ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
อันธกวินทสูตรที่ ๓
[๖๑๑] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ในอันธกวินทคาม ใน แคว้นมคธ ฯ ก็โดยสมัยนั้นแล พระผู้มีพระภาคประทับนั่งอยู่ในที่แจ้งในราตรีอันมืด และฝนกำลังตกประปรายอยู่ ฯ ลำดับนั้นแล ท้าวสหัมบดีพรหม เมื่อราตรีปฐมยามล่วงไปแล้ว มีรัศมี อันงดงามยิ่ง ยังอันธกวินทคามทั้งสิ้นให้สว่างแล้ว เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ถึงที่ประทับ ถวายอภิวาทพระผู้มีพระภาคแล้วได้ยืนอยู่ ณ ที่ควรข้างหนึ่ง ฯ [๖๑๒] ท้าวสหัมบดีพรหมยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้ภาษิต คาถาเหล่านี้ในสำนักพระผู้มีพระภาคว่า ภิกษุพึงเสพที่นอนและที่นั่งอันสงัด พึงประพฤติเพื่อความ หลุดพ้นจากสัญโญชน์ ถ้าว่าภิกษุไม่พึงได้ความยินดีในที่นั้น ไซร้ ก็พึงเป็นผู้มีตนอันรักษาแล้ว มีสติ พึงอยู่ในหมู่ภิกษุ ผู้เที่ยวไปอยู่จากตระกูลสู่ตระกูล เพื่อบิณฑบาต มีอินทรีย์ อันคุ้มครองแล้ว มีปัญญารักษาตน มีสติ พึงเสพที่นอน และที่นั่งอันสงัด ภิกษุพ้นแล้วจากภัย น้อมไปแล้วในธรรม อันไม่มีภัย ปราศจากความสยดสยอง นั่งอยู่แล้วในที่มีสัตว์ เลื้อยคลาน อันน่ากลัว สายฟ้าฉวัดเฉวียน ฝนตกในราตรี อันมืด ก็ข้าพระองค์ไม่อาจกำหนดนับในใจของข้าพระองค์ ได้เลยว่า เหตุนี้ข้าพระองค์เคยเห็นแล้วแน่ ข้าพระองค์ ไม่กล่าวถึงเหตุนี้ว่าเป็นอย่างนี้ในพรหมจรรย์ (คือธรรม เทศนา) คราวหนึ่งเกิดมีพระขีณาสพผู้ละความตายได้มีจำนวน พัน พระเสขะมากกว่าห้าร้อย และพระเสขะทั้งสิบ ทั้งร้อย ทั้งหมดถึงกระแสมรรคแล้ว ไม่ไปสู่กำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน ส่วนหมู่สัตว์นอกนี้เป็นผู้มีส่วนบุญดังนี้ เพราะกลัวมุสาวาท ฯ

             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕ บรรทัดที่ ๔๙๗๖-๕๐๐๐ หน้าที่ ๒๑๕-๒๑๖. https://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=15&A=4976&Z=5000&pagebreak=0              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [คลิกเพื่อฟัง]              อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :- https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=15&siri=184              ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=15&i=611              ศึกษาพระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- [611-612] https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item_s.php?book=15&item=611&items=2              อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=11&A=5426              The Pali Tipitaka in Roman :- [611-612] https://84000.org/tipitaka/pali/roman_item_s.php?book=15&item=611&items=2              The Pali Atthakatha in Roman :- https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=11&A=5426              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ https://84000.org/tipitaka/read/?index_15              อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://84000.org/tipitaka/english/metta.lk/15i606-e.php#sutta3 https://accesstoinsight.org/tipitaka/sn/sn06/sn06.013.olen.html https://suttacentral.net/sn6.13/en/sujato

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย

บันทึก ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :