บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ | |
ฉบับภาษาไทย บาลีอักษรไทย บาลีอักษรโรมัน |
ราหุลเถราปทานที่ ๖ (๑๖) ว่าด้วยผลแห่งการถวายเครื่องลาด [๑๘] เราได้ถวายเครื่องลาดในปราสาท ๗ ชั้น แด่พระผู้มีพระภาคพระนามว่า ปทุมุตระ เชษฐบุรุษของโลก ผู้คงที่ พระมหามุนีผู้เป็นจอมแห่งชนเป็น นระผู้ประเสริฐ อันพระขีณาสพพันหนึ่งแวดล้อมแล้ว เสด็จเข้าพระ คันธกุฎี พระศาสดาผู้ประเสริฐกว่าเทวดา เป็นนระผู้องอาจ ทรงยัง พระคันธกุฎีให้รุ่งเรือง ประทับยืนในท่ามกลางภิกษุสงฆ์ ได้ตรัสพระคาถา เหล่านี้ว่า ที่นอนนี้ผู้ใดให้โชติช่วงแล้ว ดังกระจกเงาอันขัดดีแล้ว เราจัก พยากรณ์ผู้นั้น ท่านทั้งหลายจงฟังเรากล่าว ปราสาททองอันงดงาม หรือ ปราสาทแก้วไพฑูรย์เป็นที่รักแห่งใจจักบังเกิดแก่ผู้นั้น ผู้นั้นจักเป็นจอม เทวดา เสวยเทวรัชสมบัติอยู่ ๖๔ ครั้ง ในกัลปที่ ๒๑ จักได้เป็นกษัตริย์ พระนามว่าวิมล จักเป็นพระเจ้าจักรพรรดิทรงครอบครองแผ่นดินมีสมุทร- สาคร ๔ เป็นขอบเขต พระนครชื่อเรณุวดีสร้างด้วยแผ่นอิฐ โดยยาว ๓๐๐ โยชน์ สี่เหลี่ยมจตุรัส ปราสาทชื่อสุทัสนะ อันวิสสุกรรมเทพบุตร นิรมิตให้ ประกอบด้วยเรือนยอดอันประเสริฐ ประดับด้วยแก้ว ๗ ประการ วิทยาธรมีเสียงสิบอย่างต่างๆ กัน มาเกลื่อนกล่นอยู่ เหมือน จักเป็นนครชื่อสุทัสนะของเหล่าเทวดา รัศมีแห่งนครนั้น เปล่งปลั่งดัง เมื่อพระอาทิตย์อุทัย นครนั้นจักรุ่งเรืองจ้าโดยรอบ ๘ โยชน์อยู่เป็นนิจ ในแสนกัลป พระศาสดาทรงพระนามว่าโคดมโดยพระโคตร ซึ่งมีสมภพ ในวงศ์พระเจ้าโอกกากราช จักเสด็จอุบัติในโลก ผู้นั้นอันกุศลมูลตัก- เตือนแล้ว จักเคลื่อนจากภพดุสิต จักได้เป็นพระราชโอรสของพระผู้มี พระภาคพระนามว่าโคดม ถ้าจะพึงอยู่ครองเรือนผู้นั้นพึงได้เป็นพระเจ้า จักรพรรดิ แต่ข้อที่เขาจะคงที่ถึงความยินดีในเรือนนั้น ไม่เป็นฐานะที่จะ มีได้ เขาจักออกบวชเป็นบรรพชิต เป็นผู้มีวัตรอันงาม จักได้เป็นพระ--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๖๐.
อรหันต์มีนามชื่อว่าราหุล พระมหามุนีทรงพยากรณ์เราว่า มีปัญญา สมบูรณ์ด้วยศีล เหมือนนกต้อยติวิดรักษาไข่ ดังจามรีรักษาขนหาง เรา รู้ทั่วถึงธรรมของพระองค์แล้ว ยินดีอยู่ในศาสนา เรากำหนดรู้อาสวะ ทั้งปวงแล้ว ไม่มีอาสวะอยู่ คุณวิเศษเหล่านี้คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ฉะนี้แล. ทราบว่า ท่านพระราหุลเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยการฉะนี้แล.จบ ราหุลเถราปทาน. ----------------------------------------------------- เนื้อความพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๒ บรรทัดที่ ๑๓๔๗-๑๓๗๙ หน้าที่ ๕๙-๖๐. https://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=32&A=1347&Z=1379&pagebreak=1 https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=32&item=18&items=1&pagebreak=1 อ่านโดยใช้เครื่องหมาย [เลขข้อ] เป็น เกณฑ์แบ่งข้อ :- https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=32&item=18&items=1&pagebreak=1&mode=bracket อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรไทย :- https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item.php?book=32&item=18&items=1&pagebreak=1 อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรโรมัน :- https://84000.org/tipitaka/read/roman_item.php?book=32&item=18&items=1&pagebreak=1 ศึกษาอรรถกถานี้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=32&i=18 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๒ https://84000.org/tipitaka/read/?index_32 https://84000.org/tipitaka/english/?index_32
บันทึก ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖. บันทึกล่าสุด ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎก ฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]