ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
 ฉบับหลวง   บาลีอักษรไทย    PaliRoman 
อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๒ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๔ มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์
ว่าด้วยสมัญญาแห่งภิกษุ
[๔๗๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนี้เรียกว่า สมณะบ้าง พราหมณ์บ้าง นหาตกะบ้าง เวทคูบ้าง โสตติยะบ้าง อริยะบ้าง อรหันต์บ้าง. ก็อย่างไร ภิกษุจึงชื่อว่า สมณะ? เหล่าอกุศลธรรมอันลามก อันให้เศร้าหมอง นำให้ เกิดในภพใหม่ ให้มีความกระวนกระวาย มีวิบากเป็นทุกข์ ให้มีชาติ ชรา มรณะต่อไป อันภิกษุ นั้นระงับเสียแล้ว อย่างนี้แล ภิกษุชื่อว่า สมณะ. ก็อย่างไร ภิกษุจึงชื่อว่า พราหมณ์? เหล่าอกุศลธรรมอันลามก อันให้เศร้าหมอง นำให้ เกิดในภพใหม่ ให้มีความกระวนกระวาย มีวิบากเป็นทุกข์ ให้มี ชาติ ชรา มรณะต่อไป อันภิกษุนั้นลอยเสียแล้ว อย่างนี้แล ภิกษุชื่อว่าพราหมณ์. ก็อย่างไร ภิกษุจึงชื่อว่า นหาตกะ? เหล่าอกุศลธรรมอันลามก อันให้เศร้าหมอง นำ ให้เกิดในภพใหม่ ให้มีความกระวนกระวาย มีวิบากเป็นทุกข์ ให้มีชาติ ชรา มรณะต่อไป อันภิกษุนั้นอาบล้างเสียแล้ว อย่างนี้แล ภิกษุชื่อว่านหาตกะ. ก็อย่างไร ภิกษุจึงชื่อว่า เวทคู? เหล่าอกุศลธรรมอันลามก อันให้เศร้าหมอง นำให้ เกิดในภพใหม่ ให้มีความกระวนกระวาย มีวิบากเป็นทุกข์ ให้มีชาติ ชรา มรณะต่อไป อัน ภิกษุนั้นรู้แจ้งแล้ว อย่างนี้แล ภิกษุชื่อว่าเวทคู. ก็อย่างไร ภิกษุจึงชื่อว่าโสตติยะ? เหล่าอกุศลธรรมอันลามก อันให้เศร้าหมอง นำให้ เกิดในภพใหม่ ให้มีความกระวนกระวาย มีวิบากเป็นทุกข์ ให้มีชาติ ชรา มรณะต่อไป อัน ภิกษุนั้นให้หลับไปหมดแล้ว อย่างนี้แล ภิกษุชื่อว่าโสตติยะ. ก็อย่างไร ภิกษุจึงชื่อว่าอริยะ? เหล่าอกุศลธรรมอันลามก อันให้เศร้าหมอง นำให้ เกิดในภพใหม่ ให้มีความกระวนกระวาย มีวิบากเป็นทุกข์ ให้มีชาติ ชรา มรณะต่อไป ห่างไกลภิกษุนั้น อย่างนี้แล ภิกษุชื่อว่าอริยะ. ก็อย่างไร ภิกษุจึงชื่อว่าอรหันต์? เหล่าอกุศลธรรมอันลามก อันให้เศร้าหมอง นำให้ เกิดในภพใหม่ ให้มีความกระวนกระวาย มีวิบากเป็นทุกข์ ให้มีชาติ ชรา มรณะต่อไป อัน ภิกษุนั้นกำจัดเสียแล้ว อย่างนี้แล ภิกษุชื่อว่าอรหันต์. พระผู้มีพระภาคตรัสพระพุทธพจน์นี้แล้ว ภิกษุนั้นชื่นชม ยินดีพระภาษิตของพระผู้มี พระภาค ฉะนี้แล.
จบ มหาอัสสปุรสูตรที่ ๙
-----------------------------------------------------


             เนื้อความพระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๒ บรรทัดที่ ๘๗๑๖-๘๗๔๓ หน้าที่ ๓๕๗-๓๕๘. http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=12&A=8716&Z=8743&pagebreak=0 http://84000.org/tipitaka/read/byitem_s.php?book=12&item=478&items=1              อ่านโดยใช้เครื่องหมาย [เลขข้อ] เป็น เกณฑ์แบ่งข้อ :- http://84000.org/tipitaka/read/byitem_s.php?book=12&item=478&items=1&mode=bracket              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลี อักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pali/pali_item_s.php?book=12&item=478&items=1              อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับภาษาบาลีอักษรโรมัน :- http://84000.org/tipitaka/read/roman_item_s.php?book=12&item=478&items=1              ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=12&i=478              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๒ http://84000.org/tipitaka/read/?index_12

อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย

บันทึก ๑๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :