ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๙ พระอภิธรรมปิฎกเล่มที่ ๖ ยมกปกรณ์ ภาค ๒
นิทเทสวาร
นิทเทสแห่งปุคคลวาร
[๔๔] จิตของบุคคลใดเกิดขึ้น ยังไม่ดับ จิตของบุคคลนั้น จักดับ จักไม่เกิดขึ้นหรือ ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นเกิดขึ้น ยังไม่ดับ จักดับจักไม่เกิดขึ้น ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลนอกนี้ จิตของบุคคล เหล่านั้นเกิดขึ้น ยังไม่ดับ จักดับด้วยนั่นเทียว จักเกิดขึ้นด้วย หรือว่า จิตของบุคคลใดจักดับ จักไม่เกิดขึ้น จิตของบุคคลนั้นเกิดขึ้น ไม่ดับไป ถูกแล้ว จิตของบุคคลใดไม่เกิดขึ้น ดับ จิตของบุคคลนั้น จักไม่ดับ จักเกิดขึ้นหรือ หามิได้ หรือว่า จิตของบุคคลใด จักไม่ดับ จักเกิดขึ้น จิตของบุคคลนั้น ไม่เกิดขึ้น ดับ ไม่มี [๔๕] จิตของบุคคลใดเกิดขึ้น จิตของบุคคลนั้นเกิดขึ้นแล้วหรือ ถูกแล้ว หรือว่า จิตของบุคคลใดเกิดขึ้นแล้ว จิตของบุคคลนั้นเกิดขึ้น ในภังคขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นเกิดขึ้นแล้ว จิตของบุคคล เหล่านั้นเกิดขึ้นก็หาไม่ ในอุปปาทขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นเกิดขึ้นแล้ว ด้วย นั่นเทียว เกิดขึ้นด้วย จิตของบุคคลใดไม่เกิดขึ้น จิตของบุคคลนั้นไม่เกิดขึ้นแล้วหรือ ในภังคขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้น ไม่เกิดขึ้น จิตของบุคคล เหล่านั้นไม่เกิดขึ้นก็หาไม่ จิตของบุคคลเหล่านั้น ผู้เข้านิโรธ ผู้เป็นอสัญญสัตว์ ไม่เกิดขึ้นด้วยนั่นเทียว ไม่เกิดขึ้นแล้วด้วย หรือว่า จิตของบุคคลใดไม่เกิดขึ้นแล้ว จิตของบุคคลนั้นไม่เกิดขึ้น ถูกแล้ว [๔๖] จิตของบุคคลใดดับ จิตของบุคคลนั้นเกิดขึ้นแล้วหรือ ถูกแล้ว หรือว่า จิตของบุคคลใดเกิดขึ้นแล้ว จิตของบุคคลนั้นดับ ในอุปปาทขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นเกิดขึ้นแล้ว จิตของ บุคคลเหล่านั้น ดับ ก็หาไม่ ในภังคขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นเกิดขึ้น แล้วด้วยนั่นเทียว ดับด้วย จิตของบุคคลใดไม่ดับ จิตของบุคคลนั้นไม่เกิดขึ้นแล้วหรือ? ในอุปปาทขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้น ไม่ดับ จิตของบุคคล- *เหล่านั้นไม่เกิดขึ้นแล้วก็หาไม่ จิตของบุคคลเหล่านั้น ผู้เข้านิโรธ ผู้เป็น- *อสัญญสัตว์ ไม่ดับด้วยนั่นเทียว ไม่เกิดขึ้นแล้วด้วย หรือว่า จิตของบุคคลใดไม่เกิดขึ้นแล้ว จิตของบุคคลนั้นไม่ดับ? ถูกแล้ว [๔๗] จิตของบุคคลใดเกิดขึ้น จิตของบุคคลนั้นเคยเกิดขึ้น แล้วหรือ ถูกแล้ว จิตของบุคคลใดเคยเกิดขึ้นแล้ว จิตของบุคคลนั้นเกิดขึ้น ในภังคขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้น ผู้เข้านิโรธ ผู้เป็นอสัญญสัตว์ เคยเกิดแล้ว แต่จิตของบุคคลเหล่านั้น เกิดขึ้นก็หาไม่ ในอุปปาทขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดขึ้นแล้วด้วยนั่นเทียว เกิดขึ้นด้วย จิตของบุคคลใดไม่เกิดขึ้น จิตของบุคคลนั้นไม่เคยเกิดขึ้นแล้ว หรือ เคยเกิดขึ้นแล้ว หรือว่า จิตของบุคคลใดไม่เคยเกิดขึ้นแล้ว จิตของบุคคลนั้น ไม่เกิดขึ้น ไม่มี จิตของบุคคลใดเกิดขึ้น จิตของบุคคลนั้น จักเกิดขึ้นหรือ ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นเกิดขึ้น แต่จิตของ บุคคลเหล่านั้น จักเกิดขึ้นก็หาไม่ ในอุปปาทขณะแห่งจิต ของบุคคลนอกนี้ จิตของบุคคลเหล่านั้นเกิดขึ้นด้วยนั่นเทียว จักเกิดขึ้นด้วย หรือว่า จิตของบุคคลใดจักเกิดขึ้น จิตของบุคคลนั้นเกิดขึ้น ในภังคขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้น ผู้เข้านิโรธ ผู้เป็นอสัญญสัตว์ จักเกิดขึ้น แต่จิตของบุคคลเหล่านั้น เกิดขึ้นก็หาไม่ ในอุปปาทขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้น จักเกิดขึ้นด้วยนั่นเทียว เกิดขึ้นด้วย จิตของบุคคลใดไม่เกิดขึ้น จิตของบุคคลนั้นจักไม่เกิดขึ้นหรือ ในภังคขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้น ผู้เข้านิโรธ ผู้เป็นอสัญญสัตว์ ไม่เกิดขึ้น แต่จิตของบุคคลเหล่านั้น จักไม่เกิดขึ้นก็หาไม่ ในภังคขณะแห่ง ปัจฉิมจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นไม่เกิดขึ้นด้วยนั่นเทียว จักไม่เกิดขึ้นด้วย หรือว่า จิตของบุคคลใดจักไม่เกิดขึ้น จิตของบุคคลนั้นไม่เกิดขึ้น ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นจักไม่เกิดขึ้น แต่ จิตของบุคคลเหล่านั้นไม่เกิดขึ้นก็หาไม่ ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต จิตของบุคคล เหล่านั้น จักไม่เกิดขึ้นด้วยนั่นเทียว ไม่เกิดขึ้นด้วย จิตของบุคคลใดเคยเกิดขึ้นแล้ว จิตของบุคคลนั้นจักเกิดขึ้นหรือ ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดขึ้นแล้ว แต่ จิตของบุคคลเหล่านั้น จักเกิดขึ้นก็หาไม่ จิตของบุคคลเหล่านั้นนอกนี้ เคย เกิดขึ้นแล้วด้วยนั่นเทียว จักเกิดขึ้นด้วย หรือว่า จิตของบุคคลใดจักเกิดขึ้น จิตของบุคคลนั้นเคยเกิดขึ้น แล้ว ถูกแล้ว จิตของบุคคลใดไม่เคยเกิดขึ้นแล้ว จิตของบุคคลนั้นจักไม่เกิดขึ้น หรือ ไม่มี หรือว่า จิตของบุคคลใดจักไม่เกิดขึ้น จิตของบุคคลนั้นไม่เคย เกิดขึ้นแล้ว เคยเกิดขึ้นแล้ว [๔๘] จิตของบุคคลใดดับ จิตของบุคคลนั้นเคยดับแล้วหรือ ถูกแล้ว หรือว่า จิตของบุคคลใดเคยดับแล้ว จิตของบุคคลนั้นดับ ในอุปปาทขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้น ผู้เข้านิโรธ ผู้เป็น อสัญญสัตว์ เคยดับแล้ว แต่จิตของบุคคลเหล่านั้นดับก็หาไม่ ในภังคขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นเคยดับแล้วด้วยนั่นเทียว ย่อมดับด้วย จิตของบุคคลใดไม่ดับ จิตของบุคคลนั้นไม่เคยดับแล้วหรือ เคยดับแล้ว หรือว่า จิตของบุคคลใดไม่เคยดับแล้ว จิตของบุคคลนั้นไม่ดับ ไม่มี จิตของบุคคลใดดับ จิตของบุคคลนั้นจักดับหรือ ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นดับ แต่จิตของบุคคล เหล่านั้นจักดับก็หาไม่ ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลนอกนี้ จิตของบุคคลเหล่า นั้น ดับด้วยนั่นเทียว จักดับด้วย หรือว่า จิตของบุคคลใดจักดับ จิตของบุคคลนั้นดับ ในอุปปาทขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้น ผู้เข้านิโรธ ผู้เป็น อสัญญสัตว์ จักดับ แต่จิตของบุคคลเหล่านั้นดับก็หาไม่ ในภังคขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นจักดับด้วยนั่นเทียว ดับด้วย จิตของบุคคลใดไม่ดับ จิตของบุคคลนั้นจักไม่ดับหรือ จักดับ หรือว่า จิตของบุคคลใดจักไม่ดับ จิตของบุคคลนั้นไม่ดับ ดับ จิตของบุคคลใดเคยดับแล้ว จิตของบุคคลนั้นจักดับหรือ ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นเคยดับแล้ว แต่จิต ของบุคคลเหล่านั้นจักดับก็หาไม่ จิตของบุคคลเหล่านั้นนอกนี้ เคยดับแล้วด้วย นั่นเทียว จักดับด้วย หรือว่า จิตของบุคคลใดจักดับ จิตของบุคคลนั้นเคยดับแล้ว ถูกแล้ว จิตของบุคคลใดไม่เคยดับแล้ว จิตของบุคคลนั้นจักไม่ดับหรือ ไม่มี หรือว่า จิตของบุคคลใดจักไม่ดับ จิตของบุคคลนั้นไม่เคยดับแล้ว เคยดับแล้ว [๔๙] จิตของบุคคลใดเกิดขึ้น จิตของบุคคลนั้นเคยดับแล้วหรือ ถูกแล้ว หรือว่า จิตของบุคคลใดเคยดับแล้ว จิตของบุคคลนั้นเกิดขึ้น ในภังคขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้น ผู้เข้านิโรธ ผู้เป็นอสัญญสัตว์ เคยดับแล้ว แต่จิตของบุคคลเหล่านั้น เกิดขึ้นก็หาไม่ ในอุปปาทขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นเคยดับแล้วด้วยนั่นเทียว เกิดขึ้นด้วย จิตของบุคคลใดไม่เกิดขึ้น จิตของบุคคลนั้นไม่เคยดับแล้วหรือ เคยดับแล้ว หรือว่า จิตของบุคคลใดไม่เคยดับแล้ว จิตของบุคคลนั้นไม่เกิดขึ้น ไม่มี จิตของบุคคลใดเกิดขึ้น จิตของบุคคลนั้นจักดับหรือ ถูกแล้ว หรือว่า จิตของบุคคลใดจักดับ จิตของบุคคลนั้นเกิดขึ้น ในภังคขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้น ผู้เข้านิโรธ ผู้เป็นอสัญญสัตว์ จักดับ แต่จิตของบุคคลเหล่านั้นเกิดขึ้นก็หาไม่ ในอุปปาทขณะแห่งจิต จิตของ บุคคลเหล่านั้นจักดับด้วยนั่นเทียว เกิดขึ้นด้วย จิตของบุคคลใดไม่เกิดขึ้น จิตของบุคคลนั้นจักไม่ดับหรือ ในภังคขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้น ผู้เข้านิโรธ ผู้เป็นอสัญญสัตว์ ไม่เกิดขึ้น แต่จิตของบุคคลเหล่านั้น จักไม่ดับก็หาไม่ ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นไม่เกิดขึ้นด้วยนั่นเทียว จักไม่ดับด้วย หรือว่า จิตของบุคคลใดจักไม่ดับ จิตของบุคคลนั้นไม่เกิดขึ้น ถูกแล้ว จิตของบุคคลใดเคยเกิดขึ้นแล้ว จิตของบุคคลนั้นจักดับหรือ ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดขึ้นแล้ว แต่ จิตของบุคคลเหล่านั้น จักดับก็หาไม่ จิตของบุคคลเหล่านั้นนอกนี้ เคยเกิดขึ้น แล้วด้วยนั่นเทียว จักดับด้วย หรือว่า จิตของบุคคลใดจักดับ จิตของบุคคลนั้นเคยเกิดขึ้นแล้ว ถูกแล้ว จิตของบุคคลใดไม่เคยเกิดขึ้นแล้ว จิตของบุคคลนั้นจักไม่ดับ ไปหรือ ไม่มี หรือว่า จิตของบุคคลใดจักไม่ดับ จิตของบุคคลนั้นไม่เคยเกิดขึ้น แล้ว เคยเกิดขึ้นแล้ว [๕๐] จิตของบุคคลใดเกิดขึ้น จิตของบุคคลนั้นไม่ดับหรือ ถูกแล้ว หรือว่า จิตของบุคคลใดไม่ดับ จิตของบุคคลนั้นเกิดขึ้น จิตของบุคคลเหล่านั้น ผู้เข้านิโรธ ผู้เป็นอสัญญสัตว์ ไม่ดับ แต่จิตของบุคคลเหล่านั้น เกิดขึ้นก็หาไม่ ในอุปปาทขณะแห่งจิต จิตของบุคคล เหล่านั้นไม่ดับด้วยนั่นเทียว เกิดขึ้นด้วย จิตของบุคคลใดไม่เกิดขึ้น จิตของบุคคลนั้นดับหรือ จิตของบุคคลเหล่านั้น ผู้เข้านิโรธ ผู้เป็นอสัญญสัตว์ ไม่เกิดขึ้น แต่จิตของบุคคลเหล่านั้นดับก็หาไม่ ในภังคขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้น ไม่เกิดขึ้นด้วยนั่นเทียว ดับด้วย หรือว่า จิตของบุคคลใดดับ จิตของบุคคลนั้นไม่เกิดขึ้น ถูกแล้ว [๕๑] จิตของบุคคลใดกำลังเกิดขึ้นอยู่ จิตของบุคคลนั้นเกิดขึ้น แล้วหรือ ถูกแล้ว หรือว่า จิตของบุคคลใดเกิดขึ้นแล้ว จิตของบุคคลนั้นกำลัง เกิดขึ้นอยู่ ในภังคขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นเกิดขึ้นแล้ว แต่จิตของบุคคล เหล่านั้นกำลังเกิดขึ้นอยู่ก็หาไม่ ในอุปปาทขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้น เกิดขึ้นแล้วด้วยนั่นเทียว กำลังเกิดขึ้นอยู่ด้วย จิตของบุคคลใดไม่เกิดขึ้นอยู่ จิตของบุคคลนั้นไม่เกิดขึ้นแล้วหรือ ในภังคขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นไม่เกิดขึ้นอยู่ แต่จิตของ บุคคลเหล่านั้น ไม่เกิดขึ้นแล้วก็หาไม่ จิตของบุคคลเหล่านั้น ผู้เข้านิโรธ ผู้เป็นอสัญญสัตว์ ไม่เกิดขึ้นอยู่ด้วยนั่นเทียว ไม่เกิดขึ้นแล้วด้วย หรือว่า จิตของบุคคลใดไม่เกิดขึ้นแล้ว จิตของบุคคลนั้น ไม่เกิดขึ้นอยู่ ถูกแล้ว [๕๒] จิตของบุคคลใดดับอยู่ จิตของบุคคลนั้นเกิดขึ้นแล้วหรือ ถูกแล้ว หรือว่า จิตของบุคคลใดเกิดขึ้นแล้ว จิตของบุคคลนั้นดับอยู่ ในอุปปาทขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นเกิดขึ้นแล้ว แต่จิตของ บุคคลเหล่านั้นดับอยู่ก็หาไม่ ในภังคขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้น เกิดขึ้น แล้วด้วยนั่นเทียว ดับอยู่ด้วย จิตของบุคคลใดไม่ดับอยู่ จิตของบุคคลนั้นไม่เกิดขึ้นแล้วหรือ ในอุปปาทขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นไม่ดับอยู่ แต่จิตของบุคคล เหล่านั้นไม่เกิดขึ้นแล้วก็หาไม่ จิตของบุคคลเหล่านั้น ผู้เข้านิโรธ ผู้เป็นอสัญญสัตว์ ไม่ดับอยู่ด้วยนั่นเทียว ไม่เกิดขึ้นแล้วด้วย หรือว่า จิตของบุคคลใดไม่เกิดขึ้นแล้ว จิตของบุคคลนั้นไม่ดับอยู่ ถูกแล้ว [๕๓] จิตของบุคคลใดเกิดขึ้นแล้ว จิตของบุคคลนั้นเคยเกิดขึ้น แล้วหรือ ถูกแล้ว หรือว่า จิตของบุคคลใดเคยเกิดขึ้นแล้ว จิตของบุคคลนั้นเกิดขึ้น แล้ว จิตของบุคคลเหล่านั้น ผู้เข้านิโรธ ผู้เป็นอสัญญสัตว์ เคยเกิดขึ้นแล้ว แต่จิตของบุคคลเหล่านั้นเกิดขึ้นแล้วก็หาไม่ จิตของบุคคลเหล่านั้น ผู้มีความ พร้อมเพรียงด้วยจิต เคยเกิดขึ้นแล้วด้วยนั่นเทียว เกิดขึ้นแล้วด้วย จิตของบุคคลใดเกิดขึ้นแล้ว จิตของบุคคลนั้นจักเกิดขึ้นหรือ จิตของบุคคลเหล่านั้น ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต เกิดขึ้นแล้ว แต่จิตของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดขึ้นก็หาไม่ จิตของบุคคลเหล่านั้นนอกนี้ ผู้มีความ พร้อมเพรียงด้วยจิต เกิดขึ้นแล้วด้วยนั่นเทียว จักเกิดขึ้นด้วย หรือว่า จิตของบุคคลใดจักเกิดขึ้น จิตของบุคคลนั้นเกิดขึ้นแล้ว จิตของบุคคลเหล่านั้น ผู้เข้านิโรธ ผู้เป็นอสัญญสัตว์ จักเกิดขึ้น แต่จิตของบุคคลเหล่านั้นเกิดขึ้นแล้วก็หาไม่ จิตของบุคคลเหล่านั้น ผู้มีความ พร้อมเพรียงด้วยจิต จักเกิดขึ้นด้วยนั่นเทียว เกิดขึ้นแล้วด้วย จิตของบุคคลใดไม่เกิดขึ้นแล้ว จิตของบุคคลนั้นไม่เคยเกิดขึ้น แล้วหรือ เคยเกิดขึ้นแล้ว หรือว่า จิตของบุคคลใดไม่เคยเกิดขึ้นแล้ว จิตของบุคคลนั้นไม่ เกิดขึ้นแล้ว ไม่มี จิตของบุคคลใดไม่เคยเกิดขึ้นแล้ว จิตของบุคคลนั้นจักไม่เกิดขึ้น หรือ จักเกิดขึ้น หรือว่า จิตของบุคคลใดจักไม่เกิดขึ้น จิตของบุคคลนั้นไม่เกิดขึ้น แล้ว เกิดขึ้นแล้ว [๕๔] จิตของบุคคลใดเคยเกิดขึ้นแล้ว แต่จิตของบุคคลนั้นเกิดขึ้น แล้วก็หาไม่ จิตของบุคคลนั้น จักเกิดขึ้นหรือ ถูกแล้ว หรือว่า จิตของบุคคลใดจักเกิดขึ้น แต่จิตของบุคคลนั้นเกิดขึ้น แล้วก็หาไม่ จิตของบุคคลนั้นเคยเกิดขึ้นแล้ว ถูกแล้ว จิตของบุคคลใดไม่เคยเกิดขึ้นแล้ว แต่จิตของบุคคลนั้นไม่เกิดขึ้น แล้วก็หาไม่ จิตของบุคคลนั้นจักไม่เกิดขึ้นหรือ ไม่มี หรือว่า จิตของบุคคลใดจักไม่เกิดขึ้น แต่จิตของบุคคลนั้น ไม่เกิดขึ้นแล้วก็หาไม่ จิตของบุคคลนั้นไม่เคยเกิดขึ้นแล้ว เคยเกิดขึ้นแล้ว [๕๕] จิตที่เกิดขึ้นแล้ว กำลังเกิดขึ้นอยู่หรือ ในภังคขณะ เกิดขึ้นแล้ว แต่จะเกิดขึ้นอยู่ก็หาไม่ ในอุปปาทขณะ จิตเกิดขึ้นแล้วด้วยนั่นเทียว เกิดขึ้นอยู่ด้วย จิตเกิดขึ้นอยู่ เกิดขึ้นแล้วหรือ ถูกแล้ว จิตที่ไม่เกิดขึ้นแล้ว ไม่เกิดขึ้นอยู่หรือ ถูกแล้ว จิตที่ไม่เกิดขึ้นอยู่ ไม่เกิดขึ้นแล้วหรือ ในภังคขณะ ไม่เกิดขึ้นอยู่ แต่ไม่เกิดขึ้นแล้วก็หาไม่ จิตเป็นอดีตและ อนาคต