ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับภาษาไทย   บาลีอักษรไทย   บาลีอักษรโรมัน 
อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ ขุททกนิกาย วิมาน-เปตวัตถุ เถร-เถรีคาถา
             [๔๖๘] 	ดูกรแม่โรหิณีผู้เจริญ เจ้าเห็นสมณะนี้ว่าเป็นสมณะ รู้สึกว่าเป็นสมณะ
                          สรรเสริญสมณะทั้งหลาย เจ้าเห็นจักเป็นสมณะเป็นแน่แท้ เจ้าได้ถวาย
                          ข้าวน้ำอันไพบูลย์แก่สมณะทั้งหลาย ดูกรแม่โรหิณี บัดนี้ เราจักขอถาม
                          เจ้า เพราะเหตุไร สมณะทั้งหลายจึงเป็นที่รักของเจ้า สมณะล้วนแต่
                          เป็นผู้ไม่ใคร่ต่อการงาน เกียจคร้าน อาศัยสิ่งของที่คนอื่นให้เลี้ยงชีวิต
                          เป็นผู้มีความหวังอาหารและเครื่องนุ่งห่มเป็นต้น แต่คนอื่นใคร่ต่ออาหาร
                          อันอร่อยดี เพราะเหตุไร สมณะทั้งหลาย จึงเป็นที่รักของข้าพเจ้า?
             เราตอบท่านว่า
                          ข้าแต่คุณพ่อ คุณพ่อถามดิฉันถึงคุณความดีของสมณะทั้งหลายมานาน
                          แล้ว ดิฉันจักชี้แจงคุณความดี คือ ปัญญา ศีล และความบากบั่นของ
                          สมณะเหล่านั้นให้ทราบ สมณะทั้งหลายเป็นผู้ใคร่ต่อการงาน ไม่เกียจ
                          คร้าน ทำแต่การงานงานประเสริฐสุด ย่อมละราคะและโทสะได้ เพราะ
                          เหตุนั้นสมณะทั้งหลายจึงเป็นที่รักของดิฉัน สมณะทั้งหลายย่อมกำจัด
                          รากเหง้าทั้ง ๓ ของบาป มีปกติทำแต่กรรมอันสะอาด ละบาปกรรมทั้งปวง
                          ได้แล้ว เพราะเหตุนั้น สมณะทั้งหลายจึงเป็นที่รักของดิฉัน กายกรรม
                          วจีกรรม และมโนกรรมของสมณะเหล่านั้น ล้วนแต่สะอาด เพราะเหตุ
                          นั้น สมณะทั้งหลายจึงเป็นที่รักของดิฉัน สมณะทั้งหลายล้วนแต่ปราศ-
                          จากมลทิน เหมือนสังข์ที่เขาขัดดีแล้ว เป็นผู้บริสุทธิ์ทั้งภายในและ
                          ภายนอก บริบูรณ์ด้วยธรรมขาว เพราะเหตุนั้นสมณะทั้งหลายจึงเป็นที่รัก
                          ของดิฉัน สมณะทั้งหลายเป็นพหูสูตทรงธรรม เป็นผู้ประเสริฐเลี้ยงชีวิต
                          โดยชอบธรรม แสดงอรรถและธรรมให้ฟัง เพราะเหตุนั้น สมณะทั้งหลาย
                          จึงเป็นที่รักของดิฉัน สมณะทั้งหลายเป็นพหูสูตทรงธรรมเป็นผู้ประเสริฐ
                          เลี้ยงชีวิตโดยชอบธรรม มีจิตแน่วเป็นอารมณ์เดียว มีสติ เพราะเหตุนั้น
                          สมณะทั้งหลายจึงเป็นที่รักของดิฉัน สมณะทั้งหลายเป็นผู้ไปไกล มีสติ
                          พูดพอประมาณ ไม่ฟุ้งซ่าน รู้ทั่วถึงที่สุดแห่งทุกข์ เพราะเหตุนั้นสมณะ
                          ทั้งหลายจึงเป็นที่รักของดิฉัน สมณะทั้งหลายหลีกไปจากบ้านใด ย่อมไม่
                          กังวลถึงสัตว์หรือสังขารอะไรในบ้านนั้น เป็นผู้ไม่มีความห่วงใยหลีกไป
                          เพราะเหตุนั้น สมณะทั้งหลายจึงเป็นที่รักของดิฉัน สมณะทั้งหลายย่อม
                          ไม่เก็บสะสมข้าวไว้ในฉาง ไม่สะสมไว้ในหม้อ ไม่สะสมไว้ในกระเช้า
                          เที่ยวแสวงหาแต่อาหารที่สำเร็จแล้ว เพราะเหตุนั้น สมณะทั้งหลายจึงเป็น
                          ที่รักของดิฉัน สมณะทั้งหลายท่านไม่รับเงินไม่รับทอง ไม่รับรูปิยะ
                          เยียวยาอัตภาพด้วยอาหารอันเกิดขึ้นเฉพาะหน้า เพราะเหตุนั้น สมณะ
                          ทั้งหลายจึงเป็นที่รักของดิฉัน สมณะทั้งหลายออกบวชจากตระกูลต่างๆ
                          กัน และจากชนบทต่างๆ กัน แต่ย่อมรักใคร่กันและกันดี เพราะเหตุนั้น
                          สมณะทั้งหลายจึงเป็นที่รักของดิฉัน.
             บิดากล่าวกะเราต่อไปว่า
                          ดูกรลูกโรหิณีผู้เจริญ เจ้าเกิดในตระกูลของเราเพื่อประโยชน์แก่เราหนอ
                          เพราะเจ้าเป็นผู้มีศรัทธา และมีความเคารพอย่างแรงกล้าในพระพุทธเจ้า
                          พระธรรม และพระสงฆ์ และเจ้าย่อมรู้จักพระสงฆ์ว่าเป็นเขตบุญอัน
                          ยอดเยี่ยมของโลก ขอให้สมณะเหล่านั้นรับทักษิณาทานของเราบ้าง
                          เพราะไทยธรรมที่เราตั้งไว้แล้วในสมณะเหล่านั้น จักมีผลไพบูลย์แก่เรา.
             เรากล่าวกะบิดาอย่างนี้ว่า
                          ถ้าคุณพ่อกลัวต่อทุกข์ ถ้าคุณพ่อเกลียดทุกข์ จงเข้าถึงพระพุทธเจ้ากับทั้ง
                          พระธรรมและพระสงฆ์ผู้คงที่ว่าเป็นสมณะ จงสมาทานศีล ด้วยว่า
                          สรณคมน์ และการสมาทานศีล จักเป็นไปเพื่อประโยชน์แก่คุณพ่อ.
             บิดาได้กล่าวกะเราว่า
                          พ่อจะเข้าถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ผู้คงที่ว่าเป็นสรณะ
                          และจะสมาทานศีล เพราะสรณคมน์และการสมาทานศีลนั้น จักเป็นไป
                          เพื่อประโยชน์แก่เรา เมื่อก่อนเราเป็นเผ่าพันธุ์แห่งพรหม แต่เดี๋ยวนี้เรา
                          เป็นพราหมณ์แล้ว เราเป็นผู้มีวิชชา ๓ มีความสวัสดีถึงฝั่งแห่งเวท และ
                          เป็นผู้ล้างบาปได้แล้ว.
๓. จาปาเถรีคาถา
คาถาสุภาษิตของนางจาปาเถรี
ท่านอุปกะกล่าวว่า

             เนื้อความพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ บรรทัดที่ ๙๖๗๐-๙๗๒๓ หน้าที่ ๔๒๐-๔๒๒. https://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=26&A=9670&Z=9723&pagebreak=0 https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=26&item=468&items=1&mode=bracket              อ่านโดยใช้เนื้อความเป็น เกณฑ์แบ่งข้อ :- https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=26&item=468&items=1              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรไทย :- https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item.php?book=26&item=468&items=1&mode=bracket              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรโรมัน :- https://84000.org/tipitaka/read/roman_item.php?book=26&item=468&items=1&mode=bracket              ศึกษาอรรถกถานี้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=26&i=468              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ https://84000.org/tipitaka/read/?index_26 https://84000.org/tipitaka/english/?index_26

อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย

บันทึก ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖. บันทึกล่าสุด ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎก ฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]