ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับภาษาไทย   บาลีอักษรไทย   บาลีอักษรโรมัน 
อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๔ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๖ อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต
             [๑๑๗] ครั้งนั้นแล พราหมณ์ชื่อว่าสคารวะ เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค
ถึงที่ประทับ ได้ปราศรัยกับพระผู้มีพระภาค ครั้นผ่านการปราศรัยพอให้ระลึกถึง
กันไปแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า
ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ อะไรหนอแลเป็นฝั่งนี้ อะไรเป็นฝั่งโน้น พระผู้มีพระภาค
ตรัสตอบว่า ดูกรพราหมณ์ มิจฉาทิฐิเป็นฝั่งนี้ สัมมาทิฐิเป็นฝั่งโน้น มิจฉา-
*สังกัปปะเป็นฝั่งนี้ สัมมาสังกัปปะเป็นฝั่งโน้น มิจฉาวาจาเป็นฝั่งนี้ สัมมาวาจา
เป็นฝั่งโน้น มิจฉากัมมันตะเป็นฝั่งนี้ สัมมากัมมันตะเป็นฝั่งโน้น มิจฉาอาชีวะ
เป็นฝั่งนี้ สัมมาอาชีวะเป็นฝั่งโน้น มิจฉาวายามะเป็นฝั่งนี้ สัมมาวายามะเป็น
ฝั่งโน้น มิจฉาสติเป็นฝั่งนี้ สัมมาสติเป็นฝั่งโน้น มิจฉาสมาธิเป็นฝั่งนี้ สัมมา-
*สมาธิเป็นฝั่งโน้น มิจฉาญาณะเป็นฝั่งนี้ สัมมาญาณะเป็นฝั่งโน้น มิจฉาวิมุติเป็น
ฝั่งนี้ สัมมาวิมุติเป็นฝั่งโน้น ดูกรพราหมณ์ นี้แลเป็นฝั่งนี้ นี้เป็นฝั่งโน้น ฯ
                          ในหมู่มนุษย์ เหล่าชนผู้ไปถึงฝั่งโน้นมีประมาณน้อย ส่วน
                          หมู่สัตว์นอกนี้เลาะไปตามฝั่งทั้งนั้น ส่วนชนเหล่าใดประ
                          พฤติตามธรรมในธรรม อันพระตถาคตตรัสแล้วโดยชอบ
                          ชนเหล่านั้นจักข้ามพ้นวัฏฏะ    อันเป็นบ่วงมารที่ข้ามพ้นได้แสน
                          ยาก    แล้วจักถึงฝั่งโน้น  คือ  นิพพาน   บัณฑิตละธรรมดำ
                          เสียแล้ว   พึงยังธรรมขาวให้เจริญ    บัณฑิตละกามทั้งหลาย
                          แล้ว   เป็นผู้ไม่มีกังวล   ออกจากความอาลัย   อาศัยธรรม
                          ที่ไม่มีความอาลัย พึงปรารถนาความยินดียิ่งในวิเวก ๑- ที่ยินดี
                          ได้แสนยาก     บัณฑิตพึงชำระตนให้ผ่องแผ้ว    จากเครื่อง
                          เศร้าหมองจิตทั้งหลาย    บัณฑิตเหล่าใด   อบรมโดยชอบใน
                          องค์ธรรมเป็นเครื่องตรัสรู้ทั้งหลาย ไม่ถือมั่นแล้ว ยินดีใน
                          นิพพาน    เป็นที่สละความถือมั่น    บัณฑิตเหล่านั้นสิ้นอาสวะ
                          มีความรุ่งเรือง  ดับสนิทแล้วในโลก ฯ
จบสูตรที่ ๕
โอริมสูตร

             เนื้อความพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๔ บรรทัดที่ ๕๔๒๔-๕๔๔๙ หน้าที่ ๒๓๓-๒๓๔. https://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=24&A=5424&Z=5449&pagebreak=0 https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=24&item=117&items=1&mode=bracket              อ่านโดยใช้เนื้อความเป็น เกณฑ์แบ่งข้อ :- https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=24&item=117&items=1              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรไทย :- https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item.php?book=24&item=117&items=1&mode=bracket              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรโรมัน :- https://84000.org/tipitaka/read/roman_item.php?book=24&item=117&items=1&mode=bracket              ศึกษาอรรถกถานี้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=24&i=117              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๔ https://84000.org/tipitaka/read/?index_24 https://84000.org/tipitaka/english/?index_24

อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย

บันทึก ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖. บันทึกล่าสุด ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎก ฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]