ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับภาษาไทย   บาลีอักษรไทย   บาลีอักษรโรมัน 
อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๗ พระอภิธรรมปิฎกเล่มที่ ๔ กถาวัตถุปกรณ์
เอกัจจมัตถีติกถา
[๔๐๘] สกวาที อดีตมีอยู่ หรือ? ปรวาที อดีตบางอย่างมีอยู่ อดีตบางอย่างไม่มีอยู่? ส. อดีตบางอย่างดับไปแล้ว บางอย่างยังไม่ดับไป บางอย่างปราศไปแล้ว บางอย่างยังไม่ปราศไป บางอย่างอัสดงคตแล้ว บางอย่างยังไม่อัสดงคต บางอย่างสาบสูญไปแล้ว บางอย่างยังไม่สาบสูญไป หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๔๐๙] ส. อดีตบางอย่างมีอยู่ บางอย่างไม่มีอยู่ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. ธรรมอันยังไม่ให้ผลที่เป็นอดีต บางอย่างมีอยู่ บางอย่างไม่มีอยู่ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๔๑๐] ส. อดีตบางอย่างมีอยู่ บางอย่างไม่มีอยู่ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. ธรรมอันให้ผลแล้วที่เป็นอดีต บางอย่างมีอยู่ บางอย่างไม่มีอยู่ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๔๑๑] ส. อดีตบางอย่างมีอยู่ บางอย่างไม่มีอยู่ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. ธรรมอันไม่มีวิบากที่เป็นอดีต บางอย่างมีอยู่ บางอย่างไม่มีอยู่ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๔๑๒] ส. อดีตบางอย่างมีอยู่ บางอย่างไม่มีอยู่ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. อะไรมีอยู่ อะไรไม่มีอยู่? ป. ธรรมอันยังไม่ให้ผลที่เป็นอดีตมีอยู่ ธรรมอันให้ผลแล้วที่เป็นอดีตไม่มีอยู่ [๔๑๓] ส. ธรรมอันยังไม่ให้ผลล่วงไปแล้ว ธรรมเหล่านั้นยังมีอยู่ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. ธรรมอันให้ผลแล้ว ล่วงไปแล้ว ธรรมเหล่านั้นยังมีอยู่ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๔๑๔] ส. ธรรมอันยังไม่ให้ผล ล่วงไปแล้ว ธรรมเหล่านั้นยังมีอยู่ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. ธรรมอันไม่มีวิบาก ล่วงไปแล้ว ธรรมเหล่านั้นยังมีอยู่ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๔๑๕] ส. ธรรมอันให้ผลแล้ว ล่วงไปแล้ว ธรรมเหล่านั้นไม่มีอยู่ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. ธรรมอันยังไม่ให้ผล ล่วงไปแล้ว ธรรมเหล่านั้นไม่มีอยู่ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. ธรรมอันให้ผลแล้ว ล่วงไปแล้ว ธรรมเหล่านั้นไม่มีอยู่ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. ธรรมอันไม่มีวิบาก ล่วงไปแล้ว ธรรมเหล่านั้นไม่มีอยู่ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๔๑๖] ส. ธรรมอันยังไม่ให้ผล ล่วงไปแล้ว ธรรมเหล่านั้นยังมีอยู่ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. ธรรมอันยังไม่ให้ผล ที่เป็นอดีต ดับไปแล้วมิใช่ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. หากว่า ธรรมยังไม่ให้ผลที่เป็นอดีตดับไปแล้ว ก็ต้องไม่กล่าวว่า ธรรม อันยังไม่ให้ผลที่เป็นอดีตดับไปแล้ว ธรรมเหล่านั้นยังมีอยู่ [๔๑๗] ส. ธรรมอันยังไม่ให้ผลที่เป็นอดีต ดับไปแล้ว ธรรมเหล่านั้นยังมีอยู่ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. ธรรมอันให้ผลแล้วที่เป็นอดีตดับไปแล้ว ธรรมเหล่านั้นยังมีอยู่ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. ธรรมอันยังไม่ให้ผลที่เป็นอดีตดับไปแล้ว ธรรมเหล่านั้นยังมีอยู่ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. ธรรมอันไม่มีวิบากที่เป็นอดีตดับไปแล้ว ธรรมเหล่านั้นยังมีอยู่ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. ธรรมอันให้ผลแล้วที่เป็นอดีตดับไปแล้ว ธรรมเหล่านั้นไม่มีอยู่ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. ธรรมอันยังไม่ให้ผลที่เป็นอดีตดับไปแล้ว ธรรมเหล่านั้นไม่มีอยู่ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. ธรรมอันให้ผลแล้วที่เป็นอดีตดับไปแล้ว ธรรมเหล่านั้นไม่มีอยู่ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. ธรรมอันไม่มีวิบากที่เป็นอดีตดับไปแล้ว ธรรมเหล่านั้นไม่มีอยู่ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๔๑๘] ส. ธรรมอันยังไม่ให้ผลที่เป็นอดีตดับไปแล้ว ธรรมเหล่านั้นยังมีอยู่ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. ธรรมอันให้ผลแล้วที่เป็นอดีตดับไปแล้ว ธรรมเหล่านั้นไม่มีอยู่ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. ธรรมอันให้ผลแล้วส่วนหนึ่ง ยังไม่ให้ผลส่วนหนึ่งที่เป็นอดีตดับไปแล้ว ธรรมเหล่านั้น บางส่วนมีอยู่ บางส่วนไม่มีอยู่ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๔๑๙] ป. ไม่พึงกล่าวว่า ธรรมอันยังไม่ให้ผลล่วงไปแล้ว ธรรมเหล่านั้นมีอยู่ หรือ? ส. ถูกแล้ว ป. ธรรมอันยังไม่ให้ผลที่เป็นอดีต ยังจักให้ผลมิใช่ หรือ? ส. ถูกแล้ว ป. หากว่า ธรรมอันยังไม่ให้ผลที่เป็นอดีต ยังจักให้ผล ด้วยเหตุนั้นนะท่าน จึงต้องกล่าวว่า ธรรมอันยังไม่ให้ผลล่วงไปแล้ว ธรรมเหล่านั้นยังมีอยู่ ส. ธรรมอันยังไม่ให้ผลล่วงไปแล้ว ธรรมเหล่านั้นชื่อว่า มีอยู่ เพราะทำ อธิบายว่า ยังจักให้ผล หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. ชื่อว่าปัจจุบัน เพราะทำอธิบายว่า ยังจักให้ผล หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. ชื่อว่าปัจจุบัน เพราะทำอธิบายว่า ยังจักให้ผล หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. ธรรมที่เป็นปัจจุบัน ก็ชื่อว่าไม่มีอยู่ เพราะทำอธิบายว่า จักดับไปด้วย หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๔๒๐] ส. อนาคตมีอยู่ หรือ? ป. บางอย่างมีอยู่ บางอย่างไม่มีอยู่ ส. อนาคตบางอย่างเกิดแล้ว บางอย่างยังไม่เกิด บางอย่างเกิดพร้อมแล้ว บางอย่างยังไม่เกิดพร้อม บางอย่างบังเกิดแล้ว บางอย่างยังไม่บังเกิด บาง อย่างปรากฏแล้ว บางอย่างยังไม่ปรากฏ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๔๒๑] ส. อนาคตบางอย่างมีอยู่ บางอย่างไม่มีอยู่ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. อุปปาทิธรรม (ธรรมจักเกิดขึ้น) ที่เป็นอนาคต บางอย่างมีอยู่ บางอย่าง ไม่มีอยู่ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. อนาคตบางอย่าง ฯลฯ อนุปปาทิธรรม (ธรรมจักไม่เกิดขึ้น) ฯลฯ [๔๒๒] ส. อนาคตบางอย่างมีอยู่ บางอย่างไม่มีอยู่ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. อะไรมีอยู่ อะไรไม่มีอยู่? ป. อุปปาทิธรรมที่เป็นอนาคตมีอยู่ อนุปปาทิธรรมที่เป็นอนาคตไม่มีอยู่ ส. อุปปาทิธรรมเป็นอนาคตมีอยู่ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. อนุปปาทิธรรมที่เป็นอนาคตมีอยู่ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. อนุปปาทิธรรมที่เป็นอนาคตไม่มีอยู่ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. อุปปาทิธรรมที่เป็นอนาคตมีอยู่ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. อุปปาทิธรรมที่เป็นอนาคตมีอยู่ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. อุปปาทิธรรมที่เป็นอนาคต ยังไม่เกิดมิใช่หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. หากว่า อุปปาทิธรรมที่เป็นอนาคตยังไม่เกิด ก็ต้องไม่กล่าวว่า อุปปาทิธรรม ที่เป็นอนาคตมีอยู่ [๔๒๓] ส. อุปปาทิธรรมที่เป็นอนาคตยังไม่เกิด ธรรมทั้งหลายนั้นมีอยู่ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. อนุปปาทิธรรมที่เป็นอนาคตยังไม่เกิด ธรรมเหล่านั้นมีอยู่ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. อนุปปาทิธรรมที่เป็นอนาคตยังไม่เกิด ไม่มีอยู่ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. อุปปาทิธรรมที่เป็นอนาคตยังไม่เกิด ไม่มีอยู่ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๔๒๔] ป. ไม่พึงกล่าวว่า อุปปาทิธรรมที่เป็นอนาคตมีอยู่ หรือ? ส. ถูกแล้ว ป. อุปปาทิธรรมที่เป็นอนาคต จักบังเกิดขึ้นมิใช่ หรือ? ส. ถูกแล้ว ป. หากว่า อุปปาทิธรรมที่เป็นอนาคตจักบังเกิดขึ้น ด้วยเหตุนั้นนะท่านจึง ต้องกล่าวว่า อุปปาทิธรรมที่เป็นอนาคตมีอยู่ [๔๒๕] ส. อุปปาทิธรรมที่เป็นอนาคต ชื่อว่ามีอยู่ เพราะทำอธิบายว่า จักบังเกิดขึ้น หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. ชื่อว่าปัจจุบัน เพราะทำอธิบายไว้ว่า จักบังเกิดขึ้น หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. ชื่อว่าปัจจุบัน เพราะทำอธิบายไว้ว่า จักบังเกิดขึ้นหรือ? ป. ถูกแล้ว ส. ธรรมที่เป็นปัจจุบัน ชื่อว่าไม่มีอยู่ เพราะทำอธิบายว่า จักดับไป หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
เอกัจจมัตถีติกถา จบ
-----------------------------------------------------

             เนื้อความพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๗ บรรทัดที่ ๔๙๑๒-๕๐๕๐ หน้าที่ ๒๐๓-๒๐๙. https://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=37&A=4912&Z=5050&pagebreak=0 https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=37&item=408&items=18              อ่านโดยใช้เครื่องหมาย [เลขข้อ] เป็น เกณฑ์แบ่งข้อ :- https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=37&item=408&items=18&mode=bracket              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรไทย :- https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item.php?book=37&item=408&items=18              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรโรมัน :- https://84000.org/tipitaka/read/roman_item.php?book=37&item=408&items=18              ศึกษาอรรถกถานี้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=37&i=408              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๗ https://84000.org/tipitaka/read/?index_37 https://84000.org/tipitaka/english/?index_37

อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย

บันทึก ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖. บันทึกล่าสุด ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎก ฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]