ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๗ พระอภิธรรมปิฎกเล่มที่ ๔ [ฉบับมหาจุฬาฯ] กถาวัตถุปกรณ์

พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [๑๘. อัฏฐารสมวรรค]

๖. ฌานสังกันติกถา (๑๘๒)

๖. ฌานสังกันติกถา (๑๘๒)
ว่าด้วยการเลื่อนฌาน
[๘๑๓] สก. โยคีบุคคลเลื่อนจากฌานหนึ่งไปสู่ฌานหนึ่งได้ใช่ไหม ปร.๑- ใช่๒- สก. เลื่อนจากปฐมฌานไปสู่ตติยฌานได้ใช่ไหม ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ สก. เลื่อนจากฌานหนึ่งไปสู่ฌานหนึ่งได้ใช่ไหม ปร. ใช่ สก. เลื่อนจากทุติยฌานไปสู่จตุตถฌานได้ใช่ไหม ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ สก. เลื่อนจากปฐมฌานไปสู่ทุติยฌานได้ใช่ไหม ปร. ใช่ สก. ความนึกถึง ฯลฯ ความตั้งใจ เพื่อความเกิดขึ้นแห่งปฐมฌานก็เพื่อ ความเกิดขึ้นแห่งทุติยฌานใช่ไหม ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ สก. โยคีบุคคลเลื่อนจากปฐมฌานไปสู่ทุติยฌานได้ แต่ท่านไม่ยอมรับว่า “ความนึกถึง ฯลฯ ความตั้งใจ เพื่อความเกิดขึ้นแห่งปฐมฌานก็เพื่อความเกิดขึ้น แห่งทุติยฌาน” ใช่ไหม ปร. ใช่ @เชิงอรรถ : @ ปร. หมายถึงภิกษุในนิกายมหิสาสกะและนิกายอันธกะบางพวก (อภิ.ปญฺจ.อ. ๘๑๓-๘๑๖/๓๐๐) @ เพราะมีความเห็นว่า บุคคลสามารถเลื่อนจากฌานหนึ่งไปสู่ฌานหนึ่งได้ โดยไม่ต้องผ่านอุปจารแห่ง @ฌาน(ภาวนาวิถีจิต)นั้นๆ (อภิ.ปญฺจ.อ. ๘๑๓-๘๑๖/๓๐๐) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๗ หน้า : ๘๕๐}

พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [๑๘. อัฏฐารสมวรรค]

๖. ฌานสังกันติกถา (๑๘๒)

สก. ทุติยฌานเกิดขึ้นแก่โยคีบุคคลผู้ไม่นึกถึงอยู่ ฯลฯ ไม่ตั้งใจอยู่ใช่ไหม ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ สก. ทุติยฌานเกิดขึ้นแก่โยคีบุคคลผู้นึกถึงอยู่ ฯลฯ ตั้งใจอยู่มิใช่หรือ ปร. ใช่ สก. หากทุติยฌานเกิดขึ้นแก่โยคีบุคคลผู้นึกถึงอยู่ ฯลฯ ผู้ตั้งใจอยู่ ท่านก็ ไม่ควรยอมรับว่า “โยคีบุคคลเลื่อนจากปฐมฌานไปสู่ทุติยฌานได้” ฯลฯ สก. โยคีบุคคลเลื่อนจากปฐมฌานไปสู่ทุติยฌานได้ใช่ไหม ปร. ใช่ สก. ปฐมฌานเกิดขึ้นแก่โยคีบุคคลผู้มนสิการกามทั้งหลายโดยความเป็นของ มีโทษใช่ไหม ปร. ใช่ สก. ทุติยฌานเกิดขึ้นแก่โยคีบุคคลผู้มนสิการกามทั้งหลายโดยความเป็นของ มีโทษใช่ไหม ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ สก. ปฐมฌานมีวิตก มีวิจารใช่ไหม ปร. ใช่ สก. ทุติยฌานมีวิตก มีวิจารใช่ไหม ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ สก. โยคีบุคคลเลื่อนจากปฐมฌานไปสู่ทุติยฌานได้ใช่ไหม ปร. ใช่ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๗ หน้า : ๘๕๑}

พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [๑๘. อัฏฐารสมวรรค]

๖. ฌานสังกันติกถา (๑๘๒)

สก. ปฐมฌานกับทุติยฌานเป็นอย่างเดียวกันใช่ไหม ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๘๑๔] สก. โยคีบุคคลเลื่อนจากทุติยฌานไปสู่ตติยฌานได้ใช่ไหม ปร. ใช่ สก. ความนึกถึง ฯลฯ ความตั้งใจ เพื่อความเกิดขึ้นแห่งทุติยฌานก็เพื่อ ความเกิดขึ้นแห่งตติยฌานใช่ไหม ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ สก. โยคีบุคคลเลื่อนจากทุติยฌานไปสู่ตติยฌานได้ แต่ท่านไม่ยอมรับว่า “ความนึกถึง ฯลฯ ความตั้งใจ เพื่อความเกิดขึ้นแห่งทุติยฌานก็เพื่อความเกิดขึ้น แห่งตติยฌาน” ใช่ไหม ปร. ใช่ สก. ตติยฌานเกิดขึ้นแก่โยคีบุคคลผู้ไม่นึกถึงอยู่ ฯลฯ ไม่ตั้งใจอยู่ใช่ไหม ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ สก. ตติยฌานเกิดขึ้นแก่โยคีบุคคลผู้นึกถึงอยู่ ฯลฯ ตั้งใจอยู่ใช่ไหม ปร. ใช่ สก. หากตติยฌานเกิดขึ้นแก่โยคีบุคคลผู้นึกถึงอยู่ ฯลฯ ตั้งใจอยู่ ท่านก็ ไม่ควรยอมรับว่า “โยคีบุคคลเลื่อนจากทุติยฌานไปสู่ตติยฌานได้” สก. โยคีบุคคลเลื่อนจากทุติยฌานไปสู่ตติยฌานได้ใช่ไหม ปร. ใช่ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๗ หน้า : ๘๕๒}

พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [๑๘. อัฏฐารสมวรรค]

๖. ฌานสังกันติกถา (๑๘๒)

สก. ทุติยฌานเกิดขึ้นแก่โยคีบุคคลผู้มนสิการวิตกวิจารโดยความเป็นของมี โทษใช่ไหม ปร. ใช่ สก. ตติยฌานเกิดขึ้นแก่โยคีบุคคลผู้มนสิการวิตกวิจารโดยความเป็นของมี โทษใช่ไหม ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ สก. ทุติยฌานยังมีปีติใช่ไหม ปร. ใช่ สก. ตติยฌานยังมีปีติใช่ไหม ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ สก. โยคีบุคคลเลื่อนจากทุติยฌานไปสู่ตติยฌานได้ใช่ไหม ปร. ใช่ สก. ทุติยฌานกับตติยฌานเป็นอย่างเดียวกันใช่ไหม ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๘๑๕] สก. โยคีบุคคลเลื่อนจากตติยฌานไปสู่จตุตถฌานได้ใช่ไหม ปร. ใช่ สก. ความนึกถึง ฯลฯ ความตั้งใจ เพื่อความเกิดขึ้นแห่งตติยฌานก็เพื่อ ความเกิดขึ้นแห่งจตุตถฌานใช่ไหม ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ สก. โยคีบุคคลเลื่อนจากตติยฌานไปสู่จตุตถฌานได้ แต่ท่านไม่ยอมรับว่า “ความนึกถึง ฯลฯ ความตั้งใจ เพื่อความเกิดขึ้นแห่งตติยฌานก็เพื่อความเกิดขึ้น แห่งจตุตถฌาน” ใช่ไหม ปร. ใช่ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๗ หน้า : ๘๕๓}

พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [๑๘. อัฏฐารสมวรรค]

๖. ฌานสังกันติกถา (๑๘๒)

