ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกชองแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๔ พระอภิธรรมปิฎก เล่มที่ ๑ ธรรมสังคณีปกรณ์
ติกนิทเทส
[๕๘๘] รูปภายในเป็นอุปาทา นั้น เป็นไฉน? จักขายตนะ ฯลฯ กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในเป็นอุปาทา. รูปภายนอกที่เป็นอุปาทา นั้น เป็นไฉน? รูปายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่เป็นอุปาทา. รูปภายนอกที่เป็นอนุปาทา นั้น เป็นไฉน? โผฏฐัพพายตนะ อาโปธาตุ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่เป็นอนุปาทา. [๕๘๙] รูปภายในเป็นอุปาทินนะ นั้น เป็นไฉน? จักขายตนะ ฯลฯ กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในเป็นอุปาทินนะ. รูปภายนอกที่เป็นอุปาทินนะ นั้น เป็นไฉน? อิตถินทรีย์ ปุริสินทรีย์ ชีวิตินทรีย์ หรือรูปแม้อื่นใด มีอยู่ ได้แก่ รูปายตนะ คันธายตนะ รสายตนะ โผฏฐัพพายตนะ อากาสธาตุ อาโปธาตุ รูปอุปจยะ รูปสันตติ กพฬิงการาหาร ที่กรรมแต่งขึ้น รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่เป็นอุปาทินนะ. รูปภายนอกที่เป็นอนุปาทินนะ นั้น เป็นไฉน? สัททายตนะ กายวิญญัติ วจีวิญญัติ รูปลหุตา รูปมุทุตา รูปกัมมัญญตา รูปชรตา รูปอนิจจตา หรือรูปแม้อื่นใด มีอยู่ ได้แก่รูปายตนะ สัททายตนะ คันธายตนะ รสายตนะ โผฏฐัพพายตนะ อากาสธาตุ อาโปธาตุ รูปอุปจยะ รูปสันตติ กพฬิงการาหาร ที่กรรมมิได้ แต่งขึ้น รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่เป็นอนุปาทินนะ. [๕๙๐] รูปภายในเป็นอุปาทินนุปาทานิยะ นั้น เป็นไฉน? จักขายตนะ ฯลฯ กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในเป็นอุปาทินนุปาทานิยะ. รูปภายนอกที่เป็นอุปาทินนุปาทานิยะ นั้น เป็นไฉน? อิตถินทรีย์ ปุริสินทรีย์ ชีวิตินทรีย์ หรือรูปแม้อื่นใด มีอยู่ ได้แก่ รูปายตนะ คันธายตนะ รสายตนะ โผฏฐัพพายตนะ อากาสธาตุ อาโปธาตุ รูปอุปจยะ รูปสันตติ กพฬิงการาหาร ที่กรรมแต่งขึ้น รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่เป็นอุปาทินนุปาทานิยะ. รูปภายนอกที่เป็นอนุปาทินนุปาทานิยะ นั้น เป็นไฉน? สัททายตนะ กายวิญญัติ วจีวิญญัติ รูปลหุตา รูปมุทุตา รูปกัมมัญญตา รูปชรตา รูปอนิจจตา หรือรูปแม้อื่นใด มีอยู่ ได้แก่ รูปายตนะ คันธายตนะ รสายตนะ โผฏฐัพพายตนะ อากาสธาตุ อาโปธาตุ รูปอุปจยะ รูปสันตติ กพฬิงการาหาร ที่กรรมมิได้แต่งขึ้น รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่เป็นอนุปาทินนุปาทานิยะ. [๕๙๑] รูปภายในที่เป็นอนิทัสสนะ นั้น เป็นไฉน? จักขายตนะ ฯลฯ กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในเป็นอนิทัสสนะ. รูปภายนอกที่เป็นสนิทัสสนะ นั้น เป็นไฉน? รูปายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่เป็นสนิทัสสนะ. รูปภายนอกที่เป็นอนิทัสสนะ นั้น เป็นไฉน? สัททายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่เป็นอนิทัสสนะ. [๕๙๒] รูปภายในเป็นสัปปฏิฆะ นั้น เป็นไฉน? จักขายตนะ ฯลฯ กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในเป็นสัปปฏิฆะ. รูปภายนอกที่เป็นสัปปฏิฆะ นั้น เป็นไฉน? รูปายตนะ ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่เป็นสัปปฏิฆะ. รูปภายนอกที่เป็นอัปปฏิฆะ นั้น เป็นไฉน? อิตถินทรีย์ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่เป็นอัปปฏิฆะ. [๕๙๓] รูปภายในเป็นอินทรีย์ นั้น ไฉน? จักขุนทรีย์ ฯลฯ กายินทรีย์ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในเป็นอินทรีย์. รูปภายนอกที่เป็นอินทรีย์ นั้น เป็นไฉน? อิตถินทรีย์ ปุริสินทรีย์ ชีวิตินทรีย์ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่ไม่เป็นอินทรีย์. [๕๙๔] รูปภายในไม่เป็นมหาภูต นั้น เป็นไฉน? จักขายตนะ ฯลฯ กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในไม่เป็นมหาภูต. รูปภายนอกที่เป็นมหาภูต นั้น เป็นไฉน? โผฏฐัพพายตนะ อาโปธาตุ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่เป็นมหาภูต. รูปภายนอกที่ไม่เป็นมหาภูต นั้น เป็นไฉน? รูปายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่ไม่เป็นมหาภูต. [๕๙๕] รูปภายในไม่เป็นวิญญัติ นั้น เป็นไฉน? จักขายตนะ ฯลฯ กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในไม่เป็นวิญญัติ. รูปภายนอกที่เป็นวิญญัติ นั้น เป็นไฉน? กายวิญญัติ วจีวิญญัติ รูปภายนอกที่เป็นวิญญัติ. รูปภายนอกที่ไม่เป็นวิญญัติ นั้น เป็นไฉน. รูปายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่ไม่เป็นวิญญัติ. [๕๙๖] รูปภายในไม่เป็นจิตตสมุฏฐาน นั้น เป็นไฉน? จักขายตนะ ฯลฯ กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในไม่เป็นจิตตสมุฏฐาน. รูปภายนอกที่เป็นจิตตสมุฏฐาน นั้นเป็นไฉน? กายวิญญัติ วจีวิญญัติ หรือแม้รูปอื่นใด มีอยู่ ได้แก่ รูปายตนะ สัททายตนะ คันธายตนะ รสายตนะ โผฏฐัพพายตนะ อากาสธาตุ อาโปธาตุ รูปลหุตา รูปมุทุตา รูปกัมมัญญตา รูปอุปจยะ รูปสันตติ กพฬิงการาหาร ที่เกิดจากจิต มีจิตเป็นเหตุ มีจิตเป็น สมุฏฐาน รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่เป็นจิตตสมุฏฐาน. รูปภายนอกที่ไม่เป็นจิตตสมุฏฐาน นั้น เป็นไฉน? อิตถินทรีย์ ปุริสินทรีย์ ชีวิตินทรีย์ รูปชรตา รูปอนิจจตา หรือรูปแม้อื่นใด มีอยู่ ได้แก่ รูปายตนะ สัททายตนะ คันธายตนะ รสายตนะ โผฏฐัพพายตนะ อากาสธาตุ อาโปธาตุ รูปลหุตา รูปกัมมัญญตา รูปอุปจยะ รูปสันตติ กพฬิงการาหาร ที่ไม่ได้เกิดจากจิต ไม่มีจิตเป็นเหตุ ไม่มีจิตเป็นสมุฏฐาน รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่ไม่เป็นจิตตสมุฏฐาน. [๕๙๗] รูปภายในไม่เป็นจิตตสหภู นั้น เป็นไฉน? จักขายตนะ ฯลฯ กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในไม่เป็นจิตตสหภู. รูปภายนอกที่เป็นจิตตสหภู นั้น เป็นไฉน? กายวิญญัติ วจีวิญญัติ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่เป็นจิตตสหภู. รูปภายนอกที่ไม่เป็นจิตตสหภู นั้น เป็นไฉน? รูปายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่เป็นจิตตสหภู. [๕๙๘] รูปภายในไม่เป็นจิตตานุปริวัติ นั้น เป็นไฉน? จักขายตนะ ฯลฯ กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในไม่เป็นจิตตานุปริวัติ. รูปภายนอกที่เป็นจิตตานุปริวัติ นั้น เป็นไฉน? กายวิญญัติ วจีวิญญัติ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่เป็นจิตตานุปริวัติ. รูปภายนอกที่ไม่เป็นจิตตานุปริวัติ นั้น เป็นไฉน? รูปายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่ไม่เป็นจิตตานุปริวัติ. [๕๙๙] รูปภายในที่หยาบ นั้น เป็นไฉน? จักขายตนะ ฯลฯ กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในที่หยาบ. รูปภายนอกที่หยาบ นั้น เป็นไฉน? รูปายตนะ ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่หยาบ. รูปภายนอกที่ละเอียด นั้น เป็นไฉน? อิตถินทรีย์ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่ละเอียด. [๖๐๐] รูปภายในที่อยู่ใกล้ นั้นไฉน? จักขายตนะ ฯลฯ กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในที่อยู่ใกล้. รูปภายนอกที่อยู่ไกล