พระพุทธศาสนาจากพระโอษฐ์


: ค้นหาพระพุทธศาสนาจากพระโอษฐ์ :


470 จงมีธรรมเป็นที่พึ่ง

ปัญหา เมื่อพระสารีบุตรปรินิพพานแล้ว สามเณรจุนทะผู้เป็นอุปัฏฐากของท่าน ได้นำเอาบาตรและจีวรของท่านไปแจ้งข่าวนั้นให้พระอานนท์ทราบ พระอานนท์ได้พาสามเณรจุนทะเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาค และแสดงความทุกข์โศกอันใหญ่หลวงของตนต่อพระผู้มีพระภาค ?

พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอนว่า “ดูก่อนอานนท์ พระสารีบุตรพาเอาสีลขันธ์ สมาธิขันธ์ ปัญญาขันธ์ วิมุติขันธ์ หรือวิมุติญาณทัสสนะขันธ์ ปรินิพพานไปด้วยหรือ? หามิได้พระเจ้าข้า...
“ดูก่อนอานนท์ ข้อนั้นเราได้บอกเธอทั้งหลายไว้ก่อนแล้วมิใช่หรือว่าจักต้องมีการจาก การพลัดพรากความเป็นอื่นไปจากของรักของชอบใจทั้งสิ้นเพราะฉะนั้น เราจะพึงได้ตามใจปรารถนาในของรักของชอบใจนี้ได้แต่ที่ไหน สิ่งใดเกิดแล้ว มีแล้ว ปัจจัยปรุงแต่งแล้ว มีการแตกสลายเป็นธรรมดา การปรารถนาว่า ของสิ่งนั้นอย่าได้แตกสลายเลยดังนี้ มิใช่ฐานะที่จะเป็นไปได้
“ดูก่อนอานนท์ เปรียบเหมือนมีต้นไม้ใหญ่มีแกนยืนต้นอยู่ กิ่งใดใหญ่กว่าเพื่อน กิ่งนั้นพึงทำลายไป ฉันนั้นเหมือนกันแล อานนท์ เมื่อภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ มีสาระตั้งมั่นอยู่ พระสารีบุตรได้ปรินิพพานไปแล้ว เพราะฉะนั้นเราจะพึงได้ตามปรารถนาในเรื่องนี้แต่ที่ไหน เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลายจงมีตนเป็นเกาะ มีตนเป็นที่พึ่ง อย่ามีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง คือมีธรรมเป็นเกาะ มีธรรมเป็นที่พึ่ง อย่ามีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง ดำรงชีวิตอยู่เถิด...
“ดูก่อนอานนท์ ภิกษุเหล่าใดเหล่าหนึ่งในบัดนี้ก็ดี ในกาลที่เราล่วงไปก็ดี จักเป็นผู้มีตนเป็นเกาะ มีตนเป็นที่พึ่ง ไม่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง คือมีธรรมเป็นเกาะ มีธรรมเป็นที่พึ่ง ไม่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง ดำรงชีวิตอยู่ ภิกษุเหล่านั้นผู้ใคร่ต่อการศึกษา จักอยู่เหนือความมืด....”

จนทสูตร มหา. สํ. (๗๓๔-๗๔๐)
ตบ. ๑๙ : ๒๑๕-๒๑๗ ตท. ๑๙ : ๒๐๓-๒๐๕
ตอ. K.S. ๕ : ๑๔๑-๑๔๓

<หน้าก่อน<<< สารบัญ >>>หน้าถัดไป>

:: อธิบายอักษรย่อแหล่งอ้างอิง ::
:: ค้นหาความหมายของศัพท์ จากพจนานุกรมพุทธศาสตร์ ::


: ถ้าหน้านี้มีการพิมพ์ผิดขอความกรุณาส่งข้อความถึง webmaster :