ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับภาษาไทย   บาลีอักษรไทย   บาลีอักษรโรมัน 
อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๓ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๕ ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๒ -พุทธวังสะ-จริยาปิฎก
อุทกทายิกาเถริยาปทานที่ ๑๐
ว่าด้วยผลแห่งการถวายน้ำ
[๑๕๐] ดิฉันเป็นหญิงหาบน้ำขายอยู่ในพระนครพันธุมดี เลี้ยงชีพด้วยการ หาบน้ำ เลี้ยงดูเด็กๆ ก็ด้วยการหาบน้ำนั้น ดิฉันไม่มีไทยธรรม ดิฉันเข้าไปยังซุ้มน้ำแล้ว ตั้งน้ำไว้ถวายในบุญเขตอันยอดเยี่ยม เพราะกรรมที่ได้ทำไว้ดีแล้วนั้น ดิฉันจึงได้ไปสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ วิมานที่บุญกรรมสร้างให้แก่ดิฉันอยู่สวยงาม ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ นั้น ถูกนิรมิตขึ้นก็เพราะการหาบน้ำ ก็ครั้งนั้น ดิฉันประเสริฐกว่า พวกนางอัปสรตั้งพัน ดิฉันครอบงำนางอัปสรเหล่านั้นทั้งหมดด้วย ฐานะ ๑๐ ประการ ดิฉันได้เป็นพระอัครมเหสีของท้าวสักรินทเทวราช ๕๐ พระองค์ ได้เป็นพระอัครมเหสีของพระเจ้าจักรพรรดิ ๒๐ พระองค์ ดิฉันท่องเที่ยวอยู่แต่ในสองภพ คือ เทวดาและมนุษย์ ไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการถวายน้ำ บนยอดเขา ยอดไม้ ในอากาศ หรือพื้นดินก็ตาม ดิฉันต้องการน้ำเมื่อใด ดิฉันย่อมได้ โดยเร็วพลันเมื่อนั้น ทิศที่ไม่มีฝนมีอยู่ ก็เพราะดิฉันเร่าร้อนระหาย น้ำแล้ว มหาเมฆรู้ความดำริของดิฉันย่อมยังฝนให้ตกลง ในบางครั้ง เมื่อดิฉันถูกหมู่ญาตินำเอาออกไป มหาเมฆได้ยังฝนให้ตกลง ใน คราวที่ดิฉันปรารถนาฝน ในสรีระของดิฉัน ไม่มีความเร่าร้อนหรือ ความกระวนกระวายเลย และละอองธุลีก็ไม่มีในกายของดิฉัน นี้เป็นผลแห่งการให้น้ำเป็นทาน ทุกวันนี้ ดิฉันมีใจบริสุทธิ์ ปราศจากใจที่ชั่วช้า มีอาสวะสิ้นไปหมดแล้ว บัดนี้ภพใหม่ไม่มีอีก ในกัปที่ ๙๑ แต่กัปนี้ ดิฉันได้ทำกรรมใดในกาลนั้น ด้วยกรรมนั้น ดิฉันไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการให้น้ำเป็นทาน ดิฉันเผากิเลส ทั้งหลายหมดแล้ว ... พระพุทธศาสนาดิฉันได้ทำเสร็จแล้ว. ทราบว่า ท่านพระอุทกทายิกาภิกษุณีได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.
จบ อุทกทายิกาเถริยาปทาน.
รวมอปทานที่มีในวรรคนี้ คือ
๑. สุเมธาเถริยาปทาน ๒. เมขลทายิกาเถริยาปทาน ๓. มัณฑปทายิกาเถริยาปทาน ๔. สังกมนทาเถริยาปทาน ๕. นฬมาลิกาเถริยาปทาน ๖. เอกปิณฑปาตทายิกาเถริยาปทาน ๗. กฏัจฉุภิกขาทายิกาเถริยาปทาน ๘. สัตตอุปลทายิกาเถริยาปทาน ๙. ปัญจทีปิกาเถริยาปทาน ๑๐. อุทกทายิกาเถริยาปทาน และในวรรคนี้ บัณฑิตคำนวณคาถาได้ ๑๓๐ คาถากึ่ง.
จบ สุเมธาวรรคที่ ๑
-----------------------------------------------------

             เนื้อความพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๓ บรรทัดที่ ๔๒๗๓-๔๓๐๕ หน้าที่ ๑๘๔-๑๘๕. https://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=33&A=4273&Z=4305&pagebreak=0 https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=33.1&item=150&items=1              อ่านโดยใช้เครื่องหมาย [เลขข้อ] เป็น เกณฑ์แบ่งข้อ :- https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=33.1&item=150&items=1&mode=bracket              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรไทย :- https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item.php?book=33.1&item=150&items=1              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรโรมัน :- https://84000.org/tipitaka/read/roman_item.php?book=33.1&item=150&items=1              ศึกษาอรรถกถานี้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=33.1&i=150              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๓ https://84000.org/tipitaka/read/?index_33 https://84000.org/tipitaka/english/?index_33

อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย

บันทึก ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖. บันทึกล่าสุด ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎก ฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]