นั้น เป็นไฉน? อิตถินทรีย์ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่อยู่ไกล. รูปภายนอกที่อยู่ใกล้ นั้น เป็นไฉน? รูปายตนะ ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่อยู่ใกล้. [๖๐๑] รูปภายนอกไม่เป็นที่อาศัยเกิดของจักขุสัมผัส นั้น เป็นไฉน? รูปายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่ไม่เป็นที่อาศัยเกิดของ จักขุสัมผัส. รูปภายในที่เป็นที่อาศัยเกิดของจักขุสัมผัส นั้น เป็นไฉน? จักขายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในที่เป็นที่อาศัยเกิดของจักขุสัมผัส. รูปภายในที่ไม่เป็นที่อาศัยเกิดของจักขุสัมผัส นั้น เป็นไฉน? โสตายตนะ ฯลฯ กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในที่ไม่เป็นที่อาศัยเกิดของจักขุ- *สัมผัส. [๖๐๒] รูปภายนอกไม่เป็นที่อาศัยเกิดของเวทนาอัน เกิดแต่จักขุสัมผัส ฯลฯ ของสัญญา ฯลฯ ของเจตนา ฯลฯ ของจักขุวิญญาณ นั้น เป็นไฉน? รูปายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่ไม่เป็นที่อาศัยเกิดของ จักขุวิญญาณ. รูปภายในที่เป็นที่อาศัยเกิดของจักขุวิญญาณ นั้น เป็นไฉน? จักขายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในที่เป็นที่อาศัยเกิดของจักขุวิญญาณ. รูปภายในที่ไม่เป็นที่อาศัยเกิดของจักขุวิญญาณ นั้น เป็นไฉน? โสตายตนะ ฯลฯ กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในที่ไม่เป็นที่อาศัยเกิดของจักขุ วิญญาณ. [๖๐๓] รูปภายนอกไม่เป็นที่อาศัยเกิดของโสตสัมผัส ฯลฯ ของฆานสัมผัส ฯลฯ ของชิวหาสัมผัส ฯลฯ ของกายสัมผัส นั้น เป็นไฉน? รูปายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกไม่เป็นที่อาศัยเกิดของ กายสัมผัส. รูปภายในที่เป็นที่อาศัยเกิดของกายสัมผัส นั้น เป็นไฉน? กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในที่เป็นที่อาศัยเกิดของกายสัมผัส. รูปภายในที่ไม่เป็นที่อาศัยเกิดของกายสัมผัส นั้น เป็นไฉน? จักขายตนะ ฯลฯ ชิวหายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในที่ไม่เป็นที่อาศัยเกิดของกาย สัมผัส. [๖๐๔] รูปภายนอกไม่เป็นที่อาศัยเกิดของเวทนาอันเกิดแต่กายสัมผัส ฯลฯ ของ สัญญา ฯลฯ ของเจตนา ฯลฯ ของกายวิญญาณ นั้น เป็นไฉน? รูปายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกไม่เป็นที่อาศัยเกิดของกาย วิญญาณ. รูปภายในที่เป็นที่อาศัยเกิดของกายวิญญาณ นั้น เป็นไฉน? กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในที่เป็นที่อาศัยเกิดของกายวิญญาณ. รูปภายในไม่เป็นที่อาศัยของกายวิญญาณ นั้น เป็นไฉน? จักขายตนะ ฯลฯ ชิวหายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในไม่เป็นที่อาศัยเกิดของกาย- *วิญญาณ. [๖๐๕] รูปภายในไม่เป็นอารมณ์ของจักขุสัมผัส นั้น เป็นไฉน? จักขายตนะ ฯลฯ กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในไม่เป็นอารมณ์ของจักขุสัมผัส. รูปภายนอกที่เป็นอารมณ์ของจักขุสัมผัส นั้น เป็นไฉน? รูปายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่เป็นอารมณ์ของจักขุสัมผัส. รูปภายนอกที่ไม่เป็นอารมณ์ของจักขุสัมผัส นั้น เป็นไฉน? สัททายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่ไม่เป็นอารมณ์ของ จักขุสัมผัส. [๖๐๖] รูปภายในไม่เป็นอารมณ์ของเวทนาอันเกิดแต่จักขุสัมผัส ฯลฯ ของ สัญญา ฯลฯ ของเจตนา ฯลฯ ของจักขุวิญญาณ นั้น เป็นไฉน? จักขายตนะ ฯลฯ กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในไม่เป็นอารมณ์ของจักขุวิญญาณ. รูปภายนอกที่เป็นอารมณ์ของจักขุวิญญาณ นั้น เป็นไฉน? รูปายตนะ รูปนี้ทั้งเรียกว่า รูปภายนอกที่เป็นอารมณ์ของจักขุวิญญาณ. รูปภายนอกที่ไม่เป็นอารมณ์ของจักขุวิญญาณ นั้น เป็นไฉน? สัททายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่ไม่เป็นอารมณ์ของ จักขุวิญญาณ. [๖๐๗] รูปภายในไม่เป็นอารมณ์ของโสตสัมผัส ฯลฯ ของฆานสัมผัส ฯลฯ ของชิวหาสัมผัส ฯลฯ ของกายสัมผัส นั้น เป็นไฉน? จักขายตนะ ฯลฯ กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในไม่เป็นอารมณ์ของกายสัมผัส. รูปภายนอกที่เป็นอารมณ์ของกายสัมผัส นั้น เป็นไฉน? โผฏฐัพพายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกเป็นอารมณ์ของกายสัมผัส. รูปภายนอกที่ไม่เป็นอารมณ์ของกายสัมผัส นั้น เป็นไฉน? รูปายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่ไม่เป็นอารมณ์ของกาย สัมผัส. [๖๐๘] รูปภายในไม่เป็นอารมณ์ของเวทนา อันเกิดแต่กายสัมผัส ฯลฯ ของ สัญญา ฯลฯ ของเจตนา ฯลฯ ของกายวิญญาณ นั้น เป็นไฉน? จักขายตนะ ฯลฯ กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในไม่เป็นอารมณ์ของกาย วิญญาณ. รูปภายนอกที่เป็นอารมณ์ของกายวิญญาณ นั้น เป็นไฉน? โผฏฐัพพายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่เป็นอารมณ์ของกายวิญญาณ. รูปภายนอกที่ไม่เป็นอารมณ์ของกายวิญญาณ นั้น เป็นไฉน? รูปายาตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกไม่เป็นอารมณ์ของกาย วิญญาณ. [๖๐๙] รูปภายนอกที่ไม่เป็นจักขายตนะ นั้น เป็นไฉน? รูปายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกไม่เป็นจักขายตนะ. รูปภายในที่เป็นจักขายตนะ นั้น เป็นไฉน? จักขุใด เป็นปสาทรูป อาศัยมหาภูตรูป ๔ ฯลฯ นี้เรียกว่า จักขุบ้าง ฯลฯ บ้านว่างบ้าง รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในที่เป็นจักขายตนะ. รูปภายในที่ไม่เป็นจักขายตนะ นั้น เป็นไฉน? โสตายนะ ฯลฯ กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในที่ไม่เป็นจักขายตนะ. [๖๑๐] รูปภายนอกไม่เป็นโสตายตนะ ฯลฯ ไม่เป็นฆานายตนะ ฯลฯ ไม่ เป็นชิวหายตนะ ฯลฯ ไม่เป็นกายายตนะ นั้น เป็นไฉน? รูปายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกไม่เป็นกายายตนะ. รูปภายในที่เป็นกายายตนะ นั้น เป็นไฉน? กายใด เป็นปสาทรูป อาศัยมหาภูตรูป ๔ ฯลฯ นี้เรียกว่า กายบ้าง ฯลฯ บ้านว่าง บ้าง รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในที่เป็นกายายตนะ. รูปภายในที่ไม่เป็นกายายตนะ นั้นเป็นไฉน? จักขายตนะ ฯลฯ ชิวหายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในที่ไม่เป็นกายายตนะ. [๖๑๑] รูปภายในที่ไม่เป็นรูปายตนะ นั้น เป็นไฉน? จักขายตนะ ฯลฯ กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในไม่เป็นรูปายตนะ. รูปภายนอกที่เป็นรูปายตนะ นั้น เป็นไฉน? รูปใด เป็นสี อาศัยมหาภูตรูป ๔ ฯลฯ นี้เรียกว่า รูปบ้าง รูปายตนะบ้าง รูปธาตุบ้าง รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่เป็นรูปายตนะ. รูปภายนอกที่ไม่เป็นรูปายตนะ นั้น เป็นไฉน? สัททายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่ไม่เป็นรูปายาตนะ. [๖๑๒] รูปภายในไม่เป็นสัททายตนะ ฯลฯ ไม่เป็นคันธายตนะ ฯลฯ ไม่เป็น รสายตนะ ฯลฯ ไม่เป็นโผฏฐัพพายตนะ นั้น เป็นไฉน? จักขายตนะ ฯลฯ กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในไม่เป็นโผฏฐัพพายตนะ. รูปภายนอกที่เป็นโผฏฐัพพายตนะ นั้น เป็นไฉน? ปฐวีธาตุ ฯลฯ นี้เรียกว่า โผฏฐัพพะบ้าง โผฏฐัพพายตนะบ้าง โผฏฐัพพธาตุบ้าง รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่เป็นโผฏฐัพพายตนะ. รูปภายนอกที่ไม่เป็นโผฏฐัพพายตนะ นั้น เป็นไฉน? รูปายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่ไม่เป็นโผฏฐัพพายตนะ. [๖๑๓] รูปภายนอกไม่เป็นจักขุธาตุ นั้น เป็นไฉน? รูปายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกไม่เป็นจักขุธาตุ. รูปภายในที่เป็นจักขุธาตุ นั้น เป็นไฉน? จักขายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในที่เป็นจักขุธาตุ. รูปภายในที่ไม่เป็นจักขุธาตุ นั้น เป็นไฉน? โสตายตนะ ฯลฯ กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในที่ไม่เป็นจักขุธาตุ. [๖๑๔] รูปภายนอกที่ไม่เป็นโสตธาตุ ฯลฯ ไม่เป็นฆานธาตุ ฯลฯ ไม่เป็น ชิวหาธาตุ ฯลฯ ไม่เป็นกายธาตุ นั้น เป็นไฉน? รูปายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกไม่เป็นกายธาตุ. รูปภายในที่เป็นกายธาตุ นั้น เป็นไฉน? กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในที่เป็นกายธาตุ. รูปภายในที่ไม่เป็นกายธาตุ นั้น เป็นไฉน? จักขายตนะ ฯลฯ ชิวหายตะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในที่ไม่เป็นกายธาตุ. [๖๑๕] รูปภายในที่ไม่เป็นรูปธาตุ นั้น เป็นไฉน? จักขายตนะ ฯลฯ กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในที่ไม่เป็นรูปธาตุ. รูปภายนอกที่เป็นรูปธาตุ นั้น เป็นไฉน? รูปายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่เป็นรูปธาตุ. รูปภายนอกที่ไม่เป็นรูปธาตุ นั้น เป็นไฉน? สัททายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่ไม่เป็นรูปธาตุ. [๖๑๖] รูปภายในไม่เป็นสัททธาตุ ฯลฯ ไม่เป็นคันธธาตุ ฯลฯ ไม่เป็นรส ธาตุ ฯลฯ ไม่เป็นโผฏฐัพพธาตุ นั้น เป็นไฉน? จักขายตนะ ฯลฯ กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในไม่เป็นโผฏฐัพพธาตุ. รูปภายนอกที่เป็นโผฏฐัพพธาตุ นั้น เป็นไฉน? โผฏฐัพพายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่เป็นโผฏฐัพพธาตุ. รูปภายนอกที่ไม่เป็นโผฏฐัพพธาตุ นั้น เป็นไฉน? รูปายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่ไม่เป็นโผฏฐัพพธาตุ. [๖๑๗] รูปภายนอกไม่เป็นจักขุนทรีย์ นั้น เป็นไฉน? รูปายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกไม่เป็นจักขุนทรีย์. รูปภายในที่เป็นจักขุนทรีย์ นั้นเป็นไฉน? จักขุใด เป็นปสาทรูป อาศัยมหาภูตรูป ๔ ฯลฯ นี้เรียกว่า จักขุบ้าง ฯลฯ บ้านว่าง บ้าง รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในที่เป็นจักขุนทรีย์. รูปภายในที่ไม่เป็นจักขุนทรีย์ นั้น เป็นไฉน? โสตายตนะ ฯลฯ กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในที่ไม่เป็นจักขุนทรีย์. [๖๑๘] รูปภายนอกไม่เป็นโสตินทรีย์ ฯลฯ ไม่เป็นฆานินทรีย์ ฯลฯ ไม่เป็น ชิวหินทรีย์ ฯลฯ ไม่เป็นกายินทรีย์ นั้น เป็นไฉน? รูปายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกไม่เป็นกายินทรีย์. รูปภายในที่เป็นกายินทรีย์ นั้น เป็นไฉน? กายใด เป็นปสาทรูป อาศัยมหาภูตรูป ๔ ฯลฯ นี้เรียกว่า กายบ้าง ฯลฯ บ้านว่างบ้าง รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในที่เป็นกายินทรีย์. รูปภายในที่ไม่เป็นกายินทรีย์ นั้น เป็นไฉน? จักขายตนะ ฯลฯ ชิวหายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในที่ไม่เป็นกายินทรีย์. [๖๑๙] รูปภายในไม่เป็นอิตถินทรีย์ นั้น เป็นไฉน? จักขายตนะ ฯลฯ กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในไม่เป็นชีวิตถินทรีย์. รูปภายนอกที่เป็นอิตถินทรีย์ นั้น เป็นไฉน? ทรวดทรงหญิง เครื่องหมายให้รู้ว่าหญิง กิริยาหญิง อาการหญิง สภาพหญิง ภาวะ หญิง ของหญิง ปรากฏได้ ด้วยเหตุใด รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่เป็นอิตถินทรีย์. รูปภายนอกที่ไม่เป็นอิตถินทรีย์ นั้น เป็นไฉน? รูปายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่ไม่เป็นอิตถินทรีย์. [๖๒๐] รูปภายในที่ไม่เป็นปุริสินทรีย์ นั้น เป็นไฉน? จักขายตนะ ฯลฯ กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในไม่เป็นปุริสินทรีย์. รูปภายนอกที่เป็นปุริสินทรีย์ นั้น เป็นไฉน? ทรวดทรงชาย เครื่องหมายให้รู้ว่าชาย กิริยาชาย อาการชาย สภาพชาย ภาวะชาย ของชาย ปรากฏได้ ด้วยเหตุใด รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่เป็นปุริสินทรีย์. รูปภายนอกที่ไม่เป็นปุริสินทรีย์ นั้น เป็นไฉน? รูปายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่ไม่เป็นปุริสินทรีย์ [๖๒๑] รูปภายในไม่เป็นชีวิตินทรีย์ นั้น เป็นไฉน? จักขายตนะ ฯลฯ กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในไม่เป็นชีวิตินทรีย์ รูปภายนอกที่เป็นชีวิตินทรีย์ นั้น เป็นไฉน? อายุ ความดำรงอยู่ ความเป็นไปอยู่ กิริยาที่เป็นไปอยู่ อาการที่สืบเนื่องกันอยู่ ความ ประพฤติเป็นไปอยู่ ความหล่อเลี้ยงอยู่ ชีวิต อินทรีย์คือชีวิต ของรูปธรรมนั้นๆ อันใด รูป ทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกเป็นชีวิตินทรีย์. รูปภายนอกที่ไม่เป็นชีวิตินทรีย์ นั้น เป็นไฉน? รูปายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่ไม่เป็นชีวิตินทรีย์. [๖๒๒] รูปภายในไม่เป็นกายวิญญัติ นั้น เป็นไฉน? จักขายตนะ ฯลฯ กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในไม่เป็นกายวิญญัติ. รูปภายนอกที่เป็นกายวิญญัติ นั้น เป็นไฉน? การเคร่งตึง กิริยาที่เคร่งตึงด้วยดี ความเคร่งตึงด้วยดี การแสดงให้รู้ ความหมาย กิริยาที่แสดงให้รู้ความหมาย ความแสดงให้รู้ความหมาย แห่งกาย ของบุคคลผู้มีจิตเป็นกุศล หรือมีจิตเป็นอกุศล หรือมีจิตเป็นอัพยากฤต ก้าวไปอยู่ ถอยกลับอยู่ แลดูอยู่ เหลียวซ้ายแล ขวาอยู่ คู้เข้าอยู่ หรือเหยียดออกอยู่ อันใด รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่เป็นกายวิญญัติ. รูปภายนอกที่ไม่เป็นกายวิญญัติ นั้น เป็นไฉน? รูปายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่ไม่เป็นกายวิญญัติ. [๖๒๓] รูปภายในไม่เป็นวจีวิญญัติ นั้น เป็นไฉน? จักขายตนะ ฯลฯ กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในไม่เป็นวจีวิญญัติ. รูปภายนอกที่เป็นวจีวิญญัติ นั้น เป็นไฉน? การพูด การเปล่งวาจา การเจรจา การกล่าว การป่าวร้อง การโฆษณา วาจา วจีเภท แห่งบุคคลผู้จิตเป็นกุศล หรือมีจิตเป็นอกุศล หรือมีจิตเป็นอัพยากฤต อันใด นี้เรียกว่า วาจา การแสดงให้รู้ความหมาย กิริยาที่แสดงให้รู้ความหมาย ความแสดงให้รู้ความหมาย ด้วยวาจานั้น อันใด รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่เป็นวจีวิญญัติ. รูปภายนอกที่ไม่เป็นวจีวิญญัติ นั้น เป็นไฉน? รูปายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่ไม่เป็นวจีวิญญัติ. [๖๒๔] รูปภายในไม่เป็นอากาสธาตุ นั้น เป็นไฉน? จักขายตนะ ฯลฯ กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในที่ไม่เป็นอากาสธาตุ. รูปภายนอกที่เป็นอากาสธาตุ นั้น เป็นไฉน? อากาศ ธรรมชาติอันนับว่าอากาศ ความว่างเปล่า ธรรมชาติอันนับว่าความว่างเปล่า ช่องว่าง ธรรมชาติอันนับว่าช่องว่าง อันมหาภูตรูป ๔ ไม่ถูกต้องแล้ว อันใด รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่เป็นอากาสธาตุ. รูปภายนอกที่ไม่เป็นอากาสธาตุ นั้น เป็นไฉน? รูปายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่ไม่เป็นอากาสธาตุ. [๖๒๕] รูปภายในไม่เป็นอาโปธาตุ นั้น เป็นไฉน? จักขายตนะ ฯลฯ กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในไม่เป็นอาโปธาตุ. รูปภายนอกที่เป็นอาโปธาตุ นั้น เป็นไฉน? สภาวะที่เอิบอาบ ธรรมชาติที่เอิบอาบ สภาวะที่เหนียว ธรรมชาติที่เหนียว ธรรมชาติ เครื่องเกาะกุมรูป รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่เป็นอาโปธาตุ. รูปภายนอกที่ไม่เป็นอาโปธาตุ นั้น เป็นไฉน? รูปายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่ไม่เป็นอาโปธาตุ. [๖๒๖] รูปภายในไม่เป็นรูปลหุตา นั้น เป็นไฉน? จักขายตนะ ฯลฯ กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในไม่เป็นรูปลหุตา. รูปภายนอกที่เป็นรูปลหุตา นั้น เป็นไฉน? ความเบา ความรวดเร็ว ความไม่เชื่องช้า ความไม่หนัก แห่งรูป อันใด รูปทั้งนี้ เรียกว่า รูปภายนอกที่เป็นรูปลหุตา. รูปภายนอกที่ไม่เป็นรูปลหุตา นั้นเป็นไฉน? รูปายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่ไม่เป็นรูปลหุตา. [๖๒๗] รูปภายในไม่เป็นรูปมุทุตา นั้น เป็นไฉน? จักขายตนะ ฯลฯ กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในไม่เป็นรูปมุทุตา. รูปภายนอกที่เป็นรูปมุทุตา นั้น เป็นไฉน? ความอ่อน ภาวะที่อ่อน ความไม่แข็ง ความไม่กระด้าง แห่งรูป อันใด รูปทั้งนี้ เรียกว่า รูปภายนอกเป็นรูปมุทุตา. รูปภายนอกที่ไม่เป็นรูปมุทุตา นั้น เป็นไฉน? รูปายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่ไม่เป็นรูปมุทุตา. [๖๒๘] รูปภายในไม่เป็นรูปกัมมัญญตา นั้น เป็นไฉน? จักขายตนะ ฯลฯ กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในไม่เป็นรูปกัมมัญญตา. รูปภายนอกที่เป็นรูปกัมมัญญตา นั้น เป็นไฉน? กิริยาที่ควรแก่การงาน ความควรแก่การงาน ภาวะที่ควรแก่การงาน แห่งรูป อันใด รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่เป็นรูปกัมมัญญตา. รูปภายนอกที่ไม่เป็นรูปกัมมัญญตา นั้น เป็นไฉน? รูปายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกไม่เป็นรูปกัมมัญญตา. [๖๒๙] รูปภายในไม่เป็นรูปอุปจยะ นั้น เป็นไฉน? จักขายตนะ ฯลฯ กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในไม่เป็นรูปอุปจยะ. รูปภายนอกที่เป็นรูปอุปจยะ นั้น เป็นไฉน? ความสั่งสมแห่งอายตนะทั้งหลาย อันใด อันนั้น เป็นความเกิดแห่งรูป รูปทั้งนี้เรียก ว่า รูปภายนอกที่เป็นรูปอุปจยะ. รูปภายนอกที่ไม่เป็นรูปอุปจยะ นั้น เป็นไฉน? รูปายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่ไม่เป็นรูปอุปจยะ. [๖๓๐] รูปภายในไม่เป็นรูปสันตติ นั้น เป็นไฉน? จักขายตนะ ฯลฯ กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในไม่เป็นรูปสันตติ. รูปภายนอกที่เป็นรูปสันตติ นั้น เป็นไฉน? ความเกิดแห่งรูปอันใด อันนั้นเป็นความสืบต่อแห่งรูป รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอก ที่เป็นรูปสันตติ. รูปภายนอกที่ไม่เป็นรูปสันตติ นั้น เป็นไฉน? รูปายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่ไม่เป็นรูปสันตติ. [๖๓๑] รูปภายในไม่เป็นรูปชรตา นั้น เป็นไฉน? จักขายตนะ ฯลฯ กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในไม่รูปชรตา. รูปภายนอกที่เป็นรูปชรตา นั้น