ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับภาษาไทย   บาลีอักษรไทย   บาลีอักษรโรมัน 
อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๓ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๕ ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๒ -พุทธวังสะ-จริยาปิฎก
             [๑๔๙] 	ครั้งนั้น ดิฉันเป็นหญิงนักท่องเที่ยวอยู่ในพระนครหงสวดี ดิฉัน
                          ต้องการกุศล จึงเที่ยวไปสู่อารามหนึ่งจากอารามหนึ่ง ได้พบไม้โพธิ์
                          อันอุดม วันกาฬปักษ์ ยังจิตให้เลื่อมใสในไม้โพธิ์นั้นแล้ว นั่งลง
                          ที่โคนไม้โพธิ์ ดิฉันตั้งจิตเคารพประนมอัญชลีเหนือเศียรเกล้า
                          สำแดงความโสมนัสแล้วคิดอย่างนี้ในขณะนั้นว่า ถ้าพระพุทธเจ้า
                          มีพระคุณนับไม่ได้ ไม่มีบุคคลเปรียบเสมอไซร้ ก็ขอให้ทรง
                          แสดงปาฏิหาริย์แก่เราเถิด ขอไม้โพธิ์จงเปล่งรัศมี ทันใดนั้นเอง
                          ไม้โพธิ์ ก็ได้โพลงไปทั่วพร้อมกับที่ดิฉันนึก รัศมีสำเร็จด้วยสีทอง
                          ล้วนไพโรจน์ไปทั่วทิศ ดิฉันนั่งอยู่ที่โคนโพธิ์นั้น ๗ คืน ๗ วัน
                          เมื่อถึงวันเป็นวันคำรบ ๗ ดิฉันได้ทำการบูชาด้วยประทีป ประทีป ๕
                          ดวงลุกโพลงล้อมรอบอาสนะ ครั้งนั้น ประทีปของดิฉันลุกโพลงอยู่
                          จนถึงเวลาพระอาทิตย์อุทัย เพราะกรรมที่ทำไว้ดีนั้น และเพราะการ
                          ตั้งเจตน์จำนงไว้ ดิฉันละร่างมนุษย์แล้ว ได้ไปสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
                          วิมานที่บุญกรรมสร้างให้ดิฉันอย่างสวยงามในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์นั้น
                          เรียกว่า "ปัญจทีปวิมาน" ปัญจทีปวิมานนั้นสูง ๑๐๐ โยชน์ กว้าง
                          ๖๐ โยชน์ ประทีปนับไม่ถ้วนส่องสว่างล้อมดิฉันอยู่ ทั่วเทพพิภพ
                          โชติช่วงด้วยแสงประทีป คนที่หันหน้าไปทางทิศบูรพา ถ้าดิฉัน
                          ปรารถนาที่จะดู ดิฉันย่อมเห็นได้ด้วยจักษุทุกคน ทั้งเบื้องบน
                          เบื้องล่างและเบื้องขวาง ดิฉันปรารถนาจะเห็นกรรมดีและกรรมชั่ว
                          ที่คนทำในที่มีประมาณเท่าใด ที่มีประมาณเท่านั้น ย่อมไม่มีต้นไม้
                          หรือภูเขามากั้นกาง ดิฉันได้เป็นพระอัครมเหสีของท้าวสักรินท-
                          เทวราช ๘๐ พระองค์ ได้เป็นพระอัครมเหสีของพระเจ้าจักรพรรดิ
                          ๑๐๐ พระองค์ ดิฉันเข้าถึงกำเนิดนั้นๆ ประทีปตั้งแสนๆ ส่องแสง
                          ล้อมดิฉัน ดิฉันจุติจากเทวโลกแล้ว เกิดในครรภ์มารดา เมื่อดิฉัน
                          อยู่ในครรภ์มารดา จักษุของดิฉันไม่หลับ ประทีปตั้งจำนวนแสนดวง
                          ส่องสว่างอยู่ในเรือนประสูติของดิฉัน ผู้พร้อมเพรียงด้วยบุญกรรม
                          นี้เป็นผลแห่งประทีป ๕ ดวง เมื่อถึงภพสุดท้าย ดิฉันกลับฉันทะ
                          ที่มีในใจ เห็นนิพพานอันเป็นสภาวะเยือกเย็น ไม่มีชราและมรณะ
                          พอเกิดได้อายุ ๗ ขวบ ดิฉันได้บรรลุอรหัต พระพุทธเจ้าพระนาม
                          ว่าโคดม ทรงทราบถึงคุณของดิฉัน จึงให้ดิฉันอุปสมบท ดิฉันเข้า
                          ฌานอยู่ในมณฑป โคนไม้ ปราสาท ถ้ำ หรือเรือนอันว่างเปล่าก็ดี
                          ประทีป ๕ ดวงส่องแสงสว่างให้ดิฉัน ทิพพจักษุของดิฉันบริสุทธิ์
                          ดิฉันฉลาดในสมาธิ ถึงความบริบูรณ์ในอภิญญา นี้เป็นผลแห่ง
                          ประทีป ๕ ดวง ดิฉันเป็นผู้อยู่จบพรหมจรรย์ทั้งปวง ทำกิจเสร็จแล้ว
                          ไม่มีอาสวะ ข้าแต่พระมหาวีระผู้มีพระจักษุ หม่อมฉันชื่อว่าปัญจทีปา
                          ขอถวายบังคมพระยุคลบาทของพระองค์ ในกัปที่แสนแต่กัปนี้
                          ดิฉันได้ถวายประทีปใดในครั้งนั้น ด้วยการถวายประทีปนั้น ดิฉัน
                          ไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งประทีป ๕ ดวง ดิฉันเผากิเลส
                          ทั้งหลายแล้ว ... พระพุทธศาสนาดิฉันได้ทำเสร็จแล้ว.
             ทราบว่า ท่านพระปัญจทีปิกาภิกษุณีได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.
จบ ปัญจทีปิกาเถริยาปทาน.
อุทกทายิกาเถริยาปทานที่ ๑๐
ว่าด้วยผลแห่งการถวายน้ำ

             เนื้อความพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๓ บรรทัดที่ ๔๒๓๒-๔๒๗๔ หน้าที่ ๑๘๒-๑๘๔. https://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=33&A=4232&Z=4274&pagebreak=0 https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=33.1&item=149&items=1&mode=bracket              อ่านโดยใช้เนื้อความเป็น เกณฑ์แบ่งข้อ :- https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=33.1&item=149&items=1              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรไทย :- https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item.php?book=33.1&item=149&items=1&mode=bracket              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรโรมัน :- https://84000.org/tipitaka/read/roman_item.php?book=33.1&item=149&items=1&mode=bracket              ศึกษาอรรถกถานี้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=33.1&i=149              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๓ https://84000.org/tipitaka/read/?index_33 https://84000.org/tipitaka/english/?index_33

อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย

บันทึก ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖. บันทึกล่าสุด ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎก ฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]