ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๗ พระอภิธรรมปิฎกเล่มที่ ๔ กถาวัตถุปกรณ์
สีลัง อเจตสิกันติกถา
[๑๔๐๗] สกวาที ศีลไม่เป็นเจตสิก หรือ? ปรวาที ถูกแล้ว ส. เป็นรูป เป็นนิพพาน เป็นจักขายตนะ ฯลฯ เป็นกายายตนะ ฯลฯ เป็นรูปายตนะ ฯลฯ เป็นโผฏฐัพพายตนะ หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. ศีลไม่เป็นเจตสิก หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. ผัสสะไม่เป็นเจตสิก หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. ศีลไม่เป็นเจตสิก หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. เวทนา ฯลฯ สัญญา ฯลฯ เจตนา ฯลฯ ศรัทธา ฯลฯ วิริยะ ฯลฯ สติ ฯลฯ สมาธิ ฯลฯ ปัญญา ไม่เป็นเจตสิกหรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๑๔๐๘] ส. ผัสสะเป็นเจตสิก หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. ศีลเป็นเจตสิก หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. เวทนา ฯลฯ สัญญา ฯลฯ เจตนา ฯลฯ ศรัทธา ฯลฯ วิริยะ ฯลฯ สติ ฯลฯ สมาธิ ฯลฯ ปัญญา เป็นเจตสิก หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. ศีลเป็นเจตสิก หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๑๔๐๙] ส. ศีลไม่เป็นเจตสิก หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. ศีลมีผลไม่น่าปรารถนา หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. ศีลมีผลน่าปรารถนา มิใช่หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. หากว่าศีลมีผลน่าปรารถนา ก็ต้องไม่กล่าวว่าศีลไม่เป็นเจตสิก [๑๔๑๐] ส. ศรัทธามีผลน่าปรารถนา และศรัทธาเป็นเจตสิก หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. ศีลมีผลน่าปรารถนา และศีลเป็นเจตสิก หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. วิริยะ สติ สมาธิ ฯลฯ ปัญญา มีผลน่าปรารถนา และปัญญา เป็น เจตสิก หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. ศีลมีผลน่าปรารถนา และศีลเป็นเจตสิก หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๑๔๑๑] ส. ศีลมีผลน่าปรารถนา แต่ศีลไม่เป็นเจตสิก หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. ศรัทธามีผลน่าปรารถนา แต่ศรัทธาเป็นเจตนา หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. ศีลมีผลน่าปรารถนา แต่ศีลไม่เป็นเจตสิก หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. วิริยะ ฯลฯ สติ สมาธิ ฯลฯ ปัญญา มีผลน่าปรารถนา แต่ปัญญา ไม่เป็น เจตสิก หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๑๔๑๒] ส. ศีลไม่เป็นเจตสิก หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. ไม่มีผล ไม่มีวิบาก หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. ศีลมีผล มีวิบาก มิใช่หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. หากว่า ศีลมีผล มีวิบาก ก็ต้องไม่กล่าวว่า ศีลไม่เป็นเจตสิก ฯลฯ [๑๔๑๓] ส. จักขายตนะ ไม่เป็นเจตสิก และไม่มีวิบาก หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. ศีลไม่เป็นเจตสิก และไม่มีวิบาก หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. โสตายตนะ ฯลฯ กายายตนะ ฯลฯ รูปายตนะ ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะ ไม่ เป็นเจตสิก และไม่มีวิบาก หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. ศีลไม่เป็นเจตสิก และไม่มีวิบาก หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๑๔๑๔] ส. ศีลไม่เป็นเจตสิก แต่มีวิบาก หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. จักขายตนะ ไม่เป็นเจตสิก แต่มีวิบาก หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. ศีลไม่เป็นเจตสิก แต่มีวิบาก หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. โสตายตนะ ฯลฯ กายายตนะ ฯลฯ รูปายตนะ ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะ ไม่ เป็นเจตสิก แต่มีวิบาก หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๑๔๑๕] ส. สัมมาวาจา ไม่เป็นเจตสิก หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. สัมมาทิฏฐิ ไม่เป็นเจตสิก หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. สัมมาวาจา ไม่เป็นเจตสิก หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. สัมมาสังกัปปะ ฯลฯ สัมมาวายามะ ฯลฯ สัมมาสติ ฯลฯ สัมมาสมาธิ ไม่เป็นเจตสิก หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. สัมมากัมมันตะ ฯลฯ สัมมาอาชีวะ ไม่เป็นเจตสิก หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. สัมมาทิฏฐิ ไม่เป็นเจตสิก หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. สัมมาอาชีวะ ไม่เป็นเจตสิก หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. สัมมาสังกัปปะ ฯลฯ สัมมาวายามะ ฯลฯ สัมมาสติ ฯลฯ สัมมาสมาธิ ไม่เป็นเจตสิก หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๑๔๑๖] ส. สัมมาทิฏฐิ เป็นเจตสิก หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. สัมมาวาจา เป็นเจตสิก หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. สัมมาทิฏฐิ เป็นเจตสิก หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. สัมมากัมมันตะ ฯลฯ สัมมาอาชีวะ เป็นเจตสิก หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. สัมมาสังกัปปะ ฯลฯ สัมมาวายามะ สัมมาสติ ฯลฯ สัมมาสมาธิ เป็นเจตสิก หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. สัมมาวาจา เป็นเจตสิก หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ส. สัมมาสมาธิ เป็นเจตสิก หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. สัมมากัมมันตะ ฯลฯ สัมมาอาชีวะ เป็นเจตสิก หรือ? ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๑๔๑๗] ป. ไม่พึงกล่าวว่า ศีลไม่เป็นเจตสิก หรือ? ส. ถูกแล้ว ป. เมื่อศีลเกิดขึ้นแล้วดับไป บุคคลผู้มีศีลดับไปแล้วนั้น เป็นคนทุศีล หรือ? ส. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ ป. ถ้าอย่างนั้น ศีลก็ไม่เป็นเจตสิกน่ะสิ
สีลัง อเจตสิกันติกถา จบ
-----------------------------------------------------

             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๗ บรรทัดที่ ๑๔๑๑๔-๑๔๒๒๙ หน้าที่ ๕๘๘-๕๙๒. https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=37&A=14114&Z=14229&pagebreak=0              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2]              อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :- https://84000.org/tipitaka/attha/m_siri.php?B=37&siri=122              ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=37&i=1407              ศึกษาพระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- [1407-1417] https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item_s.php?book=37&item=1407&items=11              อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=55&A=5708              The Pali Tipitaka in Roman :- [1407-1417] https://84000.org/tipitaka/pali/roman_item_s.php?book=37&item=1407&items=11              The Pali Atthakatha in Roman :- https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=55&A=5708              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๗ https://84000.org/tipitaka/read/?index_37              อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://suttacentral.net/kv10.7/en/aung-rhysdavids

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย

บันทึก ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :