ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับภาษาไทย   บาลีอักษรไทย   บาลีอักษรโรมัน 
อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๔๓ พระอภิธรรมปิฎกเล่มที่ ๑๐ ปัฏฐานปกรณ์ ภาค ๔
             [๒๙๓] ธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัยอุปาทาธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
             คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ทั้งหลายที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัยหทัยวัตถุ.
             ธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
             คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม
ขันธ์ ๒ ฯลฯ
             ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูปที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่ใช่
อุปาทาธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ มหาภูตรูป ๑ ฯลฯ มหาภูตรูป ๒ อาศัยมหาภูตรูป ๒.
             อุปาทาธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
             คือ อุปาทาจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม
             ในปฏิสนธิขณะ อุปาทาจิตตสมุฏฐานรูป กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทารูป อาศัยมหาภูตรูป
ทั้งหลาย.
             อุปาทาธรรม และธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม เกิดขึ้น
เพราะเหตุปัจจัย
             คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปที่เป็นอุปาทาธรรม และไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัยขันธ์
๑ ที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ ปฏิสนธิ.
             ธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัยอุปาทาธรรม และธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม เกิดขึ้น
เพราะเหตุปัจจัย
             คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม และหทัยวัตถุ ขันธ์
๒ ฯลฯ.
             [๒๙๔] ธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัยอุปาทาธรรม เกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย
             คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ทั้งหลายที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัยหทัยวัตถุ.
             ธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม เกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย
             คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑  ที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ
             ธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัยอุปาทาธรรม และธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม เกิดขึ้น
เพราะอารัมมณปัจจัย.
             คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑  ที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม และหทัยวัตถุ
ขันธ์ ๒ ฯลฯ.
             [๒๙๕] ธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม เกิดขึ้น เพราะ
อธิปติปัจจัย
             คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม
ขันธ์ ๒ ฯลฯ.
             อุปาทาธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม เกิดขึ้น เพราะอธิปติปัจจัย
             คือ อุปาทาจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ทั้งหลายที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม
             อุปาทาธรรม และธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม เกิดขึ้น
เพราะอธิปติปัจจัย
             คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปที่เป็นอุปาทาธรรม และไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัย
ขันธ์ ๑ ที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ.
             ฯลฯ เพราะอนันตรปัจจัย มี ๓ นัย เพราะสมนันตรปัจจัย มี ๓ นัย เพราะสหชาต-
*ปัจจัย มี ๕ นัย.
             [๒๙๖] ธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัยอุปาทาธรรม เกิดขึ้น เพราะอัญญมัญญปัจจัย
             คือในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ทั้งหลายที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัยหทัยวัตถุ.
             ธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม เกิดขึ้น เพราะอัญญมัญญปัจจัย
             คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ มหาภูตรูป ๑ ฯลฯ
             ส่วนพวกสัญญสัตว์ทั้งหลาย มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ มหาภูตรูป ๒ อาศัย
มหาภูตรูป ๒.
             ธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม เกิดขึ้น เพราะอัญญมัญญปัจจัย
             คือ ในปฏิสนธิขณะ หทัยวัตถุ อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม.
             อุปาทาธรรม และธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม เกิดขึ้น
เพราะอัญญมัญญปัจจัย
             คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และหทัยวัตถุ อาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม
ขันธ์ ๒ ฯลฯ.
             ธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัยอุปาทาธรรม และธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม เกิดขึ้น
เพราะอัญญมัญญปัจจัย
             คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่ใช่อุปาทาธรรมและหทัยวัตถุ ขันธ์
๒ ฯลฯ.
             [๒๙๗] 	ในเหตุปัจจัย    	มีวาระ  ๕
                          ในอารัมมณปัจจัย	มี  "     ๓
                          ในอธิปติปัจจัย	มี  "     ๓
                          ในอนันตรปัจจัย	มีวาระ  ๓
                          ในสมนันตรปัจจัย	มี  "     ๓
                          ในสหชาตปัจจัย	มี  "     ๕
                          ในอัญญมัญญปัจจัย	มี  "     ๕
                          ในนิสสยปัจจัย	มี  "     ๕
                          ในอุปนิสสยปัจจัย	มี  "     ๓
                          ในปุเรชาตปัจจัย	มี  "     ๑
                          ในอาเสวนปัจจัย	มี  "     ๑
                          ในกัมมปัจจัย   	มี  "     ๕
                          ในวิปากปัจจัย	มี  "     ๕
                          ในปัจจัยทั้งปวง	มี  "     ๕
                          ในสัมปยุตตปัจจัย	มี  "     ๓
                          ในวิปปยุตตปัจจัย	มี  "     ๕
                          ในอัตถิปัจจัย	มี  "     ๕
                          ในนัตถิปัจจัย	มี  "     ๓
                          ในวิคตปัจจัย   	มี  "     ๓
                          ในอวิคตปัจจัย	มี  "     ๕.
             [๒๙๘] ธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัยอุปาทาธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะเหตุปัจจัย
             คือ ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ ขันธ์ทั้งหลายที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัยหทัยวัตถุ.
             ธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะเหตุ-
*ปัจจัย
             คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่ใช่อุปาทา
ธรรม ซึ่งเป็นอเหตุกะ ขันธ์ ๒ ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ มหาภูตรูป ๑ ฯลฯ.
             ส่วนพวกอสัญญสัตว์ทั้งหลาย มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ มหาภูตรูป ๒ อาศัย
มหาภูตรูป ๒.
             อุปาทาธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะเหตุปัจจัย
             คือ อุปาทาจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม ซึ่งเป็นอเหตุกะ
             ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ อุปาทาจิตตสมุฏฐานรูป กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูป อาศัย
มหาภูตรูปทั้งหลาย ตลอดถึงอสัญญสัตว์.
             อุปาทาธรรม และธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม เกิดขึ้น
ไม่ใช่เพราะเหตุปัจจัย
             คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปที่เป็นอุปาทาธรรม และไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัย
ขันธ์ ๑ ที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม ซึ่งเป็นอเหตุกะ อเหตุกปฏิสนธิ.
             ธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัยอุปาทาธรรม และธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม เกิดขึ้น
ไม่ใช่เพราะเหตุปัจจัย
             คือ ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม และหทัยวัตถุ
ขันธ์ ๒ ฯลฯ.
             [๒๙๙] ธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรมเกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะ
อารัมมณปัจจัย
             คือ จิตตสมุฏฐานรูปที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม
             ในปฏิสนธิขณะ มหาภูตรูป ๑ ตลอดถึงอสัญญสัตว์ มหาภูตรูป ๒ อาศัยมหาภูตรูป ๒.
             อุปาทาธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอารัมมณปัจจัย
             คือ อุปาทาจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม
             ในปฏิสนธิขณะ อุปาทาจิตตสมุฏฐานรูป กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทารูป อาศัยมหาภูตรูป
ทั้งหลาย ตลอดถึงอสัญญสัตว์.
             อุปาทาธรรม และธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม เกิดขึ้น
ไม่ใช่เพราะอารัมมณปัจจัย
             คือ จิตตสมุฏฐานรูปที่เป็นอุปาทาธรรม และไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัยขันธ์ทั้งหลาย
ที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม ปฏิสนธิ.
             ฯลฯ ไม่ใช่เพราะอธิปติปัจจัย มี ๕ นัย ไม่ใช่เพราะอนันตรปัจจัย มี ๓ นัย. ฯลฯ
ไม่ใช่เพราะอุปนิสสยปัจจัย ไม่ใช่เพราะปุเรชาตปัจจัย มี ๕ นัย ไม่ใช่เพราะปัจฉาชาตปัจจัย มี
๕ นัย ไม่ใช่เพราะอาเสวนปัจจัย มี ๕ นัย.
             [๓๐๐] ธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะ
กัมมปัจจัย
             คือ สัมปยุตตเจตนา อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม พาหิรรูป ฯลฯ อาหาร-
*สมุฏฐานรูป ฯลฯ อุตุสมุฏฐานรูป ฯลฯ มหาภูตรูป ๒ อาศัยมหาภูตรูป ๒.
             อุปาทาธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะกัมมปัจจัย
             คือ อุปาทารูป อาศัยพาหิร ฯลฯ อาหารสมุฏฐาน ฯลฯ อุตุสมุฏฐาน มหาภูตรูป
ทั้งหลาย
             อุปาทาธรรม และธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม เกิดขึ้น
ไม่ใช่เพราะกัมมปัจจัย
             คือ มหาภูตรูป ๓ และอุปาทารูป อาศัยมหาภูตรูป ๑ ที่เป็นพาหิร ฯลฯ อาหาร-
*สมุฏฐาน ฯลฯ อุตุสมุฏฐาน ฯลฯ.
             [๓๐๑] ธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่
เพราะวิปากปัจจัย
             คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่ใช่อุปาทา-
*ธรรม มหาภูตรูป ๑ ตลอดอสัญญสัตว์ในธรรมที่มีธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม เป็นมูล มี ๓ นัย
อย่างนี้.
             [๓๐๒] ธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะ
อาหารปัจจัย
             คือ พาหิรรูป อุตุสมุฏฐานรูป ฯลฯ
             ส่วนพวกอสัญญสัตว์ทั้งหลาย มหาภูตรูป ๑ ฯลฯ มหาภูตรูป ๒ อาศัยมหาภูตรูป ๒.
             อุปาทาธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอาหารปัจจัย
             คือ พาหิรรูป ฯลฯ อุตุสมุฏฐานรูป ฯลฯ
             ส่วนพวกอสัญญสัตว์ทั้งหลาย อุปาทายรูป อาศัยมหาภูตรูปทั้งหลาย.
             อุปาทาธรรม และธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม เกิดขึ้น
ไม่ใช่เพราะอาหารปัจจัย
             คือ มหาภูตรูป ๓ และอุปาทารูป อาศัยมหาภูตรูป ๑ ที่เป็นพาหิรรูป อุตุสมุฏฐานรูป.
             [๓๐๓] ธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะ
อินทริยปัจจัย
             คือ มหาภูตรูป ๑ ที่เป็นพาหิรรูป อาหารสมุฏฐานรูป อุตุสมุฏฐานรูป ฯลฯ.
             อุปาทาธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอินทริยปัจจัย
             คือ พาหิรมหาภูตรูป ฯลฯ อาหารสมุฏฐานรูป ฯลฯ อุตุสมุฏฐานรูป ฯลฯ
             ส่วนพวกอสัญญสัตว์ทั้งหลาย รูปชีวิตินทรีย์ อาศัยมหาภูตรูปทั้งหลาย.
             อุปาทาธรรม และธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม เกิดขึ้น
ไม่ใช่เพราะอินทริยปัจจัย
             คือ มหาภูตรูป ๑ ที่เป็นพาหิรรูป อาหารสมุฏฐานรูป อุตุสมุฏฐานรูป ฯลฯ.
             [๓๐๔] ธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่
เพราะฌานปัจจัย
             คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยปัญจวิญญาณ ขันธ์ ๒ ฯลฯ พาหิรรูป ฯลฯ
อาหารสมุฏฐานรูป ฯลฯ อุตุสมุฏฐานรูป ฯลฯ
             ส่วนพวกอสัญญสัตว์ทั้งหลาย มหาภูตรูป ๒ อาศัยมหาภูตรูป ๒.
             อุปาทาธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะฌานปัจจัย
             คือ พาหิรรูป ฯลฯ อาหารสมุฏฐานรูป ฯลฯ อุตุสมุฏฐานรูป ฯลฯ
             ส่วนพวกอสัญญสัตว์ทั้งหลาย อุปาทากฏัตตารูป อาศัยมหาภูตรูปทั้งหลาย.
             อุปาทาธรรม และธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม เกิดขึ้น
ไม่ใช่เพราะฌานปัจจัย
             คือ พาหิรรูป ฯลฯ อาหารสมุฏฐานรูป ฯลฯ อุตุสมุฏฐานรูป ฯลฯ
             ส่วนพวกอสัญญสัตว์ทั้งหลาย มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ อุปาทากฏัตตารูปที่
เป็นอุปาทารูป อาศัยมหาภูตรูปทั้งหลาย.
             [๓๐๕] ธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัยอุปาทาธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะมัคคปัจจัย
มี ๕ นัย.
             ฯลฯ ไม่ใช่เพราะสัมปยุตตปัจจัย มี ๓ นัย.
             [๓๐๖] ธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะ
วิปปยุตตปัจจัย
             คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ พาหิรรูป
ฯลฯ อาหารสมุฏฐานรูป ฯลฯ อุตุสมุฏฐานรูป ฯลฯ
             ส่วนพวกอสัญญสัตว์ทั้งหลาย มหาภูตรูป ๑ ฯลฯ.
             อุปาทาธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะวิปปยุตตปัจจัย
             คือ พาหิรรูป ฯลฯ อาหารสมุฏฐานรูป ฯลฯ อุตุสมุฏฐานรูป ฯลฯ
             ส่วนพวกอสัญญสัตว์ทั้งหลาย อุปาทากฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูป อาศัยมหาภูตรูป
ทั้งหลาย.
             อุปาทาธรรม และธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อุปาทาธรรม เกิดขึ้น
ไม่ใช่เพราะวิปปยุตตปัจจัย
             คือ มหาภูตรูป ๓ และอุปาทายรูป อาศัยมหาภูตรูป ๑ ที่เป็นพาหิรรูป อาหารสมุฏ-
*ฐานรูป อุตุสมุฏฐานรูป มหาภูตรูป ๒ อาศัยมหาภูตรูป ๒
             ส่วนพวกอสัญญสัตว์ทั้งหลาย มหาภูตรูป ๓ และกฏัตตารูป ที่เป็นอุปาทายรูป อาศัย
มหาภูตรูป ๑ มหาภูตรูป ๒ และกฏัตตารูป ที่เป็นอุปาทายรูป อาศัยมหาภูตรูป ๒
             ฯลฯ ไม่ใช่เพราะนัตถิปัจจัย ไม่ใช่เพราะวิคตปัจจัย.
             [๓๐๗] 	ในปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย    	มีวาระ   ๕
                          ในปัจจัยที่ไม่ใช่อารัมมณปัจจัย	มี  "       ๓
                          ในปัจจัยที่ไม่ใช่อธิปติปัจจัย	มี  "       ๕
                          ในปัจจัยที่ไม่ใช่อนันตรปัจจัย	มี  "       ๓
                          ในปัจจัยที่ไม่ใช่สมนันตรปัจจัย	มี  "       ๓
                          ในปัจจัยที่ไม่ใช่อัญญมัญญปัจจัย	มี  "       ๓
                          ในปัจจัยที่ไม่ใช่อุปนิสสยปัจจัย	มี  "       ๓
                          ในปัจจัยที่ไม่ใช่ปุเรชาตปัจจัย	มี  "       ๕
                          ในปัจจัยที่ไม่ใช่ปัจฉาชาตปัจจัย	มี  "       ๕
                          ในปัจจัยที่ไม่ใช่อาเสวนปัจจัย	มี  "       ๕
                          ในปัจจัยที่ไม่ใช่กัมมปัจจัย	มี  "       ๓
                          ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิปากปัจจัย	มี  "       ๓
                          ในปัจจัยที่ไม่ใช่อาหารปัจจัย	มี  "       ๓
                          ในปัจจัยที่ไม่ใช่อินทริยปัจจัย	มี  "       ๓
                          ในปัจจัยที่ไม่ใช่ฌานปัจจัย	มี  "       ๓
                          ในปัจจัยที่ไม่ใช่มัคคปัจจัย	มี  "       ๕
                          ในปัจจัยที่ไม่ใช่สัมปยุตตปัจจัย	มี  "       ๓
                          ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิปปยุตตปัจจัย		มีวาระ   ๓
                          ในปัจจัยที่ไม่ใช่นัตถิปัจจัย		มี  "       ๓
                          ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิคตปัจจัย		มี  "       ๓.
             [๓๐๘] 	ในปัจจัยที่ไม่ใช่อารัมมณปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี  "      ๓
                          ในปัจจัยที่ไม่ใช่อธิปติปัจจัย	กับ ฯลฯ	มี  "       ๕
                          ในปัจจัยที่ไม่ใช่กัมมปัจจัย	กับ ฯลฯ	มี  "       ๑
                          ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิปากปัจจัย	กับ ฯลฯ	มี  "       ๓
                          ในปัจจัยที่ไม่ใช่สัมปยุตตปัจจัย	กับ ฯลฯ	มี  "       ๓
                          ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิปปยุตตปัจจัย	กับ ฯลฯ	มี  "       ๑
                          ในปัจจัยที่ไม่ใช่นัตถิปัจจัย	กับ ฯลฯ	มี  "       ๓
                          ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิคตปัจจัย	กับ ฯลฯ	มี  "       ๓.
             [๓๐๙] 	ในอารัมมณปัจจัย
                          กับปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย    	มีวาระ   ๓
                          ในอนันตรปัจจัย	กับ ฯลฯ	มี  "       ๓
                          ในสมนันตรปัจจัย	กับ ฯลฯ	มี  "       ๓
                          ในสหชาตปัจจัย	กับ ฯลฯ	มี  "       ๕
                          ในอัญญมัญญปัจจัย	กับ ฯลฯ	มี  "       ๕
                          ในนิสสยปัจจัย	กับ ฯลฯ	มี  "       ๕
                          ในอุปนิสสยปัจจัย	กับ ฯลฯ	มี  "       ๓
                          ในปุเรชาตปัจจัย	กับ ฯลฯ	มี  "       ๑
                          ในอาเสวนปัจจัย	กับ ฯลฯ	มี  "       ๑
                          ในมัคคปัจจัย	กับ ฯลฯ	มี  "       ๑
                          ในอวิคตปัจจัย	กับ ฯลฯ	มี  "       ๕.
สหชาตวาร เหมือนกับปฏิจจวาร.
ปัจจยวาร

             เนื้อความพระไตรปิฎกเล่มที่ ๔๓ บรรทัดที่ ๔๙๐๐-๕๑๑๘ หน้าที่ ๑๙๑-๑๙๙. https://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=43&A=4900&Z=5118&pagebreak=0 https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=43&item=293&items=17&mode=bracket              อ่านโดยใช้เนื้อความเป็น เกณฑ์แบ่งข้อ :- https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=43&item=293&items=17              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรไทย :- https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item.php?book=43&item=293&items=17&mode=bracket              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรโรมัน :- https://84000.org/tipitaka/read/roman_item.php?book=43&item=293&items=17&mode=bracket              ศึกษาอรรถกถานี้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=43&i=293              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๔๓ https://84000.org/tipitaka/read/?index_43 https://84000.org/tipitaka/english/?index_43

อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย

บันทึก ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖. บันทึกล่าสุด ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎก ฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]