว้นธาตุที่ไม่ถูกปัจจัยปรุงแต่งออกจากขันธ์แล้ว สงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๑ และธาตุ ๑๑ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๑ และธาตุ ๗ [๔๕๘] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากจักขายตนะ ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะ จักขุธาตุ ฯลฯ โผฏฐัพพธาตุ ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๘ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๐ [๔๕๙] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากจักขุวิญญาณธาตุ โสตวิญญาณธาตุ ฆานวิญญาณธาตุ ชิวหาวิญญาณธาตุ กายวิญญาณธาตุ มโนธาตุ มโนวิญญาณธาตุ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๖ หน้า : ๑๑๗}

พระอภิธรรมปิฎก ธาตุกถา [๑๔. จุททสมนัย]

๑๔. วิปปยุตเตนสังคหิตาสังหิตปทนิทเทส ๒. สภาวธรรมมีสัจจะเป็นต้น

สภาวธรรมเหล่านั้น เว้นธาตุที่ไม่ถูกปัจจัยปรุงแต่งออกจากขันธ์แล้ว สงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ และธาตุ ๑๗ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร ไม่มีขันธ์และอายตนะเหล่าไหนที่จะสงเคราะห์เข้าไม่ได้ แต่สงเคราะห์ เข้าไม่ได้กับธาตุ ๑
๒. สภาวธรรมมีสัจจะเป็นต้น
[๔๖๐] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากทุกขสัจ สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๒ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๖ [๔๖๑] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสมุทยสัจ มัคคสัจ สภาวธรรมเหล่านั้น เว้นธาตุที่ไม่ถูกปัจจัยปรุงแต่งออกจากขันธ์แล้ว สงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ และธาตุ ๑๘ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร ไม่มีขันธ์ อายตนะ และธาตุเหล่าไหนที่จะสงเคราะห์เข้าไม่ได้ [๔๖๒] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากนิโรธสัจ จักขุนทรีย์ โสตินทรีย์ ฆานินทรีย์ ชิวหินทรีย์ กายินทรีย์ อิตถินทรีย์ ปุริสินทรีย์ สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๘ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๐ [๔๖๓] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสุขินทรีย์ ทุกขินทรีย์ โสมนัสสินทรีย์ โทมนัสสินทรีย์ สภาวธรรมเหล่านั้น เว้นธาตุที่ไม่ถูกปัจจัยปรุงแต่งออกจากขันธ์แล้ว สงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ และธาตุ ๑๘ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๖ หน้า : ๑๑๘}

พระอภิธรรมปิฎก ธาตุกถา [๑๔. จุททสมนัย]

๑๔. วิปปยุตเตนสังคหิตาสังหิตปทนิทเทส ๒. สภาวธรรมมีสัจจะเป็นต้น

สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร ไม่มีขันธ์ อายตนะ และธาตุเหล่าไหนที่จะสงเคราะห์เข้าไม่ได้ [๔๖๔] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากอุเปกขินทรีย์ สภาวธรรมเหล่านั้น เว้นธาตุที่ไม่ถูกปัจจัยปรุงแต่งออกจากขันธ์แล้ว สงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ และธาตุ ๑๓ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร ไม่มีขันธ์และอายตนะเหล่าไหนที่จะสงเคราะห์เข้าไม่ได้ แต่สงเคราะห์ เข้าไม่ได้กับธาตุ ๕ [๔๖๕] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสัทธินทรีย์ วิริยินทรีย์ สตินทรีย์ สมาธินทรีย์ ปัญญินทรีย์ อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ อัญญินทรีย์ อัญญาตาวินทรีย์ อวิชชา สังขารที่เกิดเพราะมีอวิชชาเป็นปัจจัย สภาวธรรมเหล่านั้น เว้นธาตุที่ไม่ถูกปัจจัยปรุงแต่งออกจากขันธ์แล้ว สงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ และธาตุ ๑๘ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร ไม่มีขันธ์ อายตนะ และธาตุเหล่าไหนที่จะสงเคราะห์เข้าไม่ได้ [๔๖๖] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากวิญญาณที่เกิดเพราะมีสังขารเป็นปัจจัย ผัสสะที่เกิดเพราะมีสฬายตนะเป็นปัจจัย เวทนาที่เกิดเพราะมีผัสสะเป็น ปัจจัย สภาวธรรมเหล่านั้น เว้นธาตุที่ไม่ถูกปัจจัยปรุงแต่งออกจากขันธ์แล้ว สงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๑ และธาตุ ๑๑ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๑ และธาตุ ๗ [๔๖๗] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากตัณหาที่เกิดเพราะมีเวทนาเป็นปัจจัย อุปาทานที่เกิดเพราะมีตัณหาเป็นปัจจัย กัมมภพ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๖ หน้า : ๑๑๙}

พระอภิธรรมปิฎก ธาตุกถา [๑๔. จุททสมนัย]

๑๔. วิปปยุตเตนสังคหิตาสังหิตปทนิทเทส ๒. สภาวธรรมมีสัจจะเป็นต้น

สภาวธรรมเหล่านั้น เว้นธาตุที่ไม่ถูกปัจจัยปรุงแต่งออกจากขันธ์แล้ว สงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ และธาตุ ๑๘ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร ไม่มีขันธ์ อายตนะ และธาตุเหล่าไหนที่จะสงเคราะห์เข้าไม่ได้ [๔๖๘] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากอุปปัตติภพ สัญญาภพ ปัญจโวการภพ สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๓ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๕ [๔๖๙] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากกามภพ สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๕ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๓ [๔๗๐] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากรูปภพ อสัญญาภพ เอกโวการภพ ปริเทวะ สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๘ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๐ [๔๗๑] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากอรูปภพ เนวสัญญานาสัญญาภพ จตุ- โวการภพ โสกะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส สติปัฏฐาน สัมมัปปธาน อิทธิบาท ฌาน อัปปมัญญา อินทรีย์ ๕ พละ ๕ โพชฌงค์ ๗ อริยมรรคมีองค์ ๘ สภาวธรรมเหล่านั้น เว้นธาตุที่ไม่ถูกปัจจัยปรุงแต่งออกจากขันธ์แล้ว สงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ และธาตุ ๑๘ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร ไม่มีขันธ์ อายตนะ และธาตุเหล่าไหนที่จะสงเคราะห์เข้าไม่ได้ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๖ หน้า : ๑๒๐}

พระอภิธรรมปิฎก ธาตุกถา [๑๔. จุททสมนัย]

๑๔. วิปปยุตเตนสังคหิตาสังหิตปทนิทเทส ๔. ติกะ

๓. ผัสสาทิสัตตกะ
[๔๗๒] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากผัสสะ เวทนา สัญญา เจตนา จิต มนสิการ สภาวธรรมเหล่านั้น เว้นธาตุที่ไม่ถูกปัจจัยปรุงแต่งออกจากขันธ์แล้ว สงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๑ และธาตุ ๑๑ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๑ และธาตุ ๗ [๔๗๓] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากอธิโมกข์ สภาวธรรมเหล่านั้น เว้นธาตุที่ไม่ถูกปัจจัยปรุงแต่งออกจากขันธ์แล้ว สงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ และธาตุ ๑๗ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร ไม่มีขันธ์และอายตนะเหล่าไหนที่จะสงเคราะห์เข้าไม่ได้ แต่สงเคราะห์ เข้าไม่ได้กับธาตุ ๑
๔. ติกะ
[๔๗๔] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็น อกุศล สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย ทุกขเวทนา สภาวธรรมเหล่านั้น เว้นธาตุที่ไม่ถูกปัจจัยปรุงแต่งออกจากขันธ์แล้ว สงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ และธาตุ ๑๘ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร ไม่มีขันธ์ อายตนะ และธาตุเหล่าไหนที่จะสงเคราะห์เข้าไม่ได้ [๔๗๕] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต สภาวธรรมเหล่านั้น เว้นธาตุที่ไม่ถูกปัจจัยปรุงแต่งออกจากขันธ์แล้ว สงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๒ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๖ หน้า : ๑๒๑}

พระอภิธรรมปิฎก ธาตุกถา [๑๔. จุททสมนัย]