เป็นไฉน? ความชรา ความคร่ำคร่า ความมีฟันหลุด ความมีผมหงอก ความมีหนังเหี่ยว ความ เสื่อมอายุ ความหง่อมแห่งอินทรีย์ แห่งรูป อันใด รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่เป็นรูปชรตา. รูปภายนอกที่ไม่เป็นรูปชรตา นั้น เป็นไฉน? รูปายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่ไม่เป็นรูปชรตา. [๖๓๒] รูปภายในไม่เป็นรูปอนิจจตา นั้น เป็นไฉน? จักขายตนะ ฯลฯ กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในไม่เป็นรูปอนิจจตา. รูปภายนอกที่เป็นรูปอนิจจตา นั้น เป็นไฉน? ความสิ้นไป ความเสื่อมไป ความแตก ความทำลาย ความไม่เที่ยง ความอันตรธาน แห่งรูป อันใด รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่เป็นรูปอนิจจตา. รูปภายนอกที่ไม่เป็นรูปอนิจจตา นั้น เป็นไฉน? รูปายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่ไม่เป็นอนิจจตา. [๖๓๓] รูปภายในไม่เป็นกพฬิงการาหาร นั้น เป็นไฉน? จักขายตนะ ฯลฯ กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในที่ไม่เป็นกพฬิงการาหาร. รูปภายนอกที่เป็นกพฬิงการาหาร นั้น เป็นไฉน? ข้าวสุก ขนมสด ขนมแห้ง ปลา เนื้อ นมสด นมส้ม เนยใส เนยข้น น้ำมัน น้ำผึ้ง น้ำอ้อย หรือว่ารูปแม้อื่นใด มีอยู่ อันเป็นของใส่ปาก ขบเคี้ยว กลืนกิน อิ่มท้อง ของสัตว์นั้นๆ ในชนบทใดๆ สัตว์ทั้งหลาย เลี้ยงชีวิตด้วยโอชาอันใด รูปทั้งนี้เรียกว่า รูป ภายนอกที่เป็นกพฬิงการาหาร. รูปภายนอกที่ไม่เป็นกพฬิงการาหาร นั้น เป็นไฉน? รูปายตนะ ฯลฯ รูปอนิจจตา รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่ไม่เป็นกพฬิงการาหาร.
สงเคราะห์รูปเป็นหมวดละ ๓ อย่างนี้.
ติกนิทเทส จบ
-----------------------------------------------------

             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๔ บรรทัดที่ ๕๐๔๒-๕๓๘๘ หน้าที่ ๒๐๒-๒๑๕. http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=34&A=5042&Z=5388&pagebreak=0 http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/r.php?B=34&A=5042&pagebreak=0              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2], [3], [4], [5]              อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :- http://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=34&siri=52              ศึกษาอรรถกถาได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=34&i=588              พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=34&A=4579              อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=53&A=9875              The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/read/roman_read.php?B=34&A=4579              The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=53&A=9875              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๔ http://84000.org/tipitaka/read/?index_34              อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://suttacentral.net/ds2.2.3/en/caf_rhysdavids#pts-cs741

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกชองแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย

บันทึก ๒๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖. บันทึก ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙. บันทึกล่าสุด ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]