บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
ความพิสดารมีอยู่ว่า วันหนึ่งพระศาสดาตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย แล้วตรัสพระสูตรในมหาวรรคสังยุตต์นี้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจงเที่ยวไปในโคจรอันเป็นวิสัยของบิดาของตน แล้วตรัสว่า พวกเธอจงยกไว้ก่อนเถิด เมื่อก่อนแม้เดียรัจฉานทั้งหลายก็ละวิสัยของตน แล้วเที่ยวไปในที่เป็นอโคจร ไปสู่เงื้อมมือของข้าศึก แต่รอดจากเงื้อมมือข้าศึกได้ ก็ด้วยความฉลาดในอุบาย เพราะตนมีปัญญาเป็นสมบัติ แล้วทรงนำเรื่องในอดีตมาเล่า. ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในกรุงพาราณสี พระโพธิ พระศาสดา ครั้นทรงแสดงเรื่องในอดีตนี้แล้ว จึงตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย แม้สัตว์เดียรัจฉานเที่ยวไปในที่อโคจรอย่างนี้ ยังถึงเงื้อมมือข้าศึก แต่เมื่อเที่ยวไปในถิ่นหาอาหาร อันเป็นของบิดาของตน ก็ยังข่มข้าศึกเสียได้ เพราะฉะนั้น แม้พวกเธอก็จงอย่าเที่ยวไปในอโคจรซึ่งเป็นแดนอื่น ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อพวกเธอเที่ยวไปในอโคจรอันเป็นแดนอื่น มารย่อมได้ช่อง มารย่อมได้อารมณ์ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อโคจรอันเป็นแดนอื่นของภิกษุคืออะไร คือกามคุณห้า กามคุณห้าเป็นไฉน กามคุณห้า คือ รูปที่รู้ได้ด้วยตา ๑ เสียงที่รู้ได้ด้วยหู ๑ กลิ่นที่รู้ได้ด้วยจมูก ๑ รสที่รู้ได้ด้วยลิ้น ๑ โผฏฐัพพะที่รู้ได้ด้วยกาย ๑ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้แลเป็นอโคจรเป็นแดนอื่นของภิกษุ เมื่อทรงบรรลุอภิสัมโพธิญาณแล้ว จึงตรัสคาถาแรกว่า :- เหยี่ยวนกเขาบินโผลงด้วยกำลัง หมายใจว่าจะเฉี่ยวเอานกมูลไถ ซึ่งจับอยู่ที่ท้ายดง เพื่อหาเหยื่อโดยฉับพลัน เพราะเหตุนั้น จึงถึงความตาย. ในบทเหล่านั้น บทว่า พลสา ปตมาโน ความว่า เหยี่ยวโผลงด้วยกำลัง คือด้วยเรี่ยวแรงด้วยคิดว่า จักจับนก ก็เมื่อเหยี่ยวตาย นกมูลไถจึงออกมายืนบนอกของเหยี่ยว ด้วยมั่นใจว่าเราชนะข้าศึกได้แล้ว เมื่อจะเปล่งอุทาน จึงกล่าวคาถาที่สองว่า :- เรานั้นเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยอุบายยินดีแล้ว ในโคจรอันเนื่องมาแต่บิดา เห็นอยู่ซึ่งประโยชน์ของตน จึงหลีกพ้นไปจากศัตรู ย่อมเบิกบานใจ. ในบทเหล่านั้นบทว่า นเยน ได้แก่อุบาย. บทว่า อตฺถมตฺตโน ได้แก่ ความเจริญ กล่าวคือความปลอดภัยของตน. พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประกาศสัจธรรม ทรงประชุมชาดก เมื่อจบสัจธรรม ภิกษุเป็นอันมากบรรลุโสดาปัตติผล เป็นต้น. เหยี่ยวในครั้งนั้น ได้เป็น เทวทัต ในบัดนี้ ส่วนนกมูลไถ คือ เราตถาคต นี้แล. .. อรรถกถา สกุณัคฆิชาดก จบ. |