ไม่เกิดขึ้นอยู่ด้วยนั่นเทียว ไม่เกิดขึ้นแล้วด้วย [๕๖] จิตที่ดับแล้ว ดับอยู่หรือ หามิได้ จิตดับอยู่ ดับแล้วหรือ หามิได้ จิตไม่ดับแล้ว ไม่ดับอยู่หรือ ในภังคขณะไม่ดับแล้ว แต่จะไม่ดับอยู่ก็หาไม่ ในอุปปาทขณะ จิตที่ เป็นอนาคตเท่านั้น ไม่ดับแล้วด้วยนั่นเทียว ไม่ดับอยู่ด้วย จิตไม่ดับอยู่ ไม่ดับแล้วหรือ จิตเป็นอดีตไม่ดับอยู่ แต่ไม่ดับแล้วก็หาไม่ ในอุปปาทขณะ จิตเป็น อนาคต ไม่ดับอยู่นั่นเทียว ไม่ดับแล้วด้วย [๕๗] จิตของบุคคลใด เมื่อเกิดขึ้น ก้าวล่วงซึ่งขณะๆ มีกาล อันก้าวล่วงแล้ว จิตของบุคคลนั้น เมื่อดับไป ก้าวล่วงซึ่งขณะๆ มีกาล อันก้าวล่วงแล้วหรือ ในภังคขณะ จิตก้าวล่วงอุปปาทขณะ จิตเป็นอดีตก้าวล่วงอุปปาทขณะ ด้วย ก้าวล่วงภังคขณะด้วย หรือว่า จิตของบุคคลใด เมื่อดับไป ก้าวล่วงซึ่งขณะๆ เป็นจิต มีกาลอันก้าวล่วงแล้ว จิตของบุคคลนั้น เมื่อเกิดขึ้น ก้าวล่วงซึ่งขณะๆ เป็นจิตมีกาลอันก้าวล่วงแล้ว จิตเป็นอดีต จิตของบุคคลใดเมื่อไม่เกิดขึ้น ก้าวล่วงซึ่งขณะๆ เป็นจิตมีกาล อันก้าวล่วงแล้ว จิตของบุคคลนั้นเมื่อไม่ดับ ก้าวล่วงขณะๆ เป็นจิตมีกาล อันก้าวล่วงแล้วหรือ จิตเป็นอนาคตเท่านั้น ในอุปปาทขณะ หรือว่า จิตของบุคคลใด เมื่อไม่ดับ ก้าวล่วงขณะๆ เป็นจิตมี กาลอันก้าวล่วงแล้ว จิตของบุคคลนั้น เมื่อไม่เกิดขึ้น ก้าวล่วงขณะๆ เป็นจิตมีกาลอันก้าวล่วงแล้ว ในภังคขณะ จิตไม่ก้าวล่วงภังคขณะ แต่ไม่ก้าวล่วงอุปปาทขณะก็หาไม่ ในอุปปาทขณะ จิตเป็นอนาคตเท่านั้น ไม่ก้าวล่วงภังคขณะด้วย ไม่ก้าวล่วง อุปปาทขณะด้วย
นิทเทสแห่งปุคคลวาร จบ

             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๙ บรรทัดที่ ๓๓๒-๕๙๙ หน้าที่ ๑๕-๒๕. https://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=39&A=332&Z=599&pagebreak=0              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2], [3]              อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :- https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=39&siri=2              ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=39&i=44              ศึกษาพระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- [44-57] https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item_s.php?book=39&item=44&items=14              The Pali Tipitaka in Roman :- [44-57] https://84000.org/tipitaka/pali/roman_item_s.php?book=39&item=44&items=14              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๙ https://84000.org/tipitaka/read/?index_39

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย

บันทึก ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :