ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วไม่แสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๒ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๔ ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑

หน้าที่ ๓๙๔.

คิริมานันทเถราปทานที่ ๗ (๓๙๗)
ว่าด้วยผลแห่งการทำพุทธบูชา
[๓๙๙] ภริยาของเราทำกาละแล้ว บุตรของเราก็ไปสู่ป่าช้า มารดา บิดา และพี่ชาย เราเผาที่เชิงตะกอนเดียวกัน เพราะความเศร้าโศกนั้น เราเป็นผู้เร่าร้อน เป็นผู้ผอมเหลือง จิตของเราฟุ้งซ่าน เพราะเราประกอบด้วยความเศร้าโศก นั้น เรามากด้วยลูกศรคือความโศกจึงเข้าไปสู่ชายป่า บริโภคผลไม้ที่หล่น เองอยู่ที่โคนต้นไม้ พระสัมพุทธชินเจ้าพระนามว่าสุเมธ ผู้กระทำที่สุดทุกข์ พระองค์ประสงค์จะช่วยเหลือเรา จึงเสด็จมาในสำนักของเรา เราได้ยินเสียง พระบาทของพระพุทธเจ้าพระนามว่า สุเมธ ผู้แสวงหาคุณอันใหญ่ยิ่ง จึง ชะเง้อศีรษะดูพระมหามุนี พระมหาวีรเจ้าเสด็จเข้ามา ปีติเกิดขึ้นแก่เรา ในกาลนั้น เราได้เห็นพระองค์ผู้เป็นนายกของโลกแล้วมีใจไม่ฟุ้งซ่าน กลับได้สติ แล้วได้ถวายใบไม้กำมือหนึ่ง พระผู้มีพระภาคผู้มีจักษุประทับ นั่งบนใบไม้นั้น ด้วยความอนุเคราะห์ พระผู้มีพระภาคพระนามว่าสุเมธ ผู้เป็นนายกของโลก ผู้ตรัสรู้แล้ว ครั้นประทับนั่งบนใบไม้นั้นแล้ว ทรง แสดงธรรมเครื่องบรรเทาลูกศร คือความโศกแก่เราว่า ชนเหล่านั้น ใคร มิได้เชื้อเชิญให้มาก็มาจากปรโลกนั้นเอง ใครมิได้อนุญาตให้ไปก็ไปจาก มนุษยโลกนี้แล้ว เขามาแล้วฉันใด ก็ไปฉันนั้น จะปริเทวนาไปทำไมใน การตายของเขานั้น สัตว์มีเท้า เมื่อฝนตกลงมา เขาก็เข้าไปอาศัยในโรง เพราะฝนตก เมื่อฝนหายแล้ว เขาก็ไปตามปรารถนาฉันใด มารดาบิดา ของท่านก็ฉันนั้น จะปริเทวนาไปทำไมในการตายของเขานั้น แขกผู้จรมา เป็นผู้สั่นหวั่นไหว ฉันใด มารดาบิดาของท่านก็ฉันนั้น จะปริเทวนาไป ทำไมในการตายของเขานั้น งูละคราบเก่าแล้ว ย่อมไปสู่กายเดิม ฉันใด มารดาบิดาของท่าน ก็ฉันนั้น จะปริเทวนาไปทำไมในการตายของเขานั้น เราได้ฟังพระพุทธเจ้าตรัสแล้ว เว้นลูกศรคือความโศกได้ ยังความปราโมทย์ ให้เกิดแล้ว ได้ถวายบังคมพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด ครั้นถวายบังคมแล้ว ได้บูชาพระพุทธเจ้าผู้ล่วงพ้นภูเขาคือกิเลส เป็นพระมหานาค ทรงสมบูรณ์

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๓๙๕.

ด้วยกลิ่นหอมอันเป็นทิพย์ พระนามว่าสุเมธ เป็นนายกของโลก ครั้น บูชาพระสัมพุทธเจ้าแล้ว ประนมกรอัญชลีขึ้นเหนือเศียรอนุสรณ์ถึงคุณอัน เลิศแล้ว ได้สรรเสริญพระองค์ผู้เป็นนายกของโลกว่า ข้าแต่พระมหามุนี มหาวีรเจ้า พระองค์เป็นสัพพัญญู เป็นนายกของโลก ทรงข้ามพ้นแล้ว ยังทรงรื้อขนสรรพสัตว์ด้วยพระญาณอีก ข้าแต่พระมหามุนีผู้มีพระจักษุ พระองค์ตัดความเคลือบแคลงสงสัยแล้ว ยังทรงยังมรรคให้เกิดแก่ข้า พระองค์ ด้วยพระญาณของพระองค์ พระอรหันต์ผู้ถึงความสำเร็จ ได้ อภิญญา ๖ มีฤทธิ์มาก เที่ยวไปในอากาศได้ เป็นนักปราชญ์ ห้อมล้อม อยู่ทุกขณะ พระเสขะผู้กำลังปฏิบัติ และผู้ตั้งอยู่ในผล เป็นสาวกของ พระองค์ สาวกทั้งหลายของพระองค์ย่อมบาน เหมือนดอกปทุมเมื่อพระ- อาทิตย์อุทัย มหาสมุทรประมาณไม่ได้ ไม่มีอะไรเหมือน ยากที่จะห้ามได้ ฉันใด ข้าแต่พระองค์ผู้มีจักษุ พระองค์ทรงสมบูรณ์ด้วยพระญาณก็ประมาณ ไม่ได้ ฉันนั้น เราถวายบังคมพระพุทธเจ้าผู้ชนะโลก มีจักษุ มียศมาก นมัสการทั่ว ๔ ทิศแล้วได้กลับไป เราเคลื่อนจากเทวโลกแล้ว รู้สึกตัว กลับมีสติ ท่องเที่ยวอยู่ในภพน้อยใหญ่ ลงสู่ครรภ์มารดา ออกจากเรือน แล้วบวชเป็นบรรพชิต เป็นผู้มีความเพียร มีปัญญา มีการหลีกเร้นอยู่เป็น อารมณ์ ตั้งความเพียร ยังพระมหามุนีให้ทรงโปรดปราน พ้นแล้วจากกิเลส ดังพระจันทร์พ้นแล้วจากกลีบเมฆ อยู่ทุกเมื่อ เราเป็นผู้ขวนขวายในวิเวก สงบระงับ ไม่มีอุปธิ กำหนดรู้อาสวะทั้งปวงแล้ว เป็นผู้ไม่มีอาสวะอยู่ ในกัลปที่ ๓ หมื่น แต่กัลปนี้ เราได้บูชาพระพุทธเจ้าใด ด้วยการบูชานั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งพุทธบูชา เราเผากิเลสทั้งหลายแล้วถอน ภพขึ้นได้ทั้งหมดแล้ว อาสวะทั้งปวงของเราสิ้นรอบแล้ว บัดนี้ ภพใหม่ มิได้มี การที่เราได้มาในสำนักพระพุทธเจ้าของเรานี้ เป็นการมาดีแล้วหนอ วิชชา ๓ เราบรรลุแล้วโดยลำดับ พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว คุณวิเศษ

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๓๙๖.

เหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัด แล้ว พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้. ทราบว่า ท่านพระคิริมานันทเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.
จบ คิริมานันทเถราปทาน.

             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๒ บรรทัดที่ ๘๖๖๙-๘๗๒๒ หน้าที่ ๓๙๔-๓๙๖. https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=32&A=8669&Z=8722&pagebreak=1              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [คลิกเพื่อฟัง]              อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :- https://84000.org/tipitaka/attha/m_siri.php?B=32&siri=399              ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=32&i=399              ศึกษาพระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- [399] https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item_s.php?book=32&item=399&items=1              อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=50&A=5375              The Pali Tipitaka in Roman :- [399] https://84000.org/tipitaka/pali/roman_item_s.php?book=32&item=399&items=1              The Pali Atthakatha in Roman :- https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=50&A=5375              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๒ https://84000.org/tipitaka/read/?index_32              อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://suttacentral.net/tha-ap399/en/walters

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วไม่แสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย

บันทึก ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :