ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับภาษาไทย   บาลีอักษรไทย   บาลีอักษรโรมัน 
อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๗ พระอภิธรรมปิฎกเล่มที่ ๔ กถาวัตถุปกรณ์
             [๑๐๒๖] สกวาที วิมุตติญาณ ชื่อว่าหลุดพ้นแล้วหรือ?
             ปรวาที ถูกแล้ว
             ส. วิมุตติญาณ ไม่ว่าอย่างใดหมด ชื่อว่าหลุดพ้นแล้วหรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             ส. วิมุตติญาณ ชื่อว่าหลุดพ้นแล้วหรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. ปัจจเวกขณญาณ ชื่อว่าหลุดพ้นแล้วหรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             ส. วิมุตติญาณ ชื่อว่าหลุดพ้นแล้วหรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. วิมุตติญาณของโคตรภูบุคคล ชื่อว่าหลุดพ้นแล้วหรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             [๑๐๒๗] ส. วิมุตติญาณของบุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้ง ซึ่งโสดาปัตติผลชื่อว่าหลุด
พ้นแล้วหรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. ญาณของพระโสดาบัน เป็นญาณของผู้ถึง ได้เฉพาะ บรรลุ ทำให้แจ้ง
ซึ่งโสดาปัตติผล หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             ส. วิมุตติญาณของบุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้ง ซึ่งสกทาคามิผลชื่อว่าหลุด
พ้นแล้วหรือฯ
             ป. ถูกแล้ว
             ส. ญาณของพระสกทาคามี เป็นญาณของผู้ถึง ได้เฉพาะ บรรลุ ทำให้แจ้ง
ซึ่งสกทาคามิผล หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             ส. วิมุตติญาณของบุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้งซึ่งอนาคามิผล ชื่อว่าหลุดพ้น
แล้วหรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. ญาณของพระอนาคามี เป็นญาณของบุคคลผู้ถึง ได้เฉพาะ บรรลุ ทำให้
แจ้งซึ่งอนาคามิผล หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             ส. วิมุตติญาณของบุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้งซึ่งอรหัตผล ชื่อว่าหลุดพ้น
แล้ว หรือ?
             ส. ถูกแล้ว
             ส. ญาณของพระอรหันต์ ชื่อว่า ญาณของผู้ถึง ได้เฉพาะ บรรลุ ทำให้แจ้งซึ่ง
อรหัตผล หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             [๑๐๒๘] ส. วิมุตติญาณ ของบุคคล ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยโสดาปัตติผล ชื่อว่า
หลุดพ้นแล้ว หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. วิมุตติญาณของบุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล ชื่อว่าหลุด
พ้นแล้ว หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             ส. วิมุตติญาณของบุคคล ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยสกทาคามิผล ชื่อว่า
หลุดพ้นแล้ว หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. วิมุตติญาณ ของบุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้งซึ่งสกทาคามิผล ชื่อว่าหลุด
พ้นแล้ว หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             ส. วิมุตติญาณของบุคคล ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิผล ชื่อว่า
หลุดพ้นแล้ว หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. วิมุตติญาณของบุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้งซึ่งอนาคามิผล ชื่อว่าหลุดพ้น
แล้วหรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             ส. วิมุตติญาณของบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตผลชื่อหลุดพ้น
แล้ว หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. วิมุตติญาณของบุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้งซึ่งอรหัตผล ชื่อว่าหลุดพ้น
แล้ว หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             [๑๐๒๙] ส. วิมุตติญาณของบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยโสดาปัตติผล ชื่อว่าหลุด
พ้นแล้ว และนั้นเป็นญาณของผู้บรรลุผล หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. วิมุตติญาณของบุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล ชื่อว่าหลุด
พ้นแล้ว และนั้นเป็นญาณของผู้บรรลุผล หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             ส. วิมุตติญาณของบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยสกทาคามิผลชื่อว่าหลุดพ้น
แล้ว และนั้นเป็นญาณของผู้บรรลุผล หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. วิมุตติญาณของบุคคลผู้ปฏิบัติ เพื่อทำให้แจ้งซึ่งสกทาคามิผล ชื่อว่าหลุด
พ้นแล้ว และนั้นเป็นญาณของผู้บรรลุผล หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             ส. วิมุตติญาณของบุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้งซึ่งอนาคามิผล ชื่อว่า
หลุดพ้นแล้ว และนั้นเป็นญาณของผู้บรรลุผล หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             ส. วิมุตติญาณของบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิผล ชื่อว่าหลุด
พ้นแล้ว และนั้นเป็นญาณของผู้บรรลุผล หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. วิมุตติญาณของบุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้งซึ่งอนาคามิผล ชื่อว่าหลุด
พ้นแล้ว และนั้นเป็นญาณของผู้บรรลุผล หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             ส. วิมุตติญาณของบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตผล ชื่อหลุดพ้น
แล้วและนั้นเป็นญาณของผู้บรรลุผล หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. วิมุตติญาณของบุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้งซึ่งอรหัตผล ชื่อว่าหลุดพ้น
แล้ว และนั้นเป็นญาณของผู้บรรลุผล หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
วิมุตตกถา จบ
-----------------------------------------------------
อเสกขญาณกถา

             เนื้อความพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๗ บรรทัดที่ ๙๘๔๗-๙๙๓๖ หน้าที่ ๔๐๙-๔๑๒. https://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=37&A=9847&Z=9936&pagebreak=0 https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=37&item=1026&items=4&mode=bracket              อ่านโดยใช้เนื้อความเป็น เกณฑ์แบ่งข้อ :- https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=37&item=1026&items=4              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรไทย :- https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item.php?book=37&item=1026&items=4&mode=bracket              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรโรมัน :- https://84000.org/tipitaka/read/roman_item.php?book=37&item=1026&items=4&mode=bracket              ศึกษาอรรถกถานี้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=37&i=1026              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๗ https://84000.org/tipitaka/read/?index_37 https://84000.org/tipitaka/english/?index_37

อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย

บันทึก ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖. บันทึกล่าสุด ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎก ฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]