ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
 ฉบับหลวง   บาลีอักษรไทย    PaliRoman 
อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๒ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๔ ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑
             [๓๓๑] 	เมื่อพระผู้มีพระภาคพระนามว่าสิทธัตถะ เชษฐบุรุษของโลก ผู้คงที่ ทรง
                          ประกาศสัจจะ ยังสัตว์ทั้งหลายให้ดับอยู่ เรานำดอกบัวซึ่งเกิดในน้ำ เป็น
                          ที่รื่นรมย์ใจ มาเป็นทำเป็นฉัตรดอกไม้บูชาแด่พระพุทธเจ้า ก็พระศาสดา
                          พระนามว่าสิทธัตถะ ทรงรู้แจ้งโลก เป็นผู้สมควรรับเครื่องบูชา ประทับอยู่
                          ณ ท่ามกลางภิกษุสงฆ์ ได้ตรัสคาถานี้ว่า ผู้ใดยังจิตให้เลื่อมใส ได้กั้นฉัตร
                          ดอกไม้ให้เรา ด้วยความเลื่อมใสแห่งจิตนั้น ผู้นั้นจะไม่ไปสู่ทุคติเลย
                          พระสัมพุทธเจ้าพระนามว่าสิทธัตถะ ผู้เป็นนายกของโลก ครั้นตรัสดังนี้
                          แล้ว ทรงส่งบริษัทไปแล้วเสด็จเหาะขึ้นนภากาศ เมื่อพระพุทธเจ้าผู้
                          ประเสริฐกว่านระ เสด็จลุกขึ้น แม้ฉัตรขาวก็ตั้งขึ้น ฉัตรอันอุดมไป
                          ข้างหน้าแห่งพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด ในกัลปที่ ๙๔ แต่กัลปนี้ เราได้
                          บูชาพระพุทธเจ้าด้วยฉัตรใด ด้วยการบูชานั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้
                          เป็นผลแห่งการบูชาพระพุทธเจ้าด้วยฉัตรดอกไม้ ในกัลปที่ ๗๔ แต่กัลป
                          นี้ ได้มีพระเจ้าจักรพรรดิ ๘ พระองค์ ทรงมีพระนามว่าชลสิขะ ทรง
                          สมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ มีพลมาก คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิ-
                          สัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว พระพุทธ-
                          ศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
             ทราบว่า ท่านพระปุปผฉัตติยเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.
จบ ปุปผฉัตติยเถราปทาน.
สปริวารฉัตตทายกเถราปทานที่ ๑๐ (๓๓๐)
ว่าด้วยผลแห่งการถวายฉัตร


             เนื้อความพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๒ บรรทัดที่ ๖๗๘๖-๖๘๐๕ หน้าที่ ๓๑๓-๓๑๔. http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=32&A=6786&Z=6805&pagebreak=0 http://84000.org/tipitaka/read/byitem_s.php?book=32&item=331&items=1&mode=bracket              อ่านโดยใช้เนื้อความเป็น เกณฑ์แบ่งข้อ :- http://84000.org/tipitaka/read/byitem_s.php?book=32&item=331&items=1              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลี อักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pali/pali_item_s.php?book=32&item=331&items=1&mode=bracket              อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับภาษาบาลีอักษรโรมัน :- http://84000.org/tipitaka/read/roman_item_s.php?book=32&item=331&items=1&mode=bracket              ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=32&i=331              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๒ http://84000.org/tipitaka/read/?index_32

อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย

บันทึก ๑๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :