ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย คลิกเพื่อเปลี่ยน ฐญ เป็นแบบไทย  
อรรถกถาเล่มที่ ๑๑ ภาษาบาลีอักษรไทย สํ.อ. (สารตฺถ.๑)

                         ๘. สุทตฺตสุตฺตวณฺณนา
      [๒๔๒] อฏฺเม เกนจิเทว กรณีเยนาติ วาณิชฺชกมฺมํ อธิปฺเปตํ.
อนาถปิณฺฑิโก จ ราชคหเสฏฺี จ อญฺมญฺ ภคินิปติกา โหนฺติ. ยทา ราชคเห
วุฏฺานกภณฺฑกํ มหคฺฆํ โหติ, ตทา ราชคหเสฏฺี ตํ คเหตฺวา ปญฺจสกฏสเตหิ
สาวตฺถึ คนฺตฺวา โยชนมตฺเต ิโต อตฺตโน อาคตภาวํ ชานาเปสิ. ๖- อนาถปิณฺฑิโก
ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ตสฺส มหาสกฺการํ กตฺวา เอกยานํ อาโรเปตฺวา สาวตฺถึ ปวิสติ.
โส สเจ ภณฺฑํ ลหุกํ วิกฺกยติ, วิกฺกิณาติ, ๗- โน เจ, ภคินิฆเร เปตฺวา
@เชิงอรรถ:  ฉ.ม. ทีเปติ   ฉ.ม. เทเส ิตา ยกฺขินี, อิ. ปเทเส ิตา ยกฺขินี
@ ฉ.ม. อหมฺหิ อชฺช วฏฺฏโต   ฉ.ม. ธีตา เม อุตฺตราปิ    ฉ.ม. ปฏิลภติ
@ ฉ.ม., อิ. ชานาเปติ   อิ. ลหุํ วิกฺกิณียติ วิกฺกิณาติ
ปกฺกมติ. อนาถปิณฺฑิโกปิ ตเถว กโรติ. สฺวายํ ตทาปิ เตเนว กรณีเยน อคมาสิ.
ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.
      ตํทิวสํ ปน ราชคหเสฏฺี โยชนมตฺเต ิเตน อนาถปิณฺฑิเกน อาคตภาวชานนตฺถํ
เปสิตํ ปณฺณํ น สุณิ. ธมฺมสฺสวนตฺถาย วิหารํ อคมาสิ. โส ธมฺมกถํ
สุตฺวา สฺวาตนาย พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสํฆํ นิมนฺเตตฺวา อตฺตโน ฆเร
อุทฺธนขนาปนทารุผาลนาทีนิ ๑- กาเรสิ. อนาถปิณฺฑิโกปิ "อิทานิ มยฺหํ ปจฺจุคฺคมนํ
กริสฺสติ, อิทานิ กริสฺสตี"ติ ฆรทฺวาเรปิ ปจฺจุคฺคมนํ อลภิตฺวา อนฺโต ฆรํ
ปวิฏฺโ. ปฏิสนฺถารํปิ น พหุํ อลตฺถ. "กึ มหาเสฏฺี กุลทารกรูปานํ. ๒- นสิ
มคฺเค กิลมนฺโต"ติ ๓- เอตฺตโกว ปฏิสนฺถาโร อโหสิ, โส ตสฺส มหาพฺยาปารํ
ทิสฺวา "กินฺนุ เต คหปติ อาวาโห วา ภวิสฺสตี"ติ ขนฺธเก ๔- อาคตนเยน กถํ
ปวตฺเตตฺวา ตสฺส มุขโต พุทฺธสทฺทํ สุตฺวา ปญฺจวณฺณํ ปีตึ ปฏิลภิ. สา ตสฺส
สีเส อุฏฺหิตฺวา ๕- ยาว ปาทปิฏฺิยา, ปาทปิฏฺิยา อุฏฺาย ยาว สีสา คจฺฉติ,
อุภโต อุฏฺาย โอสรติ, มชฺเฌ อุฏฺาย อุภโต คจฺฉติ. โส ปีติยา นิรนฺตรํ ผุฏฺโ
"พุทฺโธติ ตฺวํ คหปติ วทสิ, ๖- พุทฺโธตาหํ คหปติ วทามี"ติ เอวํ ติกฺขตฺตุํ
ปุจฺฉิตฺวา "โฆโสปิ โข เอโส ทุลฺลโภ โลกสฺมึ ยทิทํ พุทฺโธ"ติ อาห. อิทํ
สนฺธาย วุตฺตํ "อสฺโสสิ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ พุทฺโธ กิร โลเก อุปฺปนฺโน"ติ.
      เอตทโหสิ อกาโล โข อชฺชาติ โส ตํ ๗- เสฏฺึ ปุจฺฉิ "กุหึ คหปติ
สตฺถา วิหรตี"ติ. อถสฺส โส "พุทฺธา นาม ทุราสทา อาสีวิสสทิสา โหนฺติ,
สตฺถา สีวถิกายํ ๘- วสติ, น สกฺกา ตตฺถ ตุมฺหาทิเสหิ อิมาย เวลาย คนฺตุนฺ"ติ
อาจิกฺขิ. อถสฺส เอตํ อโหสิ. พุทฺธคตาย สติยา นิปชฺชีติ ตํทิวสํ กิรสฺส
ภณฺฑสกเฏสุ วา อุปฏฺาเกสุ วา จิตฺตมฺปิ น อุปฺปชฺชิ, สายมาสํปิ น อกาสิ,
สตฺตภูมิกํ ปน ปาสาทํ อารุยฺห สุปญฺตฺตาลงฺกตวรสยเน "พุทฺโธ พุทฺโธ"ติ
สชฺฌายํ กโรนฺโตว นิปชฺชิตฺวา นิทฺทํ โอกฺกมิ, เตน วุตฺตํ "พุทฺธคตาย สติยา
นิปชฺชี"ติ.
@เชิงอรรถ:  ฉ.ม. อุทฺธนขณาปนทารุผาลนาทีนิ, อิ.....ผาลณาทีนิ
@ ฉ.ม., อิ. มหาเสฏฺิ กุสลํ ทารกรูปานํ   ฉ.ม., อิ. กิลนฺโตติ
@ วินย. จูฬ. ๗/๓๐๔/๗๓ เสนาสนกฺขนฺธก   ฉ.ม., อิ. สีเสน อุฏาย
@ อิ. ตํ คหปติ วเทสิ   ฉ.ม., อิ. โสกิร ตํ   สี., อิ. สีตวเน
      รตฺติยา สุทํ ติกฺขตฺตุํ อุฏฺาสิ ปภาตนฺติ มญฺมาโนติ ปมยาเม ตาว
วีติวตฺเต อุฏฺาย พุทฺธํ อนุสฺสริ, อถสฺส พลวปฺปสาโท อุทปาทิ, ปีติอาโลโก
อโหสิ, สพฺพํ ตมํ วิคจฺฉิ, ทีปสหสฺสุชฺชลนํ ๑- วิย จนฺทุฏฺานํ สุริยุฏฺานํ วิย
จ ชาตํ. โส "ปมาทํ อาปนฺโนมฺหิ, วญฺจิโตมฺหิ, ๒- สุริโย อุคฺคโต"ติ อุฏฺาย
อากาสตเล ิตํ จนฺทํ โอโลเกตฺวา "เอโกว ยาโม คโต, อญฺเ เทฺว
อตฺถี"ติ ปุน ปวิสิตฺวา นิปชฺชิ. เอเตนุปาเยน มชฺฌิมยามาวสาเนปีติ ๓- ติกฺขตฺตุํ
อุฏฺาสิ. ปจฺฉิมยามาวสาเน ปน พลวปจฺจูเสเยว อุฏฺาย อากาสตลํ อาคนฺตฺวา ๔-
มหาทฺวาราภิมุโขว อโหสิ, สตฺตภูมิกทฺวารํ สยเมว วิวฏํ อโหสิ. โส ปาสาทา
โอรุยฺห อนฺตราวีถึ ปฏิปชฺชิ.
      วิวรึสูติ "อยํ มหาเสฏฺี `พุทฺธุปฏฺานํ คมิสฺสามี'ติ นิกฺขนฺโต,
ปมทสฺสเนเนว โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาย ติณฺณํ รตนานํ อคฺคุปฏฺาโก หุตฺวา อสทิสํ
สํฆารามํ กตฺวา จาตุทฺทิสสฺส อริยคณสฺส อนาวฏทฺวาโร ภวิสฺสติ, น ยุตฺตมสฺส
ทฺวารํ ปิทหิตุนฺ"ติ จินฺเตตฺวา วิวรึสุ. อนฺตรธายีติ ราชคหํ กิร อากิณฺณมนุสฺสํ
อนฺโตนคเร นว โกฏิโย, พหินคเร นวาติ ตํ อุปนิสฺสาย อฏฺารส มนุสฺสโกฏิโย
วสนฺติ. อเวลาย มตมนุสฺเส พหิ นีหริตุํ อสกฺโกนฺตา อฏฺฏาลเก ตฺวา
พหิทฺวาเร ขิปนฺติ. มหาเสฏฺี นครโต พหิ นิกฺขนฺตมตฺโตว อลฺลสรีรํ ปาเทน
อกฺกมิ, อปรํปิ ปิฏฺิปาเทน ปหริ. มกฺขิกา อุปฺปติตฺวา ปริกิรึสุ. ทุคฺคนฺโธ
นาสปุฏํ อภิหนิ. พุทฺธปฺปสาโท ตนุตฺตํ คโต. ๕- เตนสฺส อาโลโก อนฺตรธายิ.
อนฺธกาโร ปาตุรโหสิ. สทฺทมนุสฺสาเวสีติ "เสฏฺิสฺส อุสฺสาหํ ชเนสฺสามี"ติ
สุวณฺณกึกิณิกํ ฆเฏนฺโต วิย มธุรสฺสเรน สทฺทํ อนุสฺสาเวสิ.
      สตํ  กญฺาสหสฺสานีติ ปุริมปทานิปิ อิมินาว สหสฺสปเทน สทฺธึ
สมฺพนฺธานิ ๖- ตเถว ๗- หิ สตํ กญฺาสหสฺสานิ, สตํ สหสฺสานิ หตฺถี สตํ
สหสฺสานิ, อสฺสา สตํ สหสฺสานิ รถาติ อยเมตฺถ อตฺโถ. อิติ เอเกกสตสหสฺสเมว
ทีปิตํ. ปทวีติหารสฺสาติ ปทวีติหาโร นาม สมคมเน ทฺวินฺนํ ปาทานํ อนฺตเร
@เชิงอรรถ:  ฉ.ม., อิ....อุชฺชลํ           ฉ.ม. อาปนฺโน วตมฺหิ, อิ. พุชฺฌิโตมฺหิ
@ ฉ.ม. มชฺฌิมยามาวสาเนปิ ปจฺฉิมยามาวสาเนปีติ       สี., อิ.คนฺตฺวา
@ สี., อิ. ตนุภูโต, ม. ตนุกํ คโต     ฉ.ม., อิ. สมฺพนฺธนียานิ    ฉ.ม. ยเถว
มุฏฺิรตนมตฺตํ. กลํ นาคฺฆนฺติ โสฬสินฺติ ตํ เอกํ ปทวีติหารํ โสฬสภาเค
กตฺวา ตโต เอโก โกฏฺาโส ปุน โสฬสธา, ตโต เอโก โสฬสธาติ เอวํ
โสฬสวาเร โสฬสธา ภินฺนสฺส เอโก โกฏฺาโส โสฬสิกลํ ๑- นาม, ตํ โสฬสิกลํ
เอตานิ จตฺตาริ สตสหสฺสานิ น อคฺฆนฺติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ:- สตํ หตฺถิสหสฺสานิ
สตํ อสฺสสหสฺสานิ สตํ รถสหสฺสานิ สตํ กญฺาสหสฺสานิ, ตา จ โข
อามุกฺกมณิกุณฺฑลา สกลชมฺพูทีปราชธีตโร วาติ อิมสฺมา เอตฺตกา ลาภา วิหารํ
คจฺฉนฺตสฺส ตสฺมึ โสฬสิกลสงฺขาเต ปเทเส ปวตฺตเจตนาว อุตฺตริตราติ. อิทํ ปน
วิหารคมนํ กสฺส วเสน คหิตนฺติ? วิหารํ คนฺตฺวา อนนฺตราเยน โสตาปตฺติผเล
ปติฏฺหนฺตสฺส. "คนฺธมาลาทีหิ ปูชํ กริสฺสามิ, เจติยํ วนฺทิสฺสามิ, ธมฺมํ
โสสฺสามิ, ทีปธูปปูชํ ๒- กริสฺสามิ, สํฆํ นิมนฺเตตฺวา ทานํ ทสฺสามิ, สิกฺขาปเทสุ
วา สรเณสุ วา ปติฏฺหิสฺสามี"ติ คจฺฉโตปิ วเสน วฏฺฏติเยว.
