บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
ฉบับหลวง บาลีอักษรไทย PaliRoman |
ตติยสักกนมัสนสูตรที่ ๑๐ [๙๓๘] สาวัตถีนิทาน ฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว ท้าวสักกะจอมเทพได้ตรัสกะมาตลี- สังคาหกเทพบุตรว่า ดูกรสหายมาตลี ท่านจงเตรียมจัดรถม้าอาชาไนยซึ่งเทียมด้วย ม้าพันตัว เราจะไปยังพื้นที่อุทยานเพื่อชมภูมิภาคอันงดงาม ดูกรภิกษุทั้งหลาย มาตลีสังคาหกเทพบุตรทูลรับพระดำรัสท้าวสักกะจอมเทพว่า ขอเดชะ ขอความ เจริญจงมีแด่พระองค์ ดังนี้แล้ว จัดเตรียมรถม้าอาชาไนยซึ่งเทียมด้วยม้าพันตัว เสร็จแล้ว กราบทูลแก่ท้าวสักกะจอมเทพว่า ข้าแต่พระองค์ผู้นิรทุกข์ รถม้า อาชาไนยซึ่งเทียมด้วยม้าพันตัวสำหรับพระองค์ จัดเตรียมไว้เสร็จแล้ว ขอพระองค์ ทรงทราบกาลอันควรในบัดนี้เถิด ดูกรภิกษุทั้งหลาย ได้ทราบว่า ครั้งนั้นแล ท้าวสักกะจอมเทพขณะเสด็จลงจากเวชยันตปราสาท ทรงประนมอัญชลีน้อม นมัสการพระภิกษุสงฆ์อยู่ ฯ [๙๓๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้นแล มาตลีสังคาหกเทพบุตรได้ทูลถาม ท้าวสักกะจอมเทพด้วยคาถาว่า นรชนผู้นอนทับกายอันเปื่อยเน่าเหล่านี้ พึงนอบน้อมพระองค์ นั่นเทียว พวกเขาจมอยู่ในซากอันเต็มไปด้วยความหิวและ ความกระหาย ข้าแต่ท้าววาสวะ เพราะเหตุไรหนอพระองค์ จึงทรงโปรดปรานท่านผู้ไม่มีเรือนเหล่านั้น ขอพระองค์ตรัส บอกมรรยาทของฤาษีทั้งหลาย ข้าพระองค์ขอฟังพระดำรัสของ พระองค์ ฯ [๙๔๐] ท้าวสักกะตรัสตอบว่า ดูกรมาตลี เราโปรดปรานมรรยาทของท่านผู้ไม่มีเรือนเหล่านั้น ท่านเหล่านั้นเป็นผู้ไม่มีความห่วงใยในบ้านที่ท่านหลีกออกไป บุคคลผู้จะเก็บข้าวเปลือกของท่านเหล่านั้นไว้ในฉางก็ไม่มี ผู้ จะเก็บไว้ในหม้อก็ไม่มี ผู้จะเก็บไว้ในกระเช้าก็ไม่มี ท่าน เหล่านั้นมีวัตรอันงาม แสวงหาอาหารที่ผู้อื่นทำเสร็จแล้ว เยียวยาอัตภาพด้วยอาหารนั้น ท่านเหล่านั้นเป็นนักปราชญ์ กล่าวคำสุภาษิต เป็นผู้นิ่งประพฤติสม่ำเสมอ ดูกรมาตลี พวก เทวดายังโกรธกับพวกอสูร และสัตว์เป็นอันมากยังมีโกรธกัน และกัน เมื่อเขายังโกรธกัน ท่านเหล่านั้นไม่โกรธ ดับเสีย ได้ในบุคคลผู้มีอาชญาในตน เมื่อชนทั้งหลายยังมีความถือมั่น ท่านเหล่านั้นไม่ถือมั่น ดูกรมาตลี เราน้อมนมัสการท่าน เหล่านั้น ฯ [๙๔๑] มา. ข้าแต่ท้าวสักกะ ได้ยินว่า พระองค์ทรงนอบน้อม บุคคลเหล่าใด บุคคลเหล่านั้นเป็นผู้ประเสริฐที่สุดในโลก เทียว ข้าแต่ท้าววาสวะ พระองค์ทรงนอบน้อมบุคคลเหล่าใด แม้ข้าพระองค์ก็ขอนอบน้อมบุคคลเหล่านั้น ฯ [๙๔๒] ท้าวมฆวาสุชัมบดีเทวราช ผู้เป็นประมุขของเทวดา ทั้งหลาย ครั้นตรัสดังนี้แล้วทรงน้อมนมัสการพระภิกษุสงฆ์ แล้วเสด็จขึ้นรถ ฉะนี้แล ฯจบวรรคที่ ๒ ----------------------------------------------------- รวมพระสูตรที่มีในวรรคนี้ คือ ปฐมเทวสูตร ๑ ทุติยเทวสูตร ๑ ตติยเทวสูตร ๑ ทฬิททสูตร ๑ รามเณยยกสูตร ๑ ยชมานสูตร ๑ วันทนสูตร ๑ ปฐมสักกนมัสนสูตร ๑ ทุติยสักกนมัสนสูตร ๑ ตติยสักกนมัสนสูตร ๑ ฯ----------------------------------------------------- เนื้อความพระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ บรรทัดที่ ๗๖๑๓-๗๖๕๙ หน้าที่ ๓๒๘-๓๓๐. http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=15&A=7613&Z=7659&pagebreak=0 http://84000.org/tipitaka/read/byitem_s.php?book=15&item=938&items=5 อ่านโดยใช้เครื่องหมาย [เลขข้อ] เป็น เกณฑ์แบ่งข้อ :- http://84000.org/tipitaka/read/byitem_s.php?book=15&item=938&items=5&mode=bracket อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลี อักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pali/pali_item_s.php?book=15&item=938&items=5 อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับภาษาบาลีอักษรโรมัน :- http://84000.org/tipitaka/read/roman_item_s.php?book=15&item=938&items=5 ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=15&i=938 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ http://84000.org/tipitaka/read/?index_15
บันทึก ๑๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]