พิมพ์หน้านี้ | ส่งหน้านี้ให้เพื่อน |

 


84000.org
 
       
 

84000.org::...

01-ตปุสสะ-ภัลลิกะ
เอตทัคคะในฝ่ายผู้ถึงสรณะก่อน

เมื่อพระพุทธองค์ทรงตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณใหม่ ๆ ณ ภายใต้ร่ม
พระศรีมหาโพธิ์แล้ว ประทับเสวยวิมุตติสุขในสถานที่ต่าง ๆ รวม ๗ แห่ง ๆ ละ ๗ วัน และใน
สัปดาห์ที่ ๗ อันเป็นสัปดาห์สุดท้าย พระพุทธองค์ประทับเสวยวิมุตติสุขที่ภายใต้ร่มไม้เกตุ อัน
ได้นามว่า “ราคายตนะ” นั้น
ขณะนั้น สมเด็จพระอมรินทราธิราช ทรงดำริว่า “พระผู้มีพระภาค ตั้งแต่ตรัสรู้แล้ว
นับได้ ๔๙ วันถึงวันนี้ พระองค์ยังมิได้เสวยพระกระยาหารและถ่ายพระบังคนเลย สมควรที่
พระองค์จะเสวยพระกระยาหารและถ่ายพระบังคน” จึงนำผลสมออันเป็นทิพยโอสถมาจาก
เทวโลก เข้าไปถวายพระพุทธองค์ทรงรับมาเสวยแล้วทำสรีรกิจลงพระบังคน แล้วท้าว
สหัสนัยน์ก็อยู่เฝ้าถวายการปฏิบัติพระพุทธองค์ด้วยกิจต่าง ๆ มีถวายน้ำบ้วนพระโอษฐ์ เป็นต้น

  • เทววาจิกอุบาสก (ทะเววาจิกะอุบาสก)
    ครั้งนั้น มีพ่อค้าพานิชสองพี่น้องชื่อ ตปุสสะ กับ ภัลลิกะ นำสินค้าบรรทุกกองเกวียน
    เดินทางมาจากอุกกละชนบทผ่านมาทางนั้น ด้วยอานุภาพแห่งเทวดา องค์หนึ่งซึ่งเคยเป็นญาติ
    กับสองพ่อค้าในอดีตชาติ เห็นสองพ่อค้าแล้วคิดว่า “พ่อค้าทั้งสองนี้ พากันลุ่มหลงวนเวียนอยู่
    ในสังสารวัฏสิ้นกาลช้านาน ควรที่เราจะสงเคราะห์ให้ได้รับประโยชน์สุขอันอุดม” จึงบันดาล
    ให้โคพาเกวียนไปผิดทางแล้วแสดงตนให้ปรากฏ กล่าวชี้แนะให้สองพ่อค้านำสัตตุก้อนสัตตุผง
    อันเป็นเสบียงทาง เข้าไปถวายพระผู้มีพระภาค สองพ่อค้าก็ปฏิบัติตามน้อมนำข้าวสัตตุก้อน
    สัตตุผลเข้าไปถวาย พบพระผู้มีพระภาคประทับอยู่ภายใต้ร่มไม้เกตุ ประกอบด้วย
    ทวัตติงสมหาปุริสลักษณะ มีพระรัศมีรุ่งเรืองไม่เคยพบเห็นมาก่อน จึงคิดว่า “พระพุทธเจ้าเกิด
    ขึ้นแล้วในโลก ซึ่งนับว่าเป็นบุญลาภอันประเสริฐของพวกตนยิ่งนักแล้วเข้าไปกราบทูลว่า
    “ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ขอพระองค์จงทรงอนุเคราะห์รับบิณฑบาตไทยทาน เพื่อ
    ประโยชน์สุขแก่ข้าพระพุทธเจ้าทั้งสอง ตลอดกาลนานเถิด”
    พระผู้มีพระภาคทรงดำริว่า “บาตรของตถาคตได้หายไปก่อนวันตรัสรู้ ต้องรับข้าว
    มธุปายาสของนางสุชาดาด้วยพระหัตถ์ หลังจากนั้นมายังมิได้เสวยกระยาหารเลย บัดนี้สองพา
    นิชนำอาหารมาถวาย ตถาคตจะได้บาตรมาแต่ที่ไหน”
    เมื่อพระพุทธองค์ทรงดำริอย่างนั้น ทันใดนั้น ท้าวจตุโลกบาลทั้ง ๔ ได้นำบาตรศิลาสี
    เขียวองค์ละใบ มาจากทิศทั้ง ๔ น้อมเข้าไปถวาย

  • พระพุทธเจ้าประสานบาตร
    พระผู้มีพระภาค ทรงดำริว่า “บรรพชิตรูปหนึ่งไม่ควรมีบาตรเกินกว่า หนึ่งใบ” จึง
    ทรงอธิษฐานให้บาตรทั้ง ๔ ใบนั้นประสานเข้าเป็นใบเดียวกันแล้วทรงรับข้าวสัตตุก้อนสัตตุผล
    ของสองพานิชด้วยบาตรนั้น เมื่อเสร็จภัตกิจแล้ว นายพานิชสองพี่น้องกราบทูลแสดงตนเป็น
    อุบาสก ขอถึงพระพุทธกับพระธรรมเป็นสรณะ ที่พึ่งที่ระลึกตลอดชีวิต เนื่องด้วยขณะนั้นยัง
    ไม่มีพระสงฆ์เกิดขึ้นในโลกอุบาสกทั้งสองจึงได้นามว่า “เทววาจิกอุบาสก” นับเป็นอุบาสกคู่
    แรกและคู่เดียวในโลก ผู้ถึงรัตนะสองประการ
    ก่อนที่อุบาสกทั้งสองจะกราบทูลลากลับไปนั้น ได้ทูลขอสิ่งอันเป็นปูชนียวัตถุ เพื่อนำ
    ไปประดิษฐานเป็นที่สักการบูชายังบ้านเมืองของตนสืบไป
    พระพุทธองค์ ทรงยกพระหัตถ์ขึ้นลูบพระเศียร พระเกษา ๘ เส้นติดพระหัตถ์ออกมา
    จึงประทานให้แก่สองพ่อค้านั้นตามประสงค์
    พ่อค้าทั้งสองได้รับการยกย่องจากพระบรมศาสดา ในตำแหน่งเอตทัคคะ เป็นผู้เลิศกว่า
    อุบาสกทั้งหลาย ในฝ่าย ผู้ถึงสรณะก่อน

84000.org...::

สารบัญหลักหมวดอุบาสก
| 01 | 02 | 03 | 04 | 05 | 06 | 07 | 08 | 09 | 10 |

 
     

 

| หน้าแรก | ส่งเมลให้webmaster | เว็บบอร์ด |