      อนฺธกาโร อนฺตรธายีติ โส กิร จินฺเตสิ "อหํ เอกโกติ สญฺ
กโรมิ, อนุยุตฺตาปิ เม อตฺถิ, กสฺมา ภายามี"ติ สูโร อโหสิ. อถสฺส พลวา ๓-
พุทฺธปฺปสาโท อุทปาทิ. ตสฺมา อนฺธกาโร อนฺตรธายีติ. เสสวาเรสุปิ เอเสว นโย.
อปิจ ปุรโต ปุรโต คจฺฉนฺโต ภึสนเก สุสานมคฺเค อฏฺิกสงฺขลิกสมํสโลหิตนฺติอาทีนิปิ
๔- อเนกวิธานิ กุณปานิ อทฺทส. โสณสิงฺคาลาทีนํ สทฺทํ อสฺโสสิ. ตํ
สพฺพํ ปริสฺสยํ ปุนปฺปุนํ พุทฺธคตํ ปสาทํ วฑฺเฒตฺวา มทฺทนฺโต อคมาสิเยว.
      เอหิ สุทตฺตาติ โส กิร เสฏฺี คจฺฉมาโนว จินฺเตสิ "อิมสฺมึ โลเก
พหู ปูรณกสฺสปาทโย ติตฺถิยา `มยํ พุทฺธา มยํ พุทฺธา'ติ วทนฺติ, กถํ นุ โข
อหํ สตฺถุ พุทฺธภาวํ ชาเนยฺยนฺ"ติ. อถสฺส เอตทโหสิ "มยฺหํ คุณวเสน อุปฺปนฺนํ
นามํ มหาชโน ชานาติ, กุลทตฺติยํ ปน เม นามํ อญฺตฺร มยา น โกจิ
ชานาติ. สเจ พุทฺโธ ภวิสฺสติ, กุลทตฺติกนาเมน มํ อาลปิสฺสตี"ติ. สตฺถา ตสฺส
จิตฺตํ ตฺวา เอวมาห.
      ปรินิพฺพุโตติ กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพุโต. อาสตฺติโยติ ตณฺหาโย.
สนฺตินฺติ กิเลสวูปสมํ. ปปฺปุยฺยาติ ปตฺวา. อิทญฺจ ปน วตฺวา สตฺถา ตสฺส
@เชิงอรรถ:  ฉ.ม., อิ. โสฬสิกลา    ฉ.ม., อิ. ทีปปูชํ    อิ. อยํ ปาโ น ทิสฺสติ
@ ฉ.ม....อาทีนิ
อนุปุพฺพีกถํ กเถตฺวา มตฺถเก จตฺตาริ สจฺจานิ ปกาเสสิ. เสฏฺี ธมฺมเทสนํ สุตฺวา
โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาย พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสํฆํ นิมนฺเตตฺวา ปุนทิวสโต ปฏฺาย
มหาทานํ ทาตุํ อารภิ. พิมฺพิสารราชาทโย เสฏฺิสฺส สาสนํ เปเสนฺติ "ตฺวํ
อาคนฺตุโก, ยํ นปฺปโหติ, ตํ อิโต อาหราเปหี"ติ. โส "อลํ ตุเมฺห พหุกิจฺจา"ติ
สพฺเพ ปฏิกฺขิปิตฺวา ปญฺจหิ สกฏสเตหิ อานีตวิภเวน สตฺตาหํ มหาทานํ อทาสิ.
ทานปริโยสาเน จ ภควนฺตํ สาวตฺถิยํ วสฺสาวาสํ ปฏิชานาเปตฺวา ราชคหสฺส จ
สาวตฺถิยา จ อนฺตเร โยชเน โยชเน สตสหสฺสํ ทตฺวา ปญฺจจตฺตาฬีสวิหาเร ๑-
กาเรนฺโต สาวตฺถึ คนฺตฺวา เชตวนมหาวิหารํ กาเรตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสํฆสฺส
นิยฺยาเทสิ. ๒- อฏฺมํ.


             อรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย เล่มที่ ๑๑ หน้า ๒๙๕-๒๙๙. http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=11&A=7626&modeTY=1              The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=11&A=7626&modeTY=1              อ่านอรรถกถาแปลไทย :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=15&i=826              เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=15&A=6787              พระไตรปิฎกฉบับบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=15&A=6062              The Pali Tipitaka in Roman Character :- http://84000.org/tipitaka/read/roman_read.php?B=15&A=6062              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ http://84000.org/tipitaka/read/?index_15

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย คลิกเพื่อเปลี่ยน ฐญ เป็นแบบไทย

บันทึก ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๑. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]