![]() |
|
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ | |
|
|
![]() |
![]() |
๒. สังฆาทิเสสกัณฑ์ คำถาม - คำตอบในสังฆาทิเสสกัณฑ์ [๒๔๘] พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงรู้ ทรงเห็น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสส เพราะภิกษุณีผู้ก่อคดีพิพาทเป็นปัจจัย ณ ที่ไหน ทรงปรารภใคร เพราะเรื่องอะไร ฯลฯ ใครนำมา {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๓๒๑}
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุนีวิภังค์]
๑. กัตถปัญญัตติวาร ๒. สังฆาทิเสสกัณฑ์
สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๑ ถาม : พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงรู้ ทรงเห็น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสส เพราะภิกษุณีผู้ก่อคดีพิพาทเป็นปัจจัย ณ ที่ไหน ตอบ : ทรงบัญญัติ ณ กรุงสาวัตถี ถาม : ทรงปรารภใคร ตอบ : ทรงปรารภภิกษุณีถุลลนันทา ถาม : เพราะเรื่องอะไร ตอบ : เพราะเรื่องที่ภิกษุณีถุลลนันทาก่อคดีพิพาท ถาม : ในสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๑ นั้นมีพระบัญญัติ พระอนุบัญญัติ อนุป- ปันนบัญญัติ อยู่หรือ ตอบ : ในสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๑ นั้นมี ๑ พระบัญญัติ ไม่มีพระอนุ- บัญญัติและอนุปปันนบัญญัติ ถาม : มีสัพพัตถบัญญัติ ปเทสบัญญัติอยู่หรือ ตอบ : มีสัพพัตถบัญญัติ ถาม : มีสาธารณบัญญัติ อสาธารณบัญญัติอยู่หรือ ตอบ : มีอสาธารณบัญญัติ ถาม : มีเอกโตบัญญัติ อุภโตบัญญัติอยู่หรือ ตอบ : มีเอกโตบัญญัติ ถาม : บรรดาพระปาติโมกขุทเทส ๔ อุทเทส สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๑ นี้ จัดเข้าในอุทเทสไหน นับเนื่องในอุทเทสไหน ตอบ : จัดเข้าในนิทานุทเทส นับเนื่องในนิทานุทเทส ถาม : มาสู่อุทเทส โดยอุทเทสไหน ตอบ : มาสู่อุทเทส โดยอุทเทสที่ ๓ ถาม : บรรดาวิบัติ ๔ อย่าง เป็นวิบัติอย่างไหน ตอบ : เป็นสีลวิบัติ ถาม : บรรดากองอาบัติ ๗ กอง เป็นกองอาบัติไหน ตอบ : เป็นกองอาบัติสังฆาทิเสส {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๓๒๒}
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุนีวิภังค์]
๑. กัตถปัญญัตติวาร ๒. สังฆาทิเสสกัณฑ์
ถาม : บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐานเท่าไร ตอบ : เกิดด้วยสมุฏฐาน ๒ สมุฏฐาน คือ (๑) เกิดทางกายกับวาจา มิใช่ เกิดทางจิต (๒) เกิดทางกายวาจากับจิต ฯลฯ ถาม : ใครนำมา ตอบ : พระเถระทั้งหลายนำสืบๆ กันมารายนามพระเถระผู้ทรงจำพระวินัยสืบกันมา พระเถระเหล่านี้ คือ พระอุบาลี พระทาสกะ พระโสณกะ พระสิคควะ และพระโมคคัลลีบุตร รวมเป็น ๕ รูป เป็นผู้นำพระวินัยสืบๆ กันมาในชมพูทวีปอันมีสิริ จากนั้น พระเถระผู้ประเสริฐมีปัญญามากเหล่านี้ คือ พระมหินทะ พระอิฏฏิยะ พระอุตติยะ พระสัมพละ ฯลฯ พระเถระผู้ประเสริฐมีปัญญามากเหล่านี้ รู้พระวินัย ฉลาดในมรรค ได้ประกาศพระวินัยปิฎกไว้ในเกาะตามพปัณณิสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๒ ถาม : พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงรู้ ทรงเห็น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสส เพราะการบวชให้สตรีผู้เป็นโจรเป็นปัจจัย ณ ที่ไหน ตอบ : ทรงบัญญัติ ณ กรุงสาวัตถี ถาม : ทรงปรารภใคร ตอบ : ทรงปรารภภิกษุณีถุลลนันทา ถาม : เพราะเรื่องอะไร ตอบ : เพราะเรื่องที่ภิกษุณีถุลลนันทาบวชให้สตรีผู้เป็นโจร ในสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๒ นั้นมี ๑ พระบัญญัติ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สมุฏฐาน เกิดด้วย ๒ สมุฏฐาน คือ (๑) เกิดทางวาจากับจิต มิใช่เกิดทางกาย (๒) เกิดทางกายวาจากับจิต ฯลฯ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๓๒๓}
