ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วไม่แสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๓ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๕ ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๒ -พุทธวังสะ-จริยาปิฎก
โสภิตพุทธวงศ์ที่ ๖
ว่าด้วยพระประวัติพระโสภิตพุทธเจ้า
[๗] สมัยต่อมาจากพระเรวตพุทธเจ้า มีพระพุทธเจ้าพระนามว่าโสภิต เป็นนายกของโลก ทรงมีพระทัยมั่นคงสงบระงับไม่มีใครเสมอ ไม่มีบุคคลเปรียบ พระองค์ทรงกลับพระทัย (ไม่พอพระทัย) ใน พระราชวังของพระองค์ ทรงบรรลุโพธิญาณ ประกาศพระธรรมจักร อย่างเดียว ในระหว่างเบื้องบนตลอดถึงอเวจีนรก และเบื้องต่ำ ตลอดถึงภวัคคพรหมนี้ เป็นบริษัทเดียวกันในการทรงแสดงธรรม พระสัมพุทธเจ้าทรงประกาศพระธรรมจักรแก่บริษัทนั้น โดยจะนับ ผู้ได้ตรัสรู้ธรรมครั้งแรกพึงกล่าวไม่ได้ เบื้องหน้าแต่นั้น เมื่อทรง แสดงธรรมในสมาคมของมนุษย์และเทวดา ธรรมาภิสมัยครั้งที่ ๒ ได้มีแก่มนุษย์และเทวดาเก้าหมื่นโกฏิ ในกาลนั้น พระบรมกษัตริย์ พระนามว่าชยเสนะ รับสั่งให้สร้างพระอารามอีกแห่งหนึ่ง มอบ ถวายในพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าผู้มีพระจักษุทรงแสดงธรรมประ- กาศการบูชาของบรมกษัตริย์ ครั้งนั้นธรรมาภิสมัยครั้งที่ ๒ ได้มีแก่ มนุษย์และเทวดาพันโกฏิ พระโสภิตบรมศาสดา ทรงมีการประชุม พระภิกษุขีณาสพผู้ปราศจากมลทิน มีจิตสงบระงับคงที่ ๓ ครั้ง พระ- ราชาพระนามว่าอุคคตะ ทรงถวายทานในพระพุทธเจ้า ในทาน ครั้งนั้น พระอรหันต์มาประชุมกันประมาณร้อยโกฏิ มีหมู่คณะมา

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๓๒๒.

ถวายทานในพระพุทธเจ้าอีก ครั้งนั้น พระอรหันต์มาประชุมกันครั้ง ที่ ๒ เก้าสิบโกฏิ ในกาลเมื่อพระพิชิตมาร ทรงจำพรรษาในเทวโลก แล้วเสด็จลง พระอรหันต์มาประชุมกันครั้งที่ ๓ แปดสิบโกฏิ สมัย นั้น เราเป็นพราหมณ์นามว่าสุชาติ เราได้ถวายข้าวและน้ำให้พระ- พุทธเจ้าเสวยพร้อมทั้งพระสาวกจนเพียงพอ แม้พระพุทธเจ้าพระ- นามว่าโสภิตผู้เป็นนายกของโลกพระองค์นั้น ก็ทรงพยากรณ์เราว่า ผู้นี้จักได้เป็นพระพุทธเจ้า ....... ข้ามแม่น้ำใหญ่ ฉะนั้นเราได้ฟัง พระพุทธพยากรณ์แม้นั้นแล้ว มีใจยินดีปราโมทย์แล้วได้กระทำ ความเพียรอย่างยอดเยี่ยม เพื่อบรรลุประโยชน์นั้น พระนครชื่อว่า สุธรรม พระมหากษัตริย์พระนามว่าสุธรรมเป็นพระชนกของพระ- โสภิตบรมศาสดา พระชนนีพระนามว่าสุธรรมา พระองค์ทรง ครอบครองอาคารสถานอยู่เก้าพันปี ทรงมีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อกุมุท นฬินี ปทุม มีพระสนมนารีกำนัล ในสี่หมื่นสามพันนางล้วนประดับประดาสวยงาม พระมเหสีพระ- นามว่ามกิลา พระราชโอรสมีพระนามว่าสีหะ พระองค์ทรงเห็น นิมิต ๔ ประการ เสด็จออกผนวชพร้อมทั้งปราสาท พระองค์ผู้เป็น บุรุษอุดม ทรงบำเพ็ญเพียรอยู่ ๗ วัน พระโสภิตมหาวีรเจ้าผู้เป็น นายกของโลก อันพรหมทูลอาราธนาแล้ว ทรงประกาศพระธรรม จักร ณ พระอุทธยานสุธรรมาอันสวยงาม ทรงมีพระอสมเถระและ พระสุเนตตเถระเป็นอัครสาวก เพราะเถระชื่อว่าอโนมะเป็นพุทธ อุปัฏฐาก พระนกุลาเถรีและพระสุชาตาเถรี เป็นพระอักครสาวิกา และพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น เมื่อตรัสรู้ก็ได้ตรัสรู้ที่ควงไม้กากะทิง รัมมะอุบาสกและสุเนตตอุบาสกเป็นอัครอุปัฏฐาก นกุลาอุบาสิกา และจิตตาอุบาสิกา เป็นอัครอุปัฏฐายิกา พระมหามุนีพระองค์สูง ๕๘

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๓๒๓.

ศอก ทรงเปล่งพระรัศมีสว่างไสวไปทั่วทิศ ดุจพระอาทิตย์อุทัย ฉะนั้น คำสั่งสอนของพระองค์หอมตลบไปด้วยกลิ่นศีล เปรียบ เหมือนป่าไม้ที่ดอกบาน หอมตลบไปด้วยกลิ่นต่างๆ ฉะนั้น คำสั่งสอนของพระองค์ไม่มีใครอิ่มด้วยการฟัง ดังสมุทรสาครไม่มี ใครอิ่มด้วยการเห็น ฉะนั้น ในขณะนั้น มนุษย์มีอายุเก้าหมื่นปี พระองค์ทรงดำรงพระชนมายุอยู่เท่านั้น ทรงช่วยในหมู่ชนข้ามพ้น วัฏสงสารได้เป็นอันมาก พระองค์ทรงประทานพระโอวาทและการ พร่ำสอน ทรงสั่งสอนหมู่ชนที่เหลือให้เผากิเลสดังเปลวไฟไหม้เชื้อ แล้ว เสด็จนิพพานพร้อมด้วยพระสาวก พระพุทธเจ้าผู้ไม่มีใครเสมอ เหมือน และพระสาวกผู้บรรลุพลธรรมทั้งหลาย หายไปหมดสิ้น แล้ว สังขารทั้งปวงว่างเปล่าหนอ พระสัมพุทธเจ้าผู้ประเสริฐ พระนามว่าโสภิต เสด็จนิพพาน ณ สีหาราม พระธาตุของพระ- องค์แผ่กว้างไปในประเทศนั้นๆ ฉะนี้แล.
จบโสภิตพุทธวงศ์ที่ ๖

             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๓ บรรทัดที่ ๗๔๙๖-๗๕๕๒ หน้าที่ ๓๒๑-๓๒๓. https://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=33&A=7496&Z=7552&pagebreak=1              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [คลิกเพื่อฟัง]              อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :- https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=33&siri=198              ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=33&i=187              ศึกษาพระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- [187] https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item_s.php?book=33&item=187&items=1              อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=51&A=5433              The Pali Tipitaka in Roman :- [187] https://84000.org/tipitaka/pali/roman_item_s.php?book=33&item=187&items=1              The Pali Atthakatha in Roman :- https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=51&A=5433              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๓ https://84000.org/tipitaka/read/?index_33

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วไม่แสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย

บันทึก ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :