ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกชองแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๔ ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑
สรรพกิตติกเถราปทานที่ ๓ (๓๙๓)
ว่าด้วยผลแห่งการสรรเสริญธรรม
[๓๙๕] เราเป็นพราหมณ์ผู้ทรงชฏาและหนังสัตว์ เป็นผู้ซื่อตรง มีตบะ ได้เห็นพระ พุทธเจ้าผู้นายกของโลก ทรงรุ่งเรืองดังดอกกรรณิการ์ โชติช่วงดังดวงไฟ รุ่งโรจน์ดังดาวประกายพฤกษ์ เปรียบเหมือนสายฟ้าในอากาศ ไม่ทรงครั่น คร้าม ไม่ทรงสะดุ้งกลัว ดังพระยาไกรสรราชสีห์ ทรงประกาศแสงสว่าง แห่งพระญาณ ทรงย่ำยีพวกเดียรถีย์ ทรงช่วยเหลือสัตว์โลกนี้ ทรงตัด ความสงสัยทั้งปวง ไม่ทรงหวาดหวั่นดังพระยาเนื้อ จึงถือเอาผ้าเปลือกไม้ กรองลาดลง ณ ที่ใกล้พระบาท หยิบเอากระลำพักมาชโลมทาพระตถาคต ครั้นชโลมทาพระสัมพุทธเจ้าแล้ว ได้ชมเชยพระองค์ผู้เป็นนายกของโลก ว่า ข้าแต่พระมหามุนี พระองค์ทรงข้ามพ้นโอฆะแล้ว ทรงยังโลกนี้ให้ข้าม พ้น โชติช่วงด้วยแสงสว่างแห่งพระญาณ พระญาณประเสริฐสุด ทรง ประกาศธรรมจักร ทรงย่ำยีเดียรถีย์อื่น ทรงเป็นผู้กล้าหาญ ทรงชนะ สงครามแล้ว ยังแผ่นดินให้หวั่นไหว คลื่นในมหาสมุทรย่อมแตกในที่สุด ฝั่ง ฉันใด ทิฏฐิทั้งปวงย่อมแตกทำลายในเพราะพระญาณของพระองค์ ฉันนั้น ข่ายตาเล็กๆ ที่เขาเหวี่ยงลงไปในสระแล้ว สัตว์ทั้งหลายที่อยู่ ภายในข่าย เป็นผู้ถูกบีบคั้นในขณะนั้น ฉันใด ข้าแต่พระองค์ผู้นิรทุกข์ พวกเดียรถีย์ในโลกเป็นผู้หลงงมงายไม่อาศัยสัจจะ ย่อมเป็นไปภายในพระ ญาณอันประเสริฐของพระองค์ ฉันนั้น พระองค์เท่านั้นเป็นที่พึ่งของผู้ที่ ว่ายอยู่ในห้วงน้ำ เป็นนาถะของผู้ไม่มีเผ่าพันธุ์ เป็นสรณะของผู้ที่ตั้งอยู่ ในภัย เป็นผู้นำหน้าของผู้ต้องการความพ้น เสด็จเที่ยวไปผู้เดียว ไม่มี ใครเหมือน ทรงประกอบด้วยพระเมตตากรุณา ทรงมีปัญญา ประกอบการ สละ มีความชำนาญ คงที่ เป็นที่อยู่แห่งคุณ เป็นนักปราชญ์ ปราศจาก ความหลง ไม่ทรงหวั่นไหว ไม่มีความสงสัย เป็นผู้พอพระทัย มีโทสะ อันคายแล้ว ไม่มีมลทิน ทรงสำรวม มีความสะอาด ล่วงธรรมเครื่อง ข้อง มีความเมาไปปราศแล้ว ได้วิชชา ๓ ถึงความเจริญ ทรงถึงเขตแดน เป็นผู้หนักในธรรม มีประโยชน์อันถึงแล้ว ทรงหว่านประโยชน์ ทรงยัง สัตว์ให้ข้ามเปรียบเหมือนเรือ ทรงมีขุมทรัพย์ ทรงทำความเบาใจ ไม่ทรง ครั่นคร้ามดังราชสีห์ เหมือนพระยาคชสารอันฝึกแล้ว ในกาลนั้น ครั้น เราสรรเสริญพระมหามุนีพระนามว่าปทุมุตระด้วยคาถา ๑๐ คาถา ถวาย บังคมพระบาทพระศาสดาแล้ว ได้ยืนนิ่งอยู่ พระศาสดาพระนามว่าปทุมุตระ ผู้รู้แจ้งโลก สมควรรับเครื่องบูชา ประทับอยู่ท่ามกลางภิกษุสงฆ์ ได้ตรัส พระคาถาเหล่านี้ว่า ผู้ใดสรรเสริญศีล ปัญญา และธรรมของเรา เราจัก พยากรณ์ผู้นั้น ท่านทั้งหลายจงฟังเรากล่าว ผู้นั้นจักรื่นรมย์อยู่ในเทวโลก ตลอด ๖ หมื่นกัลป จักเสวยความเป็นอิสระครอบงำเทวดาเหล่าอื่น ภายหลัง อันกุศลมูลตักเตือนแล้ว เขาจักออกบวชในพระศาสนาของพระผู้มีพระภาค มีพระนามว่าโคดม ครั้นบวชแล้ว เว้นบาปกรรมด้วยกาย กำหนดรู้อาสวะ ทั้งปวงแล้ว จักไม่มีอาสวะ นิพพาน เมฆครางกระหึ่ม ย่อมยังพื้นดินนี้ ให้อิ่ม ฉันใด ข้าแต่พระมหาวีรเจ้า พระองค์ทรงยังข้าพระองค์ ให้อิ่ม ด้วยธรรม ฉันนั้น ครั้นเราเชยชมศีล ปัญญา ธรรม และพระนายกของ โลกแล้ว ได้บรรลุนิพพานอันเป็นธรรมระงับอย่างยิ่ง เป็นบทไม่เคลื่อน โอหนอ พระผู้มีพระภาคผู้มีจักษุพระองค์นั้น พึงดำรงอยู่นานแน่ เราก็พึงรู้ แจ้งธรรมที่ยังไม่รู้แจ้ง พึงเห็นอมตบท ชาตินี้เป็นชาติที่สุดของเรา เรา ถอนภพขึ้นได้ทั้งหมดแล้ว กำหนดรู้อาสวะทั้งปวงแล้ว เป็นผู้ไม่มีอาสวะ อยู่ ในกัลปที่แสนแต่กัลปนี้ เราได้สรรเสริญพระพุทธเจ้าใด ด้วยกรรม นั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการสรรเสริญ เราเผากิเลสทั้งหลาย แล้ว ถอนภพขึ้นได้ทั้งหมดแล้ว อาสวะทั้งปวงสิ้นรอบแล้ว บัดนี้ ภพ ใหม่ไม่มี การที่เราได้มาในสำนักพระพุทธเจ้าของเรานี้ เป็นการมาดีแล้ว หนอ วิชชา ๓ เราบรรลุแล้วโดยลำดับ พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ เราทำ ให้แจ้งชัดแล้ว พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้. ทราบว่า ท่านพระสรรพกิตติกเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.
จบ สรรพกิตติกเถราปทาน.

             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๒ บรรทัดที่ ๘๔๖๗-๘๕๑๙ หน้าที่ ๓๘๕-๓๘๗. http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=32&A=8467&Z=8519&pagebreak=0 http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/r.php?B=32&A=8467&pagebreak=0              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [คลิกเพื่อฟัง]              อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :- http://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=32&siri=395              ศึกษาอรรถกถาได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=32&i=395              พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=32&A=9987              The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/read/roman_read.php?B=32&A=9987              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๒ http://84000.org/tipitaka/read/?index_32              อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://suttacentral.net/tha-ap395/en/walters

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกชองแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย

บันทึก ๒๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖. บันทึก ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙. บันทึกล่าสุด ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]