ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกชองแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๓ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๕ ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๒ -พุทธวังสะ-จริยาปิฎก
สุกกาเถริยาปทานที่ ๕
ว่าด้วยบุพจริยาของพระสุกกาเถรี
[๑๗๕] ในกัปที่ ๙๑ แต่ภัทรกัปนี้ พระพุทธเจ้าผู้นายกของโลกพระนามว่า วิปัสสี มีพระเนตรงาม ทรงเห็นแจ้งซึ่งธรรมทั้งปวง เสด็จอุบัติขึ้น แล้ว ครั้งนั้น หม่อมฉันเกิดในสกุลหนึ่งในพระนครพันธุมดี ได้ฟัง ธรรมของพระมุนีแล้ว ออกบวชเป็นภิกษุณี เป็นผู้มีสุตะมาก ทรง ธรรม มีปฏิภาณ กล่าวธรรมกถาไพเราะ ปฏิบัติตามพระพุทธศาสนา ครั้งนั้น หม่อมฉันแสดงธรรมกถาเพื่อประโยชน์แก่ประชุมชนทุก สมัย หม่อมฉันเคลื่อนจากอัตภาพนั้นแล้วไปเกิดในภพดุสิต เป็น เทพธิดามียศ ในกัปที่ ๓๑ แต่ภัทรกัปนี้ พระพิชิตมารพระนามว่า สิขี มีพระรัศมีดังไฟ สง่าอยู่ในโลกด้วยยศประเสริฐกว่าพวกบัณฑิต เสด็จอุบัติขึ้นแล้ว แม้ในครั้งนั้น หม่อมฉันบวชแล้ว เป็นผู้ฉลาด ในพุทธศาสนา ยังพระพุทธพจน์ให้กระจ่างแล้วไปสู่ภพดาวดึงส์ ในกัปที่ ๓๑ แต่ภัทรกัปนี้ พระพุทธเจ้าผู้เป็นนายกของโลก พระ- นามว่าเวสสภูมีธรรมดังว่ายานใหญ่ เสด็จอุบัติขึ้นแล้ว หม่อมฉัน ก็เป็นเหมือนอย่างก่อน บวชแล้วเป็นผู้ทรงธรรม ยังพุทธศาสนา ให้กระจ่างแล้ว ไปสู่เมืองมรุน่ายินดี ได้เสวยความสุขมากในภัทร- กัปนี้ พระพิชิตมารผู้อุดมพระนามว่ากกุสันธะประเสริฐกว่านรชน เสด็จอุบัติขึ้นแล้ว แม้ในครั้งนั้น หม่อมฉันก็เป็นเหมือนอย่างก่อน บวชแล้ว ก็ยังพุทธศาสนาให้กระจ่างจนตลอดชีวิต เคลื่อนจาก อัตภาพนั้นแล้ว ได้ไปสู่ภพดาวดึงส์ เหมือนดังไปสู่ที่อยู่ของตน ในภัทรกัปนี้แล พระพุทธเจ้าผู้เป็นนายกของโลก พระนามว่า โกนาคมน์ผู้ประเสริฐกว่าพวกบัณฑิต อุดมกว่าสรรพสัตว์เสด็จอุบัติ ขึ้นแล้ว แม้ในครั้งนั้น หม่อมฉันบวชในศาสนาของพระองค์ผู้คงที่ เป็นพหูสูตทรงธรรม ยังพุทธศาสนาให้กระจ่างในภัทรกัปนี้เหมือน กัน พระมุนีพระนามว่ากัสสป มีพระคุณประเสริฐ เป็นสรณะ แห่งสัตว์โลก ไม่มีข้าศึก ถึงที่สุดแห่งมรณะ เสด็จอุบัติขึ้นแล้ว หม่อมฉันบวชในศาสนาของพระพุทธเจ้าผู้ทรงพระปรีชากว่าประชากร พระองค์นั้นศึกษาพระสัทธรรมแล้วคล่องแคล่วในปริปุจฉา ข้าแต่ พระมหามุนี หม่อมฉันมีศีลงาม มีความละอาย ฉลาดในไตรสิกขา แสดงธรรมกถามากจนตลอดชีวิต ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น และด้วย การตั้งเจตน์จำนงไว้ หม่อมฉันละร่างกายมนุษย์แล้ว ไปสู่ภพ ดาวดึงส์ ในภพหลังครั้งนี้ หม่อมฉันเกิดในสกุลเศรษฐีที่เจริญ สั่งสมรัตนะไว้มาก ในพระนครราชคฤห์อันอุดม เมื่อพระผู้มี พระภาคผู้เป็นนายกของโลกอันภิกษุขีณาสพหนึ่งพัน เป็นบริวาร สรรเสริญแล้ว เสด็จเข้าไปสู่เมืองราชคฤห์. พระผู้มีพระภาคทรงฝึกอินทรีย์แล้ว พ้นขาดจากสรรพกิเลส มีวรรณะเปล่งปลั่งดังแท่งทองสิงคี พร้อมด้วยพระขีณาสพซึ่ง เคยเป็นชฎิล ผู้ฝึกอินทรีย์แล้ว พ้นขาดจากสรรพกิเลสเสด็จ เข้าไปสู่เมืองราชคฤห์. หม่อมฉันได้เห็นพระพุทธานุภาพ และได้ฟังธรรมมีคุณเป็นที่ประชุม แล้ว ยังจิตให้เลื่อมใสในพระพุทธเจ้า บูชาพระองค์ผู้มีพลธรรมมาก เวลาต่อ หม่อมฉันออกบวชเป็นภิกษุณีในสำนักพระธรรมทินนาเถรี หม่อมฉันเผากิเลสทั้งหลายในเมื่อกำลังปลงผม บวชแล้วไม่นาน ศึกษาศาสนธรรมทั่วแล้ว แต่นั้นได้แสดงธรรมในสมาคมแห่ง มหาชน เมื่อหม่อมฉันกำลังแสดงอยู่ ธรรมาภิสมัยได้มีแก่ประชุมชน หลายพันมียักษ์ตนหนึ่งได้ฟังธรรมนั้นแล้ว เกิดอัศจรรย์ใจ เลื่อมใส ต่อหม่อมฉัน ได้ไปยังพระนครราชคฤห์ พวกมนุษย์ในพระนคร- ราชคฤห์อันหม่อมฉันทำแล้วอย่างไร ได้ดื่มธรรมดังว่าน้ำผึ้งอยู่ มนุษย์เหล่าใดไม่นั่งใกล้ภิกษุณีชื่อสุกกาผู้แสดงอมตบท อันเป็นเหตุ ไม่ให้ถอยกลับ ให้เกิดความชื่นใจ มีรสโอชา มนุษย์เหล่านั้นเห็น จะเป็นเหมือนพวกคนมีปัญญาเดินทางไกลหาน้ำฝนดื่ม ข้าแต่พระ- มหามุนี หม่อมฉันเป็นผู้มีความชำนาญในฤทธิ์ มีความชำนาญใน ทิพโสตธาตุ มีความชำนาญในเจโตปริยญาณ รู้ปุพเพนิวาสญาณ และทิพจักษุอันหมดจดวิเศษ มีอาสวะทั้งปวงสิ้นไปแล้ว บัดนี้ภพ ใหม่มิได้มีอีก ข้าแต่พระมหาวีรเจ้า หม่อมฉันมีญาณในอรรถะ ธรรมะ นิรุตติและปฏิภาณ เกิดขึ้นแล้วในสำนักของพระองค์ ดิฉัน เผากิเลสทั้งหลายแล้ว ... พระพุทธศาสนาดิฉันได้ทำเสร็จแล้ว. ทราบว่า ท่านพระสุกกาภิกษุณีได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.
จบสุกกาเถริยาปทาน.
จบภาณวารที่ ๕.

             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๓ บรรทัดที่ ๖๔๒๒-๖๔๘๒ หน้าที่ ๒๗๖-๒๗๘. http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=33&A=6422&Z=6482&pagebreak=0 http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/r.php?B=33&A=6422&pagebreak=0              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2]              อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :- http://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=33&siri=186              ศึกษาอรรถกถาได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=33&i=175              พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=33&A=7964              อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=51&A=5256              The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/read/roman_read.php?B=33&A=7964              The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=51&A=5256              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๓ http://84000.org/tipitaka/read/?index_33              อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://suttacentral.net/thi-ap35/en/walters

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกชองแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย

บันทึก ๒๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖. บันทึก ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙. บันทึกล่าสุด ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]