๑๔. วิปปยุตเตนสังคหิตาสังหิตปทนิทเทส ๔. ติกะ

สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๖ [๔๗๖] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา สภาวธรรมที่เป็นวิบาก สภาวธรรมเหล่านั้น เว้นธาตุที่ไม่ถูกปัจจัยปรุงแต่งออกจากขันธ์แล้ว สงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ และธาตุ ๑๓ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร ไม่มีขันธ์และอายตนะเหล่าไหนที่จะสงเคราะห์เข้าไม่ได้ แต่สงเคราะห์ เข้าไม่ได้กับธาตุ ๕ [๔๗๗] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก สภาว- ธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลส สภาวธรรมเหล่านั้น เว้นธาตุที่ไม่ถูกปัจจัยปรุงแต่งออกจากขันธ์แล้ว สงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ และธาตุ ๑๘ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร ไม่มีขันธ์ อายตนะ และธาตุเหล่าไหนที่จะสงเคราะห์เข้าไม่ได้ [๔๗๘] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุ ให้เกิดวิบาก สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึด ถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วย ตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน สภาวธรรมที่ กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลส สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๘ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๐ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๖ หน้า : ๑๒๒}

พระอภิธรรมปิฎก ธาตุกถา [๑๔. จุททสมนัย]

๑๔. วิปปยุตเตนสังคหิตาสังหิตปทนิทเทส ๔. ติกะ

[๔๗๙] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหา และทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทาน สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๓ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๕ [๔๘๐] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่ เป็นอารมณ์ของกิเลส สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๒ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๖ [๔๘๑] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจาร สภาวธรรมเหล่านั้น เว้นธาตุที่ไม่ถูกปัจจัยปรุงแต่งออกจากขันธ์แล้ว สงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ และธาตุ ๑๗ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร ไม่มีขันธ์และอายตนะเหล่าไหนที่จะสงเคราะห์เข้าไม่ได้ แต่สงเคราะห์ เข้าไม่ได้กับธาตุ ๑ [๔๘๒] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร สภาวธรรมที่สหรคตด้วยปีติ สภาวธรรมที่สหรคตด้วยสุข สภาวธรรมเหล่านั้น เว้นธาตุที่ไม่ถูกปัจจัยปรุงแต่งออกจากขันธ์แล้ว สงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ และธาตุ ๑๘ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร ไม่มีขันธ์ อายตนะ และธาตุเหล่าไหนที่จะสงเคราะห์เข้าไม่ได้ [๔๘๓] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๓ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๖ หน้า : ๑๒๓}

พระอภิธรรมปิฎก ธาตุกถา [๑๔. จุททสมนัย]

๑๔. วิปปยุตเตนสังคหิตาสังหิตปทนิทเทส ๔. ติกะ

สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๕ [๔๘๔] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่สหรคตด้วยอุเบกขา สภาวธรรมเหล่านั้น เว้นธาตุที่ไม่ถูกปัจจัยปรุงแต่งออกจากขันธ์แล้ว สงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ และธาตุ ๑๓ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร ไม่มีขันธ์และอายตนะเหล่าไหนที่จะสงเคราะห์เข้าไม่ได้ แต่สงเคราะห์ เข้าไม่ได้กับธาตุ ๕ [๔๘๕] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติ- มรรค สภาวธรรมที่ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน ๓ สภาวธรรมที่ มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรค สภาวธรรมที่มีเหตุต้องประหาณ ด้วยมรรคเบื้องบน ๓ สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้ถึงปฏิสนธิและจุติ สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้ถึงนิพพาน สภาวธรรมที่เป็นของเสขบุคคล สภาวธรรมที่เป็นของอเสขบุคคล สภาวธรรมที่เป็นมหัคคตะ สภาวธรรมเหล่านั้น เว้นธาตุที่ไม่ถูกปัจจัยปรุงแต่งออกจากขันธ์แล้ว สงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ และธาตุ ๑๘ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร ไม่มีขันธ์ อายตนะ และธาตุเหล่าไหนที่จะสงเคราะห์เข้าไม่ได้ [๔๘๖] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่ไม่ต้องประหาณด้วย โสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน ๓ สภาวธรรมที่มีเหตุไม่ต้อง ประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน ๓ สภาวธรรมที่ไม่เป็น เหตุให้ถึงปฏิสนธิ จุติ และนิพพาน สภาวธรรมที่ไม่เป็นของเสขบุคคล และอเสขบุคคล สภาวธรรมที่เป็นปริตตะ สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๒ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๖ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๖ หน้า : ๑๒๔}

พระอภิธรรมปิฎก ธาตุกถา [๑๔. จุททสมนัย]

๑๔. วิปปยุตเตนสังคหิตาสังหิตปทนิทเทส ๔. ติกะ

[๔๘๗] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่เป็นอัปปมาณะ สภาวธรรม ชั้นประณีต สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๘ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๐ [๔๘๘] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่มีปริตตะเป็นอารมณ์ สภาวธรรมเหล่านั้น เว้นธาตุที่ไม่ถูกปัจจัยปรุงแต่งออกจากขันธ์แล้ว สงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ และธาตุ ๑๒ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร ไม่มีขันธ์และอายตนะเหล่าไหนที่จะสงเคราะห์เข้าไม่ได้ แต่สงเคราะห์ เข้าไม่ได้กับธาตุ ๖ [๔๘๙] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่มีมหัคคตะเป็นอารมณ์ สภาวธรรมที่มีอัปปมาณะเป็นอารมณ์ สภาวธรรมชั้นต่ำ สภาวธรรม ที่มีสภาวะผิดและให้ผลแน่นอน สภาวธรรมที่มีสภาวะชอบและให้ผล แน่นอน สภาวธรรมที่มีมรรคเป็นอารมณ์ สภาวธรรมที่มีมรรคเป็นเหตุ สภาวธรรมที่มีมรรคเป็นอธิบดี สภาวธรรมเหล่านั้น เว้นธาตุที่ไม่ถูกปัจจัยปรุงแต่งออกจากขันธ์แล้ว สงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ และธาตุ ๑๘ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร ไม่มีขันธ์ อายตนะ และธาตุเหล่าไหนที่จะสงเคราะห์เข้าไม่ได้ [๔๙๐] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมชั้นกลาง สภาวธรรมที่ให้ผล ไม่แน่นอน สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๒ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๖ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๖ หน้า : ๑๒๕}

พระอภิธรรมปิฎก ธาตุกถา [๑๔. จุททสมนัย]

๑๔. วิปปยุตเตนสังคหิตาสังหิตปทนิทเทส ๔. ติกะ

[๔๙๑] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่เกิดขึ้น สภาวธรรมที่ยังไม่ เกิดขึ้น สภาวธรรมที่จักเกิดขึ้นแน่นอน สภาวธรรมที่เป็นอดีต สภาว- ธรรมที่เป็นอนาคต สภาวธรรมที่เป็นปัจจุบัน สภาวธรรมที่เป็นภาย ในตน สภาวธรรมที่เป็นภายนอกตน สภาวธรรมที่เห็นได้และกระทบได้ สภาวธรรมที่เห็นไม่ได้แต่กระทบได้ สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๘ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๐ [๔๙๒] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่มีอดีตธรรมเป็นอารมณ์ สภาวธรรมที่มีอนาคตธรรมเป็นอารมณ์ สภาวธรรมที่มีธรรมภายในตน เป็นอารมณ์ สภาวธรรมที่มีธรรมภายนอกตนเป็นอารมณ์ สภาวธรรมเหล่านั้น เว้นธาตุที่ไม่ถูกปัจจัยปรุงแต่งออกจากขันธ์แล้ว สงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ และธาตุ ๑๘ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร ไม่มีขันธ์ อายตนะ และธาตุเหล่าไหนที่จะสงเคราะห์เข้าไม่ได้ [๔๙๓] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่มีปัจจุบันธรรมเป็นอารมณ์ สภาวธรรมที่มีธรรมภายในตนและภายนอกตนเป็นอารมณ์ สภาวธรรมเหล่านั้น เว้นธาตุที่ไม่ถูกปัจจัยปรุงแต่งออกจากขันธ์แล้ว สงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ และธาตุ ๑๒ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร ไม่มีขันธ์และอายตนะเหล่าไหนที่จะสงเคราะห์เข้าไม่ได้ แต่สงเคราะห์ เข้าไม่ได้กับธาตุ ๖ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๖ หน้า : ๑๒๖}

พระอภิธรรมปิฎก ธาตุกถา [๑๔. จุททสมนัย]

๑๔. วิปปยุตเตนสังคหิตาสังหิตปทนิทเทส ๕. ทุกะ

๕. ทุกะ
[๔๙๔] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่เป็นเหตุ สภาวธรรมที่มีเหตุ สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยเหตุ สภาวธรรมที่เป็นเหตุและมีเหตุ สภาว- ธรรมที่มีเหตุแต่ไม่เป็นเหตุ สภาวธรรมที่เป็นเหตุและสัมปยุตด้วยเหตุ สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยเหตุแต่ไม่เป็นเหตุ สภาวธรรมที่ไม่เป็นเหตุแต่ มีเหตุ สภาวธรรมเหล่านั้น เว้นธาตุที่ไม่ถูกปัจจัยปรุงแต่งออกจากขันธ์แล้ว สงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ และธาตุ ๑๘ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร ไม่มีขันธ์ อายตนะ และธาตุเหล่าไหนที่จะสงเคราะห์เข้าไม่ได้ [๔๙๕] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่ไม่มีเหตุ สภาวธรรมที่ วิปปยุตจากเหตุ สภาวธรรมที่ไม่เป็นเหตุและไม่มีเหตุ สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๒ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๖ [๔๙๖] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่ไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง สภาว- ธรรมที่ไม่ถูกปัจจัยปรุงแต่ง สภาวธรรมที่เห็นได้ สภาวธรรมที่กระทบได้ สภาวธรรมที่เป็นรูป สภาวธรรมที่เป็นโลกุตตระ สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๘ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๐ [๔๙๗] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่เป็นโลกิยะ สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๒ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๖ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๖ หน้า : ๑๒๗}

พระอภิธรรมปิฎก ธาตุกถา [๑๔. จุททสมนัย]

๑๔. วิปปยุตเตนสังคหิตาสังหิตปทนิทเทส ๕. ทุกะ

[๔๙๘] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่เป็นอาสวะ สภาวธรรมที่ สัมปยุตด้วยอาสวะ สภาวธรรมที่เป็นอาสวะและเป็นอารมณ์ของอาสวะ สภาวธรรมที่เป็นอาสวะและสัมปยุตด้วยอาสวะ สภาวธรรมที่สัมปยุต ด้วยอาสวะแต่ไม่เป็นอาสวะ สภาวธรรมเหล่านั้น เว้นธาตุที่ไม่ถูกปัจจัยปรุงแต่งออกจากขันธ์แล้ว สงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ และธาตุ ๑๘ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร ไม่มีขันธ์ อายตนะ และธาตุเหล่าไหนที่จะสงเคราะห์เข้าไม่ได้ [๔๙๙] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่เป็นอารมณ์ของอาสวะ สภาวธรรมที่วิปปยุตจากอาสวะ สภาวธรรมที่เป็นอารมณ์ของอาสวะแต่ ไม่เป็นอาสวะ สภาวธรรมที่วิปปยุตจากอาสวะแต่เป็นอารมณ์ของอาสวะ สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๒ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๖ [๕๐๐] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะ สภาวธรรมที่วิปปยุตจากอาสวะและไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะ สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๘ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๐ [๕๐๑] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่เป็นสังโยชน์ สภาวธรรมที่ เป็นคันถะ สภาวธรรมที่เป็นโอฆะ สภาวธรรมที่เป็นโยคะ สภาวธรรมที่ เป็นนิวรณ์ สภาวธรรมที่เป็นปรามาส สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยปรามาส สภาวธรรมที่เป็นปรามาสและเป็นอารมณ์ของปรามาส สภาวธรรมเหล่านั้น เว้นธาตุที่ไม่ถูกปัจจัยปรุงแต่งออกจากขันธ์แล้ว สงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ และธาตุ ๑๘ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๖ หน้า : ๑๒๘}

พระอภิธรรมปิฎก ธาตุกถา [๑๔. จุททสมนัย]

๑๔. วิปปยุตเตนสังคหิตาสังหิตปทนิทเทส ๕. ทุกะ

สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร ไม่มีขันธ์ อายตนะ และธาตุเหล่าไหนที่จะสงเคราะห์เข้าไม่ได้ [๕๐๒] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่เป็นอารมณ์ของปรามาส สภาวธรรมที่วิปปยุตจากปรามาส สภาวธรรมที่เป็นอารมณ์ของปรามาส แต่ไม่เป็นปรามาส สภาวธรรมที่วิปปยุตจากปรามาสแต่เป็นอารมณ์ ของปรามาส สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๒ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๖ [๕๐๓] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่ไม่เป็นอารมณ์ของปรามาส สภาวธรรมที่วิปปยุตจากปรามาสและไม่เป็นอารมณ์ของปรามาส สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๘ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๐ [๕๐๔] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่รับรู้อารมณ์ได้ สภาวธรรม ที่เป็นจิต สภาวธรรมที่เป็นเจตสิก สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยจิต สภาวธรรมที่ระคนกับจิต สภาวธรรมที่ระคนกับจิตและมีจิตเป็น สมุฏฐาน สภาวธรรมที่ระคนกับจิตมีจิตเป็นสมุฏฐานและเกิดพร้อมกับ จิต สภาวธรรมที่ระคนกับจิตมีจิตเป็นสมุฏฐานและเป็นไปตามจิต สภาวธรรมเหล่านั้น เว้นธาตุที่ไม่ถูกปัจจัยปรุงแต่งออกจากขันธ์แล้ว สงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๑ และธาตุ ๑๑ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๑ และธาตุ ๗ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๖ หน้า : ๑๒๙}

พระอภิธรรมปิฎก ธาตุกถา [๑๔. จุททสมนัย]

๑๔. วิปปยุตเตนสังคหิตาสังหิตปทนิทเทส ๕. ทุกะ

[๕๐๕] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่รับรู้อารมณ์ไม่ได้ สภาว- ธรรมที่วิปปยุตจากจิต สภาวธรรมที่ระคนกับจิต สภาวธรรมที่เป็น อุปาทายรูป สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ ยึดถือ สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๘ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๐ [๕๐๖] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหา และทิฏฐิยึดถือ สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๓ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๕ [๕๐๗] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่เป็นอุปาทาน สภาวธรรม ที่เป็นกิเลส สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมอง สภาวธรรมที่สัมปยุต ด้วยกิเลส สภาวธรรมที่เป็นกิเลสและเป็นอารมณ์ของกิเลส สภาวธรรม ที่เป็นกิเลสและกิเลสทำให้เศร้าหมอง สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้า หมองแต่ไม่เป็นกิเลส สภาวธรรมที่เป็นกิเลสและสัมปยุตด้วยกิเลส สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยกิเลสแต่ไม่เป็นกิเลส สภาวธรรมเหล่านั้น เว้นธาตุที่ไม่ถูกปัจจัยปรุงแต่งออกจากขันธ์แล้ว สงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ และธาตุ ๑๘ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร ไม่มีขันธ์ อายตนะ และธาตุเหล่าไหนที่จะสงเคราะห์เข้าไม่ได้ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๖ หน้า : ๑๓๐}

พระอภิธรรมปิฎก ธาตุกถา [๑๔. จุททสมนัย]

๑๔. วิปปยุตเตนสังคหิตาสังหิตปทนิทเทส ๕. ทุกะ

[๕๐๘] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่เป็นอารมณ์ของกิเลส สภาว- ธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมอง สภาวธรรมที่วิปปยุตจากกิเลส สภาวธรรมที่เป็นอารมณ์ของกิเลสแต่ไม่เป็นกิเลส สภาวธรรมที่วิปปยุต จากกิเลสแต่เป็นอารมณ์ของกิเลส สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๒ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๖ [๕๐๙] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่ไม่เป็นอารมณ์ของกิเลส สภาวธรรมที่วิปปยุตจากกิเลสและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลส สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๘ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๐ [๕๑๐] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่ต้องประหาณด้วยโสดา- ปัตติมรรค สภาวธรรมที่ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน ๓ สภาวธรรม ที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรค สภาวธรรมที่มีเหตุต้องประหาณ ด้วยมรรคเบื้องบน ๓ สภาวธรรมเหล่านั้น เว้นธาตุที่ไม่ถูกปัจจัยปรุงแต่งออกจากขันธ์แล้ว สงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ และธาตุ ๑๘ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร ไม่มีขันธ์ อายตนะ และธาตุเหล่าไหนที่จะสงเคราะห์เข้าไม่ได้ [๕๑๑] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่ไม่ต้องประหาณด้วยโสดา- ปัตติมรรค สภาวธรรมที่ไม่ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน ๓ สภาวธรรมที่มีเหตุไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรค สภาวธรรมที่มี เหตุไม่ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน ๓ สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๒ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๖ หน้า : ๑๓๑}

พระอภิธรรมปิฎก ธาตุกถา [๑๔. จุททสมนัย]

๑๔. วิปปยุตเตนสังคหิตาสังหิตปทนิทเทส ๕. ทุกะ

สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๖ [๕๑๒] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่มีวิตก สภาวธรรมที่มีวิจาร สภาวธรรมเหล่านั้น เว้นธาตุที่ไม่ถูกปัจจัยปรุงแต่งออกจากขันธ์แล้ว สงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ และธาตุ ๑๗ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร ไม่มีขันธ์และอายตนะเหล่าไหนที่จะสงเคราะห์เข้าไม่ได้ แต่สงเคราะห์ เข้าไม่ได้กับธาตุ ๑ [๕๑๓] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่มีปีติ สภาวธรรมที่สหรคต ด้วยปีติ สภาวธรรมที่สหรคตด้วยสุข สภาวธรรมเหล่านั้น เว้นธาตุที่ไม่ถูกปัจจัยปรุงแต่งออกจากขันธ์แล้ว สงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ และธาตุ ๑๘ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร ไม่มีขันธ์ อายตนะ และธาตุเหล่าไหนที่จะสงเคราะห์เข้าไม่ได้ [๕๑๔] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่สหรคตด้วยอุเบกขา สภาวธรรมเหล่านั้น เว้นธาตุที่ไม่ถูกปัจจัยปรุงแต่งออกจากขันธ์แล้ว สงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ และธาตุ ๑๓ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร ไม่มีขันธ์และอายตนะเหล่าไหนที่จะสงเคราะห์เข้าไม่ได้ แต่สงเคราะห์ เข้าไม่ได้กับธาตุ ๕ [๕๑๕] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่เป็นกามาวจร สภาวธรรม ที่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ สภาวธรรมที่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๒ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๖ หน้า : ๑๓๒}

พระอภิธรรมปิฎก ธาตุกถา [๑๔. จุททสมนัย]

๑๔. วิปปยุตเตนสังคหิตาสังหิตปทนิทเทส ๕. ทุกะ

สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๖ [๕๑๖] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่ไม่เป็นกามาวจร สภาว- ธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ สภาวธรรมที่ไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และ ธาตุ ๘ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๐ [๕๑๗] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่เป็นรูปาวจร สภาวธรรมที่ เป็นอรูปาวจร สภาวธรรมที่เป็นเหตุนำออกจากวัฏฏทุกข์ สภาวธรรม ที่ให้ผลแน่นอน สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้สัตว์ร้องไห้ สภาวธรรมเหล่านั้น เว้นธาตุที่ไม่ถูกปัจจัยปรุงแต่งออกจากขันธ์แล้ว สงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๕อายตนะ ๑๒ และธาตุ ๑๘ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร ไม่มีขันธ์ อายตนะ และธาตุเหล่าไหนที่จะสงเคราะห์เข้าไม่ได้ [๕๑๘] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่ไม่เป็นรูปาวจร สภาวธรรม ที่ไม่เป็นอรูปาวจร สภาวธรรมที่ไม่เป็นเหตุนำออกจากวัฏฏทุกข์ สภาวธรรมที่ให้ผลไม่แน่นอน สภาวธรรมที่ไม่เป็นเหตุให้สัตว์ร้องไห้ สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๒ สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๖ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๖ หน้า : ๑๓๓}

พระอภิธรรมปิฎก ธาตุกถา [๑๔. จุททสมนัย]

รวมบทธรรมที่ไม่ได้ในจุททสมนัย ๔๗ บท

รวมบทธรรมที่ไม่ได้ในจุททสมนัย ๔๗ บท
ธัมมายตนะ ๑ ธัมมธาตุ ๑ ชีวิตินทรีย์ ๑ นามรูป ๑ สฬายตนะ ๑ ชาติ ๑ ชรา ๑ มรณะ ๑ ธรรม ๒ บท จากติกะ (อัชฌัตตพหิทธะและอนิทัสสนอัปปฏิฆะ) ในจูฬันตรทุกะแรก ๗ บท ในโคจฉกะ ๑๐ บท ในมหันตรทุกะถัดมา ๑๔ บท ในปิฏฐิทุกะสุดท้าย ๖ บท สภาวธรรม ๔๗ ประการเหล่านี้ ย่อมไม่ได้ในสมุจเฉทนัย (จุททสมนัย) และใน (อัฏฐมนัยที่ชื่อว่า) โมฆปุจฉกะ
วิปปยุตเตนสังคหิตาสังคหิตปทนิทเทสที่ ๑๔ จบ
ปกรณ์ที่ชื่อว่าธาตุกถา จบบริบูรณ์
{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๖ หน้า : ๑๓๔}


                  เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๓๖ หน้าที่ ๑๑๗-๑๓๔. http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/m_siri.php?B=36&siri=15              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2], [3], [4], [5], [6].                   อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=36&A=1966&Z=2267                   ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=36&i=452              พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=36&item=452&items=64              อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=55&A=562              The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=36&item=452&items=64              The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=55&A=562                   สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๖ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu36



บันทึก ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :