ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกชองแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๗ พระอภิธรรมปิฎก เล่มที่ ๔ กถาวัตถุปกรณ์
อันตราภวกถา
[๑๑๙๘] สกวาที อันตราภพ ๑- มีอยู่หรือ? ปรวาที ถูกแล้ว ส. เป็นกามภพ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. อันตราภพมีอยู่หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. เป็นรูปภพหรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. อันตราภพมีอยู่หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. เป็นอรูปภพหรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๑๑๙๙] ส. อันตราภพมีอยู่หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. อันตราภพมีอยู่ในระหว่างกามภพและรูปภพหรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ @๑. ภพในระหว่าง ส. อันตราภพมีอยู่หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. อันตราภพมีอยู่ในระหว่างรูปภพและอรูปภพหรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๑๒๐๐] ส. อันตราภพไม่มีอยู่ในระหว่างกามภพและรูปภพหรือ? ป. ถูกแล้ว ส. หากว่า อันตราภพไม่มีอยู่ในระหว่างกามภพและรูปภพ ก็ต้องไม่กล่าวว่า อันตราภพมีอยู่ ป. อันตราภพไม่มีอยู่ในระหว่างรูปภพกับอรูปภพหรือ? ส. ถูกแล้ว ป. หากว่า อันตราภพไม่มีอยู่ในระหว่างรูปภพกับอรูปภพ ก็ต้องไม่กล่าวว่า อันตราภพมีอยู่ [๑๒๐๑] ส. อันตราภพมีอยู่หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. อันตราภพนั้น เป็นกำเนิดที่ห้า เป็นคติที่หก เป็นวิญญาณฐิติที่แปด เป็นสัตตาวาสที่สิบ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. อันตราภพมีอยู่หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. อันตราภพ เป็นภพ เป็นคติ เป็นสัตตาวาส เป็นสงสาร เป็นกำเนิด เป็นวิญญาณฐิติ เป็นการได้อัตภาพ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. กรรมอันยังสัตว์ให้เข้าถึงอันตราภพมีอยู่ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. สัตว์ผู้เข้าถึงอันตราภพมีอยู่ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. สัตว์ทั้งหลาย เกิดอยู่ แก่อยู่ ตายอยู่ จุติอยู่ อุปบัติอยู่ ในอันตราภพ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ มีในอันตราภพ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. อันตราภพเป็นปัญจโวการภพหรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๑๒๐๒] ส. กามภพมีอยู่ กามภพ เป็นภพ เป็นคติ เป็นสัตตาวาส เป็นสงสาร เป็นกำเนิด เป็นวิญญาณฐิติ เป็นการได้อัตภาพ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. อันตราภพมีอยู่ อันตราภพ เป็นภพ เป็นคติ เป็นสัตตาวาส เป็นสงสาร เป็นกำเนิด เป็นวิญญาณฐิติ เป็นการได้อัตภาพหรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. กรรมอันยังสัตว์ให้เข้าถึงกามภพมีอยู่หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. กรรมอันยังสัตว์ให้เข้าถึงอันตราภพมีอยู่หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. สัตว์ผู้เข้าถึงกามภพมีอยู่หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. สัตว์ผู้เข้าถึงอันตราภพมีอยู่หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. สัตว์ทั้งหลาย เกิดอยู่ แก่อยู่ ตายอยู่ จุติอยู่ อุปบัติอยู่ ในกามภพ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. สัตว์ทั้งหลาย เกิดอยู่ แก่อยู่ ตายอยู่ จุติอยู่ อุปบัติอยู่ ในอันตราภพ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ มีอยู่ในกามภพ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ มีอยู่ในอันตราภพ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. กามภพ เป็นปัญจโวการภพ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. อันตราภพ เป็นปัญจโวการภพ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๑๒๐๓] ส. รูปภพมีอยู่ รูปภพ เป็นภพ เป็นคติ เป็นสัตตาวาส เป็นสงสาร เป็นกำเนิด เป็นวิญญาณฐิติ เป็นการได้อัตภาพ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. อันตราภพมีอยู่ อันตราภพ เป็นภพ เป็นคติ เป็นสัตตาวาส เป็น สงสาร เป็นกำเนิด เป็นวิญญาณฐิติ เป็นการได้อัตภาพ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. กรรมอันยังสัตว์ให้เข้าถึงรูปภพ มีอยู่หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. กรรมอันยังสัตว์ให้เข้าถึงอันตราภพมีอยู่ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. สัตว์ผู้เข้าถึงรูปภพมีอยู่ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. สัตว์ผู้เข้าถึงอันตราภพ มีอยู่หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. สัตว์ทั้งหลาย เกิดอยู่ แก่อยู่ ตายอยู่ จุติอยู่ อุปบัติอยู่ ในรูปภพ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. สัตว์ทั้งหลาย เกิดอยู่ แก่อยู่ ตายอยู่ จุติอยู่ อุปบัติอยู่ ในอันตราภพ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ มีอยู่ในรูปภพ หรือ? ส. ถูกแล้ว ป. รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ มีอยู่ในอันตราภพ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. รูปภพเป็นปัญจโวการภพ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. อันตราภพเป็นปัญจโวการภพ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๑๒๐๔] ส. อรูปภพ มีอยู่ อรูปภพ เป็นภพ เป็นคติ เป็นสัตตาวาส เป็นสงสาร เป็นกำเนิด เป็นวิญญาณฐิติ เป็นการได้อัตภาพ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. อันตราภพ มีอยู่ อันตราภพ เป็นภพ เป็นคติ เป็นสัตตาวาส เป็น สงสาร เป็นกำเนิด เป็นวิญญาณฐิติ เป็นการได้อัตภาพ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. กรรมอันยังสัตว์ให้เข้าถึงอรูปภพ มีอยู่หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. กรรมอันยังสัตว์ให้เข้าถึงอันตราภพ มีอยู่หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. สัตว์ผู้เข้าถึงอรูปภพ มีอยู่หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. สัตว์ผู้เข้าถึงอันตราภพ มีอยู่หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. สัตว์ทั้งหลาย เกิดอยู่ แก่อยู่ ตายอยู่ จุติอยู่ อุปบัติอยู่ ในอรูปภพ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. สัตว์ทั้งหลาย เกิดอยู่ แก่อยู่ ตายอยู่ จุติอยู่ อุปบัติอยู่ ในอันตราภพ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ มีอยู่ในอรูปภพ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ มีอยู่ในอันตราภพ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. อรูปภพเป็นจตุโวการภพ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. อันตราภพเป็นจตุโวการภพ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๑๒๐๕] ส. อันตราภพมีอยู่ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. อันตราภพมีอยู่สำหรับสัตว์ทั้งปวงทีเดียว หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. อันตราภพไม่มีอยู่สำหรับสัตว์ทั้งปวงทีเดียว หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. หากว่า อันตราภพไม่มีอยู่สำหรับสัตว์ทั้งปวงทีเดียว ก็ต้องไม่กล่าวว่า อันตราภพมีอยู่ [๑๒๐๖] ส. อันตราภพมีอยู่ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. อันตราภพมีอยู่สำหรับบุคคลผู้กระทำอนันตริยกรรม หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. อันตราภพไม่มีอยู่สำหรับบุคคลผู้ทำอนันตริยกรรม หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. หากว่า อันตราภพไม่มีอยู่สำหรับบุคคลผู้ทำอนันตริยกรรม ก็ต้องไม่ กล่าวว่า อันตราภพมีอยู่ [๑๒๐๗] ส. อันตราภพมีอยู่สำหรับบุคคลผู้ไม่ทำอนันตริยกรรม หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. อันตราภพมีอยู่สำหรับบุคคลผู้ทำอนันตริยกรรม หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. อันตราภพไม่มีอยู่สำหรับบุคคลผู้ทำอนันตริยกรรม หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. อันตราภพไม่มีอยู่สำหรับบุคคลผู้ไม่ทำอนันตริยกรรม หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. อันตราภพมีอยู่สำหรับบุคคลผู้เข้าถึงนรก ฯลฯ สำหรับบุคคลผู้เข้าถึง อสัญญสัตว์ ฯลฯ สำหรับบุคคลผู้เข้าถึงอรูปภพ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. อันตราภพไม่มีอยู่สำหรับบุคคลผู้เข้าถึงอรูปภพ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. หากว่า อันตราภพไม่มีอยู่สำหรับบุคคลผู้เข้าถึงอรูปภพ ก็ต้องไม่กล่าวว่า อันตราภพมีอยู่ [๑๒๐๘] ส. อันตราภพมีอยู่สำหรับบุคคลผู้ไม่เข้าถึงอรูปภพ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. อันตราภพมีอยู่สำหรับบุคคลผู้เข้าถึงรูปภพ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. อันตราภพไม่มีอยู่สำหรับบุคคลผู้เข้าถึงอรูปภพ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. อันตราภพไม่มีอยู่สำหรับบุคคลผู้ไม่เข้าถึงอรูปภพ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๑๒๐๙] ป. ไม่พึงกล่าวว่า อันตราภพมีอยู่ หรือ? ส. ถูกแล้ว ป. บุคคลผู้อันตราปรินิพพายี มีอยู่ มิใช่หรือ? ส. ถูกแล้ว ป. หากว่า บุคคลผู้อันตราปรินิพพายีมีอยู่ ด้วยเหตุนั้นนะท่านจึงต้องกล่าวว่า อันตราภพมีอยู่ ส. อันตราภพ ชื่อว่ามีอยู่ เพราะทำอธิบายว่า บุคคลผู้อันตราปรินิพพายี มีอยู่หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. เพราะทำอธิบายว่า บุคคลผู้อุปหัจจปรินิพพายีมีอยู่ อุปหัจจภพก็ชื่อว่ามี อยู่ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. อันตราภพ ชื่อว่ามีอยู่ เพราะทำอธิบายว่า บุคคลผู้อันตราปรินิพพายี มีอยู่ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. เพราะทำอธิบายว่า บุคคลผู้อสังขารปรินิพพายีมีอยู่ ฯลฯ บุคคลผู้ สสังขารปรินิพพายีมีอยู่ สสังขารภพก็ชื่อว่ามีอยู่ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
อันตราภวกถา จบ
-----------------------------------------------------

             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๗ บรรทัดที่ ๑๑๗๕๑-๑๑๙๔๔ หน้าที่ ๔๘๙-๔๙๗. http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=37&A=11751&Z=11944&pagebreak=0 http://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=37&A=11751&pagebreak=0              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2]              อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :- http://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=37&siri=94              ศึกษาอรรถกถาได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=37&i=1198              พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=37&A=7783              อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=55&A=5241              The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/read/roman_read.php?B=37&A=7783              The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=55&A=5241              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๗ http://84000.org/tipitaka/read/?index_37              อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://suttacentral.net/kv8.2/en/aung-rhysdavids

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกชองแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย

บันทึก ๒๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖. บันทึก ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙. บันทึกล่าสุด ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]