ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับภาษาไทย   บาลีอักษรไทย   บาลีอักษรโรมัน 
อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๔๐ พระอภิธรรมปิฎกเล่มที่ ๗ มหาปัฏฐานปกรณ์ ภาค ๑
             [๑๔๑๙] อนุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอนุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น
เพราะเหตุปัจจัย
             คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอนุปาทินนุปาทานิยธรรม
เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑
ที่เป็นอนุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปที่เป็นอุปาทารูป อาศัยมหาภูตรูป เกิดขึ้น
             [๑๔๒๐] อนุปาทินนอนุปาทานิยธรรม อาศัยอนุปาทินนอนุปาทานิยธรรม
เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
             คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอนุปาทินนอนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๒
อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น
             อนุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอนุปาทินนอนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น
เพราะเหตุปัจจัย
             คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นอนุปาทินนอนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น
             อนุปาทินนุปาทานิยธรรม และอนุปาทินนอนุปาทานิยธรรม อาศัยอนุปาทา-
*นิยธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
             คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอนุปาทินนอนุปาทานิยธรรม
เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น
             [๑๔๒๑] อนุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอนุปาทินนอนุปาทานิยธรรม และ
อนุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น  เพราะเหตุปัจจัย
             คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นอนุปาทินนุปาทานิยธรรมและมหาภูตรูป เกิดขึ้น
             [๑๔๒๒] อนุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอุปาทินนุปาทานิยธรรม และ
อนุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
             คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นอุปาทินนุปาทานิยธรรมและมหาภูตรูป เกิดขึ้น
             [๑๔๒๓] อุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น
เพราะอารัมมณปัจจัย
             คือ ฯลฯ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น ฯลฯ ในปฏิสนธิ-
*ขณะ ฯลฯ
             อาศัยอุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น
             อาศัยอนุปาทินนอนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย มีวาระ ๓
             [๑๔๒๔] อนุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอนุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น
เพราะอธิปติปัจจัย
             คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอนุปาทินนุปาทานิยธรรม
เกิดขึ้น อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปที่เป็นอุปาทารูป อาศัยมหาภูตรูป เกิดขึ้น
             อาศัยอนุปาทินนุปาทานิยธรรม มี ๓ นัย
             อนุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอนุปาทินนุปาทานิยธรรม และอนุปาทินน-
*อนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น เพราะอธิปติปัจจัย
             คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นอนุปาทาทินนอนุปาทานิยธรรม และมหาภูตรูป
เกิดขึ้น
             [๑๔๒๕] อุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น
เพราะอนันตรปัจจัย ฯลฯ เพราะสมนันตรปัจจัย ฯลฯ เพราะสหชาตปัจจัย ฯลฯ
             คือ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ
อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น ฯลฯ กฏัตตารูป ที่เป็นอุปาทารูป อาศัยมหาภูตรูปทั้งหลาย เกิดขึ้น
             สำหรับพวกอสัญญสัตว์ มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น กฏัตตารูป ที่
เป็นอุปาทารูป อาศัยมหาภูตรูป เกิดขึ้น
             อาศัยอุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น มี ๓ นัย
             อนุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอนุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น เพราะ
สหชาตปัจจัย
             คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์  ๑ ที่เป็นอนุปาทินนุปาทานิยธรรม
เกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูป ที่เป็นอุปาทารูป อาศัยมหาภูตรูป
ทั้งหลาย เกิดขึ้น พาหิรรูป อาหารสมุฏฐานรูป อุตุสมุฏฐานรูป ฯลฯ อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ
             อาศัยอนุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น มี ๓ นัย
             อนุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอนุปาทินนุปาทานิยธรรม และอนุปาทินนอนุ-
*ปาทานิยธรรม เกิดขึ้น
             อนุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอุปาทินนุปาทานิยธรรม และอนุปาทินนุ-
*ปาทานิยธรรม เกิดขึ้น
             [๑๔๒๖] อุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น
เพราะอัญญมัญญปัจจัย
             คือ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอุปาทินนุปาทานิยธรรม ฯลฯ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓
และหทยวัตถุ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น หทยวัตถุ อาศัยขันธ์ทั้งหลาย
เกิดขึ้น ขันธ์ทั้งหลาย อาศัยหทยวัตถุ เกิดขึ้น
             อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ มหาภูตรูป ๒ อาศัยมหาภูตรูป ๒ เกิดขึ้น
             สำหรับอสัญญสัตว์ อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ เกิดขึ้น
             อาศัยอนุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น
             คือ พาหิรรูป ฯลฯ อาหารสมุฏฐานรูป ฯลฯ อุตุสมุฏฐานรูป ฯลฯ
             อาศัยอนุปาทาทินนอนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น
             [๑๔๒๗] อาศัยอนุปาทินนุปาทานิยธรรม ฯลฯ เกิดขึ้น เพราะนิสสยปัจจัย
มี ๙ นัย
             ฯลฯ เพราะอุปนิสสยปัจจัย
             [๑๔๒๘] อุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น
เพราะปุเรชาตปัจจัย มี ๓ นัย
             [๑๔๒๙] อนุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอนุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น
เพราะอาเสวนปัจจัย
             คือ ฯลฯ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอนุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น
             อนุปาทินนอนุปาทานิยธรรม อาศัยอนุปาทินนอนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น
เพราะอาเสวนปัจจัย
             คือ ฯลฯ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอนุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น
             [๑๔๓๐] อุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น
เพราะกัมมปัจจัย มีวาระ ๙ เหมือนเหตุปัจจัย
             [๑๔๓๑] อุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น
เพราะวิปากปัจจัย มี ๓ นัย
             อนุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอนุปาทินนอนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น เพราะ
วิปากปัจจัย
             คือ ฯลฯ อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปที่เป็นอุปาทารูป อาศัย
มหาภูตรูป เกิดขึ้น
             อนุปาทินนอนุปาทานิยธรรม อาศัยอนุปาทินนอนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น
เพราะวิปากปัจจัย
             คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอนุปาทินนอนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น มีวาระ ๙
             [๑๔๓๒] อุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น
เพราะอาหารปัจจัย ฯลฯ เพราะอินทริยปัจจัย เพราะฌานปัจจัย เพราะมัคคปัจจัย
เพราะสัมปยุตตปัจจัย เพราะวิปปยุตตปัจจัย เพราะอัตถิปัจจัย เพราะนัตถิปัจจัย
เพราะวิคตปัจจัย เพราะอวิคตปัจจัย
             พึงให้พิสดารเหมือนปฏิจจวาร แห่งกุสลัตติกะ ที่ให้พิสดารแล้วโดยวิธีสาธยาย
             [๑๔๓๓] 	ในเหตุปัจจัย	มีวาระ ๙
                          ในอารัมมณปัจจัย	มี "      ๓
                          ในอธิปติปัจจัย	มี "      ๕
                          ในอนันตรปัจจัย	มี "      ๕
                          ในสมนันตรปัจจัย	มี "      ๕
                          ในสหชาตปัจจัย	มี "      ๙
                          ในอัญญมัญญปัจจัย	มี "      ๓
                          ในนิสสยปัจจัย	มี "      ๙
                          ในอุปนิสสยปัจจัย	มี "      ๓
                          ในปุเรชาตปัจจัย	มี "      ๓
                          ในอาเสวนปัจจัย	มี "      ๒
                          ในกัมมปัจจัย	มี "      ๙
                          ในวิปากปัจจัย	มี "      ๙
                          ในอาหารปัจจัย	มี "      ๙
                          ในอินทริยปัจจัย	มี "      ๙
                          ในฌานปัจจัย	มี "      ๙
                          ในมัคคปัจจัย	มี "      ๙
                          ในสัมปยุตตปัจจัย	มี "      ๓
                          ในวิปปยุตตปัจจัย	มี "      ๙
                          ในอัตถิปัจจัย	มี "      ๙
                          ในนัตถิปัจจัย	มี "      ๓
                          ในวิคตปัจจัย	มี "      ๓
                          ในอวิคตปัจจัย	มี "      ๙
                          ในอารัมมณปัจจัย กับเหตุปัจจัย	มีวาระ ๓
                          ในอวิคตปัจจัย      กับ   ฯลฯ	มี "      ๙
พึงนับเหมือนจำนวนปฏิจจวาร ในกุสลัตติกะ ที่นับไว้แล้วโดยวิธีสาธยาย
อนุโลม จบ
[๑๔๓๔] อุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอุปาทินนุปาทานิยธรรม ซึ่งเป็นอเหตุกะ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และกฏัตตารูป อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น หทยวัตถุอาศัยขันธ์ทั้งหลาย เกิดขึ้น ขันธ์ทั้งหลาย อาศัยหทยวัตถุเกิดขึ้น มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น กฏัตตารูป ที่เป็นอุปาทารูป อาศัยมหาภูตรูป เกิดขึ้น สำหรับพวกอสัญญสัตว์ มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น กฏัตตารูป ที่เป็นอุปาทารูป อาศัยมหาภูตรูป เกิดขึ้น อุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะ เหตุปัจจัย คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นอุปาทาทินนุปาทานิยธรรมซึ่งเป็นอเหตุกะ เกิดขึ้น อุปาทินนุปาทานิยธรรม และอนุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอุปาทินนุปาทา- *นิยธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอุปาทินนุปาทานิยธรรม ซึ่ง เป็นอเหตุกะ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น [๑๔๓๕] อนุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอนุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะเหตุปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอนุปาทินนุปาทานิยธรรม ซึ่งเป็นอเหตุกะ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ฯลฯ อาศัย มหาภูตรูป ๑ ที่เป็นอนุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูป ที่เป็นอุปาทารูป อาศัยมหาภูตรูป เกิดขึ้น พาหิรรูป อาหารสมุฏฐานรูป อุตุสมุฏฐานรูป ฯลฯ อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ อุปาทารูป อาศัยมหาภูตรูป โมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ อาศัยขันธ์ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ เกิดขึ้น [๑๔๓๖] อนุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอุปาทินนุปาทานิยธรรมและ อนุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะเหตุปัจจัย คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นอุปาทินนุปาทานิยธรรมซึ่งเป็นอเหตุกะและ มหาภูตรูป เกิดขึ้น [๑๔๓๗] อุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอารัมมณปัจจัย คือ ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูป อาศัยขันธ์ ที่เป็นอุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น หทยวัตถุอาศัยขันธ์ทั้งหลาย เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ สำหรับพวกอสัญญสัตว์ อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ อนุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่ เพราะอารัมมณปัจจัย คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นอุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น อนุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอนุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่ เพราะอารัมมณปัจจัย คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นอนุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ พาหิรรูป อาหารสมุฏฐานรูป อุตุสมุฏฐานรูป ฯลฯ อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ อนุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอนุปาทินนอนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่ เพราะอารัมมณปัจจัย คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นอนุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น อนุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอนุปาทินนุปาทานิยธรรม และอนุปาทินน- *อนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอารัมมณปัจจัย คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นอนุปาทินนอนุปาทานิยธรรมและมหาภูตรูป เกิดขึ้น อนุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอุปาทินนุปาทานิยธรรมและอนุปาทินนุ- *ปาทานิยธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอารัมมณปัจจัย คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นอุปาทินนุปาทานิยธรรมและมหาภูตรูป เกิดขึ้น [๑๔๓๘] อุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอธิปติปัจจัย พึงกระทำปฏิสนธิให้บริบูรณ์ มีวาระ ๓ อาศัยธรรมที่เป็นอนุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น มีวาระ ๑ อนุปาทินนอนุปาทานิยธรรม อาศัยอนุปาทินนอนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอธิปติปัจจัย คือ อธิปติธรรมที่เป็นอนุปาทินนอนุปาทานิยธรรม อาศัยขันธ์ที่เป็นอนุปาทินนอนุปา- *ทานิยธรรม เกิดขึ้น อนุปาทินนอนุปาทานิยธรรม อาศัยอุปาทินนุปาทานิยธรรม และอนุปาทิน นุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอธิปติปัจจัย คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นอุปาทินนุปาทานิยธรรมและมหาภูตรูป เกิดขึ้น [๑๔๓๙] อุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอนันตรปัจจัย ฯลฯ ไม่ใช่เพราะสมนันตรปัจจัย ไม่ใช่เพราะอัญญมัญญ- *ปัจจัย ไม่ใช่เพราะอุปนิสสยปัจจัย ไม่ใช่เพราะปุเรชาตปัจจัย ไม่ใช่เพราะปัจฉาชาต- *ปัจจัย ไม่ใช่เพราะอาเสวนปัจจัย อนุปาทินนอนุปาทานิยธรรม อาศัยอนุปาทินนอนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอาเสวนปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอนุปาทินนอนุปาทานิยธรรมซึ่งเป็นวิบาก เกิดขึ้น ฯลฯ [๑๔๔๐] อนุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอนุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะกัมมปัจจัย คือ เจตนาที่เป็นอนุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยขันธ์ที่เป็นอนุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น พาหิรรูป อาหารสมุฏฐานรูป อุตุสมุฏฐานรูป ฯลฯ อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ [๑๔๔๑] อนุปาทินนอนุปาทานิยธรรม อาศัยอนุปาทินนอนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะกัมมปัจจัย คือ เจตนาที่เป็นอนุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยขันธ์ที่เป็นอนุปาทินนอนุปาทานิยธรรม ซึ่งเป็นกุศล เกิดขึ้น [๑๔๔๒] อุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะวิปากปัจจัย สำหรับพวกอสัญญสัตว์ อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทารูป อาศัยมหาภูตรูปทั้งหลาย ฯลฯ อนุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่ เพราะวิปากปัจจัย มีวาระ ๑ อนุปาทินนอนุปาทานิยธรรม อาศัยอนุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่ เพราะวิปากปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอนุปาทินนอนุปาทานิยธรรมซึ่งเป็นกุศล เกิดขึ้น มีวาระ ๓ อนุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอนุปาทินนอนุปาทานิยธรรม และอนุปา- *ทินนอนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะวิปากปัจจัย คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นอนุปาทินนอนุปาทานิยธรรม ซึ่งเป็นกุศล และมหาภูตรูป เกิดขึ้น [๑๔๔๓] อุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอาหารปัจจัย สำหรับพวกอสัญญสัตว์ อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ อนุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอนุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่ เพราะอาหารปัจจัย พาหิรรูป อุตุสมุฏฐานรูป ฯลฯ อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ [๑๔๔๔] อุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอินทริยปัจจัย สำหรับพวกอสัญญสัตว์ รูปชีวิตินทรีย์ อาศัยมหาภูตรูป เกิดขึ้น [๑๔๔๕] อนุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอนุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอินทริยปัจจัย พาหิรรูป อาหารสมุฏฐานรูป อุตุสมุฏฐานรูป ฯลฯ อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ [๑๔๔๖] อุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะฌานปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยปัญจวิญญาณ ฯลฯ สำหรับพวกอสัญญสัตว์ อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ อนุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอนุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่ เพราะฌานปัจจัย พาหิรรูป อาหารสมุฏฐานรูป อุตุสมุฏฐานรูป ฯลฯ อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ [๑๔๔๗] อุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะมัคคปัจจัย คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอุปาทินนุปาทานิยธรรม ซึ่งเป็นอเหตุกะ เกิดขึ้น มีวาระ ๕ [๑๔๔๘] อุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะสัมปยุตตปัจจัย เหมือนกับปัจจัยที่ไม่ใช่อารัมมณปัจจัย [๑๔๔๙] อุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะวิปปยุตตปัจจัย คือ ในรูปภูมิ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น สำหรับพวกอสัญญสัตว์ อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ อนุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอนุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่ เพราะวิปปยุตตปัจจัย คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอนุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น พาหิรรูป อาหารสมุฏฐานรูป อุตุสมุฏฐานรูป ฯลฯ อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ อนุปาทินนอนุปาทานิยธรรม อาศัยอนุปาทินนอนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะวิปปยุตตปัจจัย คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอนุปาทินนอนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น [๑๔๕๐] อุปาทินนุปาทานิยธรรม อาศัยอุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะนัตถิปัจจัย ฯลฯ ไม่ใช่เพราะวิคตปัจจัย พึงให้พิสดารเหมือนปัจจนียวาร ในกุสลัตติกะ ที่ให้พิสดารไว้แล้ว [๑๔๕๑] ในปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย มีวาระ ๕ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อารัมมณปัจจัย มีวาระ ๖ " อธิปติปัจจัย มี " ๖ " อนันตรปัจจัย มี " ๖ " สมนันตรปัจจัย มี " ๖ " อัญญมัญญปัจจัย มี " ๖ " อุปนิสสยปัจจัย มี " ๖ " ปุเรชาตปัจจัย มี " ๗ " ปัจฉาชาตปัจจัย มี " ๙ " อาเสวนปัจจัย มี " ๙ " กัมมปัจจัย มี " ๓ " วิปากปัจจัย มี " ๖ " อาหารปัจจัย มี " ๒ " อินทริยปัจจัย มี " ๒ " ฌานปัจจัย มี " ๒ ในปัจจัยที่ไม่ใช่มัคคปัจจัย มีวาระ ๕ " สัมปยุตตปัจจัย มี " ๖ " วิปปยุตตปัจจัย มี " ๓ " นัตถิปัจจัย มี " ๖ " วิคตปัจจัย มี " ๖ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อารัมมณปัจจัย กับปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย มีวาระ ๔ ฯลฯ ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มีวาระ ๔ พึงนับเหมือนจำนวนในกุสลัตติกะ
ปัจจนียะ จบ
[๑๔๕๒] ในปัจจัยที่ไม่ใช่อารัมมณปัจจัย กับเหตุปัจจัย มีวาระ ๖ ฯลฯ ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มีวาระ ๖ พึงนับเหมือนจำนวนอนุโลมปัจจนียะ ในกุสลัตติกะ
อนุโลมปัจจนียะ จบ
[๑๔๕๓] ในอารัมมณปัจจัย กับปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย มีวาระ ๒ ฯลฯ ในอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มีวาระ ๕ พึงนับเหมือนจำนวนปัจจนียานุโลม ในกุสลัตติกะ
ปัจจนียานุโลม จบ
ปฏิจจวาร จบ
สหชาตวาร
[๑๔๕๔] อุปาทินนุปาทานิยธรรม ที่เกิดร่วมกับอุปาทินนุปาทานิยธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย ปฏิจจวารก็ดี สหชาตวารก็ดี เหมือนกัน
สหชาตวาร จบ

             เนื้อความพระไตรปิฎกเล่มที่ ๔๐ บรรทัดที่ ๑๘๒๓๔-๑๘๕๒๓ หน้าที่ ๗๒๓-๗๓๔. https://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=40&A=18234&Z=18523&pagebreak=0 https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=40&item=1419&items=36              อ่านโดยใช้เครื่องหมาย [เลขข้อ] เป็น เกณฑ์แบ่งข้อ :- https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=40&item=1419&items=36&mode=bracket              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรไทย :- https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item.php?book=40&item=1419&items=36              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรโรมัน :- https://84000.org/tipitaka/read/roman_item.php?book=40&item=1419&items=36              ศึกษาอรรถกถานี้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=40&i=1419              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๔๐ https://84000.org/tipitaka/read/?index_40 https://84000.org/tipitaka/english/?index_40

อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย

บันทึก ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖. บันทึกล่าสุด ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎก ฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]