ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับภาษาไทย   บาลีอักษรไทย   บาลีอักษรโรมัน 
อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๗ พระอภิธรรมปิฎกเล่มที่ ๔ กถาวัตถุปกรณ์
             [๘๕๒] สกวาที ไม่พึงกล่าวว่าสัญญามีอยู่ในเนวสัญญานาสัญญายตนภพ หรือ?
             ปรวาที ถูกแล้ว
             ส. เป็นอสัญญภพ เป็นอสัญญคติ เป็นอสัญญสัตตาวาส เป็นอสัญญสงสาร
เป็นอสัญญโยนิ เป็นอสัญญัตตภาวปฏิลาภ หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             [๘๕๓] ส. เป็นสัญญภพ สัญญคติ สัญญสัตตวาส สัญญสงสาร สัญญโยนิ
สัญญัตตภาวปฏิลาภ มิใช่หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. หากว่า เป็นสัญญภพ เป็นสัญญคติ ฯลฯ เป็นสัญญัตตภาวปฏิลาภ
ก็ต้องไม่กล่าวว่า ไม่พึงกล่าวว่าสัญญมีอยู่ในเนวสัญญานาสัญญายตนภพ
             [๘๕๔] ส. ไม่พึงกล่าวว่าสัญญามีอยู่ในเนวสัญญานาสัญญายตนภพ หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. เป็นเอกโวการภพ คติ ฯลฯ อัตตภาวปฏิลาภ หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             ส. เป็นจตุโวการภพ ๑- เป็นจตุโวการคติ ฯลฯ อัตตภาวปฏิลาภ มิใช่หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. หากว่า เป็นจตุโวการภพ คติ ฯลฯ อัตตภาวปฏิลาภ ก็ต้องไม่กล่าวว่า
ไม่พึงกล่าวว่าสัญญามีอยู่ในเนวสัญญายตนภพ
             [๘๕๕] ป. ไม่พึงกล่าวว่า สัญญามีอยู่ในอสัญญสัตว์ทั้งหลาย และนั้นเป็นอสัญญภพ
เป็นอสัญญคติ เป็นอสัญญสัตตาวาส เป็นอสัญญสงสาร เป็นอสัญญโยนิ
เป็นอสัญญัตตภาวปฏิลาภ หรือ?
             ส. ถูกแล้ว
             ป. ไม่พึงกล่าวว่า สัญญามีอยู่ในเนวสัญญานาสัญญายตนภพ และนั้นก็เป็น
อสัญญภพ เป็นอสัญญคติ เป็นอสัญญสัตตาวาส เป็นอสัญญสงสาร
เป็นอสัญญโยนิ เป็นอสัญญัตตภาวปฏิลาภ หรือ?
             ส. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             ป. ไม่พึงกล่าวว่า สัญญามีอยู่ในอสัญญสัตว์ทั้งหลาย และนั้นเป็นเอกโว-
การภพ คติ ฯลฯ อัตตภาวปฏิลาภ หรือ?
@๑. ภพมีขันธ์ ๔ คืออรูปขันธ์ ๔ ได้แก่อรูปภพ
             ส. ถูกแล้ว
             ป. ไม่พึงกล่าวว่า สัญญามีอยู่ในเนวสัญญายตนภพ และนั้นก็เป็นเอก
โวการภพ คติ สัตตาวาส สงสาร โยนิ อัตตภาวปฏิลาภ หรือ?
             ส. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             [๘๕๖] ส. ไม่พึงกล่าวว่า สัญญามีอยู่ในเนวสัญญานาสัญญายตนภพ และนั้นเป็น
สัญญภพ สัญญคติ ฯลฯ สัญญัตตภาวปฏิลาภ หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. ไม่พึงกล่าวว่า สัญญามีอยู่ในอสัญญสัตว์ทั้งหลาย และนั้นเป็นสัญญภพ
สัญญคติ ฯลฯ สัญญัตตภาวปฏิลาภ หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             [๘๕๗] ส. ไม่พึงกล่าวว่า สัญญามีอยู่ในเนวสัญญานาสัญญายตนภพ และนั้นเป็น
จตุโวการภพ คติ ฯลฯ อัตตภาวปฏิลาภ หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. ไม่พึงกล่าวว่า สัญญามีอยู่ในอสัญญสัตว์ทั้งหลาย และนั้นเป็นจตุโวการ-
ภพ ฯลฯ อัตตภาวปฏิลาภ หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             [๘๕๘] ส. ไม่พึงกล่าวว่า สัญญามีอยู่ในเนวสัญญานาสัญญายตนภพ หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. เนวสัญญานาสัญญายตนภพ เป็นจตุโวการภพ มิใช่หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. หากว่า เนวสัญญานาสัญญายตนภพเป็นจตุโวการภพ ก็ต้องไม่กล่าวว่า
ไม่พึงกล่าวว่าสัญญามีอยู่ในเนวสัญญานายตนภพ
             [๘๕๙] ส. เนวสัญญานาสัญญายตนภพ เป็นจตุโวการภพ แต่ไม่พึงกล่าวว่า สัญญามี
อยู่ในเนวสัญญานาสัญญายตนภพ หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. อากาสานัญจายตนภพ เป็นจตุโวการภพ แต่ไม่พึงกล่าวว่า สัญญามีอยู่
ในอากาสานัญจายตนภพ หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             [๘๖๐] ส. เนวสัญญานาสัญญายตนภพ เป็นจตุโวการภพ แต่ไม่พึงกล่าวว่า สัญญา
มีอยู่ในเนวสัญญานาสัญญายตนภพ หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. วิญญาณัญจายตนภพ ฯลฯ อากิญจัญญายตนภพ เป็นจตุโวการภพ แต่ไม่
พึงกล่าวว่าสัญญามีอยู่ในอากิญจัญญยตนภพ หรือ?
             ป. ไม่กล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             [๘๖๑] ส. อากาสานัญจายตนภพเป็นจตุโวการภพ สัญญามีอยู่ในภพนั้น หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. เนวสัญญานาสัญญายตนภพเป็นจตุโวการภพ สัญญามีอยู่ในภพนั้น
หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             ส. วิญญาณัญจายตนภพ ฯลฯ อากิญจัฌญายตนภพ เป็นจตุโวการภพ สัญญา
มีอยู่ในภพนั้น หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. เนวสัญญานาสัญญายตนภพเป็นจตุโวการภพ สัญญามีอยู่ในภพนั้น
หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             [๘๖๒] ส. ไม่พึงกล่าวว่าสัญญามีอยู่ หรือว่าไม่มีอยู่ ในเนวสัญญานาสัญญายตนภพ
หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. เนวสัญญานาสัญญายตนภพเป็นจตุโวการภพ มิใช่หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. หากว่า เนวสัญญานาสัญญายตนภพเป็นจตุโวการภพ ก็ต้องไม่กล่าวว่า
ไม่พึงกล่าวว่าสัญญามีอยู่ หรือว่า ไม่มีอยู่ในเนวสัญญานาสัญญายตนภพ
             [๘๖๓] ส. เนวสัญญานาสัญญายตนภพเป็นจตุโวการภพ แต่ไม่พึงกล่าวว่าสัญญามี
อยู่ หรือว่าไม่มีอยู่ ในเนวสัญญานาสัญญายตนภพ หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. อากาสานัญจายตนภพ ฯลฯ วิญญาณัญจายตนภพ ฯลฯ อากิญจัญญาย-
ตนภพ เป็นจตุโวการภพ แต่ไม่พึงกล่าวว่าสัญญามีอยู่ หรือว่าไม่มีอยู่
ในอากิญจัญญายตนภพ หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             [๘๖๔] ส. อากาสานัญจายตนภพเป็นจตุโวการภพ สัญญามีอยู่ในภพนั้นหรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. เนวสัญญานาสัญญายตนภพ เป็นจตุโวการภพ สัญญามีอยู่ในภพนั้น
หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             ส. วิญญาณัญจายตนภพ ฯลฯ อากิญจัญญายตนภพ เป็นจตุโวการภพ
สัญญามีอยู่ในภพนั้น หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. เนวสัญญานาสัญญายตนภพ เป็นจตุโวการภพ สัญญามีอยู่ในภพนั้น
หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             [๘๖๕] ป. ไม่พึงกล่าวว่า ๑- ในเนวสัญญานาสัญญายตนภพ หาควรกล่าวไม่ว่า มี
สัญญาหรือว่าไม่มีสัญญา หรือ?
             ส. ถูกแล้ว
             ป. เป็นเนวสัญญานาสัญญายตนภพ มิใช่หรือ?
             ส. ถูกแล้ว
             ป. หากว่าเป็นเนวสัญญานาสัญญายตนภพ ด้วยเหตุนั้นนะท่านจึงต้องกล่าว
ว่า ในเนวสัญญานาสัญญายตนภพ หาควรกล่าวไม่ว่ามีสัญญาหรือ? ว่า
ไม่มีสัญญา
             [๘๖๖] ส. เพราะทำอธิบายว่า เป็นเนวสัญญานาสัญญายตนภพ จึงหาควรกล่าวไม่ว่า
สัญญามีอยู่หรือว่าไม่มีอยู่ ในเนวสัญญานาสัญญายตนภพ หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. เพราะทำอธิบายว่า เป็นอทุกขมสุขเวทนา จึงหาควรกล่าวไม่ว่าเวทนา
หรือว่ามิใช่เวทนา ในอทุกขมสุขเวทนา หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
เนวสัญญานาสัญญายตนกถา จบ
วรรคที่ ๓ จบ
-----------------------------------------------------
วรรคที่ ๔
คิหิสส อรหาติกถา

             เนื้อความพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๗ บรรทัดที่ ๘๕๘๗-๘๗๐๔ หน้าที่ ๓๕๕-๓๖๐. https://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=37&A=8587&Z=8704&pagebreak=0 https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=37&item=852&items=15&mode=bracket              อ่านโดยใช้เนื้อความเป็น เกณฑ์แบ่งข้อ :- https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=37&item=852&items=15              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรไทย :- https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item.php?book=37&item=852&items=15&mode=bracket              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรโรมัน :- https://84000.org/tipitaka/read/roman_item.php?book=37&item=852&items=15&mode=bracket              ศึกษาอรรถกถานี้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=37&i=852              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๗ https://84000.org/tipitaka/read/?index_37 https://84000.org/tipitaka/english/?index_37

อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย

บันทึก ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖. บันทึกล่าสุด ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎก ฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]