พระพุทธศาสนาจากพระโอษฐ์


: ค้นหาพระพุทธศาสนาจากพระโอษฐ์ :


353 อยู่คนเดียวแต่มีเพื่อน

ปัญหา บางคนอยู่คนเดียวในป่าเปลี่ยว ก็ชื่อว่ามีเพื่อนสองบางคนอยู่ท่ามกลางคนอื่น ๆ แต่ก็ชื่อว่าอยู่คนเดียว หมายความว่าอย่างไร?

พุทธดำรัสตอบ “ดูก่อนมิคชาละ รูปที่จะพึงรู้แจ้งด้วยตา ... เสียงที่จะพึงรู้ด้วยหู ....กลิ่นที่จะพึงรู้ด้วยจมูก.. รสที่จะพึงรู้ด้วยลิ้น... โผฏฐัพพะที่จะถึงรู้ด้วยกาย... ธรรมารมณ์ที่จะพึงรู้ด้วยใจ อันน่าปรารถนา น่าใคร่น่าพอใจให้เกิดความรัก ชักให้ใคร่ ชวนให้กำหนัดมีอยู่ ถ้าภิกษุยินดีกล่าวสรรเสริญ หมกมุ่น รูป... เสียง... กลิ่น... รส... โผฏฐัพพะ...ธรรมารมณ์นั้นอยู่.... ย่อมเกิดความเพลิดเพลิน เมื่อมีความเพลิดเพลิน ก็มีความกำหนัดแรงกล้า เมื่อมีความกำหนัดแรงกล้าก็มีความเกี่ยวข้อง... ภิกษุผู้ประกอบด้วยความเพลิดเพลินและความเกี่ยวข้อง เราเรียกว่า มีปกติอยู่ด้วยเพื่อน ๒ ถึงจะเสพเสนาสนะอันสงัด คือ ป่าหญ้าและป่าไม้เงียบเสียง... ก็ยังเรียกว่า มีปกติอยู่ด้วยเพื่อน ๒ เพราะผู้นั้นยังมีตัณหาเป็นเพื่อน ๒...
“ดูก่อนมิคชาละ ถ้าภิกษุไม่ยินดี ไม่กล่าวสรรเสริญ ไม่กล่าวหมกมุ่น
รูป... เสียง... กลิ่น... รส... โผฏฐัพพะ...ธรรมารมณ์นั้นอยู่.... ความเพลิดเพลินย่อมดับ เมื่อไม่มีความเพลิดเพลิน ก็ไม่มีความกำหนัด เมื่อไม่มีความกำหนัดก็ไม่มีความเกี่ยวข้อง... ภิกษุผู้ประกอบด้วยความเพลิดเพลินและความเกี่ยวข้อง เราเรียกว่า มีปกติอยู่ผู้เดียว แม้จะอยู่ปะปนกับภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา พระราชา มหาอำมาตย์ของพระราชา เดียรถีย์ ก็ยังเรียกว่า มีปกติอยู่ผู้เดียว เพราะตัณหาซึ่งเป็นเพื่อน ๒ เธอละได้แล้ว...”

มิคชาลสูตร ที่ ๑ สฬา. สํ. (๖๖-๖๗)
ตบ. ๑๘ : ๔๓-๔๔ ตท. ๑๘ : ๓๕-๓๖
ตอ. K.S. ๔ : ๑๖-๑๘

<หน้าก่อน<<< สารบัญ >>>หน้าถัดไป>

:: อธิบายอักษรย่อแหล่งอ้างอิง ::
:: ค้นหาความหมายของศัพท์ จากพจนานุกรมพุทธศาสตร์ ::


: ถ้าหน้านี้มีการพิมพ์ผิดขอความกรุณาส่งข้อความถึง webmaster :