ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๑ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๓ ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค
             [๒๔๒] ปัญญาในความสงเคราะห์ธรรมทั้งปวงเป็นหมวดเดียวกัน และ
การแทงตลอดธรรมต่างกันและธรรมหมวดเดียวกันเป็นทัสสนวิสุทธิญาณอย่างไร ฯ
             คำว่า ธรรมทั้งปวง ได้แก่ขันธ์  ๕ ฯลฯ โลกุตตรธรรม ฯ
             คำว่า ความสงเคราะห์เป็นหมวดเดียวกัน ความว่า ธรรมทั้งปวงท่าน
สงเคราะห์เป็นหมวดเดียวกันโดยอาการ ๑๒ คือ โดยสภาพถ่องแท้ ๑ โดยสภาพ
มิใช่ตัวตน ๑ โดยสภาพจริง ๑ โดยสภาพควรแทงตลอด ๑ โดยสภาพที่ควรรู้ยิ่ง ๑
โดยสภาพที่ควรกำหนดรู้ ๑ โดยสภาพที่เป็นธรรม ๑ โดยสภาพที่เป็นธาตุ ๑ โดย
สภาพที่อาจรู้ ๑ โดยสภาพควรทำให้แจ้ง ๑ โดยสภาพที่ควรถูกต้อง ๑ โดยสภาพที่
ควรตรัสรู้ ๑ ธรรมทั้งปวงท่านสงเคราะห์เป็นหมวดเดียวกัน โดยอาการ ๑๒ นี้ ฯ
             คำว่า ความต่างและความเป็นอันเดียวกัน ความว่า กามฉันทะเป็นความ
ต่าง เนกขัมมะเป็นอันเดียวกัน ฯลฯ กิเลสทั้งปวงเป็นความต่าง อรหัตมรรค
เป็นอันเดียวกัน ฯ
             คำว่า ในการแทงตลอด ความว่า พระโยคาวจรย่อมแทงตลอดทุกขสัจ
เป็นการแทงตลอดด้วยการกำหนดรู้ แทงตลอดสมุทัยสัจ เป็นการแทงตลอดด้วย
การละ แทงตลอดนิโรธสัจ เป็นการแทงตลอดด้วยการทำให้แจ้ง แทงตลอด
มรรคสัจ เป็นการแทงตลอดด้วยการเจริญ ฯ
             คำว่า ทสฺสนวิสุทธิ ความว่า ในขณะโสดาปัตติมรรค ทัสนะย่อม
หมดจด ในขณะโสดาปัตติผล หมดจดแล้ว ในขณะสกทาคามิมรรค ย่อมหมด
จด ในขณะสกทาคามิผล หมดจดแล้ว ในขณะอนาคามิมรรค ย่อมหมดจด
ในขณะอนาคามิผล หมดจดแล้ว ในขณะอรหัตมรรค ย่อมหมดจด ในขณะ
อรหัตตผล หมดจดแล้ว ฯ
             ชื่อว่าญาณ เพราะอรรถว่ารู้ธรรมนั้น ชื่อว่าปัญญา เพราะอรรถว่ารู้ชัด
เพราะเหตุนั้นท่านจึงกล่าว ปัญญาในการสงเคราะห์ธรรมทั้งปวง เป็นหมวดเดียว
กัน และการแทงตลอดธรรมต่างกันและธรรมหมวดเดียวกัน เป็นทัสสนวิสุทธิ-
*ญาณ ฯ

             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๑ บรรทัดที่ ๒๖๓๔-๒๖๕๘ หน้าที่ ๑๐๗-๑๐๘. https://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=31&A=2634&Z=2658&pagebreak=0              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [คลิกเพื่อฟัง]              อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :- https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=31&siri=44              ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=31&i=242              ศึกษาพระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- [242] https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item_s.php?book=31&item=242&items=1              อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=47&A=7669              The Pali Tipitaka in Roman :- [242] https://84000.org/tipitaka/pali/roman_item_s.php?book=31&item=242&items=1              The Pali Atthakatha in Roman :- https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=47&A=7669              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๑ https://84000.org/tipitaka/read/?index_31

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย

บันทึก ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :