![]() |
|
| บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ | |
|
|
|
วุฒิสูตร เจริญธรรม ๔ ประการปัญญาเจริญ [๑๖๓๙] ... ย่อมเป็นไปเพื่อความเจริญแห่งปัญญา ... .จบ สูตรที่ ๑๐ เวปุลลสูตร เจริญธรรม ๔ ประการปัญญาไพบูลย์ [๑๖๔๐] ... ย่อมเป็นไปเพื่อความไพบูลย์แห่งปัญญา ... .จบ สูตรที่ ๑๑ จบ สัปปัญญวรรคที่ ๖ ----------------------------------------------------- รวมพระสูตรที่มีในวรรคนี้ คือ ๑. สคาถกสูตร ๒. วัสสวุตถสูตร ๓. ธรรมทินนสูตร ๔. คิลายนสูตร ๕. ผลสูตรที่ ๑ ๖. ผลสูตรที่ ๒ ๗. ผลสูตรที่ ๓ ๘. ผลสูตรที่ ๔ ๙. ปฏิลาภสูตร ๑๐. วุฒิสูตร ๑๑. เวปุลลสูตร.----------------------------------------------------- มหาปัญญวรรคที่ ๗ มหาปัญญสูตร เจริญธรรม ๔ ประการมีปัญญามาก [๑๖๔๑] ... ย่อมเป็นไปเพื่อความเป็นผู้มีปัญญามาก ... .จบ สูตรที่ ๑ ปุถุปัญญสูตร เจริญ ... มีปัญญาแน่นหนา [๑๖๔๒] ... ย่อมเป็นไปเพื่อความเป็นผู้มีปัญญาแน่นหนา ... .จบ สูตรที่ ๒ วิปุลลปัญญสูตร เจริญ ... มีปัญญาไพบูลย์ [๑๖๔๓] ... ย่อมเป็นไปเพื่อความเป็นผู้มีปัญญาไพบูลย์ ... .จบ สูตรที่ ๓ คัมภีรปัญญสูตร เจริญ ... มีปัญญาลึกซึ้ง [๑๖๔๔] ... ย่อมเป็นไปเพื่อความเป็นผู้มีปัญญาลึกซึ้ง ... .จบ สูตรที่ ๔ อัปปมัตตปัญญสูตร เจริญ ... มีปัญญาหาประมาณมิได้ [๑๖๔๕] ... ย่อมเป็นไปเพื่อความเป็นผู้มีปัญญาประมาณมิได้ ... .จบ สูตรที่ ๕ ภูริปัญญสูตร เจริญ ... มีปัญญาดังแผ่นดิน [๑๖๔๖] ... ย่อมเป็นไปเพื่อความเป็นผู้มีปัญญาเพียงดังแผ่นดิน ... .จบ สูตรที่ ๖ พาหุลปัญญสูตร เจริญ ... มีปัญญามาก [๑๖๔๗] ... ย่อมเป็นไปเพื่อความเป็นผู้มีปัญญามาก ... .จบ สูตรที่ ๗ สีฆปัญญสูตร เจริญ ... มีปัญญาเร็ว [๑๖๔๘] ... ย่อมเป็นไปเพื่อความเป็นผู้มีปัญญาเร็ว ... .จบ สูตรที่ ๘ ลหุปัญญสูตร เจริญ ... มีปัญญาเบา [๑๖๔๙] ... ย่อมเป็นไปเพื่อความเป็นผู้มีปัญญาเบา ... .จบ สูตรที่ ๙ หาสปัญญสูตร เจริญ ... มีปัญญาร่าเริง [๑๖๕๐] ... ย่อมเป็นไปเพื่อความเป็นผู้มีปัญญาร่าเริง ... .จบ สูตรที่ ๑๐ ชวนปัญญสูตร เจริญ ... มีปัญญาไว [๑๖๕๑] ... ย่อมเป็นไปเพื่อความเป็นผู้มีปัญญาไว ... .จบ สูตรที่ ๑๑ ติกขปัญญสูตร เจริญ ... มีปัญญากล้า [๑๖๕๒] ... ย่อมเป็นไปเพื่อความเป็นผู้มีปัญญาคมกล้า ... .จบ สูตรที่ ๑๒ นิพเพธิกปัญญสูตร เจริญธรรม ๔ ประการมีปัญญาชำแรกกิเลส [๑๖๕๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๔ ประการนี้ อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มาก แล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความเป็นผู้มีปัญญาเป็นเครื่องชำแรกกิเลส ธรรม ๔ ประการเป็นไฉน? คือ การคบสัตบุรุษ ๑ การฟังสัทธรรม ๑ การกระทำไว้ในใจโดยแยบคาย ๑ การปฏิบัติธรรม สมควรแก่ธรรม ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๔ ประการนี้แล อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้ มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความเป็นผู้มีปัญญาเป็นเครื่องชำแรกกิเลส.จบ สูตรที่ ๑๓ จบ มหาปัญญวรรคที่ ๗ ----------------------------------------------------- รวมพระสูตรที่มีในวรรคนี้ คือ ๑. มหาปัญญสูตร ๒. ปุถุปัญญสูตร ๓. วิปุลลปัญญสูตร ๔. คัมภีรปัญญสูตร ๕. อัปปมัตตปัญญสูตร ๖. ภูริปัญญสูตร ๗. พาหุลปัญญสูตร ๘. สีฆปัญญสูตร ๙. ลหุปัญญสูตร ๑๐. หาสปัญญสูตร ๑๑. ชวนปัญญสูตร ๑๒. ติกขปัญญสูตร ๑๓. นิพเพธิกปัญญสูตร.จบ โสดาปัตติสังยุต ----------------------------------------------------- ๑๑. สัจจสังยุต สมาธิวรรคที่ ๑ สมาธิสูตร ผู้มีใจตั้งมั่นย่อมรู้ตามความเป็นจริง [๑๖๕๔] สาวัตถีนิทาน. ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงเจริญสมาธิ ภิกษุผู้มีใจ ตั้งมั่นแล้ว ย่อมรู้ตามความเป็นจริง ย่อมรู้อะไรตามความเป็นจริง ย่อมรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ นี้ทุกขสมุทัย นี้ทุกขนิโรธ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา เธอทั้งหลายจงเจริญสมาธิ ภิกษุ ผู้มีใจตั้งมั่นแล้ว ย่อมรู้ตามความเป็นจริง ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลาย พึงกระทำความเพียรเพื่อรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ นี้ทุกขสมุทัย นี้ทุกขนิโรธ นี้ทุกขนิโรธ- *คามินีปฏิปทา.จบ สูตรที่ ๑ ปฏิสัลลานสูตร ผู้หลีกเร้นอยู่ย่อมรู้ตามความเป็นจริง [๑๖๕๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงถึงความประกอบในการหลีกออกเร้นอยู่ ภิกษุผู้หลีกออกเร้นอยู่ ย่อมรู้ตามความเป็นจริง ย่อมรู้อะไรตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ นี้ทุกข- *สมุทัย นี้ทุกขนิโรธ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา เธอทั้งหลายจงถึงความประกอบในการหลีก ออกเร้นอยู่ ภิกษุผู้หลีกออกเร้นอยู่ ย่อมรู้ตามความเป็นจริง ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลาย พึงกระทำความเพียรเพื่อรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา.จบ สูตรที่ ๒ กุลปุตตสูตรที่ ๑ ผู้ออกบวชโดยชอบเพื่อรู้อริยสัจ ๔ [๑๖๕๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็กุลบุตรเหล่าใดเหล่าหนึ่งในอดีตกาล ออกบวชเป็น บรรพชิตโดยชอบ กุลบุตรเหล่านั้นทั้งหมด ออกบวชแล้วเพื่อรู้อริยสัจ ๔ ตามความเป็นจริง กุลบุตรเหล่าใดเหล่าหนึ่งในอนาคตกาล จักออกบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบ กุลบุตรเหล่านั้นทั้ง หมด จักออกบวชเพื่อรู้อริยสัจ ๔ ตามความเป็นจริง กุลบุตรเหล่าใดเหล่าหนึ่งในปัจจุบันกาล ออกบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบ กุลบุตรเหล่านั้นทั้งหมด ออกบวชอยู่ เพื่อรู้อริยสัจ ๔ ตามความ เป็นจริงอริยสัจ ๔ เป็นไฉน? คือ ทุกขอริยสัจ ทุกขสมุทัยอริยสัจ ทุกขนิโรธอริยสัจ ทุกขนิโรธ- *คามินีปฏิปทาอริยสัจ ก็กุลบุตรเหล่าใดเหล่าหนึ่งในอดีตกาล ... ในอนาคตกาล ... ในปัจจุบันกาล ออกบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบ กุลบุตรเหล่านั้นทั้งหมด ออกบวชเพื่อรู้อริยสัจ ๔ นี้แลตามความ เป็นจริง ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลายพึงกระทำความเพียรเพื่อรู้ตามความ เป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา.จบ สูตรที่ ๓ กุลปุตตสูตรที่ ๒ ผู้ออกบวชโดยชอบรู้อริยสัจ ๔ ตามเป็นจริง [๑๖๕๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็กุลบุตรเหล่าใดเหล่าหนึ่งในอดีตกาล ออกบวชเป็น บรรพชิตโดยชอบ รู้แล้วตามความเป็นจริง กุลบุตรเหล่านั้นทั้งหมด รู้แล้วซึ่งอริยสัจ ๔ ตามความ เป็นจริง กุลบุตรเหล่าใดเหล่าหนึ่งในอนาคตกาล ออกบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบ จักรู้ตามความ เป็นจริง กุลบุตรเหล่านั้นทั้งหมด จักรู้ซึ่งอริยสัจ ๔ ตามความเป็นจริง กุลบุตรเหล่าใดเหล่าหนึ่ง ในปัจจุบันกาล ออกบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบ ย่อมรู้ตามความเป็นจริง กุลบุตรเหล่านั้นทั้งหมด ย่อมรู้ซึ่งอริยสัจ ๔ ตามความเป็นจริง อริยสัจ ๔ เป็นไฉน? คือ ทุกขอริยสัจ ฯลฯ ทุกข- *นิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ ก็กุลบุตรเหล่าใดเหล่าหนึ่งในอดีตกาล ... ในอนาคตกาล ... ในปัจจุบันกาล ออกบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบ รู้ตามความเป็นจริง กุลบุตรเหล่านั้นทั้งหมด รู้ซึ่งอริยสัจ ๔ เหล่านี้ ตามความเป็นจริง ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลายพึงกระทำความเพียร เพื่อรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา.จบ สูตรที่ ๔ สมณพราหมณสูตรที่ ๑ สมณพราหมณ์รู้อริยสัจ ๔ ตามเป็นจริง [๑๖๕๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่งในอดีตกาล รู้ แล้วตามความเป็นจริง สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้นทั้งหมด รู้แล้วซึ่งอริยสัจ ๔ ตามความเป็น จริง สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่งในอนาคตกาล จักรู้ตามความเป็นจริง สมณะหรือ พราหมณ์เหล่านั้นทั้งหมด จักรู้ซึ่งอริยสัจ ๔ ตามความเป็นจริง สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดเหล่า หนึ่งในปัจจุบันกาล ย่อมรู้ตามความเป็นจริง สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้นทั้งหมด ย่อมรู้อริยสัจ ๔ ตามความเป็นจริง อริยสัจ ๔ เป็นไฉน? คือ ทุกขอริยสัจ ฯลฯ ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา อริยสัจ ก็สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่งในอดีตกาล ... ในอนาคตกาล ... ในปัจจุบันกาล รู้ ตามความเป็นจริง สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้นทั้งหมด รู้ซึ่งอริยสัจ ๔ เหล่านี้ตามความเป็นจริง ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลายพึงกระทำความเพียรเพื่อรู้ตามความเป็นจริงว่าเนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๙ บรรทัดที่ ๙๘๑๗-๙๙๕๙ หน้าที่ ๔๐๙-๔๑๕. https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=19&A=9817&Z=9959&pagebreak=0&fontsz=0 ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2] อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :- https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=19&siri=378 ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=19&i=1639 ศึกษาพระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- [1639-1658] https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item_s.php?book=19&item=1639&items=20 The Pali Tipitaka in Roman :- [1639-1658] https://84000.org/tipitaka/pali/roman_item_s.php?book=19&item=1639&items=20 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๙ https://84000.org/tipitaka/read/?index_19 อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://suttacentral.net/sn55.60/en/sujato
ดาวน์โหลดโปรแกรมพระไตรปิฎก ดาวน์โหลดพระไตรปิฎกภาษาไทยฉบับมหาจุฬาฯ บันทึก ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ บันทึกปรับตัวอักษรได้ ๓๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]