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุนีวิภังค์]
๑. กัตถปัญญัตติวาร ๒. สังฆาทิเสสกัณฑ์
สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๓ ถาม : พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงรู้ ทรงเห็น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสส เพราะภิกษุณีไปสู่ละแวกบ้านรูปเดียวเป็นปัจจัย ณ ที่ไหน ตอบ : ทรงบัญญัติ ณ กรุงสาวัตถี ถาม : ทรงปรารภใคร ตอบ : ทรงปรารภภิกษุณีรูปหนึ่ง ถาม : เพราะเรื่องอะไร ตอบ : เพราะเรื่องที่ภิกษุณีรูปหนึ่งไปสู่ละแวกบ้านรูปเดียว ในสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๓ นั้นมี ๑ พระบัญญัติ ๓ พระอนุบัญญัติ บรรดา สมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐาน ๑ สมุฏฐาน เป็นปฐมปาราชิก สมุฏฐาน ฯลฯสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๔ ถาม : พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงรู้ ทรงเห็น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสส เพราะภิกษุณีเรียกภิกษุณีที่สงฆ์พร้อมเพรียงกันลงอุกเขปนีย กรรม โดยธรรม โดยวินัย โดยสัตถุศาสน์ให้กลับเข้าหมู่ โดยไม่บอกการกสงฆ์ ทั้ง ไม่รับรู้ฉันทะของคณะเป็นปัจจัย ณ ที่ไหน ตอบ : ทรงบัญญัติ ณ กรุงสาวัตถี ถาม : ทรงปรารภใคร ตอบ : ทรงปรารภภิกษุณีถุลลนันทา ถาม : เพราะเรื่องอะไร ตอบ : เพราะเรื่องที่ภิกษุณีถุลลนันทาเรียกภิกษุณีที่สงฆ์พร้อมเพรียงกันลง อุกเขปนียกรรม โดยธรรม โดยวินัย โดยสัตถุศาสน์ให้กลับเข้าหมู่ โดยไม่บอก การกสงฆ์ ทั้งไม่รับรู้ฉันทะของคณะ ในสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๔ นั้นมี ๑ พระบัญญัติ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐาน ๑ สมุฏฐาน เป็นธุรนิกเขปสมุฏฐาน ฯลฯ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๓๒๔}
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุนีวิภังค์]
๑. กัตถปัญญัตติวาร ๒. สังฆาทิเสสกัณฑ์
สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๕ ถาม : พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงรู้ ทรงเห็น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสส เพราะภิกษุณีมีความกำหนัด รับของเคี้ยว หรือของฉันจาก มือของชายผู้กำหนัด ด้วยมือของตนแล้วฉันเป็นปัจจัย ณ ที่ไหน ตอบ : ทรงบัญญัติ ณ กรุงสาวัตถี ถาม : ทรงปรารภใคร ตอบ : ทรงปรารภภิกษุณีสุนทรีนันทา ถาม : เพราะเรื่องอะไร ตอบ : เพราะเรื่องที่ภิกษุณีสุนทรีนันทากำหนัดรับอามิสจากมือของชายผู้กำหนัด ในสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๕ นั้นมี ๑ พระบัญญัติ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐาน ๑ สมุฏฐาน เป็นปฐมปาราชิกสมุฏฐาน ฯลฯสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๖ ถาม : พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงรู้ ทรงเห็น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสส เพราะภิกษุณีส่งเสริมกล่าวชักชวนว่า แม่เจ้า ชายผู้นั้น จะกำหนัดหรือไม่กำหนัดก็ตาม ทำอะไรท่านไม่ได้ เพราะท่านไม่กำหนัด นิมนต์เถิด แม่เจ้า ชายผู้นั้นจะถวายสิ่งใดเป็นของเคี้ยวหรือของฉันก็ตามแก่ท่าน ท่านจงรับ ประเคนของนั้นด้วยมือของตน แล้วเคี้ยวหรือฉันเถิด ดังนี้ เป็นปัจจัย ณ ที่ไหน ตอบ : ทรงบัญญัติ ณ กรุงสาวัตถี ถาม : ทรงปรารภใคร ตอบ : ทรงปรารภภิกษุณีรูปหนึ่ง ถาม : เพราะเรื่องอะไร ตอบ : เพราะเรื่องที่ภิกษุณีรูปหนึ่งส่งเสริมกล่าวชักชวนว่า แม่เจ้า ชายผู้นั้น จะกำหนัดหรือไม่กำหนัดก็ตาม ก็ทำอะไรท่านไม่ได้ เพราะท่านไม่กำหนัด นิมนต์เถิด แม่เจ้า ชายผู้นั้นจะถวายสิ่งใดเป็นของเคี้ยวหรือของฉันก็ตามแก่ท่าน ท่านจงรับประเคนของนั้นด้วยมือของตน แล้วเคี้ยวหรือฉันเถิด {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๓๒๕}
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุนีวิภังค์]
๑. กัตถปัญญัตติวาร ๒. สังฆาทิเสสกัณฑ์
ในสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๖ นั้นมี ๑ พระบัญญัติ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐาน ๓ สมุฏฐาน ฯลฯสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๗ ถาม : พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงรู้ ทรงเห็น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสส เพราะภิกษุณีผู้โกรธ ไม่พอใจ ไม่ยอมสละกรรม จนกระทั่ง สงฆ์สวดสมนุภาสน์ครบ ๓ ครั้งเป็นปัจจัย ณ ที่ไหน ตอบ : ทรงบัญญัติ ณ กรุงสาวัตถี ถาม : ทรงปรารภใคร ตอบ : ทรงปรารภภิกษุณีจัณฑกาลี ถาม : เพราะเรื่องอะไร ตอบ : เพราะเรื่องที่ภิกษุณีจัณฑกาลีโกรธไม่พอใจกล่าวอย่างนี้ว่า ดิฉันขอบอก คืนพระพุทธ บอกคืนพระธรรม บอกคืนพระสงฆ์ บอกคืนสิกขา ในสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๗ นั้นมี ๑ พระบัญญัติ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐาน ๑ สมุฏฐาน เป็นธุรนิกเขปสมุฏฐาน ฯลฯสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๘ ถาม : พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงรู้ ทรงเห็น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสส เพราะภิกษุณีผู้ถูกตัดสินให้แพ้คดีในอธิกรณ์บางเรื่องโกรธ ไม่ ยอมสละกรรม จนกระทั่งสงฆ์สวดสมนุภาสน์ครบ ๓ ครั้งเป็นปัจจัย ณ ที่ไหน ตอบ : ทรงบัญญัติ ณ กรุงสาวัตถี ถาม : ทรงปรารภใคร ตอบ : ทรงปรารภภิกษุณีจัณฑกาลี ถาม : เพราะเรื่องอะไร ตอบ : เพราะเรื่องที่ภิกษุณีจัณฑกาลีถูกตัดสินให้แพ้คดีในอธิกรณ์บางเรื่อง โกรธไม่พอใจ กล่าวอย่างนี้ว่า พวกภิกษุณีลำเอียงเพราะชอบ พวกภิกษุณีลำเอียง เพราะชัง พวกภิกษุณีลำเอียงเพราะหลง พวกภิกษุณีลำเอียงเพราะกลัว {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๓๒๖}
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุนีวิภังค์]
๑. กัตถปัญญัตติวาร ๒. สังฆาทิเสสกัณฑ์
ในสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๘ นั้นมี ๑ พระบัญญัติ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐาน ๑ สมุฏฐาน เป็นธุรนิกเขปสมุฏฐาน ฯลฯสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๙ ถาม : พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงรู้ ทรงเห็น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสส เพราะภิกษุณีทั้งหลายคลุกคลีกัน ไม่ยอมสละกรรม จน กระทั่งสงฆ์สวดสมนุภาสน์ครบ ๓ ครั้งเป็นปัจจัย ณ ที่ไหน ตอบ : ทรงบัญญัติ ณ กรุงสาวัตถี ถาม : ทรงปรารภใคร ตอบ : ทรงปรารภภิกษุณีหลายรูป ถาม : เพราะเรื่องอะไร ตอบ : เพราะเรื่องที่ภิกษุณีหลายรูป อยู่คลุกคลีกัน ในสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๙ นั้นมี ๑ พระบัญญัติ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐาน ๑ สมุฏฐาน เป็นธุรนิกเขปสมุฏฐาน ฯลฯสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๑๐ ถาม : พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงรู้ ทรงเห็น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสส เพราะภิกษุณีส่งเสริมกล่าวชักชวนว่า แม่เจ้าทั้งหลาย ท่าน ทั้งหลายจงอยู่คลุกคลีกัน อย่าแยกกันอยู่ ยังไม่ยอมสละกรรม จนกระทั่งสงฆ์สวด สมนุภาสน์ครบ ๓ ครั้งเป็นปัจจัย ณ ที่ไหน ตอบ : ทรงบัญญัติ ณ กรุงสาวัตถี ถาม : ทรงปรารภใคร ตอบ : ทรงปรารภภิกษุณีถุลลนันทา ถาม : เพราะเรื่องอะไร {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๓๒๗}
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุนีวิภังค์]
๑. กัตถปัญญัตติวาร ๕. ปาฏิเทสนียกัณฑ์
ตอบ : เพราะเรื่องที่ภิกษุณีถุลลนันทาส่งเสริมกล่าวชักชวนว่า แม่เจ้าทั้งหลาย ขอท่านทั้งหลายจงอยู่คลุกคลีกัน อย่าแยกกันอยู่ ในสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๑๐ นั้นมี ๑ พระบัญญัติ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐาน ๑ สมุฏฐาน เป็นธุรนิกเขปสมุฏฐานฯลฯ ๕. ปาฏิเทสนียกัณฑ์ คำถาม - คำตอบในปาฏิเทสนียกัณฑ์ ฯลฯ ปาฏิเทสนียสิกขาบทที่ ๘ ถาม : พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงรู้ ทรงเห็น ทรงบัญญัติปาฏิเทสนียะ เพราะภิกษุณีออกปากขอนมเปรี้ยวมาฉันเป็นปัจจัย ณ ที่ไหน ตอบ : ทรงบัญญัติ ณ กรุงสาวัตถี ถาม : ทรงปรารภใคร ตอบ : ทรงปรารภพวกภิกษุณีฉัพพัคคีย์ ถาม : เพราะเรื่องอะไร ตอบ : เพราะเรื่องที่พวกภิกษุณีฉัพพัคคีย์ออกปากขอนมเปรี้ยวมาฉัน ในปาฏิเทสนียสิกขาบทที่ ๘ นั้นมี ๑ พระบัญญัติ ๑ พระอนุบัญญัติ บรรดา สมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐาน ๔ สมุฏฐาน คือ (๑) เกิด ทางกาย มิใช่เกิดทางวาจา มิใช่เกิดทางจิต (๒) เกิดทางกายกับวาจา มิใช่เกิดทางจิต (๓) เกิดทางกายกับจิต มิใช่เกิดทางวาจา (๔) เกิดทางกายวาจากับจิตฯลฯ กัตถปัญญัตติวารที่ ๑ จบ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๓๒๘}
เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๘ หน้าที่ ๓๒๑-๓๒๘. http://84000.org/tipitaka/attha/m_siri.php?B=8&siri=56 ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2]. อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=8&A=5583&Z=5724 ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=8&i=793 พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=8&item=793&items=11 The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=8&item=793&items=11 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๘ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu8 อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://suttacentral.net/pli-tv-pvr2.9/en/brahmali#pli-tv-pvr2.9:9.0 https://suttacentral.net/pli-tv-pvr2.9/en/horner-brahmali#Prv.2.9:Bi-Ss.1
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
![]() |
บันทึก ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]