ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกชองแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๒ อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต
ภรัณฑุสูตร
[๕๖๖] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเสด็จจาริกไปในโกศลชนบท เสด็จถึงพระนครกบิลพัสดุ์ เจ้าศากยะพระนามว่า มหานามะ ได้ทรงสดับ ข่าวว่า พระผู้มีพระภาคเสด็จถึงพระนครกบิลพัสดุ์ โดยลำดับแล้ว ครั้งนั้นแล เจ้าศากยะพระนามว่ามหานามะ ได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวาย บังคมพระผู้มีพระภาคแล้ว ประทับยืน ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกะเจ้าศากยะพระนามว่ามหานามะว่า ไปเถิดมหานามะ ท่านจงรู้สถานที่พักในพระนครกบิลพัสดุ์ ที่อาตมาควรอยู่สักคืนหนึ่งวันนี้ เจ้า ศากยะพระนามว่ามหานามะ รับพระดำรัสพระผู้มีพระภาคแล้ว เข้าไปยัง พระนครกบิลพัสดุ์ เที่ยวไปจนทั่ว ก็มิได้เห็นสถานที่พักในพระนครกบิลพัสดุ์ ซึ่งพระผู้มีพระภาคควรจะประทับอยู่สักคืนหนึ่ง ลำดับนั้นแล เจ้าศากยะพระ- *นามว่ามหานามะได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ แล้วกราบทูลว่า ข้าแต่ พระองค์ผู้เจริญ ในพระนครกบิลพัสดุ์ ไม่มีสถานที่พัก ซึ่งพระผู้มีพระภาค ควรจะประทับสักคืนหนึ่งวันนี้ ภรัณฑุดาบสกาลามโคตรนี้เป็นเพื่อนพรหมจารี เก่าแก่ของพระผู้มีพระภาค ขอพระผู้มีพระภาคจงประทับอยู่ ณ อาศรมของ ภรัณฑุดาบสกาลามโคตรนั้นสักคืนหนึ่งในวันนี้เถิด พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ไป เถิดมหานามะ ท่านจงปูลาดเครื่องลาดเถิด เจ้าศากยะพระนามว่ามหานามะ ทูลรับพระดำรัสของพระผู้มีพระภาคแล้ว เสด็จเข้าไปยังอาศรมของภรัณฑุดาบส กาลามโคตร แล้วทรงปูลาดเครื่องลาด ทรงตั้งน้ำไว้เพื่อจะล้างพระบาท แล้ว เสด็จเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ได้กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้ เจริญ ข้าพระองค์ได้ลาดเครื่องลาดเสร็จแล้ว ได้ตั้งน้ำไว้เพื่อชำระยุคลบาท แล้ว บัดนี้พระผู้มีพระภาคทรงทราบกาลอันควรเถิด ลำดับนั้นแล พระผู้มี พระภาคเสด็จเข้าไปยังอาศรมของภรัณฑุดาบสกาลามโคตร แล้วประทับนั่งบน อาสนะที่เขาปูลาดไว้ ครั้นแล้ว ทรงล้างพระบาททั้งสอง ครั้งนั้นแล เจ้า ศากยะพระนามว่ามหานามะทรงดำริว่า วันนี้ไม่ใช่เวลาที่จะเข้าไปเฝ้าพระผู้มี พระภาค พระผู้มีพระภาคทรงเหน็ดเหนื่อย ต่อวันพรุ่งนี้ เราจึงจักเข้าไป เฝ้าพระผู้มีพระภาค ดังนี้แล้ว ทรงถวายบังคมพระผู้มีพระภาค ทรงทำ ประทักษิณแล้วเสด็จหลีกไป ครั้งนั้นแล พอล่วงราตรีนั้นไป เจ้าศากยะ พระนามว่ามหานามะ เสด็จเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคจนถึงที่ประทับ ทรงถวาย บังคมพระผู้มีพระภาคแล้ว ประทับนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสถามว่า ดูกรมหานามะ ศาสดา ๓ จำพวกนี้แล มี ปรากฏอยู่ในโลก ๓ จำพวกเป็นไฉน คือ ศาสดาพวกหนึ่งในโลกนี้ บัญญัติ การกำหนดรู้กาม ไม่บัญญัติการกำหนดรู้รูป ไม่บัญญัติการกำหนดรู้เวทนา พวกหนึ่งบัญญัติการกำหนดรู้กาม และบัญญัติการกำหนดรู้รูป แต่ไม่บัญญัติ การกำหนดรู้เวทนา พวกหนึ่งบัญญัติการกำหนดรู้กามด้วย บัญญัติการกำหนดรู้รูป ด้วย บัญญัติการกำหนดรู้เวทนาด้วย ดูกรมหานามะ ศาสดา ๓ จำพวก นี้แล มีปรากฏอยู่ในโลก ดูกรมหานามะ คติของศาสดา ๓ จำพวกนี้เป็น อย่างเดียวกัน หรือว่าเป็นต่างๆ กัน เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสเช่นนี้ ภรัณฑุ- *ดาบสกาลามโคตรได้กล่าวกะเจ้าศากยะพระนามว่ามหานามะว่า ดูกรมหานามะ ท่านจงกราบทูลว่าเป็นอย่างเดียวกัน เมื่อภรัณฑุดาบสกาลามโคตรกล่าวเช่นนี้ พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกะเจ้าศากยะพระนามว่ามหานามะว่า ดูกรมหานามะ ท่าน จงกล่าวว่าเป็นต่างๆ กัน แม้ครั้งที่สอง ภรัณฑุดาบสกาลามโคตรได้กล่าว กะเจ้าศากยพระนามว่ามหานามะว่า ดูกรมหานามะ ท่านจงกราบทูลว่า เป็นอย่าง เดียวกัน แม้ครั้งที่สอง พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกะเจ้าศากยะพระนามว่ามหานามะว่า ดูกรมหานามะ ท่านจงกล่าวว่า เป็นต่างๆ กัน แม้ครั้งที่สาม ภรัณฑุดาบส กาลามโคตร ก็ได้กล่าวกะเจ้าศากยะพระนามว่ามหานามะว่า ดูกรมหานามะ ท่านจงกราบทูลว่า เป็นอย่างเดียวกัน แม้ครั้งที่สาม พระผู้มีพระภาคก็ได้ ตรัสกะเจ้าศากยะพระนามว่ามหานามะว่า ดูกรมหานามะ ท่านจงกล่าวว่า เป็นต่างๆ กัน ครั้งนั้นแล ภรัณฑุดาบสกาลามโคตรได้คิดว่า เราถูก พระสมณโคดมรุกรานเอาแล้ว ต่อหน้าเจ้าศากยะพระนามว่ามหานามะ ผู้มี ศักดิ์ใหญ่ถึงสามครั้ง ผิฉะนั้น เราพึงหลีกไปเสียจากนครกบิลพัสดุ์ ลำดับนั้น แล ภรัณฑุดาบสกาลามโคตร ได้หลีกไปแล้วจากนครกบิลพัสดุ์ เขาได้ หลีกไปแล้วเหมือนอย่างนั้นทีเดียว มิได้กลับมาอีกเลย ฯ

             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐ บรรทัดที่ ๗๒๘๔-๗๓๓๖ หน้าที่ ๓๑๒-๓๑๔. http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=20&A=7284&Z=7336&pagebreak=0 http://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=20&A=7284&pagebreak=0              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [คลิกเพื่อฟัง]              อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :- http://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=20&siri=171              ศึกษาอรรถกถาได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=20&i=566              พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=20&A=7543              อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=15&A=6182              The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/read/roman_read.php?B=20&A=7543              The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=15&A=6182              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๐ http://84000.org/tipitaka/read/?index_20              อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://84000.org/tipitaka/english/metta.lk/20i563-e.php#sutta4 https://suttacentral.net/an3.126/en/sujato

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกชองแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย

บันทึก ๒๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖. บันทึก ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙. บันทึกล่าสุด ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]