ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๘ พระอภิธรรมปิฎกเล่มที่ ๕ ยมกปกรณ์ ภาค ๑
             [๑๓๘๗] บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย บุคคลนั้น ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัยหรือ?
             ถูกแล้ว.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละปฏิฆานุสัย บุคคลนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย?
             ถูกแล้ว.
             บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย บุคคลนั้น ย่อมไม่ละมานานุสัยหรือ?
             พระอริยบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละกามราคานุสัย แต่พระอริย-
*บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ละมานานุสัยก็หาไม่ บุคคลทั้งหลายที่
เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ไม่ละกามราคานุสัย และไม่ละ
มานานุสัย.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละมานานุสัย บุคคลนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละมานานุสัย แต่บุคคลผู้มีความพร้อม
เพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัยก็หาไม่ บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มี
ความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ไม่ละมานานุสัย และไม่ละกามราคานุสัย.
             บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย บุคคลนั้น ย่อมไม่ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉา-
*นุสัยหรือ?
             บุคคลที่ ๘ ไม่ละกามราคานุสัย แต่บุคคลที่ ๘ นั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัยก็หาไม่
บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค และบุคคลที่ ๘
ไม่ละกามราคานุสัย และไม่ละวิจิกิจฉานุสัย.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย แต่บุคคลผู้มีความ
พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัยก็หาไม่ บุคคลทั้งหลายที่เหลือ
เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค และบุคคลที่ ๘ ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย และ
ไม่ละกามราคานุสัย.
             บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย บุคคลนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย ฯลฯ
อวิชชานุสัย หรือ?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละกามราคานุสัย แต่บุคคลผู้มีความ
พร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัยก็หาไม่ บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคล
ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ไม่ละกามราคานุสัย และไม่ละอวิชชานุสัย.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละอวิชชานุสัย บุคคลนั้น ไม่ละกามราคานุสัย?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละอวิชชานุสัย แต่บุคคลผู้มีความ
พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัยก็หาไม่ บุคคลทั้งหลายที่เหลือ
เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ไม่ละอวิชชานุสัย และไม่ละกามราคานุสัย.
             [๑๓๘๘] บุคคลใด ไม่ละปฏิฆานุสัย บุคคลนั้น ย่อมไม่ละมานานุสัยหรือ?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละปฏิฆานุสัย แต่บุคคลผู้มีความ
พร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ละมานานุสัยก็หาไม่ บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคล
ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ไม่ละปฏิฆานุสัย และไม่ละมานานุสัย.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละมานานุสัย บุคคลนั้น ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละมานานุสัย แต่บุคคลผู้มีความ
พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัยก็หาไม่ บุคคลทั้งหลายที่เหลือ
เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ไม่ละมานานุสัย และไม่ละปฏิฆานุสัย.
             บุคคลใด ไม่ละปฏิฆานุสัย บุคคลนั้น ไม่ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย
หรือ?
             บุคคลที่ ๘ ไม่ละปฏิฆานุสัย แต่บุคคลที่ ๘ นั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัยก็หาไม่
บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค และบุคคลที่ ๘
ไม่ละปฏิฆานุสัย และไม่ละวิจิกิจฉานุสัย.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้น ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย แต่บุคคลผู้มีความ
พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัยก็หาไม่ บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคล
ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค และบุคคลที่ ๘ ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย และไม่ละ
ปฏิฆานุสัย?
             บุคคลใด ไม่ละปฏิฆานุสัย บุคคลนั้น ไม่ละภวราคานุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัย
หรือ?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละปฏิฆานุสัย แต่บุคคลผู้มีความ
พร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัยก็หาไม่ บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคล
ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ไม่ละปฏิฆานุสัย และไม่ละอวิชชานุสัย.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละอวิชชานุสัย บุคคลนั้น ไม่ละปฏิฆานุสัย?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละอวิชชานุสัย บุคคลผู้มีความ
พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัยก็หาไม่ บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคล
ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ไม่ละอวิชชานุสัย และไม่ละปฏิฆานุสัย.
             [๑๓๘๙] บุคคลใด ไม่ละมานานุสัย บุคคลนั้น ไม่ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ
วิจิกิจฉานุสัยหรือ?
             บุคคลที่ ๘ ไม่ละมานานุสัย แต่บุคคลที่ ๘ นั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัยก็หาไม่
บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค และบุคคลที่ ๘ ไม่ละ
มานานุสัย และไม่ละวิจิกิจฉานุสัย.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้น ย่อมไม่ละมานานุสัย?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย แต่บุคคลผู้มีความ
พร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ละมานานุสัยก็หาไม่ บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มี
ความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค และบุคคลที่ ๘ ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย และไม่ละมานานุสัย.
             บุคคลใด ไม่ละมานานุสัย บุคคลนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัย
หรือ?
             ถูกแล้ว.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละอวิชชานุสัย บุคคลนั้น ย่อมไม่ละมานานุสัย?
             ถูกแล้ว.
             [๑๓๙๐] บุคคลใด ไม่ละทิฏฐานุสัย บุคคลนั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัยหรือ?
             ถูกแล้ว.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้น ย่อมไม่ละทิฏฐานุสัย?
             ถูกแล้ว ฯลฯ.
             [๑๓๙๑] บุคคลใด ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย ฯลฯ
อวิชชานุสัยหรือ?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย แต่บุคคลผู้มีความ
พร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัยก็หาไม่ บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคล
ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค และบุคคลที่ ๘ ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย และไม่ละอวิชชานุสัย.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละอวิชชานุสัย บุคคลนั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย?
             บุคคลที่ ๘ ไม่ละอวิชชานุสัย แต่บุคคลที่ ๘ นั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัยก็หาไม่
บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค และบุคคลที่ ๘ ไม่ละ
อวิชชานุสัย และไม่ละวิจิกิจฉานุสัย.
             [๑๓๙๒] บุคคลใด ไม่ละภวราคานุสัย บุคคลนั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัยหรือ?
             ถูกแล้ว.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละอวิชชานุสัย บุคคลนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย?
             ถูกแล้ว.
             [๑๓๙๓] บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย บุคคลนั้น ย่อมไม่
ละมานานุสัยหรือ?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย
แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ละมานานุสัยก็หาไม่ บุคคลทั้งหลาย
ที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย
และไม่ละมานานุสัย.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละมานานุสัย บุคคลนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และ
ปฏิฆานุสัย?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละมานานุสัย แต่บุคคลผู้มีความ
พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัยก็หาไม่ บุคคลทั้งหลาย
ที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ไม่ละมานานุสัย และไม่ละ
กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย.
             บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย บุคคลนั้น ย่อมไม่ละทิฏฐานุสัย
ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยหรือ?
             บุคคลที่ ๘ ไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย แต่บุคคลที่ ๘ นั้น ย่อมไม่ละ
วิจิกิจฉานุสัยก็หาไม่ บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค
และบุคคลที่ ๘ ไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย และไม่ละวิจิกิจฉานุสัย.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย
และปฏิฆานุสัย?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย แต่บุคคลผู้มีความ
พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัยก็หาไม่ บุคคลทั้งหลาย
ที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค และบุคคลที่ ๘ ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย
ไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย.
             บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย บุคคลนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย
ฯลฯ อวิชชานุสัยหรือ?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย
แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัยก็หาไม่ บุคคลทั้งหลาย
ที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย
และไม่ละอวิชชานุสัย.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละอวิชชานุสัย บุคคลนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และ
ปฏิฆานุสัย?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละอวิชชานุสัย แต่บุคคลผู้มีความ
พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัยก็หาไม่ บุคคล
ทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ไม่ละอวิชชานุสัย ไม่ละ
กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย.
             [๑๓๙๔] บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย บุคคลนั้น
ย่อมไม่ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยหรือ?
             บุคคลที่ ๘ ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย บุคคลที่ ๘ นั้น ย่อมไม่ละ
วิจิกิจฉานุสัยก็หาไม่ บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก
และบุคคลที่ ๘ ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และไม่ละวิจิกิจฉานุสัย.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย และมานานุสัย แต่
บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัยก็หาไม่
บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย
แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ละมานานุสัยก็หาไม่ บุคคลทั้งหลาย
ที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก และบุคคลที่ ๘ ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย
ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย.
             บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ
ภวราคานุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัยหรือ?
             ถูกแล้ว.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละอวิชชานุสัย บุคคลนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละอวิชชานุสัย และมานานุสัย แต่
บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัยก็หาไม่
บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ไม่ละอวิชชานุสัย
ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย.
             [๑๓๙๕] บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย
บุคคลนั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัยหรือ?
             ถูกแล้ว.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย มานานุสัย และ
ทิฏฐานุสัย แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และ
ปฏิฆานุสัยก็หาไม่ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย และทิฏฐานุสัย แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ละ
มานานุสัยก็หาไม่ บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก
และบุคคลที่ ๘ ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และ
ทิฏฐานุสัย ฯลฯ.
             [๑๓๙๖] บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย
และวิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัยหรือ?
             ถูกแล้ว.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละอวิชชานุสัย บุคคลนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย?
             บุคคลที่ ๘ ไม่ละอวิชชานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย แต่บุคคล
ที่ ๘ นั้น ย่อมไม่ละทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยก็หาไม่ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วย
อนาคามิมรรค ไม่ละอวิชชานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย แต่บุคคลผู้มีความ
พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัยก็หาไม่ บุคคล
ทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก และบุคคลที่ ๘ ไม่ละ
อวิชชานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย.
             [๑๓๙๗] บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย
วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย บุคคลนั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัยหรือ?
             ถูกแล้ว.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละอวิชชานุสัย บุคคลนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย?
             บุคคลที่ ๘ ไม่ละอวิชชานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และภวราคานุสัย
แต่บุคคลที่ ๘ นั้น ย่อมไม่ละทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยก็หาไม่ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียง
ด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละอวิชชานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย
แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย
ก็หาไม่ บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก และบุคคล
ที่ ๘ ไม่ละอวิชชานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย
และภวราคานุสัย.
             [๑๓๙๘] บุคคล ไม่ละกามราคานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย จาก
ที่นั้นหรือ?
             บุคคลไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น คือ ในทุกขเวทนา แต่จะไม่ละปฏิฆานุสัย จาก
ที่นั้นก็หาไม่ บุคคลย่อมไม่ละกามราคานุสัย และไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือ ในรูปธาตุ
ในอรูปธาตุ ในอปริยาปันนธรรม.
             หรือว่า บุคคลไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น?
             บุคคลไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น คือ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่จะไม่ละ
กามราคานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย และไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น
คือ ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ ในอปริยาปันนธรรม.
             บุคคลไม่ละกามราคานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละมานานุสัย จากที่นั้นหรือ?
             บุคคลไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น คือ ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ แต่จะไม่ละมานานุสัย
จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลย่อมไม่ละกามราคานุสัย และไม่ละมานานุสัย จากที่นั้น คือ ใน
ทุกขเวทนา ในอปริยาปันนธรรม.
             หรือว่า บุคคลไม่ละมานานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น?
             ถูกแล้ว.
             บุคคลไม่ละกามราคานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย
จากที่นั้นหรือ?
             บุคคลไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น คือ ในทุกขเวทนา ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ แต่
จะไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลย่อมไม่ละกามราคานุสัย และไม่ละวิจิกิจฉานุสัย
จากที่นั้น คือ ในอปริยาปันนธรรม.
             หรือว่า บุคคลไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละกามราคานุสัย จากที่
นั้น?
             ถูกแล้ว.
             บุคคลไม่ละกามราคานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้นหรือ?
             บุคคลไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น คือ ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ แต่จะไม่ละภวราคานุสัย
จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลย่อมไม่ละกามราคานุสัย และจะไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้น คือ ใน
ทุกขเวทนา ในอปริยาปันนธรรม.
             หรือว่า บุคคลไม่ละภวราคานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น?
             บุคคลไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้น คือ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่จะไม่ละ
กามราคานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลย่อมไม่ละภวราคานุสัย และไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น
คือ ในทุกขเวทนา ในอปริยาปันนธรรม.
             บุคคลไม่ละกามราคานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้นหรือ?
             บุคคลไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น คือ ในทุกขเวทนา ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ แต่
จะไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลย่อมไม่ละกามราคานุสัย และไม่ละอวิชชานุสัย
จากที่นั้น คือ ในอปริยาปันนธรรม.
             หรือว่า บุคคลไม่ละอวิชชานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น?
             ถูกแล้ว.
             [๑๓๙๙] บุคคลไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละมานานุสัย จากที่นั้น
หรือ?
             บุคคลไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ
แต่จะไม่ละมานานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย และไม่ละมานานุสัย จาก
ที่นั้น คือ ในอปริยาปันนธรรม.
             หรือว่า บุคคลไม่ละมานานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น?
             บุคคลไม่ละมานานุสัย จากที่นั้น คือ ในทุกขเวทนา แต่จะไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น
ก็หาไม่ บุคคลย่อมไม่ละมานานุสัย และไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือ ในอปริยาปันนธรรม.
             บุคคลไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย
จากที่นั้นหรือ?
             บุคคลย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ ในรูปธาตุ ใน
อรูปธาตุ แต่จะไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย และไม่ละ
วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น คือ ในอปริยาปันนธรรม.
             หรือว่า บุคคลไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น?
             ถูกแล้ว.
             บุคคลไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้นหรือ?
             บุคคลไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือ ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ แต่จะไม่ละภวราคานุสัย
จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย และไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้น คือ ในเวทนา ๒
ในกามธาตุ ในอปริยาปันนธรรม.
             หรือว่า บุคคลไม่ละภวราคานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น?
             บุคคลไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้น คือ ในทุกขเวทนา แต่จะไม่ละปฏิฆานุสัย จาก
ที่นั้นก็หาไม่ บุคคลไม่ละภวราคานุสัย และไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือ ในเวทนา ๒ ใน
กามธาตุ ในอปริยาปันนธรรม.
             บุคคลไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้นหรือ?
             บุคคลไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ ในรูปธาตุ ใน
อรูปธาตุ แต่จะไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย และไม่ละ
อวิชชานุสัย จากที่นั้น คือ ในอปริยาปันนธรรม.
             หรือว่า บุคคลไม่ละอวิชชานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น?
             ถูกแล้ว.
             [๑๔๐๐] บุคคลไม่ละมานานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉา-
*นุสัย จากที่นั้นหรือ?
             บุคคลไม่ละมานานุสัย จากที่นั้น คือ ในทุกขเวทนา แต่จะไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จาก
ที่นั้นก็หาไม่ บุคคลย่อมไม่ละมานานุสัย และไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น คือ ในอปริยา-
*ปันนธรรม.
             หรือว่า บุคคลไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละมานานุสัย จากที่นั้น?
             ถูกแล้ว.
             บุคคลไม่ละมานานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้นหรือ?
             ถูกแล้ว.
             หรือว่า บุคคลไม่ละภวราคานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละมานานุสัย จากที่นั้น?
             บุคคลไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้น คือ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่จะไม่ละมานานุสัย
จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลย่อมไม่ละภวราคานุสัย และไม่ละมานานุสัย จากที่นั้น คือ ในทุกขเวทนา
ในอปริยาปันนธรรม.
             บุคคลไม่ละมานานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้นหรือ?
             บุคคลไม่ละมานานุสัย จากที่นั้น คือ ในทุกขเวทนา แต่จะไม่ละอวิชชานุสัย จาก
ที่นั้นก็หาไม่ บุคคลย่อมไม่ละมานานุสัย และไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น คือ ในอปริยา-
*ปันนธรรม.
             หรือว่า บุคคลไม่ละอวิชชานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละมานานุสัย จากที่นั้น?
             ถูกแล้ว.
             [๑๔๐๑] บุคคลไม่ละทิฏฐานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น
หรือ?
             ถูกแล้ว.
             หรือว่า บุคคลไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละทิฏฐานุสัย จากที่นั้น?
             ถูกแล้ว ฯลฯ.
             [๑๔๐๒] บุคคลไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้น
หรือ?
             ถูกแล้ว.
             หรือว่า บุคคลไม่ละภวราคานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น?
             บุคคลไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้น คือ ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ แต่จะไม่ละวิจิกิจฉา-
*นุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลย่อมไม่ละภวราคานุสัย และไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น คือ
ในอปริยาปันนธรรม.
             บุคคลไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้นหรือ?
             ถูกแล้ว.
             หรือว่า บุคคลไม่ละอวิชชานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น?
             ถูกแล้ว.
             [๑๔๐๓] บุคคลไม่ละภวราคานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น
หรือ?
             บุคคลไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้น คือ ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ แต่จะไม่ละอวิชชา-
*นุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลย่อมไม่ละภวราคานุสัย และไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น คือ
ในอปริยาปันนธรรม.
             หรือว่า บุคคลไม่ละอวิชชานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้น?
             ถูกแล้ว.
             [๑๔๐๔] บุคคลไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละ
มานานุสัยจากที่นั้นหรือ?
             บุคคลไม่ละกามราคานุสัย และไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือ ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ
แต่จะไม่ละมานานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลย่อมไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และไม่ละ
มานานุสัย จากที่นั้น คือ ในอปริยาปันนธรรม.
             หรือว่า บุคคลไม่ละมานานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย
จากที่นั้น?
             บุคคลไม่ละมานานุสัย และกามราคานุสัย จากที่นั้น คือ ในทุกขเวทนา แต่จะไม่ละ
ปฏิฆานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลย่อมไม่ละมานานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย
จากที่นั้น คือ ในอปริยาปันนธรรม.
             บุคคลไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ
และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้นหรือ?
             บุคคลไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือ ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ
แต่จะไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลย่อมไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และ
ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น คือ ในอปริยาปันนธรรม.
             หรือว่า บุคคลไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆา-
*นุสัย จากที่นั้น?
             ถูกแล้ว.
             บุคคลไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละภวราคานุสัย จาก
ที่นั้นหรือ?
             บุคคลไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือ ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ
แต่จะไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลย่อมไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และไม่
ละภวราคานุสัย จากที่นั้น คือ ในอปริยาปันนธรรม.
             หรือว่า บุคคลไม่ละภวราคานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และ
ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น?
             บุคคลไม่ละภวราคานุสัย และกามราคานุสัย จากที่นั้น คือ ในทุกขเวทนา แต่จะไม่ละ
ปฏิฆานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลไม่ละภวราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือ ในเวทนา ๒
ในกามธาตุ แต่จะไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลย่อมไม่ละภวราคานุสัย ไม่ละ
กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือ ในอปริยาปันนธรรม.
             บุคคลไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย
ที่นั้นหรือ?
             บุคคลไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือ ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ แต่
จะไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลย่อมไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และไม่ละ
อวิชชานุสัย จากที่นั้น คือ ในอปริยาปันนธรรม.
             หรือว่า บุคคลไม่ละอวิชชานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และ
ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น?
             ถูกแล้ว.
             [๑๔๐๕] บุคคลไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่ใด ย่อม
ไม่ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้นหรือ?
             ถูกแล้ว.
             หรือว่า บุคคลไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
และมานานุสัย จากที่นั้น?
             ถูกแล้ว.
             บุคคลไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละ
ภวราคานุสัย จากที่นั้นหรือ?
             ถูกแล้ว.
             หรือว่า บุคคลไม่ละภวราคานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
และมานานุสัย จากที่นั้น?
             บุคคลไม่ละภวราคานุสัย กามราคานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น คือ ในทุกขเวทนา
แต่จะไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลย่อมไม่ละภวราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น
คือ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่จะไม่ละกามราคานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่
บุคคลย่อมไม่ละภวราคานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น คือ
ในอปริยาปันนธรรม.
             บุคคลไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละ
อวิชชานุสัย จากที่นั้นหรือ?
             ถูกแล้ว.
             หรือว่า บุคคลไม่ละอวิชชานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
และมานานุสัย จากที่นั้น?
             ถูกแล้ว.
             [๑๔๐๖] บุคคลไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย
จากที่ใด ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้นหรือ?
             ถูกแล้ว.
             หรือว่า บุคคลไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
มานานุสัย และทิฏฐานุสัย จากที่นั้น?
             ถูกแล้ว.
             [๑๔๐๗] บุคคลไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และ
วิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้นหรือ?
             ถูกแล้ว.
             หรือว่า บุคคลไม่ละภวราคานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น?
             บุคคลไม่ละภวราคานุสัย กามราคานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น คือ ในทุกขเวทนา
แต่จะไม่ละปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลย่อมไม่ละ
ภวราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่จะไม่ละกามราคานุสัย
มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลย่อมไม่ละภวราคานุสัย ไม่
ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น คือ ใน
อปริยาปันนธรรม.
             บุคคลไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย
จากที่ใด ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้นหรือ?
             ถูกแล้ว.
             หรือว่า บุคคลไม่ละอวิชชานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น?
             ถูกแล้ว.
             [๑๔๐๘] บุคคลไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย
วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้นหรือ?
             ถูกแล้ว.
             หรือว่า บุคคลไม่ละอวิชชานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย จากที่นั้น?
             ถูกแล้ว.
             [๑๔๐๙] บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ
ปฏิฆานุสัย จากที่นั้นหรือ?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละกามราคานุสัยในทุกขเวทนา บุคคล
ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัยจากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความ
พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ละปฏิฆานุสัยจากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลนั้นนั่นแหละ
ไม่ละกามราคานุสัย ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ ในอปริยาปันนธรรม บุคคลนั้นย่อมไม่ละกามราคา-
*นุสัย และไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียง
ด้วยอนาคามิมรรค ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และไม่ละปฏิฆานุสัย ในที่ทั้งปวง.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย
จากที่นั้น?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ไม่ละปฏิฆานุสัยในเวทนา ๒ ใน
กามธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น
แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่
บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละปฏิฆานุสัย ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ ในอปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น
ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย และไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคล
ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย และไม่ละกามราคานุสัย ในที่
ทั้งปวง.
             บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละมานานุสัย จาก
ที่นั้นหรือ?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละกามราคานุสัยในเวทนา ๒ ในกามธาตุ
ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย
จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ละมานานุสัย จากที่นั้น
ก็หาไม่ บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละกามราคานุสัยในทุกขเวทนา ในอปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น
ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และไม่ละมานานุสัย จากที่นั้น บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มี
ความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และไม่ละมานานุสัย ในที่ทั้งปวง.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละมานานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย
จากที่นั้น?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละมานานุสัยในเวทนา ๒ ในกามธาตุ
บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่ละมานานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคล
ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลนั้น
นั่นแหละ ไม่ละมานานุสัยในทุกขเวทนา ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ ในอปริยาปันนธรรม บุคคล
นั้น ย่อมไม่ละมานานุสัย และไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคล
ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่ละมานานุสัย และไม่ละกามราคานุสัย ในที่
ทั้งปวง.
             บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ
วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้นหรือ?
             บุคคลที่ ๘ ไม่ละกามราคานุสัยในเวทนา ๓ ในกามธาตุ ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ
บุคคลที่ ๘ นั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลนั้นจะไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จาก
ที่นั้นก็หาไม่ บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละกามราคานุสัย ในอปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อม
ไม่ละกามราคานุสัย และไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มี
ความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และไม่ละ
วิจิกิจฉานุสัย ในที่ทั้งปวง.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย
จากที่นั้น?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ในเวทนา ๒ ใน
กามธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น
แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่
บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละวิจิกิจฉานุสัยในทุกขเวทนา ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ ในอปริยาปันน-
*ธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย และไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น บุคคลทั้งหลาย
ที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย
และไม่ละกามราคานุสัย ในที่ทั้งปวง.
             บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย
จากที่นั้นหรือ?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละกามราคานุสัย ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ
บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัยจากที่นั้น แต่บุคคลผู้มี
ความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลนั้นนั่นแหละ
ไม่ละกามราคานุสัย ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ ในอปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ
กามราคานุสัย และไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้น บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความ
พร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และไม่ละภวราคานุสัย ในที่ทั้งปวง.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละภวราคานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ
กามราคานุสัย จากที่นั้น?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละภวราคานุสัย ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ
บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคล
ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลนั้น
นั่นแหละ ไม่ละภวราคานุสัย ในทุกขเวทนา ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ ในอปริยาปันนธรรม
บุคคลนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย และไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น บุคคลทั้งหลายที่เหลือ
เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่ละภวราคานุสัย และไม่ละ
กามราคานุสัย ในที่ทั้งปวง.
             บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้นย่อมไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น
หรือ?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละกามราคานุสัย ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ
ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย
จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น
ก็หาไม่ บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละกามราคานุสัย ในอปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่
ละกามราคานุสัย และไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความ
พร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และไม่ละอวิชชานุสัย ในที่ทั้งปวง.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละอวิชชานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ
กามราคานุสัย จากที่นั้น?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละอวิชชานุสัย ในเวทนา ๒
ในกามธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น
แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่
บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละอวิชชานุสัย ในทุกขเวทนา ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ ในอปริยา-
*ปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย และไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น บุคคลทั้งหลาย
ที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย และ
ไม่ละกามราคานุสัย ในที่ทั้งปวง.
             [๑๔๑๐] บุคคลใด ไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละมานานุสัย
จากที่นั้นหรือ?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละปฏิฆานุสัย ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ
ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย
จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ละมานานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่
บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละปฏิฆานุสัย ในทุกขเวทนา ในอปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่
ละปฏิฆานุสัย และไม่ละมานานุสัย จากที่นั้น บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความ
พร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย และไม่ละมานานุสัย ในที่ทั้งปวง.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละมานานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย
จากที่นั้น?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละมานานุสัย ในทุกขเวทนา
บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่ละมานานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคล
ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลนั้นนั่นแหละ
ไม่ละมานานุสัย ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ ในอปริยาปันนธรรม
บุคคลนั้น ย่อมไม่ละมานานุสัย และไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น บุคคลทั้งหลายที่เหลือ
เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่ละมานานุสัย และไม่ละปฏิฆานุสัย
ในที่ทั้งปวง.
             บุคคลใด ไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ
วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้นหรือ?
             บุคคลที่ ๘ ไม่ละปฏิฆานุสัยในเวทนา ๓ ในกามธาตุ ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ
บุคคลที่ ๘ นั้น ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลที่ ๘ นั้น จะไม่ละวิจิกิจฉานุสัย
จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลนั้นั่นแหละ ไม่ละปฏิฆานุสัย ในอปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น
ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย และไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคล
ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย และไม่ละ
วิจิกิจฉานุสัย ในที่ทั้งปวง.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย
จากที่นั้น?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ในทุกขเวทนา
บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่
บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ
ในอปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย และไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น
บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค และบุคคลที่ ๘ ย่อม
ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย และไม่ละปฏิฆานุสัย ในที่ทั้งปวง.
             บุคคลใด ไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย
จากที่นั้นหรือ?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละปฏิฆานุสัย ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ
บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มี
ความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลนั้นนั่นแหละ
ไม่ละปฏิฆานุสัย ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ ในอปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย
และไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้น บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วย
มรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย และไม่ละภวราคานุสัย ในที่ทั้งปวง.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละภวราคานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย
จากที่นั้น?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละภวราคานุสัย ในทุกขเวทนา
บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคล
ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลนั้น
นั่นแหละ ไม่ละภวราคานุสัย ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ ในอปริยา-
*ปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย และไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น บุคคลทั้งหลาย
ที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่ละภวราคานุสัย และไม่ละ
ปฏิฆานุสัย ในที่ทั้งปวง.
             บุคคลใด ไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย
จากที่นั้นหรือ?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละปฏิฆานุสัย ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ
ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย
จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่
บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละปฏิฆานุสัย ในอปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย
และไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วย
มรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย และไม่ละอวิชชานุสัย ในที่ทั้งปวง.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละอวิชชานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย
จากที่นั้น?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละอวิชชานุสัยในทุกขเวทนา บุคคล
ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความ
พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลนั้นนั่นแหละ
ไม่ละอวิชชานุสัย ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ ในอปริยาปันนธรรม
บุคคลนั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย และไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น บุคคลทั้งหลายที่เหลือ
เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย และไม่ละปฏิฆานุสัย
ในที่ทั้งปวง.
             [๑๔๑๑] บุคคลใด ไม่ละมานานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละทิฏฐานุสัย
ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้นหรือ?
             บุคคลที่ ๘ ไม่ละมานานุสัย ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ
บุคคลที่ ๘ นั้น ย่อมไม่ละมานานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลที่ ๘ นั้น จะไม่ละวิจิกิจฉานุสัย
จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละมานานุสัย ในอปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่
ละมานานุสัย และไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความ
พร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่ละมานานุสัย และไม่ละวิจิกิจฉานุสัย
ในที่ทั้งปวง.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละมานานุสัย
จากที่นั้น?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ
ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย
จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ละมานานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่
บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ในทุกขเวทนา ในอปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อม
ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย และไม่ละมานานุสัย จากที่นั้น บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความ
พร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย และไม่ละมานานุสัย
ในที่ทั้งปวง.
             บุคคลใด ไม่ละมานานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย จาก
ที่นั้นหรือ?
             ถูกแล้ว.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละภวราคานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละมานานุสัย
จากที่นั้น?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละภวราคานุสัย ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ
บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความ
พร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ละมานานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละ
ภวราคานุสัย ในทุกขเวทนา ในอปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย และไม่ละ
มานานุสัย จากที่นั้น บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ย่อมไม่
ละภวราคานุสัย และไม่ละมานานุสัย ในที่ทั้งปวง.
             บุคคลใด ไม่ละมานานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย จาก
ที่นั้นหรือ?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละมานานุสัย ในทุกขเวทนา บุคคล
ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ละมานานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความ
พร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลนั้นนั่นแหละ
ไม่ละมานานุสัย ในอปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละมานานุสัย และไม่ละอวิชชานุสัย
จากที่นั้น บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ย่อมไม่ละ
มานานุสัย และไม่ละอวิชชานุสัย ในที่ทั้งปวง.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละอวิชชานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละมานานุสัย
จากที่นั้น?
             ถูกแล้ว.
             [๑๔๑๒] บุคคลใด ไม่ละทิฏฐานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย
จากที่นั้นหรือ?
             ถูกแล้ว.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละทิฏฐานุสัย
จากที่นั้น?
             ถูกแล้ว ฯลฯ.
             [๑๔๑๓] บุคคลใด ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละภวราคา-
*นุสัย จากที่นั้นหรือ?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ
บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มี
ความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลนั้นนั่นแหละ
ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ ในอปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ
วิจิกิจฉานุสัย และไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้น บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความ
พร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย และไม่ละภวราคานุสัย
ในที่ทั้งปวง.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละภวราคานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉา-
*นุสัย จากที่นั้น?
             บุคคลที่ ๘ ไม่ละภวราคานุสัย ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ
บุคคลที่ ๘ นั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลที่ ๘ นั้น จะไม่ละวิจิกิจฉานุสัย
จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละภวราคานุสัย ในอปริยาปันนธรรม บุคคลนั้นย่อม
ไม่ละภวราคานุสัย และไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความ
พร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่ละภวราคานุสัย และไม่ละวิจิกิจฉานุสัย
ในที่ทั้งปวง.
             บุคคลใด ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย จาก
ที่นั้นหรือ?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ
ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย
จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น
ก็หาไม่ บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ในอปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ
วิจิกิจฉานุสัย และไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความ
พร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย และไม่ละอวิชชานุสัย
ในที่ทั้งปวง.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละอวิชชานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉา-
*นุสัย จากที่นั้น?
             บุคคลที่ ๘ ไม่ละอวิชชานุสัย ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ
บุคคลที่ ๘ นั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค
นั้น จะไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละอวิชชานุสัย ใน
อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้นย่อมไม่ละอวิชชานุสัย และไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น บุคคล
ทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่ละ
อวิชชานุสัย ในที่ทั้งปวง.
             [๑๔๑๔] บุคคลใด ไม่ละภวราคานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละอวิชชา-
*นุสัย จากที่นั้นหรือ?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละภวราคานุสัย ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ
บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย แต่บุคคลผู้มีความ
พร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลนั้นนั่นแหละ
ไม่ละภวราคานุสัย ในอปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย และไม่ละอวิชชานุสัย
จากที่นั้น บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ย่อมไม่ละ
ภวราคานุสัย และไม่ละอวิชชานุสัย ในที่ทั้งปวง.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละอวิชชานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย
จากที่นั้น?
             ถูกแล้ว
             [๑๔๑๕] บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น
ย่อมไม่ละมานานุสัย จากที่นั้นหรือ?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละกามราคานุสัย ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ
ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ละมานานุสัย
จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละกามราคานุสัย ในทุกขเวทนา ในอปริยาปันนธรรม
บุคคลนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย และไม่ละมานานุสัย จากที่นั้น บุคคล
ทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่ละกามราคา-
*นุสัย และปฏิฆานุสัย และไม่ละมานานุสัย ในที่ทั้งปวง.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละมานานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย
และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละมานานุสัย ในทุกขเวทนา บุคคล
ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่ละมานานุสัย และกามราคานุสัย จากที่นั้น
แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่
บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละมานานุสัย ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้น ย่อมไม่ละมานานุสัย
และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลนั้น จะไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลนั้น
นั่นแหละ ไม่ละมานานุสัย ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ ในอปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ
มานานุสัย และไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคล
ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่ละมานานุสัย และไม่ละกามราคานุสัย และ
ปฏิฆานุสัย ในที่ทั้งปวง.
             บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ
ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้นหรือ?
             บุคคลที่ ๘ ไม่ละกามราคานุสัย ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ
บุคคลที่ ๘ นั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลที่ ๘ นั้น จะไม่
ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละกามราคานุสัย ในอปริยาปันนธรรม
บุคคลนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย และไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น บุคคล
ทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่ละ
กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย ในที่ทั้งปวง.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย
และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ในทุกขเวทนา
บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย และกามราคานุสัย
จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น
ก็หาไม่ บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้น ไม่ละ
วิจิกิจฉานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลนั้น จะไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่
บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ ในอปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น
ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย และไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น บุคคลทั้งหลาย
ที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย
และไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ในที่ทั้งปวง.
             บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ
ภวราคานุสัย จากที่นั้นหรือ?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละกามราคานุสัย ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ
บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จาก
ที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่
บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละกามราคานุสัย ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ ในอปริยาปันนธรรม บุคคล
นั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย และไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้น บุคคลทั้งหลาย
ที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และ
ปฏิฆานุสัย และไม่ละภวราคานุสัย ในที่ทั้งปวง.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละภวราคานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย
และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละภวราคานุสัย ในทุกขเวทนา บุคคล
ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย และกามราคานุสัย จากที่นั้น
แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่
บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละภวราคานุสัย ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ
ภวราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลนั้น จะไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่
บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละภวราคานุสัย ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ ในอปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น
ย่อมไม่ละภวราคานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น บุคคลทั้งหลายที่เหลือ
เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่ละภวราคานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย
และปฏิฆานุสัย ในที่ทั้งปวง.
             บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ
อวิชชานุสัย จากที่นั้นหรือ?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละกามราคานุสัย ในเวทนา ๓ ใน
กามธาตุ ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ละ
กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น
จะไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละกามราคานุสัย ในอปริยา-
*ปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย และไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น
บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่ละ
กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย และไม่ละอวิชชานุสัย ในที่ทั้งปวง.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละอวิชชานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย
และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละอวิชชานุสัย ในทุกขเวทนา บุคคล
ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย และกามราคานุสัย จาก
ที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่
บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละอวิชชานุสัย ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ
อวิชชานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลนั้น ไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่
บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละอวิชชานุสัย ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ ในอปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น
ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น บุคคลทั้งหลายที่เหลือ
เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย
และปฏิฆานุสัย ในที่ทั้งปวง.
             [๑๔๑๖] บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่ใด
บุคคลนั้น ย่อมไม่ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้นหรือ?
             บุคคลที่ ๘ ไม่ละกามราคานุสัย ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ
บุคคลที่ ๘ ย่อมไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลที่ ๘ นั้น
ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละกามราคานุสัย ในอปริยาปันนธรรม
บุคคลนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย และไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จาก
ที่นั้น บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก และบุคคล
ที่ ๘ ย่อมไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย และไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ในที่
ทั้งปวง.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ในทุกขเวทนา
บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย และ
มานานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ละปฏิฆานุสัย
จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้น
ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลนั้น จะไม่ละ
กามราคานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ในรูปธาตุ ใน
อรูปธาตุ ในอปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละ
วิจิกิจฉานุสัย ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียง
ด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แต่
บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ละมานานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลนั้น
นั่นแหละ ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ในทุกขเวทนา ในอปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ
วิจิกิจฉานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น บุคคลทั้งหลายที่เหลือ
เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย
ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ในที่ทั้งปวง.
             บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น
ย่อมไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้นหรือ?
             ถูกแล้ว.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละภวราคานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละภวราคานุสัย ในทุกขเวทนา บุคคล
ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย กามราคานุสัย และมานานุสัย
จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น
ก็หาไม่ บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละภวราคานุสัย ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้น ย่อมไม่
ละภวราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลนั้น จะไม่ละกามราคานุสัย
จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละภวราคานุสัย ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ ในอปริยา-
*ปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย
จากที่นั้น บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละภวราคานุสัย ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ
บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย กามราคานุสัย และ
ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ละมานานุสัย
จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละภวราคานุสัย ในทุกขเวทนา ในอปริยาปันนธรรม
บุคคลนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น
บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่ละภวราคานุสัย
ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ในที่ทั้งปวง.
             บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น
ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้นหรือ?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละกามราคานุสัย ในทุกขเวทนา บุคคล
ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย
จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น
ก็หาไม่ บุคคลนั้นนั่นแหละไม่ละกามราคานุสัย ในอปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ
กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย และไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น บุคคลทั้งหลาย
ที่เหลือเว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
และมานานุสัย และไม่ละอวิชชานุสัย ในที่ทั้งปวง.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละอวิชชานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละกามราคา-
*นุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละอวิชชานุสัยในทุกขเวทนา บุคคล
ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย กามราคานุสัย และมานา-
*นุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ละปฏิฆานุสัย จาก
ที่นั้นก็หาไม่ บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละอวิชชานุสัยในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นย่อม
ไม่ละอวิชชานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลนั้น จะไม่ละกามราคานุสัย
จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละอวิชชานุสัยในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ ในอปริยาปันน-
*ธรรมบุคคลนั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จาก
ที่นั้น บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่ละ
อวิชชานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ในที่ทั้งปวง.
             [๑๔๑๗] บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐา-
*นุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้นหรือ?
             ถูกแล้ว.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละกามราคา-
*นุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย จากที่นั้น?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละวิจิกิจฉานุสัยในทุกขเวทนา บุคคล
ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย มานานุสัย
และทิฏฐานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ละปฏิฆา-
*นุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคล
นั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลนั้น
จะไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ในรูปธาตุ
ในอรูปธาตุ ในอปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย จากที่นั้น บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค
ไม่ละวิจิกิจฉานุสัยในเวทนา ๒ ในกามธาตุ ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียง
ด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และทิฏฐานุสัย จากที่นั้น
แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ละมานานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลนั้น
นั่นแหละ ไม่ละวิจิกิจฉานุสัยในทุกขเวทนา ในอปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย
ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย จากที่นั้น บุคคลทั้งหลาย
ที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่ละวิจิกิจฉา-
*นุสัย ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย ในที่ทั้งปวง ฯลฯ.
             [๑๔๑๘] บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย
และวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้นหรือ?
             ถูกแล้ว.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละภวราคานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละกามราคา-
*นุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น?
             บุคคลที่ ๘ ไม่ละภวราคานุสัยในเวทนา ๓ ในกามธาตุ ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ บุคคล
ที่ ๘ นั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น แต่
บุคคลที่ ๘ นั้น จะไม่ละทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลนั้นนั่นแหละ
ไม่ละภวราคานุสัยในอปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียง
ด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละภวราคานุสัยในทุกขเวทนา บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิ-
*มรรคนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย กามราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉา
นุสัย แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่
บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละภวราคานุสัยในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นย่อมไม่ละภวราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลนั้น จะไม่ละ
กามราคานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละภวราคานุสัยในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ
ในอปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัต-
*มรรค ไม่ละภวราคานุสัยในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค
นั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จาก
ที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ละมานานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่
บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละภวราคานุสัยในทุกขเวทนา ในอปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อม
ไม่ละภวราคานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย
จากที่นั้น บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก และ
บุคคลที่ ๘ ย่อมไม่ละภวราคานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย
และวิจิกิจฉานุสัย ในที่ทั้งปวง.
             บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจ-
*ฉานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้นหรือ?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละกามราคานุสัยในทุกขเวทนา บุคคล
ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย
ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น
จะไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละกามราคานุสัยในอปริยาปันน-
*ธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉา-
*นุสัย และไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียง
ด้วยมรรค ๒ จำพวก และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐา-
*นุสัย และวิจิกิจฉานุสัย และไม่ละอวิชชานุสัย ในที่ทั้งปวง.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละอวิชชานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละกามราคา-
*นุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น?
             บุคคลที่ ๘ ไม่ละอวิชชานุสัยในเวทนา ๓ ในกามธาตุ ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ บุคคล
ที่ ๘ นั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น แต่
บุคคลที่ ๘ นั้น จะไม่ละทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลนั้นนั่นแหละ
ไม่ละอวิชชานุสัยในอปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียง
ด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละอวิชชานุสัยในทุกขเวทนา บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค
นั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย กามราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จาก
ที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้นก็หา
ไม่ บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละอวิชชานุสัยในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ
อวิชชานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลนั้น
จะไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละกามราคานุสัยในรูปธาตุ ใน
อรูปธาตุ ในอปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆา-
*นุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคล
ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย ไม่ละ
กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย ในที่ทั้งปวง.
             [๑๔๑๙] บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย
วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น
หรือ?
             บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละกามราคานุสัยในทุกขเวทนา บุคคล
ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย
ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วย
อรหัตมรรคนั้น จะไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลนั้นนั่นแหละไม่ละกามราคานุสัย
ในอปริยาปันนธรรม บุคคลนั้นย่อมไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย
วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย และไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้น
บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่ละกามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย ภวราคานุสัย และไม่ละอวิชชานุสัย
ในที่ทั้งปวง.
             หรือว่า บุคคลใด ไม่ละอวิชชานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ
กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย
จากที่นั้น?
             บุคคลที่ ๘ ไม่ละอวิชชานุสัยในเวทนา ๓ ในกามธาตุ ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ
บุคคลที่ ๘ นั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และภวราคานุสัย
จากที่นั้น แต่บุคคลที่ ๘ นั้น จะไม่ละทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลนั้น
นั่นแหละไม่ละอวิชชานุสัย ในอปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย ไม่ละ
กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย จากที่นั้น
บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละในทุกขเวทนา บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียง
ด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย กามราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย
และภวราคานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ละ
ปฏิฆานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละอวิชชานุสัยในเวทนา ๒ ในกามธาตุ
บุคคลนั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และ
ภวราคานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลนั้น จะไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลนั้น
นั่นแหละ ไม่ละอวิชชานุสัย ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ ในอปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น
ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย
และภวราคานุสัย จากที่นั้น บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค
๒ จำพวก และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย
ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย ในที่ทั้งปวง.
ปชหนวาร จบ.

             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๘ บรรทัดที่ ๑๔๔๓๗-๑๕๓๐๕ หน้าที่ ๕๗๒-๖๐๕. https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=38&A=14437&Z=15305&pagebreak=0              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2], [3], [4], [5], [6], [7], [8], [9], [10], [11], [12], [13]              อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :- https://84000.org/tipitaka/attha/m_siri.php?B=38&siri=39              ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=38&i=1387              ศึกษาพระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- [1387-1419] https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item_s.php?book=38&item=1387&items=33              The Pali Tipitaka in Roman :- [1387-1419] https://84000.org/tipitaka/pali/roman_item_s.php?book=38&item=1387&items=33              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๘ https://84000.org/tipitaka/read/?index_38

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย

บันทึก ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :