ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๓ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๕ [ฉบับมหาจุฬาฯ] ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๒ -พุทธวังสะ-จริยาปิฎก

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จริยาปิฎก [๑. อกิตติวรรค]

๑. อกิตติจริยา

พระสุตตันตปิฎก
ขุททกนิกาย จริยาปิฎก
________________
ขอนอบน้อมพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
๑. อกิตติวรรค
หมวดว่าด้วยอกิตติดาบสเป็นต้น
๑. การบำเพ็ญทานบารมี
๑. อกิตติจริยา
ว่าด้วยจริยาของอกิตติดาบส
[๑] ใน ๔ อสงไขยแสนกัป ความประพฤติใดในระหว่างนี้ ความประพฤตินั้นทั้งหมด เป็นเครื่องบ่มพระโพธิญาณ [๒] เราจักเว้นความประพฤติในภพน้อยภพใหญ่ในกัปที่ล่วงแล้วเสีย จักบอกความประพฤติในกัปนี้ เธอจงฟังเรา [๓] เราเป็นดาบสมีนามว่าอกิตติ เข้าไปอาศัยอยู่ในป่าใหญ่ที่ว่างเปล่า สงัดเงียบปราศจากเสียงอื้ออึงในกาลใด [๔] ในกาลนั้น ด้วยเดชแห่งความประพฤติตบะของเรา ท้าวสักกะผู้เป็นใหญ่ในดาวดึงสเทวโลก ทรงร้อนพระทัย แปลงร่างเป็นพราหมณ์ เข้ามาหาเราเพื่อภิกษา {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๓ หน้า : ๗๒๗}

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จริยาปิฎก [๑. อกิตติวรรค]

๒. สังขพราหมณจริยา

[๕] เราได้เห็นอินทพราหมณ์มายืนอยู่ใกล้ประตูบรรณศาลาของเรา จึงหยิบใบหมากเม่าที่เรานำมาจากป่า ซึ่งไม่มีน้ำมันทั้งไม่มีรสเค็ม มอบให้จนหมดพร้อมทั้งภาชนะ [๖] เราครั้นให้ใบหมากเม่าแก่อินทพราหมณ์นั้นแล้ว จึงคว่ำภาชนะ ละการแสวงหาใหม่ เข้าไปยังบรรณศาลา [๗] แม้ในวันที่ ๒ ที่ ๓ อินทพราหมณ์ก็เข้ามายังสำนักของเรา เราไม่หวั่นไหว ไม่ยึดมั่น ได้ให้ไปเหมือนอย่างนั้น [๘] ในสรีระของเรามีผิวพรรณไม่เปลี่ยนแปลง เพราะการอดอาหารนั้นเป็นปัจจัยเลย เรายับยั้งอยู่ตลอดวันนั้นๆ ด้วยปีติ สุข และความยินดี [๙] ถ้าเราพึงได้ทักขิไณยบุคคลที่ประเสริฐ แม้เดือนหนึ่ง สองเดือน เราก็ไม่หวั่นไหว ไม่ท้อใจ พึงให้ทานอันอุดม [๑๐] เมื่อเราให้ทานแก่อินทพราหมณ์นั้น เราจะได้ปรารถนายศและลาภก็หามิได้ แต่เราปรารถนาพระสัพพัญญุตญาณเท่านั้น จึงได้ประพฤติกรรมเหล่านั้น ฉะนี้แล
อกิตติจริยาที่ ๑ จบ


                  เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๓๓ หน้าที่ ๗๒๗-๗๒๘. http://84000.org/tipitaka/attha/m_siri.php?B=33&siri=220              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [คลิกเพื่อฟัง]                   อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=33&A=8637&Z=8661                   ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=33&i=209              พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=33&item=209&items=1              อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=52&A=1              The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=33&item=209&items=1              The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=52&A=1                   สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๓ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu33



บันทึก ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :