ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกชองแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๘ พระอภิธรรมปิฎก เล่มที่ ๕ ยมกปกรณ์ ภาค ๑
อุปปาทนิโรธวาร
[๙๘๔] ทุกขสัจย่อมเกิดขึ้นแก่สัตว์ใด สมุทยสัจของสัตว์นั้น ย่อมดับไปหรือ? หามิได้. หรือว่า สมุทยสัจของสัตว์ใด ย่อมดับไป ทุกขสัจย่อมเกิดขึ้นแก่สัตว์นั้น? หามิได้. ทุกขสัจย่อมเกิดขึ้นแก่สัตว์ใด มัคคสัจของสัตว์นั้น ย่อมดับไปหรือ? หามิได้. หรือว่า มัคคสัจของสัตว์ใด ย่อมดับไป ทุกขสัจย่อมเกิดขึ้นแก่สัตว์นั้น? หามิได้. สมุทยสัจย่อมเกิดขึ้นแก่สัตว์ใด มัคคสัจของสัตว์นั้น ย่อมดับไปหรือ? หามิได้. หรือว่า มัคคสัจของสัตว์ใด ย่อมดับไป สมุทยสัจย่อมเกิดขึ้นแก่สัตว์นั้น? หามิได้. ทุกขสัจย่อมเกิดขึ้นในภูมิใด สมุทยสัจในภูมินั้น ย่อมดับไปหรือ? ทุกขสัจย่อมเกิดขึ้นในภูมินั้น ซึ่งเป็นอสัญญสัตตภูมิ แต่สมุทยสัจในภูมินั้น ย่อม ดับไปก็หาไม่. คำว่า ยตฺถ (ในภูมิใด) เหมือนกัน ทั้งอุปปาทวาร ทั้งนิโรธวาร ทั้งในอุปปาท- *นิโรธวาร. เหตุเครื่องกระทำให้ต่างกัน ย่อมไม่มี. ทุกขสัจย่อมเกิดขึ้นแก่สัตว์ใดในภูมิใด สมุทยสัจของสัตว์นั้นในภูมินั้น ย่อมดับ ไปหรือ? หามิได้. คำว่า ยสฺส (ของสัตว์ใด) ก็ดี คำว่า ยสฺส และ ยตฺถ ก็ดี เป็นเช่นเดียวกัน. [๙๘๕] ทุกขสัจย่อมไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์ใด สมุทยสัจของสัตว์นั้น ย่อมไม่ดับไป หรือ? ทุกขสัจย่อมไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้น ในภังคขณะแห่งตัณหา แต่สมุทยสัจของสัตว์ เหล่านั้นย่อมไม่ดับไปก็หาไม่ ทุกขสัจย่อมไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้น ซึ่งกำลังจุติอยู่ทั้งหมด ในภังคขณะแห่งตัณหาวิปปยุตตจิต ในปวัตติกาล ในอุปปาทขณะแห่งมรรคจิตและผลจิต ใน อรูปภูมิ และสมุทยสัจก็ย่อมไม่ดับไป. หรือว่า สมุทยสัจของสัตว์ใด ย่อมไม่ดับไป ทุกขสัจย่อมไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์นั้น? สมุทยสัจของสัตว์เหล่านั้น ซึ่งกำลังเกิดขึ้นอยู่ทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิต ใน ปวัตติกาล ย่อมไม่ดับไป แต่ทุกขสัจย่อมไม่เกิดแก่สัตว์เหล่านั้นก็หาไม่ สมุทยสัจของสัตว์ เหล่านั้น ซึ่งกำลังจุติอยู่ทั้งหมด ในภังคขณะแห่งตัณหาวิปปยุตตจิต ในปวัตติกาล ใน อุปปาทขณะแห่งมรรคจิตและผลจิต ในอรูปภูมิ ย่อมไม่ดับไป และทุกขสัจก็ย่อมไม่เกิดขึ้น. [๙๘๖] ทุกขสัจย่อมไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์ใด มัคคสัจของสัตว์นั้น ย่อมไม่ดับไปหรือ? ทุกขสัจย่อมไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้น ในภังคขณะแห่งมรรค แต่มัคคสัจของสัตว์ เหล่านั้นย่อมไม่ดับไปก็หาไม่ ทุกขสัจย่อมไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้น ซึ่งกำลังจุติอยู่ทั้งหมด ในภังคขณะแห่งมัคควิปปยุตตจิต ในปวัตติกาล ในอุปปาทขณะแห่งมรรคจิตและผลจิต ใน อรูปภูมิ และมัคคสัจก็ย่อมไม่ดับไป. หรือว่า มัคคสัจของสัตว์ใด ย่อมไม่ดับไป ทุกขสัจย่อมไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์นั้น? มัคคสัจของสัตว์เหล่านั้น ซึ่งกำลังเกิดขึ้นอยู่ทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิต ใน ปวัตติกาล ย่อมไม่ดับไป แต่ทุกขสัจย่อมไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้นก็หาไม่ มัคคสัจของสัตว์ เหล่านั้น ซึ่งกำลังจุติอยู่ทั้งหมด ในภังคขณะแห่งมัคควิปปยุตตจิต ในปวัตติกาล ใน อุปปาทขณะแห่งมรรคจิตและผลจิต ในอรูปภูมิ ย่อมไม่ดับไป และทุกขสัจก็ย่อมไม่เกิดขึ้น. [๙๘๗] สมุทยสัจย่อมไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์ใด มัคคสัจของสัตว์นั้น ย่อมไม่ดับไป หรือ? สมุทยสัจย่อมไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้น ในภังคขณะแห่งมรรค แต่มัคคสัจของสัตว์ เหล่านั้นย่อมไม่ดับไปก็หาไม่ สมุทยสัจย่อมไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้น ในอุปปาทขณะแห่ง ตัณหาวิปปยุตตจิต แก่ผู้ที่เข้านิโรธ แก่อสัญญสัตว์ และมัคคสัจก็ย่อมไม่ดับไป. หรือว่า มัคคสัจของสัตว์ใดย่อมไม่ดับไป สมุทยสัจย่อมไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์นั้น? มัคคสัจของสัตว์เหล่านั้น ในอุปปาทขณะแห่งตัณหา ย่อมไม่ดับไป แต่สมุทยสัจย่อม ไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้นก็หาไม่ มัคคสัจของสัตว์เหล่านั้น ในอุปปาทขณะแห่งตัณหาวิปป- *ยุตตจิต ในภังคขณะแห่งมัคควิปปยุตตจิต ของผู้ที่เข้านิโรธ ของอสัญญสัตว์ ย่อมไม่ดับไป และสมุทยสัจก็ย่อมไม่เกิดขึ้น. [๙๘๘] ทุกขสัจย่อมไม่เกิดขึ้นในภูมิใด ฯลฯ. [๙๘๙] ทุกขสัจย่อมไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์ใดในภูมิใด ฯลฯ. คำว่า ยสฺส (แก่สัตว์ใด) ก็ดี คำว่า ยสฺส ยตฺถ (ในภูมิใด ของสัตว์ใด) ก็ดี เป็นเช่นเดียวกัน บทว่า นิโรธสมาปนฺนานํ ไม่พึงกระทำแม้ในคำว่า ยสฺส ยตฺถ (ในภูมิใด ของสัตว์ใด) [๙๙๐] ทุกขสัจไม่เคยเกิดขึ้นแล้วแก่สัตว์ใด สมุทยสัจของสัตว์นั้นเคยดับไปแล้ว หรือ? ถูกแล้ว. หรือว่า สมุทยสัจของสัตว์ใด ฯลฯ? ถูกแล้ว. คำถามที่เป็นอดีต ท่านจำแนกไว้แล้วในอุปปาทวาร ฉันใด ส่วนที่เป็นอนุโลม ก็ดี ที่เป็นปัจจนียะ ก็ดี พึงจำแนกแม้ในอุปปาทนิโรธวาร ฉันนั้น [๙๙๑] ทุกขสัจจักเกิดขึ้นแก่สัตว์ใด สมุทยสัจของสัตว์นั้น จักดับไปหรือ? ทุกขสัจจักเกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้น คือ ท่านผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ผู้เป็น พระอรหันต์ สัตว์เหล่าใดจักได้เฉพาะซึ่งอรหัตมรรค ในลำดับแห่งจิตใด แก่สัตว์เหล่านั้น แต่ สมุทยสัจของสัตว์เหล่านั้นจักดับไปก็หาไม่ ทุกขสัจจักเกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้น นอกนี้ และ สมุทยสัจก็จักดับไป. หรือว่า สมุทยสัจของสัตว์ใด ฯลฯ? ถูกแล้ว. [๙๙๒] ทุกขสัจจักเกิดขึ้นแก่สัตว์ใด มัคคสัจของสัตว์นั้น จักดับไปหรือ? ทุกขสัจจักเกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้น ในภังคขณะแห่งอรหัตมรรค แก่พระอรหันต์ทั้งหลาย และแก่ปุถุชนที่จักไม่ได้เฉพาะซึ่งมรรค แต่มัคคสัจของสัตว์เหล่านั้นจักดับไปก็หาไม่ ทุกขสัจ จักเกิดขึ้นในอุปปาทขณะแห่งอรหัตมรรค สัตว์เหล่าใดจักได้เฉพาะซึ่งอรหัตมรรค ในลำดับแห่ง จิตใด แก่สัตว์เหล่านั้นในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น และแก่สัตว์เหล่าอื่นที่จักได้เฉพาะซึ่งมรรค และมัคคสัจก็จักดับไป. หรือว่า มัคคสัจของสัตว์ใด ฯลฯ? ถูกแล้ว. [๙๙๓] สมุทยสัจจักเกิดขึ้นแก่สัตว์ใด มัคคสัจของสัตว์นั้น จักดับไปหรือ? สมุทยสัจจักเกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้น ซึ่งเป็นปุถุชนที่จักไม่ได้เฉพาะซึ่งมรรค แต่มัคคสัจ ของสัตว์เหล่านั้นจักดับไปก็หาไม่ สมุทยสัจจักเกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้น ซึ่งจักได้เฉพาะซึ่งมรรค และมัคคสัจก็จักดับไป. หรือว่า มัคคสัจของสัตว์ใดจักดับไป สมุทยสัจจักเกิดขึ้นแก่สัตว์นั้น? มัคคสัจของสัตว์เหล่านั้น ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตมรรค สัตว์เหล่าใดจักได้เฉพาะซึ่ง อรหัตมรรค ในลำดับแห่งจิตใด ของสัตว์เหล่านั้น ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น จักดับไป แต่ สมุทยสัจจักเกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้นก็หาไม่ มัคคสัจของสัตว์เหล่านั้น ซึ่งจักได้เฉพาะซึ่งมรรค จักดับไป และสมุทยสัจก็จักเกิดขึ้น. [๙๙๔] ทุกขสัจจักเกิดขึ้นในภูมิใด ฯลฯ. [๙๙๕] ทุกขสัจจักเกิดขึ้นแก่สัตว์ใดในภูมิใด สมุทยสัจของสัตว์นั้นในภูมินั้น จักดับไปหรือ? ทุกขสัจจักเกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้นในภูมินั้น ซึ่งมีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ผู้เป็นพระอรหันต์ สัตว์เหล่าใดจักได้เฉพาะซึ่งอรหัตมรรค ในลำดับแห่งจิตใด แก่สัตว์เหล่านั้น ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น แก่อสัญญสัตว์ทั้งหลาย แต่สมุทยสัจของสัตว์เหล่านั้นในภูมินั้น จักดับไปก็หาไม่ ทุกขสัจจักเกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้นในภูมินั้น ซึ่งมีขันธ์ ๔ ขันธ์ ๕ นอกนี้ และสมุทยสัจก็จักดับไป. คำว่า ยสฺส (แก่สัตว์ใด) ก็ดี คำว่า ยสฺส ยตฺถ (ในภูมิใด แก่สัตว์ใด) ก็ดี เป็น เช่นเดียวกัน. [๙๙๖] ทุกขสัจจักไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์ใด สมุทยสัจของสัตว์นั้นจักไม่ดับไปหรือ? ถูกแล้ว. หรือว่า สมุทยสัจของสัตว์ใดจักไม่ดับไป ทุกขสัจจักไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์นั้น? สมุทยสัจของสัตว์เหล่านั้น ซึ่งมีความพร้อมเพรียงด้วยมรรคซึ่งเป็นพระอรหันต์ สัตว์ เหล่าใดจักได้เฉพาะซึ่งอรหัตมรรค ในลำดับแห่งจิตใด ของสัตว์เหล่านั้น ในอุปปาทขณะแห่ง จิตนั้น จักไม่ดับไป แต่ทุกขสัจจักไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้นก็หาไม่ สมุทยสัจของสัตว์เหล่านั้น ซึ่งมีความพร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต จักไม่ดับไป และทุกขสัจก็จักไม่เกิดขึ้น. [๙๙๗] ทุกขสัจจักไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์ใด มัคคสัจของสัตว์นั้นจักไม่ดับไปหรือ? ถูกแล้ว. หรือว่า มัคคสัจของสัตว์ใดจักไม่ดับไป ทุกขสัจจักไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์นั้น? มัคคสัจของสัตว์เหล่านั้น ในภังคขณะแห่งอรหัตมรรค และของพระอรหันต์ทั้งหลาย และของปุถุชนที่จักไม่ได้เฉพาะซึ่งมรรค จักไม่ดับไป แต่ทุกขสัจจักไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้น ก็หาไม่ มัคคสัจของสัตว์เหล่านั้น ซึ่งมีความพร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต จักไม่ดับไป และทุกขสัจ ก็จักไม่เกิดขึ้น. [๙๙๘] สมุทยสัจจักไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์ใด มัคคสัจของสัตว์นั้นจักไม่ดับไปหรือ? สมุทยสัจจักไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้น ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตมรรค สัตว์เหล่าใด จักได้เฉพาะซึ่งอรหัตมรรค ในลำดับแห่งจิตใด แก่สัตว์เหล่านั้น ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น แต่มัคคสัจของสัตว์เหล่านั้น จักไม่ดับไปก็หาไม่ สมุทยสัจจักไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้น ใน ภังคขณะแห่งอรหัตมรรค แก่พระอรหันต์ทั้งหลาย และมัคคสัจก็จักไม่ดับไป. หรือว่า มัคคสัจของสัตว์ใดจักไม่ดับไป สมุทยสัจจักไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์นั้น? สมุทยสัจแห่งสัตว์เหล่านั้น ซึ่งเป็นปุถุชนที่จักไม่ได้เฉพาะซึ่งมรรค จักไม่ดับไป แต่ สมุทยสัจจักไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้นก็หาไม่ มัคคสัจของสัตว์เหล่านั้น ในภังคขณะแห่ง อรหัตมรรค และของพระอรหันต์ทั้งหลาย จักไม่ดับไป และสมุทยสัจก็จักไม่เกิดขึ้น. [๙๙๙] ทุกขสัจจักไม่เกิดขึ้นในภูมิใด ฯลฯ. [๑๐๐๐] ทุกขสัจจักไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์ใดในภูมิใด. คำว่า ยสฺส (ของสัตว์ใด) ก็ดี คำว่า ยสฺส (แก่สัตว์ใด) และ ยตฺถ (ในภูมิใด) ก็ดี เช่นเดียวกัน ฯลฯ. สมุทยสัจ มัคคสัจ. กระทำต่างๆ กัน คือ มัคคสัจของสัตว์เหล่านั้นในภูมินั้น ในภังคขณะแห่งอรหัตมรรค ของพระอรหันต์ ของอสัญญสัตว์ จักไม่ดับไป และสมุทยสัจก็จักไม่เกิดขึ้น. [๑๐๐๑] ทุกขสัจย่อมเกิดขึ้นแก่สัตว์ใด สมุทยสัจของสัตว์นั้น เคยดับไปแล้ว หรือ? ถูกแล้ว. หรือว่า ของสัตว์ใด ฯลฯ. คำถามที่เป็นอดีตกับด้วยปัจจุบัน คำว่า ยสฺส ก็ดี คำว่า ยตฺถ ก็ดี คำว่า ยสฺส และ ยตฺถ ก็ดี อนุโลม ก็ดี ปัจจนียะ ก็ดี เป็นเช่นเดียวกัน ทั้งในอุปปาทวาร ทั้งในอุปปาท- *นิโรธวาร ผู้มีปัญญาพึงจำแนกไป. [๑๐๐๒] ทุกขสัจย่อมเกิดขึ้นแก่สัตว์ใด สมุทยสัจของสัตว์นั้น จักดับไปหรือ? ทุกขสัจย่อมเกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้น ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตมรรค แก่พระอรหันต์ ทั้งหลาย ในอุปปาทขณะแห่งจิต สัตว์เหล่าใดจักได้ซึ่งอรหัตมรรค ในลำดับแห่งจิตใด แก่ สัตว์เหล่านั้น ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น แต่สมุทยสัจของสัตว์เหล่านั้นจักดับไปก็หาไม่ ทุกขสัจ ย่อมเกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้น ซึ่งกำลังเกิดขึ้นอยู่ นอกนี้ ในอุปปาทขณะแห่งจิต ในปวัตติกาล และสมุทยสัจก็จักดับไป. หรือว่า สมุทยสัจของสัตว์ใดจักดับไป ทุกขสัจย่อมเกิดขึ้นแก่สัตว์นั้น? สมุทยสัจของสัตว์เหล่านั้น คือ สัตว์ทั้งปวงซึ่งกำลังจุติอยู่ ในภังคขณะแห่งจิต ใน ปวัตติกาล ในอุปปาทขณะแห่งมรรคจิตและผลจิต ในอรูปภูมิ จักดับไป แต่ทุกขสัจย่อมเกิดขึ้น แก่สัตว์เหล่านั้นก็หาไม่ สมุทยสัจของสัตว์เหล่านั้น คือ สัตว์ทั้งปวงซึ่งกำลังเกิดขึ้นอยู่ ใน อุปปาทขณะแห่งจิต ในปวัตติกาล จักดับไป และทุกขสัจก็ย่อมเกิดขึ้น. [๑๐๐๓] ทุกขสัจย่อมเกิดขึ้นแก่สัตว์ใด มัคคสัจของสัตว์นั้น จักดับไปหรือ? ทุกขสัจย่อมเกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้น คือ พระอรหันต์ทั้งหลาย ในอุปปาทขณะแห่งจิต และแก่ปุถุชนที่จักไม่ได้เฉพาะซึ่งมรรค ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ ในอุปปาทขณะแห่งจิต ในปวัตติกาล แต่มัคคสัจของสัตว์เหล่านั้นจักดับไปก็หาไม่ ทุกขสัจย่อมเกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้น ในอุปปาทขณะ แห่งอรหัตมรรค สัตว์เหล่าใดจักได้เฉพาะซึ่งอรหัตมรรค ในลำดับแห่งจิตใด แก่สัตว์ เหล่านั้น ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น และแก่สัตว์เหล่าอื่น ซึ่งจักได้เฉพาะซึ่งมรรค ที่กำลัง เกิดขึ้นอยู่ ในอุปปาทขณะแห่งจิต ในปวัตติกาล และมัคคสัจก็จักดับไป. หรือว่า มัคคสัจของสัตว์ใด จักดับไป ทุกขสัจย่อมเกิดขึ้นแก่สัตว์นั้น? มัคคสัจของสัตว์เหล่านั้น ในภังคขณะแห่งอรหัตมรรค สัตว์เหล่าใดจักได้เฉพาะซึ่ง อรหัตมรรค ในลำดับแห่งจิตใด ของสัตว์เหล่านั้น ในภังคขณะแห่งจิตนั้น และของสัตว์ เหล่าอื่น ซึ่งจักได้เฉพาะซึ่งมรรค ที่กำลังจุติอยู่ ในภังคขณะแห่งจิต ในปวัตติกาล ในอุปปาทขณะ แห่งมรรคจิตและผลจิต ในอรูปภูมิ จักดับไป แต่ทุกขสัจย่อมเกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้นก็หาไม่ มัคคสัจของสัตว์เหล่านั้น ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตมรรค และของสัตว์เหล่าอื่น ซึ่งจักได้ เฉพาะซึ่งมรรค ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ ในอุปปาทขณะแห่งจิต ในปวัตติกาล จักดับไป และทุกขสัจ ก็ย่อมเกิดขึ้น. [๑๐๐๔] สมุทยสัจย่อมเกิดขึ้นแก่สัตว์ใด มัคคสัจของสัตว์นั้น จักดับไปหรือ? สมุทัยสัจย่อมเกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้น คือ ปุถุชนที่จักไม่ได้เฉพาะซึ่งมรรค แก่สัตว์ เหล่านั้น ในอุปปาทขณะแห่งตัณหา แต่มัคคสัจของสัตว์เหล่านั้นจักดับไปก็หาไม่ สมุทยสัจ ย่อมเกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้น ซึ่งจักได้เฉพาะซึ่งมรรค แก่สัตว์เหล่านั้น ในอุปปาทขณะแห่ง ตัณหา และมัคคสัจก็จักดับไป. หรือว่า มัคคสัจของสัตว์ใด จักดับไป สมุทยสัจย่อมเกิดขึ้นแก่สัตว์นั้น? มัคคสัจของสัตว์เหล่านั้น ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตมรรค สัตว์เหล่าใดจักได้เฉพาะ ซึ่งอรหัตมรรค ในลำดับแห่งจิตใด ของสัตว์เหล่านั้น ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น และของ สัตว์เหล่าอื่นที่จักได้เฉพาะซึ่งมรรค ในภังคขณะแห่งตัณหา ในเมื่อตัณหาวิปปยุตตจิตเป็นไปอยู่ ของผู้ที่เข้านิโรธ ของอสัญญสัตว์ จักดับไป แต่สมุทยสัจย่อมเกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้นก็หาไม่ มัคคสัจของสัตว์เหล่านั้น ซึ่งจักได้เฉพาะซึ่งมรรค ในอุปปาทขณะแห่งตัณหา จักดับไป และ สมุทยสัจก็ย่อมเกิดขึ้น. [๑๐๐๕] ทุกขสัจย่อมเกิดขึ้นในภูมิใด ฯลฯ. [๑๐๐๖] ทุกขสัจย่อมเกิดขึ้นแก่สัตว์ใดในภูมิใด สมุทยสัจของสัตว์นั้น จักดับไป หรือ? ทุกขสัจย่อมเกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้นในภูมินั้น ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตมรรค แก่ พระอรหันต์ทั้งหลาย ในอุปปาทขณะแห่งจิต สัตว์เหล่าใดจักได้เฉพาะซึ่งอรหัตมรรค ในลำดับ แห่งจิตใด แก่สัตว์เหล่านั้น ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น แก่สัตว์เหล่านั้น ซึ่งกำลังเข้าถึง อสัญญสัตตภูมิ แต่สมุทยสัจของสัตว์เหล่านั้นในภูมินั้นจักดับไปก็หาไม่ ทุกขสัจย่อมเกิดขึ้นแก่ สัตว์เหล่านั้นในภูมินั้น ซึ่งกำลังเข้าถึงจตุโวการภูมิ ปัญจโวการภูมิ นอกนี้ ในอุปปาทขณะ แห่งจิต ในปวัตติกาล และสมุทยสัจก็จักดับไป. หรือว่า สมุทยสัจของสัตว์ใดในภูมิใด จักดับไป ทุกขสัจย่อมเกิดขึ้นแก่สัตว์นั้น ในภูมินั้น? สมุทยสัจของสัตว์เหล่านั้นในภูมินั้น ซึ่งกำลังจุติอยู่จากจตุโวการภูมิ จากปัญจโวการภูมิ ในภังคขณะแห่งจิต ในปวัตติกาล ในอุปปาทขณะแห่งมรรคจิตและผลจิต ในอรูปภูมิ จักดับไป แต่ทุกขสัจย่อมเกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้นในภูมินั้นก็หาไม่ สมุทยสัจของสัตว์เหล่านั้นในภูมินั้น ซึ่งกำลังเข้าถึงจตุโวการภูมิ ปัญจโวการภูมิ ในอุปปาทขณะแห่งจิต ในปวัตติการ จักดับไป และทุกขสัจก็ย่อมเกิดขึ้น. [๑๐๐๗] ทุกขสัจย่อมเกิดขึ้นแก่สัตว์ใดในภูมิใด มัคคสัจของสัตว์นั้นในภูมินั้น จักดับไปหรือ? ทุกขสัจย่อมเกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้นในภูมินั้น คือ พระอรหันต์ทั้งหลาย ในอุปปาทขณะ แห่งจิต และแก่ปุถุชนซึ่งจักไม่ได้เฉพาะซึ่งมรรค ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในอุปปาทขณะแห่งจิต ใน ปวัตติกาล และแก่สัตว์ซึ่งเข้าถึงอบายภูมิ อสัญญสัตตภูมิ แต่มัคคสัจของสัตว์เหล่านั้นใน ภูมินั้น จักดับไปแล้วก็หาไม่ ทุกขสัจย่อมเกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้นในภูมินั้น ในอุปปาทขณะ แห่งอรหัตมรรค สัตว์เหล่าใดจักได้เฉพาะซึ่งอรหัตมรรค ในลำดับแห่งจิตใจ แก่สัตว์เหล่านั้น ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น และแก่สัตว์เหล่าอื่นซึ่งจักได้เฉพาะซึ่งมรรค ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ใน อุปปาทขณะแห่งจิต ในปวัตติกาล และมัคคสัจก็จักดับไป. หรือว่า มัคคสัจของสัตว์ใดในภูมิใด จักดับไป ทุกขสัจย่อมเกิดขึ้นแก่สัตว์นั้น ในภูมินั้น? มัคคสัจของสัตว์เหล่านั้นในภูมินั้น ในภังคขณะแห่งอรหัตมรรค สัตว์เหล่าใดจักได้ เฉพาะซึ่งอรหัตมรรค ในลำดับแห่งจิตใด ของสัตว์เหล่านั้นในภังคขณะแห่งจิตนั้น และของ สัตว์เหล่าอื่นซึ่งจักได้เฉพาะซึ่งมรรค ที่กำลังจุติอยู่ ในภังคขณะแห่งจิต ในปวัตติกาล ใน อุปปาทขณะแห่งมรรคจิตและผลจิต ในอรูปภูมิ จักดับไป แต่ทุกขสัจย่อมเกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้น ในภูมินั้นก็หาไม่ มัคคสัจของสัตว์เหล่านั้นในภูมินั้น ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตมรรค สัตว์ เหล่าใดจักได้เฉพาะซึ่งอรหัตมรรค ในลำดับแห่งจิตใด ของสัตว์เหล่านั้น ในอุปปาทขณะ แห่งจิตนั้น และสัตว์เหล่าอื่นซึ่งจักได้เฉพาะซึ่งมรรค ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ ในอุปปาทขณะแห่งจิต ในปวัตติกาล จักดับไป และทุกขสัจก็ย่อมเกิดขึ้น. [๑๐๐๘] สมุทยสัจย่อมเกิดขึ้นแก่สัตว์ใดในภูมิใด มัคคสัจของสัตว์นั้นในภูมินั้น จักดับไปหรือ? สมุทยสัจย่อมเกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้นในภูมินั้น คือ อาปายิกสัตว์ และปุถุชนที่จักได้ เฉพาะซึ่งมรรค ในอุปปาทขณะแห่งตัณหา แต่มัคคสัจของสัตว์เหล่านั้นในภูมินั้นจักดับไปก็หาไม่ สมุทยสัจย่อมเกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้นในภูมินั้น ซึ่งจักได้เฉพาะซึ่งมรรค ในอุปปาทขณะแห่ง ตัณหา และมัคคสัจก็จักดับไป. หรือว่า มัคคสัจของสัตว์ใดในภูมิใดจักดับไป สมุทยสัจย่อมเกิดขึ้นแก่สัตว์นั้นใน ภูมินั้น? มัคคสัจของสัตว์เหล่านั้นในภูมินั้น ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตมรรค สัตว์เหล่าใดจักได้ ซึ่งอรหัตมรรค ในลำดับแห่งจิต ของสัตว์เหล่านั้น ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น และของสัตว์ เหล่าอื่นที่จักได้เฉพาะซึ่งมรรค ในภังคขณะแห่งตัณหา ในเมื่อตัณหาวิปปยุตตจิตเป็นไปอยู่ จักดับไป แต่สมุทยสัจย่อมเกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้นในภูมินั้นก็หาไม่ มัคคสัจแห่งสัตว์เหล่านั้น ในภูมินั้น ที่จักได้เฉพาะซึ่งมรรค ในอุปปาทขณะแห่งตัณหา จักดับไป และสมุทยสัจก็ย่อม เกิดขึ้น. [๑๐๐๙] ทุกขสัจย่อมไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์ใด สมุทยสัจของสัตว์นั้นจักไม่ดับไป หรือ? ทุกขสัจย่อมไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้น คือ สัตว์ทั้งปวง ซึ่งกำลังจุติอยู่ ในภังคขณะ แห่งจิต ในปวัตติกาล ในอุปปาทขณะแห่งมรรคจิตและผลจิต ในอรูปภูมิ แต่สมุทยสัจของ สัตว์เหล่านั้น จักไม่ดับไปก็หาไม่. ทุกขสัจย่อมไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้น ในภังคขณะแห่งอรหัตมรรค แก่พระอรหันต์ ทั้งหลาย ในภังคขณะแห่งจิต สัตว์เหล่าใดจักได้เฉพาะซึ่งอรหัตมรรค ในลำดับแห่งจิตใด ของสัตว์เหล่านั้น ในภังคขณะแห่งจิตนั้น ในอุปปาทขณะแห่งมรรคจิตและผลจิต ในอรูปภูมิ และสมุทยสัจก็จักไม่ดับไป. หรือว่า สมุทยสัจของสัตว์ใด จักไม่ดับไป ทุกขสัจย่อมไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์นั้น? สมุทยสัจของสัตว์เหล่านั้น ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตมรรค และของพระอรหันต์ ทั้งหลาย ในอุปปาทขณะแห่งจิต สัตว์เหล่าใดจักได้เฉพาะซึ่งอรหัตมรรค ในลำดับแห่งจิตใด ของสัตว์เหล่านั้น ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น จักไม่ดับไป แต่ทุกขสัจย่อมไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์ เหล่านั้นก็หาไม่ สมุทยสัจของสัตว์เหล่านั้น ในภังคขณะแห่งอรหัตมรรค และของพระอรหันต์ ทั้งหลาย ในภังคขณะแห่งจิต สัตว์เหล่าใดจักได้เฉพาะซึ่งอรหัตมรรค ในลำดับแห่งจิตใด ของสัตว์เหล่านั้น ในภังคขณะแห่งจิตนั้น ในอุปปาทขณะแห่งมรรคจิตและผลจิต ในอรูปภูมิ จักไม่ดับไป และทุกขสัจก็ย่อมไม่เกิดขึ้น. [๑๐๑๐] ทุกขสัจย่อมไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์ใด มัคคสัจของสัตว์นั้น จักไม่ดับไปหรือ? ทุกขสัจย่อมไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้น ในภังคขณะแห่งมรรค สัตว์เหล่าใดจักได้เฉพาะ ซึ่งอรหัตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในภังคขณะแห่งจิตนั้น และของสัตว์เหล่าอื่น ซึ่งจักได้เฉพาะ ซึ่งมรรค ที่กำลังจุติอยู่ ในภังคขณะแห่งจิต ในปวัตติกาล ในอุปปาทขณะแห่งมรรคจิตและ ผลจิต ในอรูปภูมิ แต่มัคคสัจของสัตว์เหล่านั้นจักไม่ดับไปก็หาไม่ ทุกขสัจย่อมไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์ เหล่านั้น ในภังคขณะแห่งอรหัตมรรค แก่พระอรหันต์ทั้งหลาย ในภังคขณะแห่งจิต และ ปุถุชน ซึ่งจักไม่ได้เฉพาะซึ่งมรรค ที่กำลังจุติอยู่ ในภังคขณะแห่งจิต ในปวัตติกาล ใน อุปปาทขณะแห่งมรรคจิตและผลจิต ในอรูปภูมิ และมัคคสัจก็จักไม่ดับไป. หรือว่า มัคคสัจของสัตว์ใดจักไม่ดับไป ทุกขสัจย่อมไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์นั้น? มัคคสัจของสัตว์เหล่านั้น คือ ของพระอรหันต์ทั้งหลาย ในอุปปาทขณะแห่งจิต และ ของปุถุชนซึ่งจักไม่ได้เฉพาะซึ่งมรรค ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ ในอุปปาทขณะแห่งจิต ในปวัตติกาล จักไม่ดับไป แต่ทุกขสัจย่อมไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้นก็หาไม่ มัคคสัจของสัตว์เหล่านั้น ใน ภังคขณะแห่งอรหัตมรรค และของพระอรหันต์ทั้งหลาย ในภังคขณะแห่งจิต และของปุถุชน ที่จักไม่ได้เฉพาะซึ่งมรรค ที่กำลังจุติอยู่ในภังคขณะแห่งจิต ในปวัตติกาล ในอุปปาทขณะแห่ง มรรคจิตและผลจิต ในอรูปภูมิ จักไม่ดับไป และทุกขสัจก็ย่อมไม่เกิดขึ้น. [๑๐๑๑] สมุทยสัจย่อมไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์ใด มัคคสัจของสัตว์นั้นจักดับไปหรือ? ทุกขสัจย่อมไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้น ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตมรรค สัตว์เหล่าใด จักได้เฉพาะซึ่งอรหัตมรรค ในลำดับแห่งจิตใด แก่สัตว์เหล่านั้น ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น และแก่สัตว์เหล่าอื่น ที่จักได้เฉพาะซึ่งมรรค ในภังคขณะแห่งตัณหา ในเมื่อตัณหาวิปปยุตตจิต เป็นไปอยู่ แก่ผู้ที่เข้านิโรธ แก่อสัญญสัตว์ แต่มัคคสัจของสัตว์เหล่านั้น จักไม่ดับไปก็หาไม่ สมุทยสัจย่อมไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้น ในภังคขณะแห่งอรหัตมรรค แก่พระอรหันต์ทั้งหลาย และแก่ปุถุชนที่จักไม่ได้เฉพาะซึ่งมรรค ในภังคขณะแห่งตัณหา ในเมื่อตัณหาวิปปยุตตจิตเป็น ไปอยู่ แก่ผู้ที่เข้านิโรธ แก่อสัญญสัตว์ และมัคคสัจก็จักไม่ดับไป. หรือว่า มัคคสัจของสัตว์ใด จักไม่ดับไป สมุทยสัจย่อมไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์นั้น? มัคคสัจของสัตว์เหล่านั้น คือ ปุถุชนที่จักไม่ได้เฉพาะซึ่งมรรค ในอุปปาทขณะแห่งตัณหา จักไม่ดับไป แต่สมุทยสัจย่อมไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้นก็หาไม่ มัคคสัจของสัตว์เหล่านั้น ใน ภังคขณะแห่งอรหัตมรรค และของพระอรหันต์ทั้งหลาย และของปุถุชนที่จักไม่ได้เฉพาะซึ่งมรรค ในภังคขณะแห่งตัณหา ในเมื่อตัณหาวิปปยุตตจิตเป็นไปอยู่ ของผู้ที่เข้านิโรธ ของอสัญญสัตว์ จักไม่ดับไป และสมุทยสัจก็ย่อมไม่เกิดขึ้น. [๑๐๑๒] ทุกขสัจย่อมไม่เกิดขึ้นในภูมิใด ฯลฯ. [๑๐๑๓] ทุกขสัจย่อมไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์ใดในภูมิใด สมุทยสัจของสัตว์นั้นใน ภูมินั้น จักไม่ดับไปหรือ? ทุกขสัจย่อมไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้นในภูมินั้น ซึ่งกำลังจุติจากจตุโวการภูมิ ปัญจ- *โวการภูมิ ในภังคขณะแห่งจิต ในปวัตติกาล ในอุปปาทขณะแห่งมรรคจิตและผลจิต ในอรูปภูมิ แต่สมุทยสัจของสัตว์เหล่านั้นในภูมินั้น จักไม่ดับไปก็หาไม่ ทุกขสัจย่อมไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์ เหล่านั้นในภูมินั้น ในภังคขณะแห่งอรหัตมรรค แก่พระอรหันต์ทั้งหลาย ในภังคขณะแห่งจิต สัตว์เหล่าใดจักได้เฉพาะซึ่งอรหัตมรรค ในลำดับแห่งจิตใด แก่สัตว์เหล่านั้น ในภังคขณะ แห่งจิตนั้น ในอุปปาทขณะแห่งมรรคจิตและผลจิต ในอรูปภูมิ แก่สัตว์ซึ่งกำลังจุติจากอสัญญ- *สัตตภูมิ และสมุทยสัจก็จักไม่ดับไป. หรือว่า สมุทยสัจของสัตว์ใดในภูมิใด จักไม่ดับไป ทุกขสัจย่อมไม่เกิดขึ้นแก่ สัตว์นั้นในภูมินั้น? สมุทยสัจของสัตว์เหล่านั้นในภูมินั้น ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตมรรค และของพระ- *อรหันต์ทั้งหลาย ในอุปปาทขณะแห่งจิต สัตว์เหล่าใดจักได้เฉพาะซึ่งอรหัตมรรค ในลำดับ แห่งจิตใด ของสัตว์เหล่านั้น ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น และของสัตว์ซึ่งกำลังเข้าถึงอสัญญ- *สัตตภูมิ จักไม่ดับไป แต่ทุกขสัจย่อมไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้นในภูมินั้นก็หาไม่ สมุทยสัจ ของสัตว์เหล่านั้นในภูมินั้น ในภังคขณะแห่งอรหัตมรรค และของพระอรหันต์ทั้งหลาย ใน ภังคขณะแห่งจิต สัตว์เหล่าใดจักได้เฉพาะซึ่งอรหัตมรรค ในลำดับแห่งจิตใด ของสัตว์เหล่านั้น ในภังคขณะแห่งจิตนั้น ในอุปปาทขณะแห่งมรรคจิตและผลจิต ในอรูปภูมิ ของสัตว์ซึ่งกำลังจุติ จากอสัญญสัตตภูมิ จักไม่ดับไป และทุกขสัจก็ย่อมไม่เกิดขึ้น. [๑๐๑๔] ทุกขสัจย่อมไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์ใดในภูมิใด มัคคสัจของสัตว์นั้นในภูมินั้น จักไม่ดับไปหรือ? ทุกขสัจย่อมไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้นในภูมินั้น ในภังคขณะแห่งมรรค สัตว์เหล่าใด จักได้เฉพาะซึ่งอรหัตมรรค ในลำดับแห่งจิตใด แก่สัตว์เหล่านั้น ในภังคขณะแห่งจิตนั้น และ แก่สัตว์เหล่าอื่น ซึ่งจักได้เฉพาะซึ่งมรรค ที่กำลังจุติอยู่ ในภังคขณะแห่งจิต ในปวัตติกาล ในอุปปาทขณะแห่งมรรคจิตและผลจิต ในอรูปภูมิ แต่มัคคสัจของสัตว์เหล่านั้นในภูมินั้น จักไม่ ดับไปก็หาไม่ ทุกขสัจย่อมไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้นในภูมินั้น ในภังคขณะแห่งอรหัตมรรค แก่พระอรหันต์ทั้งหลาย ในภังคขณะแห่งจิต และแก่ปุถุชน ซึ่งจักไม่ได้เฉพาะซึ่งมรรค ที่กำลังจุติอยู่ ในภังคขณะแห่งจิต ในปวัตติกาล ในอุปปาทขณะแห่งมรรคจิตและผลจิต ใน อรูปภูมิ แก่สัตว์ซึ่งกำลังจุติจากอบายภูมิ จากอสัญญสัตตภูมิ และมัคคสัจก็จักไม่ดับไป. หรือว่า มัคคสัจของสัตว์ใดในภูมิใด จักไม่ดับไป ทุกขสัจย่อมไม่เกิดขึ้นแก่ สัตว์นั้นในภูมินั้น? มัคคสัจของสัตว์เหล่านั้นในภูมินั้น คือ ของพระอรหันต์ทั้งหลาย ในอุปปาทขณะแห่งจิต และของปุถุชนซึ่งจักไม่ได้เฉพาะซึ่งมรรค ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในอุปปาทขณะแห่งจิต ในปวัตติกาล และของสัตว์ซึ่งกำลังเข้าถึงอบายภูมิ อสัญญสัตตภูมิ จักไม่ดับไป แต่ทุกขสัจย่อมไม่เกิดขึ้นแก่ สัตว์เหล่านั้นในภูมินั้นก็หาไม่ มัคคสัจของสัตว์เหล่านั้นในภูมินั้น ในภังคขณะแห่งอรหัตมรรค แก่พระอรหันต์ทั้งหลายในภังคขณะแห่งจิต และของปุถุชนซึ่งจักไม่ได้เฉพาะซึ่งมรรค ที่กำลัง จุติอยู่ ในภังคขณะแห่งจิต ในปวัตติกาล ในอุปปาทขณะแห่งมรรคจิตและผลจิต ในอรูปภูมิและ ของสัตว์ซึ่งกำลังจุติจากอบายภูมิ จากอสัญญสัตตภูมิ จักไม่ดับไป และทุกขสัจก็ย่อมไม่เกิดขึ้น. [๑๐๑๕] สมุทยสัจย่อมไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์ใดในภูมิใด มัคคสัจของสัตว์นั้นในภูมิ นั้น จักไม่ดับไปหรือ? สมุทยสัจย่อมไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้นในภูมินั้น ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตมรรค สัตว์เหล่าใดจักได้เฉพาะซึ่งอรหัตมรรค ในลำดับแห่งจิตใด แก่สัตว์เหล่านั้น ในอุปปาทขณะ- *แห่งจิตนั้น และแก่สัตว์เหล่าอื่น ที่จักได้เฉพาะซึ่งมรรค ในภังคขณะแห่งตัณหา ในเมื่อ ตัณหาวิปปยุตตจิตเป็นไปอยู่ แต่มัคคสัจของสัตว์เหล่าในภูมินั้นจักไม่ดับไปก็หาไม่ สมุทยสัจ ย่อมไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้นในภูมินั้น ในภังคขณะแห่งอรหัตมรรค แก่พระอรหันต์ทั้งหลาย และแก่ปุถุชนที่จักไม่ได้เฉพาะซึ่งมรรค ในภังคขณะแห่งตัณหา ในเมื่อตัณหาวิปปยุตตจิต เป็นไปอยู่ แก่อสัญญสัตว์ และมัคคสัจก็จักไม่ดับไป. หรือว่า มัคคสัจของสัตว์ใดในภูมิใด จักไม่ดับไป สมุทยสัจย่อมไม่เกิดขึ้นแก่ สัตว์นั้นในภูมินั้น? มัคคสัจของสัตว์เหล่านั้นในภูมินั้น ซึ่งเป็นอาปายิกสัตว์ และปุถุชนที่จักไม่ได้เฉพาะ ซึ่งมรรค ในอุปปาทขณะแห่งตัณหา จักไม่ดับไป แต่สมุทยสัจย่อมไม่เกิดขึ้นแก่สัตว์เหล่านั้น ในภูมินั้นก็หาไม่ มัคคสัจของสัตว์เหล่านั้นของในภูมินั้น ในภังคขณะแห่งอรหัตมรรค และ ของพระอรหันต์ทั้งหลาย และของปุถุชนที่จักไม่ได้เฉพาะซึ่งมรรค ในภังคขณะแห่งตัณหา ในเมื่อตัณหาวิปปยุตตจิตเป็นไปอยู่ ของอสัญญสัตว์ทั้งหลาย จักไม่ดับไป และสมุทยสัจก็ย่อม ไม่เกิดขึ้น. [๑๐๑๖] ทุกขสัจเคยเกิดขึ้นแล้วแก่สัตว์ใด สมุทยสัจของสัตว์นั้นจักดับไปหรือ? คำถามที่เป็นอนาคตกับด้วยอดีต อนุโลม ก็ดี ปัจจนียะ ก็ดี ท่านจำแนกไว้แล้วใน นิโรธวาร ฉันใด แม้ในอุปาทนิโรธวาร ผู้มีปัญญาก็พึงจำแนก ฉันนั้น.
อุปานิโรธวาร จบ.
ปวัตติวาร จบ.

             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๘ บรรทัดที่ ๘๗๔๐-๙๐๗๐ หน้าที่ ๓๔๙-๓๖๒. http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=38&A=8740&Z=9070&pagebreak=0 http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/r.php?B=38&A=8740&pagebreak=0              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2], [3], [4], [5]              อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :- http://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=38&siri=26              ศึกษาอรรถกถาได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=38&i=984              พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=38&A=6796              The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/read/roman_read.php?B=38&A=6796              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๘ http://84000.org/tipitaka/read/?index_38

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกชองแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย

บันทึก ๒๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖. บันทึก ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙. บันทึกล่าสุด ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]