ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
 ฉบับหลวง   บาลีอักษรไทย    PaliRoman 
อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ ขุททกนิกาย วิมาน-เปตวัตถุ เถร-เถรีคาถา
เถรีคาถา ทวาทสกนิบาต
ว่าด้วยคาถาสุภาษิตในทวาทสกนิบาต
อุบลวัณณาเถรีคาถา
คาถาสุภาษิตของนางอุบลวัณณาเถรี
[๔๖๕] เราทั้งสอง คือ มารดาและธิดา เป็นหญิงร่วมสามีกัน ความสลดใจขนพอง สยองเกล้ากันไม่เคยมี ได้บังเกิดแก่เรา น่าติเตียนนัก กามทั้งหลายเป็น ของไม่สะอาด มีกลิ่นเหม็น มีหนามเป็นอันมาก เพราะเป็นที่ทำให้เรา ทั้งสอง คือ มารดาและธิดาร่วมสามีเดียวกันได้ เราเห็นโทษในกาม ทั้งหลาย เห็นการออกจากกามโดยความปลอดโปร่ง เราจึงออกบวชใน ธรรมวินัยในกรุงราชคฤห์ เราระลึกถึงชาติก่อนๆ ได้ทิพยจักษุเจโตปริย- ญาณและโสตธาตุ เราชำระให้หมดจดแล้ว แม้ฤทธิ์เราก็ทำให้แจ้งแล้ว ความสิ้นอาสวะเราบรรลุแล้ว อภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งแล้ว คำสั่งสอน ของพระพุทธเจ้าเราได้ทำเสร็จแล้ว ในเวลาที่พระพุทธเจ้าจะทรงกระทำ ยมกปาฏิหาริย์ เราได้เนรมิตรถอันเทียมด้วยม้า ๔ ตัวด้วยฤทธิ์ เข้าไป ถวายบังคมพระบาทของพระพุทธเจ้าผู้มีศิริ เป็นที่พึ่งของสัตว์โลกแล้ว ได้ประดิษฐานอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง. มารกล่าวว่า ท่านผู้เดียวเข้าไปอาศัยป่าไม้รัง อันมีดอกบานสะพรั่งตลอดยอด ยืนอยู่ ที่โคน ท่านไม่มีใครเป็นเพื่อนสอง ท่านไม่กลัวความพาลของนักเลง ทั้งหลายหรือ. พระอุบลวัณณาเถรีกล่าวว่า ถึงจะมีพวกนักเลงตั้งร้อยตั้งพันเช่นนี้ มาห้อมล้อม แม้เพียงขนของเรา ก็ไม่พึงหวั่นไหวสั่นสะเทือน ดูกรมาร ท่านผู้เดียวจักทำอะไรเราได้เล่า เรานั้นจักหายไป ณ บัดนี้ก็ได้หรือจะเข้าไปในท้องท่านก็ได้ จะยืนอยู่ใน ระหว่างคิ้วท่านก็ได้ ท่านจักไม่เห็นเรายืนอยู่ เราเป็นผู้ชำนาญในทางจิต อบรมอิทธิบาทดีแล้ว ได้กระทำให้แจ้งอภิญญา ๖ คำสั่งสอนของพระ- พุทธเจ้าเราได้ทำเสร็จแล้ว กามทั้งหลายเปรียบดังหอกและหลาว เป็น ของครอบงำขันธ์ทั้งหลายไว้ บัดนี้ความยินดีในกามที่ท่านพูดถึงนั้น ไม่มีแก่เรา เรากำจัดความเพลิดเพลินในสิ่งทั้งปวงได้แล้ว ทำลายกอง แห่งความมืดแล้ว ดูกรมาร ท่านจงรู้อย่างนี้เถิด ถึงตัวท่านเราก็กำจัด เสียแล้ว.
จบ ทวาทสกนิบาต.
-----------------------------------------------------


             เนื้อความพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ บรรทัดที่ ๙๕๓๖-๙๕๖๘ หน้าที่ ๔๑๔-๔๑๕. http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=26&A=9536&Z=9568&pagebreak=0 http://84000.org/tipitaka/read/byitem_s.php?book=26&item=465&items=1              อ่านโดยใช้เครื่องหมาย [เลขข้อ] เป็น เกณฑ์แบ่งข้อ :- http://84000.org/tipitaka/read/byitem_s.php?book=26&item=465&items=1&mode=bracket              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลี อักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pali/pali_item_s.php?book=26&item=465&items=1              อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับภาษาบาลีอักษรโรมัน :- http://84000.org/tipitaka/read/roman_item_s.php?book=26&item=465&items=1              ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=26&i=465              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ http://84000.org/tipitaka/read/?index_26

อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย

บันทึก ๑๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :