ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๔๐ พระอภิธรรมปิฎกเล่มที่ ๗ มหาปัฏฐานปกรณ์ ภาค ๑
             [๑๖๖๐] สังกิลิฏฐสังกิเลสิกธรรม อาศัยสังกิลิฏฐสังกิเลสิกธรรม เกิดขึ้น
เพราะเหตุปัจจัย
             คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสังกิลิฏฐสังกิเลสิกธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๒
อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น
             อสังกิลิฏฐสังกิเลสิกธรรม อาศัยสังกิลิฏฐสังกิเลสิกธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุ
ปัจจัย
             คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นสังกิลิฏฐสังกิเลสิกธรรม เกิดขึ้น
             สังกิลิฏฐสังกิเลสิกธรรม และอสังกิลิฏฐอสังกิเลสิกธรรม อาศัยสังกิลิฏฐ-
*สังกิเลสิกธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
             คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นสังกิลิฏฐสังกิเลสิกธรรม
เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น
             [๑๖๖๑] อสังกิลิฏฐสังกิเลสิกธรรม อาศัยอสังกิลิฏฐสังกิเลสิกธรรม เกิดขึ้น
เพราะเหตุปัจจัย
             คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอสังกิลิฏฐสังกิเลสิกธรรม
เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูป  อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูป อาศัย-
*ขันธ์ ๑ ที่เป็นอสังกิลิฏฐสังกิเลสิกธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และกฏัตตารูป อาศัยขันธ์ ๒
เกิดขึ้น
             ในปฏิสนธิขณะ หทยวัตถุ อาศัยขันธ์ทั้งหลาย เกิดขึ้น ขันธ์ทั้งหลายอาศัยหทยวัตถุ
เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูป และกฏัตตารูป ที่เป็น-
*อุปาทารูป อาศัยมหาภูตรูป เกิดขึ้น
             [๑๖๖๒] อสังกิลิฏฐอสังกิเลสิกธรรม อาศัยอสังกิลิฏฐอสังกิเลสิกธรรม เกิดขึ้น
เพราะเหตุปัจจัย
             คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอสังกิลิฏฐอสังกิเลสิกธรรม เกิดขึ้น ขันธ์ ๒
อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น
             อสังกิลิฏฐสังกิเลสิกธรรม อาศัยอสังกิลิฏฐอสังกิเลสิกธรรม เกิดขึ้น เพราะ
เหตุปัจจัย
             คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นอสังกิลิฏฐอสังกิเลสิกธรรม เกิดขึ้น
             อสังกิลิฏฐสังกิเลสิกธรรม และอสังกิลิฏฐอสังกิเลสิกธรรม อาศัยอสังกิลิฏฐ
อสังกิเลสิกธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
             คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอสังกิลิฏฐอสังกิเลสิกธรรม
เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น
             [๑๖๖๓] อสังกิลิฏฐสังกิเลสิกธรรม อาศัยอสังกิลิฏฐสังกิเลสิกธรรม และ
อสังกิลิฏฐอสังกิเลสิกธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
             คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นอสังกิลิฏฐอสังกิเลสิกธรรม และมหาภูตรูป
เกิดขึ้น
             [๑๖๖๔] อสังกิลิฏฐสังกิเลสิกธรรม อาศัยสังกิลิฏฐสังกิเลสิกธรรม และ
อสังกิลิฏฐสังกิเลสิกธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
             คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นสังกิลิฏฐสังกิเลสิกธรรม และมหาภูตรูป ฯลฯ
             [๑๖๖๕] 	ในเหตุปัจจัย	มีวาระ ๙
                          ในอารัมมณปัจจัย	มี "   ๓ ฯลฯ
                          ในวิปากปัจจัย	มี "   ๕
                          ในอวิคตปัจจัย	มี "   ๙
             ในกุสลัตติกะท่านจำแนกไว้อย่างไร พึงจำแนกอย่างนั้น
             [๑๖๖๖] สังกิลิฏฐสังกิเลสิกธรรม อาศัยสังกิลิฏฐสังกิเลสิกธรรม เกิดขึ้น
ไม่ใช่เพราะเหตุปัจจัย
             คือ โมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ อาศัยขันธ์ที่สหรคตด้วย-
*วิจิกิจฉา ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ เกิดขึ้น
             [๑๖๖๗] อสังกิลิฏฐสังกิเลสิกธรรม อาศัยอสังกิลิฏฐสังกิเลสิกธรรม เกิดขึ้น
ไม่ใช่เพราะเหตุปัจจัย
             คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอสังกิลิฏฐสังกิเลสิกธรรม
ซึ่งเป็นอเหตุกะ เกิดขึ้น ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ ฯลฯ
             สำหรับพวกอสัญญสัตว์ มหาภูตรูป ๑ ฯลฯ
             ในกุสลัตติกะ ท่านจำแนกไว้อย่างไร พึงจำแนกอย่างนั้น
             ในปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย	มีวาระ ๒
             ในปัจจัยที่ไม่ใช่อารัมมณปัจจัย		 มีวาระ ๕
                          "    อธิปติปัจจัย		 มี "   ๖ ฯลฯ
                          "    อารัมมณปัจจัย กับเหตุปัจจัย	 มี "   ๕ ฯลฯ
             ในอารัมมณปัจจัย กับปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย มี "   ๒ ฯลฯ
             สหชาตวารก็ดี ปัจจัยวาร นิสสยวาร สังสัฏฐวาร และสัมปยุตตวารก็ดี พึงให้-
*พิสดาร
ปัญหาวาร

             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๔๐ บรรทัดที่ ๑๙๙๔๖-๒๐๐๐๖ หน้าที่ ๗๙๑-๗๙๔. https://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=40&A=19946&Z=20006&pagebreak=0              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [คลิกเพื่อฟัง]              อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :- https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=40&siri=178              ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=40&i=1660              ศึกษาพระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- [1660-1668] https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item_s.php?book=40&item=1660&items=9              อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=55&A=12711              The Pali Tipitaka in Roman :- [1660-1668] https://84000.org/tipitaka/pali/roman_item_s.php?book=40&item=1660&items=9              The Pali Atthakatha in Roman :- https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=55&A=12711              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๔๐ https://84000.org/tipitaka/read/?index_40              อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://suttacentral.net/patthana1.6/en/narada

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย

บันทึก ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :