ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๒ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๔ [ฉบับมหาจุฬาฯ] ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑
๗. อุปเสนวังคันตปุตตเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระอุปเสนวังคันตบุตรเถระ
(พระอุปเสนวังคันตบุตรเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า) [๘๖] ข้าพเจ้าได้เข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคพระนามว่าปทุมุตตระ ผู้เจริญที่สุดในโลก ผู้องอาจกว่านรชน ผู้สูงสุดแห่งนรชนพระองค์นั้น ประทับนั่งอยู่ ณ เงื้อมเขา [๘๗] ครั้งนั้น ข้าพเจ้าได้เห็นดอกกรรณิการ์กำลังบาน จึงเด็ดขั้วดอกกรรณิการ์นั้นมาประดับฉัตรแล้ว บูชาพระพุทธเจ้า [๘๘] ข้าพเจ้าได้ถวายอาหารบิณฑบาต เป็นข้าวสุกชั้นพิเศษ จัดว่าเป็นโภชนะชั้นดี ได้นิมนต์สมณะ ๘ รูป เป็น ๙ รูปรวมทั้งพระพุทธเจ้า ให้ฉัน ณ สถานที่วิเวกนั้น [๘๙] พระผู้มีพระภาคผู้ทรงมีความเพียรมาก ผู้เป็นพระสยัมภู ทรงเป็นบุคคลผู้เลิศ ทรงอนุโมทนาว่า ด้วยการถวายฉัตรและการถวายข้าวสุกชั้นดีนี้ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า : ๑๑๔}

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๒. สีหาสนิยวรรค]

๗. อุปเสนวังคันตปุตตเถราปทาน

[๙๐] ด้วยจิตที่เลื่อมใสนั้น ท่านจักได้เสวยสมบัติ เขาจักเป็นจอมเทพ ครองเทวสมบัติ ๓๖ ชาติ [๙๑] จักเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๒๑ ชาติ จักเป็นพระเจ้าประเทศราชอันไพบูลย์นับชาติไม่ถ้วน [๙๒] เหล่าบัณฑิต เรียกผู้มีปัญญาเหมือนแผ่นดิน มีปัญญาดีว่าสุเมธะ ในกัปที่ ๑๐๐,๐๐๐ (นับจากกัปนี้ไป) ผู้นั้นจักสมภพในราชตระกูลโอกกากราช [๙๓] ผู้นั้นจักเป็นพระพุทธเจ้าพระนามว่าโคดม ตามพระโคตร เมื่อศาสนารุ่งเรืองอยู่ เขาจักไปเกิดเป็นมนุษย์๑- [๙๔] จักมีนามว่าอุปเสนะ เป็นสาวกของพระศาสดา จักดำรงอยู่ในตำแหน่งอันเลิศ เพราะเป็นผู้ทำให้ประชาชนรอบด้านเลื่อมใส [๙๕] อัตภาพสุดท้ายของข้าพเจ้ายังเป็นไปอยู่ ภพทั้งปวงข้าพเจ้าก็ถอนได้แล้ว ข้าพเจ้าชนะมารพร้อมทั้งพาหนะ(คือเสนามาร)แล้ว ทรงร่างกายซึ่งมีในภพสุดท้ายอยู่ [๙๖] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล ได้ทราบว่า ท่านพระอุปเสนวังคันตบุตรเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
อุปเสนวังคันตปุตตเถราปทานที่ ๗ จบ
ภาณวารที่ ๓ จบ
@เชิงอรรถ : @ คาถาที่ ๙๒-๙๓ แปลตามฉบับพม่าและ ขุ.เถร.อ. ๒/๒๒๕, ดูข้อ ๑๐๕ ถัดไปด้วย {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า : ๑๑๕}


                  เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๓๒ หน้าที่ ๑๑๔-๑๑๕. http://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=32&siri=19              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [คลิกเพื่อฟัง]                   อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=32&A=1380&Z=1403                   ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=32&i=19              พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=32&item=19&items=1              อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=50&A=435              The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=32&item=19&items=1              The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=50&A=435                   สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๒ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu32              อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://suttacentral.net/tha-ap19/en/walters



บันทึก ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :