บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ | |
ฉบับภาษาไทย บาลีอักษรไทย บาลีอักษรโรมัน |
[๗๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง ที่ เป็นเหตุให้กุศลธรรมที่ยังไม่เกิด ให้เกิดขึ้น หรืออกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว เสื่อม ไป เหมือนความเป็นผู้มีมิตรดี ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อบุคคลมีมิตรดี กุศล ธรรมที่ยังไม่เกิด ย่อมเกิดขึ้น และอกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมเสื่อมไป ฯ [๗๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง ที่ เป็นเหตุให้อกุศลธรรมที่ยังไม่เกิด ให้เกิดขึ้น หรือกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว เสื่อม ไป เหมือนการประกอบอกุศลธรรมเนืองๆ ไม่ประกอบกุศลธรรมเนืองๆ ดูกร- *ภิกษุทั้งหลาย เพราะการประกอบอกุศลธรรมเนืองๆ เพราะการไม่ประกอบกุศล ธรรมเนืองๆ อกุศลธรรมที่ยังไม่เกิด ย่อมเกิดขึ้น และกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมเสื่อมไป ฯ [๗๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง ที่ เป็นเหตุให้กุศลธรรมที่ยังไม่เกิด ให้เกิดขึ้น หรืออกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว เสื่อมไป เหมือนการประกอบกุศลธรรมเนืองๆ การไม่ประกอบอกุศลธรรมเนืองๆ ดูกรภิกษุ ทั้งหลาย เพราะการประกอบกุศลธรรมเนืองๆ เพราะการไม่ประกอบอกุศลธรรม เนืองๆ กุศลธรรมที่ยังไม่เกิด ย่อมเกิดขึ้น อกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อม เสื่อมไป ฯ [๗๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง ที่ เป็นเหตุให้โพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด ให้เกิดขึ้น หรือโพชฌงค์ที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมไม่ถึง ความเจริญบริบูรณ์ เหมือนการใส่ใจโดยไม่แยบคาย ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อบุคคล ใส่ใจโดยไม่แยบคาย โพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด ย่อมไม่เกิดขึ้น และโพชฌงค์ที่เกิด ขึ้นแล้ว ย่อมไม่ถึงความเจริญบริบูรณ์ ฯ [๗๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง ที่ เป็นเหตุให้โพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด ให้เกิดขึ้น หรือโพชฌงค์ที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมถึง ความเจริญบริบูรณ์ เหมือนการใส่ใจโดยแยบคาย ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อบุคคล ใส่ใจโดยแยบคาย โพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด ย่อมเกิดขึ้น และโพชฌงค์ที่เกิดขึ้น แล้ว ย่อมถึงความเจริญบริบูรณ์ ฯ [๗๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความเสื่อมญาติมีประมาณน้อย ความเสื่อม ปัญญาชั่วร้ายที่สุดกว่าความเสื่อมทั้งหลาย ฯ [๗๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความเจริญด้วยญาติมีประมาณน้อย ความเจริญ ด้วยปัญญาเลิศกว่าความเจริญทั้งหลาย เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลายพึงสำเหนียก อย่างนี้ว่า เราทั้งหลายจักเจริญโดยความเจริญด้วยปัญญา ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอ ทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้แล ฯ [๗๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความเสื่อมแห่งโภคะมีประมาณน้อย ความ เสื่อมแห่งปัญญาชั่วร้ายที่สุดกว่าความเสื่อมทั้งหลาย ฯ [๘๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความเจริญด้วยโภคะมีประมาณน้อย ความ เจริญด้วยปัญญาเลิศกว่าความเจริญทั้งหลาย เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลายพึง สำเหนียกอย่างนี้ว่า เราทั้งหลายจักเจริญโดยความเจริญด้วยปัญญา ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้แล ฯ [๘๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความเสื่อมยศมีประมาณน้อย ความเสื่อม ปัญญาชั่วร้ายที่สุดกว่าความเสื่อมทั้งหลาย ฯจบวรรคที่ ๘ เนื้อความพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๐ บรรทัดที่ ๒๙๑-๓๓๑ หน้าที่ ๑๓-๑๔. https://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=20&A=291&Z=331&pagebreak=0 https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=20&item=72&items=10 อ่านโดยใช้เครื่องหมาย [เลขข้อ] เป็น เกณฑ์แบ่งข้อ :- https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=20&item=72&items=10&mode=bracket อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรไทย :- https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item.php?book=20&item=72&items=10 อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรโรมัน :- https://84000.org/tipitaka/read/roman_item.php?book=20&item=72&items=10 ศึกษาอรรถกถานี้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=20&i=72 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๐ https://84000.org/tipitaka/read/?index_20 https://84000.org/tipitaka/english/?index_20
บันทึก ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖. บันทึกล่าสุด ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎก ฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]