ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ  พระวินัยปิฎก  พระสุตตันตปิฎก  พระอภิธรรมปิฎก  ค้นพระไตรปิฎก  ชาดก  หนังสือธรรมะ 

อ่านชาดก 270000อ่านชาดก 270487อรรถกถาชาดก 270490
เล่มที่ 27 ข้อ 490อ่านชาดก 270493อ่านชาดก 272519
อรรถกถา กามวิลาปชาดก
ว่าด้วย ผู้พิลาปถึงกาม
               พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน ทรงปรารภการประเล้าประโลมภรรยาเก่า (ของภิกษุรูปหนึ่ง) จึงตรัสเรื่องนี้ มีคำเริ่มต้นว่า อุจฺเจ สกุเณ เฑมาน ดังนี้.
               เรื่องปัจจุบันได้กล่าวไว้แล้วใน บุปผรัตตชาดก
               เรื่องอดีตจักมีแจ้งใน อินทริยชาดก
               แต่ในที่นี้ ราชบุรุษทั้งหลายทำให้บุรุษนั้นเร่าร้อน เสียบประจานไว้บนหลาวทั้งเป็นๆ บุรุษนั้นนั่งอยู่บนหลาวนั้น เห็นกาบินมาทางอากาศ ไม่อนาทรถึงเวทนาทั้งที่แรงกล้าเห็นปานนั้น
               เมื่อจะเรียกกานั้นมาเพื่อจะส่งข่าวสารถึงภรรยาผู้เป็นที่รัก จึงได้กล่าวคาถาเหล่านี้ว่า :-
               ดูก่อนนกผู้มีปีกเป็นยาน บินทะยานไปในเวหา บินไปในอากาศอันสูง ท่านช่วยบอกภรรยาของข้าพเจ้าผู้มีลำขา เสมอด้วยต้นกล้วยให้ทราบด้วยว่า ข้าพเจ้าถูกเสียบอยู่บนหลาว ภรรยาที่รักของข้าพเจ้านั้น เมื่อไม่ทราบข่าวคราวอันนี้ จักทำการรอคอยข้าพเจ้าตลอดกาลนาน.
               ภรรยาของข้าพเจ้านั้นยังไม่รู้ว่าหลาวและหอกนี้เขาวางไว้เพื่อเสียบประจาน นางเป็นคนดุร้าย ก็จะโกรธข้าพเจ้า ความโกรธแห่งภรรยาของข้าพเจ้านั้น จะทำข้าพเจ้าให้เดือดร้อนไปด้วย แต่หลาวนี้มิได้ทำให้ข้าพเจ้าเดือดร้อนในที่นี้เลย.
               หอกและเกราะนี้ข้าพเจ้าเก็บไว้ที่หัวนอน อนึ่ง แหวนก้อยที่ทำด้วยทองคำเนื้อสุก และผ้าแคว้นกาสีเนื้ออ่อน ข้าพเจ้าเก็บไว้ที่หัวนอน ขอภรรยาที่รักของข้าพเจ้าผู้มีความต้องการทรัพย์ จงยินดีด้วยทรัพย์นี้เถิด.


               บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า เฑมาน แปลว่า บิน คือไป. บุรุษคนนั้นเรียกกาตัวนั้นแหละว่า ปตฺตยาน ผู้มีปีกเป็นยาน. เรียกว่า วิหงฺคม ผู้ไปในเวหา ก็เหมือนกัน. จริงอยู่ กานั้นชื่อว่ามีปีกเป็นยาน เพราะกระทำการไปด้วยปีกทั้งหลาย ชื่อว่าผู้ไปในเวหา เพราะไปทางอากาศ.
               บทว่า วชฺชาสิ แปลว่า ท่านพึงบอก.
               บทว่า วามูรุํ แปลว่า ผู้มีขาอ่อนเสมอลำต้นกล้วย. ท่านพึงบอกว่าข้าพเจ้านั่นอยู่บนหลาว.
               บทว่า จิรํ โข สา กริสฺสติ ความว่า นางเมื่อไม่ทราบข่าวคราวนี้ จักกระทำการรอคอยการมาของข้าพเจ้า ในเวลานาน คือนางจักคิดอย่างนี้ว่า สามีอันเป็นที่รักไปนานแล้วยังไม่มา. ด้วยบทว่า อสิ สตฺติญจ แปลว่า ดาบและหอก นี้บุรุษนั้นกล่าวหมายเอาเฉพาะหอกเท่านั้น เพราะมันเสมอด้วยดาบและหอก จริงอยู่หอกนั้น เขาวาง คือปักไว้เพื่อเสียบประจานบุรุษนั้น.
               บทว่า จณฺฑี ได้แก่ เป็นผู้มักโกรธ.
               บทว่า กาหตี โกธํ ความว่า นางจักกระทำความโกรธต่อเราว่า มัวชักช้าอยู่.
               บทว่า ตํ เม ตปฺปติ ความว่า ความโกรธของนางนั้น ย่อมทำเราให้เดือดร้อน.
               ด้วยบทว่า โน อิธ นี้ บุรุษนั้นแสดงว่า ก็หลาวนี้ย่อมไม่ทำเราให้เดือดร้อนในที่นี้เลย. ด้วยคำเป็นต้นว่า นี้หอกและเกราะดังนี้ บุรุษผู้นั้นบอกถึงสิ่งของของตนซึ่งวางไว้บนหัวนอนในเรือน.
               บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อุปฺปลสนฺนาโห ได้แก่ หอกและเกราะ. อธิบายว่า หอกชนิดหนึ่งคล้ายดอกบัวและเกราะ.
               บทว่า นิกฺขญฺจ ได้แก่ แหวนก้อยที่ทำด้วยทองเนื้อ ๕.
               ด้วยบทว่า กาสิกญฺจ มุทุํ วตฺถํ นี้ บุรุษนั้นกล่าว หมายเอาผ้าสาฎกคู่หนึ่ง ซึ่งทำจากแคว้นกาสีมีเนื้ออ่อนนุ่ม. ได้ยินว่า สิ่งของมีประมาณเท่านี้ ที่บุรุษนั้นเก็บไว้บนหัวนอน.
               บทว่า ตปฺเปตุ ธนกามิยา ความว่า ภรรยาผู้เป็นที่รักของเรานั้นมีความต้องการทรัพย์ จงถือเอาทรัพย์ทั้งหมดนี้ จงอิ่มเอิบบริบูรณ์ คือจงยินดีด้วยทรัพย์นี้.

               บุรุษนั้นคร่ำครวญอยู่อย่างนี้นั่นแล ก็ตายไปบังเกิดในนรก.

               พระศาสดา ครั้นทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว จึงทรงประกาศสัจจะทั้งหลาย แล้วทรงประชุมชาดก. ในเวลาจบสัจจะ ภิกษุผู้กระสันจะสึก ดำรงอยู่ในโสดาปัตติผล.
               ภรรยาในครั้งนั้น ได้มาเป็น ภรรยาในครั้งนี้
               เทวบุตรผู้เห็นเหตุการณ์นั้น คือ เราตถาคต ฉะนี้แล.
               จบ อรรถกถากามวิลาปชาดกที่ ๗               
               -----------------------------------------------------               

.. อรรถกถา กามวิลาปชาดก จบ.
อ่านชาดก 270000อ่านชาดก 270487อรรถกถาชาดก 270490
เล่มที่ 27 ข้อ 490อ่านชาดก 270493อ่านชาดก 272519
อ่าน เนื้อความในพระไตรปิฎก
http://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=27&A=2546&Z=2560
- -- ---- ----------------------------------------------------------------------------
ดาวน์โหลด พระไตรปิฎกฉบับธรรมทาน
บันทึก  ๑๘  มิถุนายน  พ.ศ.  ๒๕๔๘
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]