ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับภาษาไทย   บาลีอักษรไทย   บาลีอักษรโรมัน 
อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๔ พระวินัยปิฎกเล่มที่ ๔ มหาวรรค ภาค ๑
องค์ ๖ แห่งภิกษุผู้ให้อุปสมบท ๑๖ หมวด
กัณหปักษ์ ๑
[๙๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึงให้นิสสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ ๑. ไม่ประกอบด้วยกองศีล อันเป็นของพระอเสขะ ๒. ไม่ประกอบด้วยกองสมาธิ อันเป็นของพระอเสขะ ๓. ไม่ประกอบด้วยกองปัญญา อันเป็นของพระอเสขะ ๔. ไม่ประกอบด้วยกองวิมุติ อันเป็นของพระอเสขะ ๕. ไม่ประกอบด้วยกองวิมุตติญาณทัสสนะ อันเป็นของพระอเสขะ และ ๖. มีพรรษาหย่อน ๑๐ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ นี้แล ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึงให้นิสสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก.
ศุกลปักษ์ ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึงให้ สามเณรอุปัฏฐาก คือ ๑. ประกอบด้วยกองศีล อันเป็นของพระอเสขะ ๒. ประกอบด้วยกองสมาธิ อันเป็นของพระอเสขะ ๓. ประกอบด้วยกองปัญญา อันเป็นของพระอเสขะ ๔. ประกอบด้วยกองวิมุติ อันเป็นของพระอเสขะ ๕. ประกอบด้วยกองวิมุตติญาณทัสสนะ อันเป็นของพระอเสขะ และ ๖. มีพรรษาได้ ๑๐ หรือมีพรรษาเกิน ๑๐ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ นี้แล พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก.
กัณหปักษ์ ๒
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ แม้อื่นอีก ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึงให้ นิสสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ ๑. ตนเองไม่ประกอบด้วยกองศีล อันเป็นของพระอเสขะ และไม่ชักชวนผู้อื่น ในกองศีล อันเป็นของพระอเสขะ ๒. ตนเองไม่ประกอบด้วยกองสมาธิ อันเป็นของพระอเสขะ และไม่ชักชวนผู้อื่น ในกองสมาธิ อันเป็นของพระอเสขะ ๓. ตนเองไม่ประกอบด้วยกองปัญญา อันเป็นของพระอเสขะ และไม่ชักชวนผู้อื่น ในกองปัญญา อันเป็นของพระอเสขะ ๔. ตนเองไม่ประกอบด้วยกองวิมุติ อันเป็นของพระอเสขะ และไม่ชักชวนผู้อื่น ในกองวิมุติ อันเป็นของพระอเสขะ ๕. ตนเองไม่ประกอบด้วยกองวิมุตติญาณทัสสนะ อันเป็นของพระอเสขะ และไม่ ชักชวนผู้อื่นในกองวิมุตติญาณทัสสนะ อันเป็นของพระอเสขะ และ ๖. มีพรรษาหย่อน ๑๐ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ นี้แล ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึงให้นิสสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก.
ศุกลปักษ์ ๒
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึงให้ สามเณรอุปัฏฐาก คือ ๑. ตนเองประกอบด้วยกองศีล อันเป็นของพระอเสขะ และชักชวนผู้อื่นในกองศีล อันเป็นของพระอเสขะ ๒. ตนเองประกอบด้วยกองสมาธิ อันเป็นของพระอเสขะ และชักชวนผู้อื่น ในกองสมาธิ อันเป็นของพระอเสขะ ๓. ตนเองประกอบด้วยกองปัญญา อันเป็นของพระอเสขะ และชักชวนผู้อื่น ในกองปัญญา อันเป็นของพระอเสขะ ๔. ตนเองประกอบด้วยกองวิมุติ อันเป็นของพระอเสขะ และชักชวนผู้อื่นใน กองวิมุติ อันเป็นของพระอเสขะ ๕. ตนเองประกอบด้วยกองวิมุตติญาณทัสสนะ อันเป็นของพระอเสขะ และชักชวน ผู้อื่นในกองวิมุตติญาณทัสสนะ อันเป็นของพระอเสขะ และ ๖. มีพรรษาได้ ๑๐ หรือมีพรรษาเกิน ๑๐ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ นี้แล พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก.
กัณหปักษ์ ๓
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ แม้อื่นอีก ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึง ให้นิสสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ ๑. เป็นผู้ไม่มีศรัทธา ๒. เป็นผู้ไม่มีหิริ ๓. เป็นผู้ไม่มีโอตตัปปะ ๔. เป็นผู้เกียจคร้าน ๕. เป็นผู้มีสติฟั่นเฟือน และ ๖. เป็นผู้มีพรรษาหย่อน ๑๐ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๖ นี้แล ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึงให้นิสสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก.
ศุกลปักษ์ ๓
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึงให้ สามเณรอุปัฏฐาก คือ ๑. เป็นผู้มีศรัทธา ๒. เป็นผู้มีหิริ ๓. เป็นผู้มีโอตตัปปะ ๔. เป็นผู้ปรารภความเพียร ๕. เป็นผู้มีสติตั้งมั่น และ ๖. เป็นผู้มีพรรษาได้ ๑๐ หรือมีพรรษาเกิน ๑๐ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ นี้แล พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึง ให้สามเณรอุปัฏฐาก.
กัณหปักษ์ ๔
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ แม้อื่นอีก ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึงให้ นิสสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ ๑. เป็นผู้วิบัติด้วยศีล ในอธิศีล ๒. เป็นผู้วิบัติด้วยอาจาระ ในอัธยาจาร ๓. เป็นผู้วิบัติด้วยทิฏฐิ ในทิฏฐิยิ่ง ๔. เป็นผู้ได้ยินได้ฟังน้อย ๕. เป็นผู้มีปัญญาทราม และ ๖. เป็นผู้มีพรรษาหย่อน ๑๐ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ นี้แล ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึงให้นิสสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก.
ศุกลปักษ์ ๔
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึงให้ สามเณรอุปัฏฐาก คือ ๑. เป็นผู้ไม่มีวิบัติด้วยศีล ในอธิศีล ๒. เป็นผู้ไม่วิบัติด้วยอาจาระ ในอัธยาจาร ๓. เป็นผู้ไม่วิบัติด้วยทิฏฐิ ในทิฏฐิยิ่ง ๔. เป็นผู้ได้ยินได้ฟังมาก ๕. เป็นผู้มีปัญญา และ ๖. เป็นผู้มีพรรษาได้ ๑๐ หรือมีพรรษาเกิน ๑๐ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ นี้แล พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึงให้ สามเณรอุปัฏฐาก.
กัณหปักษ์ ๕
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ แม้อื่นอีก ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึงให้ นิสสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ ๑. ไม่สามารถจะพยาบาลเอง หรือให้ผู้อื่นพยาบาลอันเตวาสิก หรือสัทธิวิหาริก ผู้อาพาธ ๒. ไม่สามารถจะระงับเอง หรือหาผู้อื่นให้ช่วยระงับความกระสัน ๓. ไม่สามารถจะบรรเทาเอง หรือหาผู้อื่นให้ช่วยบรรเทาความเบื่อหน่ายอันเกิดขึ้น แล้วโดยธรรม ๔. ไม่รู้จักอาบัติ ๕. ไม่รู้จักวิธีออกจากอาบัติ และ ๖. มีพรรษาหย่อน ๑๐ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วย ๖ นี้แล ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึงให้นิสสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก.
ศุกลปักษ์ ๕
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึงให้ สามเณรอุปัฏฐาก คือ ๑. อาจพยาบาลเอง หรือให้ผู้อื่นพยาบาล อันเตวาสิกหรือสัทธิวิหาริก ผู้อาพาธ ๒. อาจระงับเอง หรือหาผู้อื่นให้ช่วยระงับความกระสัน ๓. อาจบรรเทาเอง หรือหาผู้อื่นให้ช่วยบรรเทาความเบื่อหน่ายอันเกิดขึ้นแล้วโดย ธรรม ๔. รู้จักอาบัติ ๕. รู้จักวิธีออกจากอาบัติ และ ๖. มีพรรษาได้ ๑๐ หรือมีพรรษาเกิน ๑๐ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ นี้แล พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก.
กัณหปักษ์ ๖
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ แม้อื่นอีก ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึงให้ นิสสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ ๑. ไม่อาจฝึกปรืออันเตวาสิกหรือสัทธิวิหาริก ในสิกขาอันเป็นอภิสมาจาร ๒. ไม่อาจแนะนำในสิกขา อันเป็นส่วนเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์ ๓. ไม่อาจแนะนำในธรรมอันยิ่งขึ้นไป ๔. ไม่อาจแนะนำในวินัยอันยิ่งขึ้นไป ๕. ไม่อาจเปลื้องความเห็นผิดอันเกิดขึ้นแล้วโดยธรรม และ ๖. มีพรรษาหย่อน ๑๐ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ นี้แล ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึงให้นิสสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก.
ศุกลปักษ์ ๖
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึงให้ สามเณรอุปัฏฐาก คือ ๑. อาจฝึกปรืออันเตวาสิกหรือสัทธิวิหาริก ในสิกขาอันเป็นอภิสมาจาร ๒. อาจแนะนำในสิกขา อันเป็นส่วนเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์ ๓. อาจแนะนำในธรรมอันยิ่งขึ้นไป ๔. อาจแนะนำในวินัยอันยิ่งขึ้นไป ๕. อาจเปลื้องความเห็นผิดอันเกิดขึ้นแล้วโดยธรรม และ ๖. มีพรรษาได้ ๑๐ หรือมีพรรษาเกิน ๑๐ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ นี้แล พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึง ให้สามเณรอุปัฏฐาก.
กัณหปักษ์ ๗
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ แม้อื่นอีก ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึงให้ นิสสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ ๑. ไม่รู้จักอาบัติ ๒. ไม่รู้จักอนาบัติ ๓. ไม่รู้จักอาบัติเบา ๔. ไม่รู้จักอาบัติหนัก ๕. เธอจำปาติโมกข์ทั้งสองไม่ได้ดีโดยพิสดาร จำแนกไม่ได้ด้วยดี ไม่คล่องแคล่วดี วินิจฉัยไม่เรียบร้อย โดยสุตตะ โดยอนุพยัญชนะ และ ๖. มีพรรษาหย่อน ๑๐ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ นี้แล ไม่พึงให้อุปสมบท ไม่พึงให้นิสสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก.
ศุกลปักษ์ ๗
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึงให้ สามเณรอุปัฏฐาก คือ ๑. รู้จักอาบัติ ๒. รู้จักอนาบัติ ๓. รู้จักอาบัติเบา ๔. รู้จักอาบัติหนัก ๕. เธอจำปาติโมกข์ทั้งสองได้ดี โดยพิสดาร จำแนกได้ดี คล่องแคล่วดี วินิจฉัย เรียบร้อย โดยสุตตะ โดยอนุพยัญชนะ และ ๖. มีพรรษาได้ ๑๐ หรือพรรษาเกิน ๑๐ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ นี้แล พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึง ให้สามเณรอุปัฏฐาก.
องค์ ๖ แห่งภิกษุผู้ให้อุปสมบท ๑๖ หมวด ๑- จบ
@ ตามบาลีนับได้ ๑๔ หมวด

             เนื้อความพระไตรปิฎกเล่มที่ ๔ บรรทัดที่ ๒๕๙๒-๒๗๖๓ หน้าที่ ๑๐๖-๑๑๒. https://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=4&A=2592&Z=2763&pagebreak=0 https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=4&item=99&items=1              อ่านโดยใช้เครื่องหมาย [เลขข้อ] เป็น เกณฑ์แบ่งข้อ :- https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=4&item=99&items=1&mode=bracket              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรไทย :- https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item.php?book=4&item=99&items=1              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรโรมัน :- https://84000.org/tipitaka/read/roman_item.php?book=4&item=99&items=1              ศึกษาอรรถกถานี้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=4&i=99              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๔ https://84000.org/tipitaka/read/?index_4 https://84000.org/tipitaka/english/?index_4

อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย

บันทึก ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖. บันทึกล่าสุด ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎก ฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]