สก. จตุตถฌานเกิดขึ้นแก่โยคีบุคคลผู้ไม่นึกถึงอยู่ ฯลฯ ไม่ตั้งใจอยู่ใช่ไหม ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ สก. จตุตถฌานเกิดขึ้นแก่โยคีบุคคลผู้นึกถึงอยู่ ฯลฯ ตั้งใจอยู่มิใช่หรือ ปร. ใช่ สก. หากจตุตถฌานเกิดขึ้นแก่โยคีบุคคลผู้นึกถึงอยู่ ฯลฯ ตั้งใจอยู่ ท่านก็ ไม่ควรยอมรับว่า “โยคีบุคคลเลื่อนจากตติยฌานไปสู่จตุตถฌานได้” สก. โยคีบุคคลเลื่อนจากตติยฌานไปสู่จตุตถฌานได้ใช่ไหม ปร. ใช่ สก. ตติยฌานเกิดขึ้นแก่โยคีบุคคลผู้มนสิการปีติ โดยความเป็นของมีโทษ ใช่ไหม ปร. ใช่ สก. จตุตถฌานเกิดขึ้นแก่โยคีบุคคลผู้มนสิการปีติ โดยความเป็นของมีโทษ ใช่ไหม ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ สก. ตติยฌานสหรคตด้วยสุขใช่ไหม ปร. ใช่ สก. จตุตถฌานสหรคตด้วยสุขใช่ไหม ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ สก. โยคีบุคคลเลื่อนจากตติยฌานไปสู่จตุตถฌานได้ใช่ไหม ปร. ใช่ สก. ตติยฌานกับจตุตถฌานเป็นอย่างเดียวกันใช่ไหม ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๗ หน้า : ๘๕๔}

พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [๑๘. อัฏฐารสมวรรค]

๗. ฌานันตริกกถา (๑๘๓)

[๘๑๖] ปร. ท่านไม่ยอมรับว่า “โยคีบุคคลเลื่อนจากฌานหนึ่งไปสู่ฌานหนึ่งได้” ใช่ไหม สก. ใช่ ปร. พระสูตรที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ว่า “ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัย นี้สงัดจากกามทั้งหลาย ฯลฯ เข้าจตุตถฌานอยู่”๑- มีอยู่จริงมิใช่หรือ สก. ใช่ ปร. ดังนั้น โยคีบุคคลจึงเลื่อนจากฌานหนึ่งไปสู่ฌานหนึ่งได้
ฌานสังกันติกถา จบ
๗. ฌานันตริกกถา (๑๘๓)
ว่าด้วยสมาธิที่เกิดในระหว่างฌาน
[๘๑๗] สก. สมาธิที่เกิดในระหว่างฌานมีอยู่ใช่ไหม ปร.๒- ใช่๓- สก. สมาธิที่เกิดในระหว่างผัสสะ ฯลฯ สมาธิที่เกิดในระหว่างปัญญามีอยู่ ใช่ไหม ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ สก. สมาธิที่เกิดในระหว่างฌานมีอยู่ใช่ไหม ปร. ใช่ สก. สมาธิที่เกิดในระหว่างฌาน มีอยู่ในระหว่างทุติยฌานกับตติยฌานใช่ไหม ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ @เชิงอรรถ : @ ดู ม.อุ. (แปล) ๑๔/๑๖/๒๓-๒๔ @ ปร. หมายถึงภิกษุในนิกายสมิติยะและนิกายอันธกะบางพวก (อภิ.ปญฺจ.อ. ๘๑๗/๓๐๑) @ เพราะมีความเห็นว่า ทุติยฌานในปัญจกนัย เป็นฌานในระหว่างแห่งฌานที่ ๑ กับฌานที่ ๒ ในจตุกกนัย @(อภิ.ปญฺจ.อ. ๘๑๗/๓๐๑) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๗ หน้า : ๘๕๕}


                  เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๓๗ หน้าที่ ๘๕๐-๘๕๕. http://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=37&siri=200              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2].                   อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=37&A=18302&Z=18423                   ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=37&i=1750              พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=37&item=1750&items=5              อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=55&A=6758              The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=37&item=1750&items=5              The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=55&A=6758                   สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๗ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu37              อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://suttacentral.net/kv18.6/en/aung-rhysdavids



บันทึก ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :