ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๖ พระวินัยปิฎกเล่มที่ ๖ [ฉบับมหาจุฬาฯ] จุลวรรค ภาค ๑
๕. มานัตตสตะ
ว่าด้วยกรณีตัวอย่างการให้มานัต ๑๐๐ กรณี
ภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสสสึกอุปสมบทใหม่
[๑๖๖] ภิกษุทั้งหลาย ก็ในกรณีนี้ ภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ไม่ได้ ปิดไว้แล้วสึก ถ้าภิกษุนั้นอุปสมบทใหม่ ไม่ปิดอาบัติเหล่านั้น ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึง ให้มานัตแก่ภิกษุนั้น (๑) ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ไม่ได้ปิดไว้ แล้วสึก ภิกษุนั้นอุปสมบทใหม่ ปิดอาบัติเหล่านั้น ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงให้ปริวาส ในกองอาบัติครั้งหลังตามที่ปิดไว้ แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น (๒) ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัวปิดไว้แล้วสึก ภิกษุนั้นอุปสมบทใหม่ ไม่ปิดอาบัติเหล่านั้น ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงให้ปริวาสในกอง อาบัติครั้งก่อนตามที่ปิดไว้ แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น (๓) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๖ หน้า : ๒๖๖}

พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [๓. สมุจจยขันธกะ]

๕. มานัตตสตะ

ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ปิดไว้แล้วสึก ภิกษุนั้นอุปสมบทใหม่ ปิดอาบัติเหล่านั้น ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงให้ปริวาสในกอง อาบัติครั้งก่อนและครั้งหลังตามที่ปิดไว้ แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น (๔) [๑๖๗] ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ปิดไว้บ้าง ไม่ได้ปิดไว้บ้าง ภิกษุนั้นสึกแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดได้ปิดไว้ เมื่อก่อน ไม่ปิดอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดไม่ได้ปิดไว้เมื่อก่อน ไม่ปิด อาบัติเหล่านั้นในภายหลัง ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงให้ปริวาสในกองอาบัติครั้งก่อนตาม ที่ปิดไว้ แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น (๕) ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ปิดไว้บ้าง ไม่ได้ปิดไว้บ้าง ภิกษุนั้นสึกแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดได้ปิดไว้เมื่อก่อน ไม่ปิดอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดไม่ได้ปิดไว้เมื่อก่อน ปิดอาบัติเหล่านั้น ในภายหลัง ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงให้ปริวาสในกองอาบัติครั้งก่อนและหลัง ตามที่ปิด ไว้ แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น (๖) ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ปิดไว้บ้าง ไม่ได้ปิดไว้บ้าง ภิกษุนั้นสึกแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดได้ปิดไว้เมื่อก่อน ปิด อาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดไม่ได้ปิดไว้เมื่อก่อน ไม่ปิดอาบัติเหล่านั้น ในภายหลัง ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงให้ปริวาสในกองอาบัติครั้งก่อนและหลังตามที่ปิดไว้ แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น (๗) ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ปิดไว้บ้าง ไม่ได้ปิดไว้บ้าง ภิกษุนั้นสึกแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดได้ปิดไว้เมื่อก่อน ปิด อาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดไม่ได้ปิดไว้เมื่อก่อน ปิดอาบัติเหล่านั้นในภาย หลัง ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงให้ปริวาสในกองอาบัติครั้งก่อนและครั้งหลังตามที่ปิดไว้ แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น (๘) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๖ หน้า : ๒๖๗}

พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [๓. สมุจจยขันธกะ]

๕. มานัตตสตะ

[๑๖๘] ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว อาบัติบางอย่างภิกษุนั้นรู้ อาบัติบางอย่างไม่รู้ ปิดอาบัติที่รู้ ไม่ปิดอาบัติที่ไม่รู้ ภิกษุนั้นสึกแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดภิกษุนั้นรู้แล้วได้ปิดไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติ เหล่านั้นแล้วไม่ปิดในภายหลัง อาบัติเหล่าใดภิกษุนั้นไม่รู้ไม่ได้ปิดไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติ เหล่านั้นแล้วไม่ปิดในภายหลัง ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงให้ปริวาสในกองอาบัติครั้งก่อน ตามที่ปิดไว้ แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น (๙) ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว อาบัติบาง อย่างภิกษุนั้นรู้ อาบัติบางอย่างไม่รู้ ปิดอาบัติที่รู้ ไม่ปิดอาบัติที่ไม่รู้ ภิกษุนั้นสึกแล้ว อุปสมบใหม่ อาบัติเหล่าใดภิกษุนั้นรู้แล้วได้ปิดไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติเหล่านั้นแล้วไม่ ปิดในภายหลัง อาบัติเหล่าใดภิกษุนั้นไม่รู้ไม่ได้ปิดไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติเหล่านั้นแล้วปิด ไว้ในภายหลัง ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงให้ปริวาสในกองอาบัติครั้งก่อนและหลังตาม ที่ปิดไว้ แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น (๑๐) ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว อาบัติบาง อย่างภิกษุนั้นรู้ อาบัติบางอย่างไม่รู้ ปิดอาบัติที่รู้ ไม่ปิดอาบัติที่ไม่รู้ ภิกษุนั้นสึกแล้ว อุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดรู้แล้วได้ปิดไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติเหล่านั้นแล้วปิดไว้ในภาย หลัง อาบัติเหล่าใดภิกษุนั้นไม่รู้ไม่ได้ปิดไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติเหล่านั้นแล้วไม่ปิดในภาย หลัง ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงให้ปริวาสในกองอาบัติครั้งก่อนและครั้งหลังตามที่ปิดไว้ แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น (๑๑) ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว อาบัติบาง อย่างภิกษุนั้นรู้ อาบัติบางอย่างไม่รู้ ปิดอาบัติที่รู้ ไม่ปิดอาบัติที่ไม่รู้ ภิกษุนั้นสึกแล้ว อุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดรู้แล้วได้ปิดไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติเหล่านั้นแล้วปิดไว้ในภาย หลัง อาบัติเหล่าใดไม่รู้ไม่ได้ปิดไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติเหล่านั้นแล้วปิดไว้ในภายหลัง ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงให้ปริวาสในกองอาบัติครั้งก่อนและครั้งหลังตามที่ปิดไว้ แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น (๑๒) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๖ หน้า : ๒๖๘}

พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [๓. สมุจจยขันธกะ]

๕. มานัตตสตะ

[๑๖๙] ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว อาบัติบางอย่างภิกษุนั้นระลึกได้ อาบัติบางอย่างระลึกไม่ได้ ปิดอาบัติที่ระลึกได้ ไม่ปิดอาบัติที่ระลึกไม่ได้ ภิกษุนั้นสึกแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดระลึกได้แล้ว ได้ปิดไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้ไม่ปิดไว้ในภายหลัง อาบัติเหล่าใดระลึก ไม่ได้ไม่ได้ปิดไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้แล้วไม่ปิดในภายหลัง ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงให้ปริวาสในกองอาบัติครั้งก่อนตามที่ปิดไว้ แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น (๑๓) ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว อาบัติ บางอย่างระลึกได้ อาบัติบางอย่างระลึกไม่ได้ ปิดอาบัติที่ระลึกได้ ไม่ปิดอาบัติที่ ระลึกไม่ได้ ภิกษุนั้นสึกแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดระลึกได้แล้วได้ปิดไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้แล้ว ไม่ปิดในภายหลัง อาบัติเหล่าใดระลึกไม่ได้ไม่ได้ปิดไว้เมื่อ ก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้ ปิดในภายหลัง ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงให้ปริวาสในกอง อาบัติครั้งก่อนและครั้งหลังตามที่ปิดไว้ แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น (๑๔) ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว อาบัติ บางอย่างภิกษุนั้นระลึกได้ อาบัติบางอย่างระลึกไม่ได้ ปิดอาบัติที่ระลึกได้ ไม่ปิด อาบัติที่ระลึกไม่ได้ ภิกษุนั้นสึกแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดระลึกได้แล้ว ได้ปิด ไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้ปิดไว้ในภายหลัง อาบัติเหล่าใดระลึกไม่ได้ ไม่ได้ ปิดไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้ไม่ปิดในภายหลัง ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงให้ ปริวาสในกองอาบัติครั้งก่อนและครั้งหลังตามที่ปิดไว้ แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น (๑๕) ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว อาบัติ บางอย่างภิกษุนั้นระลึกได้ อาบัติบางอย่างระลึกไม่ได้ ปิดอาบัติที่ระลึกได้ ไม่ปิด อาบัติที่ระลึกไม่ได้ ภิกษุนั้นสึกแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดระลึกได้แล้วได้ ปิดไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้ปิดไว้ในภายหลัง อาบัติเหล่าใดระลึกไม่ได้ ไม่ ได้ปิดไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้ปิดในภายหลัง ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงให้ ปริวาสในกองอาบัติครั้งก่อนและครั้งหลังตามที่ปิดไว้ แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น (๑๖) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๖ หน้า : ๒๖๙}

พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [๓. สมุจจยขันธกะ]

๕. มานัตตสตะ

[๑๗๐] ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ภิกษุนั้นแน่ใจในอาบัติบางอย่าง ไม่แน่ใจในอาบัติบางอย่าง ปิดอาบัติที่แน่ใจ ไม่ปิด อาบัติที่ไม่แน่ใจ ภิกษุนั้นสึกแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดแน่ใจได้ปิดไว้เมื่อก่อน แน่ใจไม่ปิดอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดไม่แน่ใจไม่ได้ปิดไว้เมื่อก่อน แน่ใจ ไม่ปิดอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงให้ปริวาสในกองอาบัติครั้งก่อน ตามที่ปิดไว้ แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น (๑๗) ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ภิกษุนั้น แน่ใจในอาบัติบางอย่าง ไม่แน่ใจในอาบัติบางอย่าง ปิดอาบัติที่แน่ใจ ไม่ปิดอาบัติที่ไม่ แน่ใจ ภิกษุนั้นสึกแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดแน่ใจได้ปิดไว้เมื่อก่อน แน่ใจไม่ ปิดอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดไม่แน่ใจไม่ได้ปิดไว้เมื่อก่อน แน่ใจปิด อาบัติเหล่านั้นในภายหลัง ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงให้ปริวาสในกองอาบัติครั้งก่อนและ ครั้งหลังตามที่ปิดไว้ แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น (๑๘) ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ภิกษุนั้น แน่ใจในอาบัติบางอย่าง ไม่แน่ใจในอาบัติบางอย่าง ปิดอาบัติที่แน่ใจ ไม่ปิด อาบัติที่ไม่แน่ใจ ภิกษุนั้นสึกแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดแน่ใจได้ปิดไว้เมื่อก่อน แน่ใจปิดอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดไม่แน่ใจไม่ได้ปิดไว้เมื่อก่อน แน่ใจ ไม่ปิดอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงให้ปริวาสในกองอาบัติครั้ง ก่อนและครั้งหลังตามที่ปิดไว้ แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น (๑๙) ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ภิกษุนั้น แน่ใจในอาบัติบางอย่าง ไม่แน่ใจในอาบัติบางอย่าง ปิดอาบัติที่แน่ใจ ไม่ปิดอาบัติ ที่ไม่แน่ใจ ภิกษุนั้นสึกแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดแน่ใจได้ปิดไว้เมื่อก่อน แน่ใจปิดอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดไม่แน่ใจไม่ได้ปิดไว้เมื่อก่อน แน่ใจ ปิดอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงให้ปริวาสในกองอาบัติครั้งก่อน และครั้งหลังตามที่ปิดไว้ แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น (๒๐) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๖ หน้า : ๒๗๐}

พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [๓. สมุจจยขันธกะ]

๕. มานัตตสตะ

ภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสสลดฐานะเป็นสามเณรเป็นต้น
[๑๗๑] ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ไม่ได้ปิดไว้แล้วลดฐานะเป็นสามเณร ฯลฯ เกิดวิกลจริต ฯลฯ มีจิตฟุ้งซ่าน ฯลฯ (พึงให้พิสดารเหมือนในตอนต้น) เกิดกระสับกระส่ายเพราะเวทนา ฯลฯ อาบัติสังฆาทิเสสของภิกษุนั้นหลายตัว ปิดไว้บ้าง ไม่ได้ปิดไว้บ้าง ฯลฯ อาบัติ บางอย่างภิกษุนั้นรู้ อาบัติบางอย่างไม่รู้ ฯลฯ อาบัติบางอย่างภิกษุนั้นระลึกได้ อาบัติบางอย่างระลึกไม่ได้ ฯลฯ อาบัติบางอย่างแน่ใจ อาบัติบางอย่างไม่แน่ใจ ปิดอาบัติที่แน่ใจ ไม่ปิดอาบัติ ที่ไม่แน่ใจ ภิกษุนั้นกระสับกระส่ายเพราะเวทนา ครั้นหายแล้ว อาบัติเหล่าใด แน่ ใจได้ปิดไว้เมื่อก่อน แน่ใจไม่ปิดอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดไม่แน่ใจ ไม่ได้ปิดไว้เมื่อก่อน แน่ใจปิดอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง ฯลฯ อาบัติเหล่าใดแน่ใจได้ปิดไว้เมื่อก่อน แน่ใจไม่ปิดอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดไม่แน่ใจไม่ได้ปิดไว้เมื่อก่อน แน่ใจปิดอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง ฯลฯ อาบัติเหล่าใดแน่ใจได้ปิดไว้เมื่อก่อน แน่ใจปิดอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติ เหล่าใดไม่แน่ใจไม่ได้ปิดไว้เมื่อก่อน แน่ใจไม่ปิดอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง ฯลฯ อาบัติเหล่าใดแน่ใจได้ปิดไว้เมื่อก่อน แน่ใจปิดอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติ เหล่าใดไม่แน่ใจไม่ได้ปิดไว้เมื่อก่อน แน่ใจปิดอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงให้ปริวาสในกองอาบัติครั้งก่อนและครั้งหลังตามที่ปิดไว้ แล้วให้มานัตแก่ภิกษุ นั้น (๒๑-๑๐๐)
มานัตตสตะ จบ
{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๖ หน้า : ๒๗๑}


                  เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๖ หน้าที่ ๒๖๖-๒๗๑. http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/m_siri.php?B=6&siri=40              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2].                   อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=6&A=6655&Z=7210                   ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=6&i=508              พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=6&item=508&items=21              The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=6&item=508&items=21                   สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๖ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu6              อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://suttacentral.net/pli-tv-kd13/en/brahmali#pli-tv-kd13:29.1.0 https://suttacentral.net/pli-tv-kd13/en/horner-brahmali#Kd.13.28.3



บันทึก ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :