บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
๔. นิทานสุตฺตวณฺณนา [๓๔] จตุตฺเถ นิทานานีติ การณานิ. กมฺมานนฺติ วฏฺฏคามิกกมฺมานํ. โลโภ นิทานํ กมฺมานํ สมุทยายาติ ลุพฺภนปลุพฺภนสภาโว โลโภ วฏฺฏคามิกกมฺมานํ สมุทยาย ปิณฺฑิกรณตฺถาย นิทานํ การณํ ปจฺจโยติ อตฺโถ. โทโสติ ทุสฺสน- ปทุสฺสนสภาโว โทโส. โมโหติ มุยฺหนปมุยฺหนสภาโว ๓- โมโห. โลภปกตนฺติ โลเภน ปกตํ, โลภาภิภูเตน ลุทฺเธน หุตฺวา กตกมฺมนฺติ อตฺโถ. โลภโต ชาตนฺติ โลภชํ. โลโภ นิทานมสฺสาติ โลภนิทานํ. โลโภ สมุทโย อสฺสาติ อโลภสมุทยํ. สมุทโยติ ปจฺจโย, โลภปจฺจยนฺติ อตฺโถ. ยตฺถสฺส อตฺตภาโว นิพฺพตฺตตีติ ยสฺมึ ฐาเน อสฺส โลภชกมฺมวโต ปุคฺคลสฺส อตฺตภาโว นิพฺพตฺตติ, ขนฺธา ปาตุภวนฺติ. ตตฺถ ตํ กมฺมํ วิปจฺจตีติ เตสุ ขนฺเธสุ ตํ กมฺมํ วิปจฺจติ. ทิฏฺเฐ วา ธมฺเมติอาทิ ยสฺมา ตํ กมฺมํ ทิฏฺฐธมฺมเวทนียํ วา @เชิงอรรถ: ๑ ฉ.ม.,อิ. วา วิโมกฺขํ อญฺญาวิโมกฺขํ, ปญฺญาวิมุตฺตนฺติ @๒ ฉ.ม.,อิ. ปเภทนสงฺขาตํ ๓ ม. มุยฺหนสมฺมุยฺหนสภาโว โหติ อุปปชฺชเวทนียํ วา อปรปริยายเวทนียํ วา, ตสฺมา ตํ ปเภทํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. เสสทฺวเยปิ เอเสว นโย. อขณฺฑานีติ อภินฺนานิ. อปูตีนีติ ปูติภาเวน ๑- อพีชตฺตํ อปฺปตฺตานิ. อวาตาตปหตานีติ น วาตเน น จ อาตเปน หตานิ. สาราทานีติ คหิตสารานิ สารวนฺตานิ น นิสฺสารานิ. สุขสยิตานีติ สนฺนิจยภาเวน สุขํ สยิตานิ. สุกฺเขตฺเตติ มณฺฑกฺเขตฺเต. สุปริกมฺมกตาย ภูมิยาติ นงฺคลกสเนน เจว อฏฺฐทนฺตเกน จ สุฏฺฐุ ปริกมฺมคตาย ๒- เขตฺตภูมิยา. นิกฺขิตฺตานีติ ฐปิตานิ โรปิตานิ. อนุปฺปเวจฺเฉยฺยาติ อนุปฺปเวเสยฺย. วุฑฒินฺติอาทีสุ อุทฺธงฺคมเนน ๓- วุฑฺฒึ. เหฏฺฐามูลปติฏฺฐาเนน วิรุฬฺหึ, สมนฺตา วิตฺถาริตภาเวน เวปุลฺลํ. ยํ ปเนตฺถ ทิฏฺเฐ วา ธมฺเมติอาทิ วุตฺตํ, ตตฺถ อสมฺโมหตฺถํ อิมสฺมึ ฐาเน กมฺมวิภตฺติ นาม กเถตพฺพา:- สุตฺตนฺติกปริยาเยน หิ เอกาทส กมฺมานิ วิภตฺตานิ. เสยฺยถีทํ? ทิฏฺฐธมฺมเวทนียํ อุปปชฺชเวทนียํ อปรปริยายเวทนียํ, ยํ ครุกํ ยํ พหุลํ ๔- ยทาสนฺนํ กฏตฺตา วา ปน กมฺมํ, ชนกํ อุปตฺถมฺภกํ อุปปีฬกํ อุปฆาตกนฺติ. ตตฺถ เอกชวนวีถิยํ สตฺตสุ จิตฺเตสุ กุสลา วา อกุสลา วา ปฐมชวนเจตนา ทิฏฺฐธมฺมเวทนียกมฺมํ นาม. ตํ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว วิปากํ เทติ กากวฏิยปุณฺณกเสฏฺฐิอาทีนํ ๕- วิย กุสลํ, นนฺทยกฺขนนฺทมาณวกนนฺทโคฆาตกโกกาลิก- สุปฺปพุทฺธเทวทตฺตจิญฺจมาณวิกาทีนํ ๖- วิย จ อกุสลํ. ตถา อสกฺโกนฺตํ ปน อโหสิกมฺมํ นาม โหติ, อวิปากํ สมฺปชฺชติ. ตํ มิคลุทฺทโกปมาย สาเธตพฺพํ. ยถา หิ มิคลุทฺทเกน มิคํ ทิสฺวา ธนุํ อากฑฺฒิตฺวา ขิตฺโต สโร สเจ น วิรชฺฌติ, ตํ มิคํ ตตฺเถว ปาเตติ, อถ นํ มิคลุทฺทโก นิจฺจมฺมํ กตฺวา ขณฺฑาขณฺฑํ เฉตฺวา มํสํ อาทาย ปุตฺตทารํ โตเสนฺโต คจฺฉติ. สเจ ปน วิรชฺฌติ, มิโค ปลายิตฺวา @เชิงอรรถ: ๑ ม. อปูติภาเวน ๒ ฉ.ม.,อิ....กตาย @๓ ฉ.ม. อุทฺธคฺคมเนน ๔ ฉ.ม.,อิ. ยคฺครุกํ ยพฺพหุลํ @๕ ฉ.ม.,อิ....เสฏฺฐีนํ ๖ ฉ.ม....มาณวิกานํ ปุน ตํ ทิสํ น โอโลเกติ. เอวํ สมฺปทมิทํ ทฏฺฐพฺพํ. สรสฺส อวิรชฺฌิตฺวา มิควิชฺฌนํ วิย หิ ทิฏฺฐธมฺมเวทนียสฺส กมฺมสฺส วิปากวารปฏิลาโภ, วิรชฺฌนํ วิย อวิปากภาวสมฺปชฺชนนฺติ. อตฺถสาธิกา ปน สตฺตมชวนเจตนา อุปปชฺชเวทนียกมฺมํ นาม. ตํ อนนฺต เร อตฺตภาเว วิปากํ เทติ. ตํ ปเนตฺถ ๑- กุสลปกฺเข อฏฺฐสมาปตฺติวเสน, อกุสลปกฺเข ปญฺจานนฺตริยกมฺมวเสน เวทิตพฺพํ. ตตฺถ อฏฺฐสมาปตฺติลาภี เอกาย สมาปตฺติยา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตติ, ปญฺจนฺนํปิ อานนฺตริยานํ กตฺตา ๒- เอเกน กมฺเมน นิรเย นิพฺพตฺตติ, เสสสมาปตฺติโย จ กมฺมานิ จ อโหสิกมฺมภาวํเยว อาปชฺชนฺติ, อวิปากานิ โหนฺตีติ. ๓- อยมฺปิ อตฺโถ ปุริมอุปมายเยว เวทิตพฺโพ. ๔- อุภินฺนํ อนนฺตเร ปน ปญฺจชวนเจตนา อปรปริยายเวทนียกมฺมํ นาม. ตํ อนาคเต ยทา โอกาสํ ลภติ, ตทา วิปากํ เทติ. สติ สํสารปฺปวตฺติยา อโหสิกมฺมํ นาม น โหติ. ตํ สพฺพํ สุนขลุทฺทเกน ทีเปตพฺพํ. ยถา หิ สุนขลุทฺทเกน มิคํ ทิสฺวา สุนโข วิสฺสชฺชิโต มิคํ อนุพนฺธิตฺวา ยสฺมึ ฐาเน ปาปุณาติ, ตสฺมึเยว ภุสติ, ๕- เอวเมว ๖- อิทํ กมฺมํ ยสฺมึ ฐาเน โอกาสํ ลภติ, ตสฺมึเยว วิปากํ เทติ, เตน มุตฺโต สตฺโต นาม นตฺถิ. กุสลากุสเลสุ ปน ครุกาครุเกสุ ยํ ครุกํ โหติ, ตํ ยคฺครุกํ นาม. ตเทตํ กุสลปกฺเข มหคฺคตกมฺมํ, อกุสลปกฺเข ปญฺจานนฺตริยกมฺมํ เวทิตพฺพํ. ตสฺมึ สติ เสสานิ กุสลานิ วา อกุสลานิ วา วิปจฺจิตุํ น สกฺโกนฺติ, ตเทว ทุวิธมฺปิ ปฏิสนฺธึ เทติ. ยถา หิ สาสปปฺปมาณาปิ ๗- สกฺขรา วา อยคุฬิกา วา อุทกรหเท ปกฺขิตฺตา อุทกปิฏฺเฐ อุปฺปิลวิตุํ น สกฺโกติ, เหฏฺฐาว ปวิสติ, เอวเมว กุสเลปิ อกุสเลปิ ยํ ครุกํ, ตเทว คณฺหิตฺวา คจฺฉติ. @เชิงอรรถ: ๑ ฉ.ม.,อิ. ปเนตํ ๒ ม. กตตฺตา ๓ ฉ.ม.,อิ. โหนฺติ @๔ ฉ.ม.,อิ. ทีเปตพฺโพ ๕ ฉ.ม. ฑํสติ, อิ. ฑสติ @๖ ฉ.ม.,อิ. เอวเมวํ ๗ สี.,อิ. มาสปฺปมาณาปิ กุสลากุสเลสุ ปน ยํ พหุลํ โหติ, ตํ ยพฺพหุลํ นาม. ตํ ทีฆรตฺตํ ลทฺธาเสวนวเสน เวทิตพฺพํ. ยํ วา พลวกุสลกมฺเมสุ โสมนสฺสกรํ, อกุสลกมฺเมสุ สนฺตาปกรํ, เอตํ ยพฺพหุลํ นาม. ยเทตํ ยถา นาม ทฺวีสุ มลฺเลสุ ยุทฺธภูมึ โอติณฺเณสุ โย พลวา, โส อิตรํ ปาเตตฺวา คจฺฉติ, เอวเมว อิตรํ ทุพฺพลกมฺมํ อวตฺถริตฺวา ยํ อาเสวนวเสน วา พหุลํ, มหาสนฺตาปวเสน ๑- วา พลวํ, ตํ วิปากํ เทติ ทุฏฺฐคามณิอภยรญฺโญ กมฺมํ วิย. โส กิร จุลฺลงฺคณิยยุทฺเธ ปราชิโต วฬวํ อารุยฺห ปลายิ. ตตฺถ ๒- จูฬุปฏฺฐาโก ติสฺสามจฺโจ นาม เอกโกว ปจฺฉโต อโหสิ. โส ๓- เอกํ อฏวึ ปวิสิตฺวา นิสินฺโน ชิฆจฺฉาย พาธยมานาย ๔- "ภาติกติสฺส อติวิย โน ชิฆจฺฉา พาธติ, กึ กริสฺสามา"ติ อาห. อตฺถิ เทว มยา สาฏกนฺตเร ฐเปตฺวา เอกํ สุวณฺณสรกภตฺตํ อาภตนฺติ. เตนหิ อาหราติ. โส นีหริตฺวา รญฺโญ ปุรโต ฐเปสิ. ราชา ทิสฺวา "ตาต จตฺตาโร โกฏฺฐาเส กโรหี"ติ อาห. มยํ ตโย ชนา, กสฺมา เทโว ๕- จตฺตาโร โกฏฺฐาเส กาเรตีติ. ภาติกติสฺส ยโต ปฏฺฐาย อหํ อตฺตานํ สรามิ, น เม อยฺยานํ อทตฺวา อาหาโร ปริภุตฺตปุพฺโพ อตฺถิ, สฺวาหํ อชฺชปิ อทตฺวา น ปริภุญฺชิสฺสามีติ. โส จตฺตาโร โกฏฺฐาเส อกาสิ. ราชา "กาลํ โฆเสหี"ติ อาห. ฉฑฺฑิตารญฺเญ กุโต อยฺเย ลภิสฺสามิ ๖- เทวาติ. "นายํ ตว ภาโร, สเจ มม สทฺธา อตฺถิ, อยฺเย ลภิสฺสามิ, วิสฺสฏฺโฐ กาลํ โฆเสหี"ติ อาห. โส "กาโล ภนฺเต กาโล ภนฺเต"ติ ติกฺขตฺตุํ กาลํ โฆเสสิ. อถสฺส โพธยมาลกมหาติสฺสตฺเถโร ๗- ตํ สทฺทํ ทิพฺพาย โสตธาตุยา สุตฺวา "กตฺถายํ สทฺโท"ติ ตํ อาวชฺเชนฺโต "อชฺช ทุฏฺฐคามณิอภยมหาราชา ยุทฺธปราชิโต อฏวึ ปวิสิตฺวา นิสินฺโน เอกํ สรกภตฺตํ จตฺตาโร โกฏฺฐาเส กาเรตฺวา `เอกํ @เชิงอรรถ: ๑ สี.,อิ. สนฺตาปนวเสน, ฉ.ม. อาสนฺนวเสน ๒ ฉ.ม.,อิ. ตสฺส ๓ ม. ราชา @๔ ม. พาธยมาโน ๕ ม. เทว ๖ ฉ.ม.,อิ. ลภิสฺสาม @๗ ฉ.ม.,อิ. โพธิมาตุมหาติสฺสตฺเถโร โกฏฐาสํ ปริภุญฺชิสฺสามี'ติ ๑- กาลํ โฆสาเปสี"ติ ญตฺวา "อชฺช มยา รญฺโญ สงฺคหํ กาตุํ วฏฺฏตี"ติ มโนคติยา อาคนฺตฺวา รญฺโญ ปุรโต อฏฺฐาสิ. ราชา ทิสฺวา ปสนฺนจิตฺโต "ปสฺส ภาติกติสฺสา"ติ วตฺวา เถรํ วนฺทิตฺวา "ปตฺตํ ภนฺเต เทถา"ติ อาห. เถโร ปตฺตํ นีหริ. ราชา อตฺตโน โกฏฺฐาเสน สทฺธึ เถรสฺส โกฏฺฐาสํ ปตฺเต ปกฺขิปิตฺวา "ภนฺเต อาหารปริสฺสโย นาม มา กทาจิ โหตู"ติ วนฺทิตฺวา อฏฺฐาสิ. ๒- ติสฺสามจฺโจปิ "มม อยฺยปุตฺเต ปสฺสนฺเต ภุญฺชิตุํ น สกฺขิสฺสามี"ติ อตฺตโน โกฏฺฐาสํ เถรสฺเสว ปตฺเต อากิริ. วฬวาปิ จินฺเตสิ "มยฺหมฺปิ โกฏฺฐาสํ เถรสฺเสว ทาตุํ วฏฺฏตี"ติ. ราชา วฬวํ โอโลเกตฺวา "อยมฺปิ อตฺตโน โกฏฺฐาสํ เถรสฺเสว ปตฺเต ปกฺขิปนํ ๓- ปจฺจาสึสตี"ติ ญตฺวา ตมฺปิ ตตฺเถว ปกฺขิปิตฺวา เถรํ วนฺทิตฺวา อุยฺโยเชสิ. เถโร ตํ ภตฺตํ อาทาย คนฺตฺวา อาทิโต ปฏฺฐาย ภิกฺขุสํฆสฺส อาโลปสงฺเขเปน อทาสิ. อถ ๔- ราชาปิ จินฺเตสิ "อติวิยมฺหา ชิฆจฺฉิตา, สาธุ วตสฺส สเจ อติเรกภตฺตสิตฺถานิ ปหิเณยฺยา"ติ. ๕- เถโร รญฺโญ จิตฺตํ ญตฺวา อติเรกภตฺตํ เอเตสํ ยาปนมตฺตํ กตฺวา ปตฺตํ อากาเส ขิปิ, ปตฺโต อาคนฺตฺวา รญฺโญ หตฺเถ ปติฏฺฐาสิ. ภตฺตมฺปิ ติณฺณมฺปิ ชนานํ ยาวทตฺถํ อโหสิ. อถ ราชา ปตฺตํ โธวิตฺวา "ตุจฺฉปตฺตํ น เปเสสฺสามี"ติ อุตฺตรสาฏกํ โมเจตฺวา อุทกํ ปุญฺฉิตฺวา สาฏกํ ๖- ปตฺเต ฐเปตฺวา "ปตฺโต คนฺตฺวา มม อยฺยสฺส หตฺเถ ปติฏฺฐาตู"ติ อากาเส ขิปิ. ปตฺโต คนฺตฺวา เถรสฺส หตฺเถ ปติฏฺฐาสิ. อปรภาเค รญฺโญ ตถาคตสฺส สรีรธาตูนํ อฏฺฐมํ ภาคํ ปติฏฺฐาเปตฺวา วีสรตนสติกํ มหาเจติยํ กาเรนฺตสฺส เจติเย อปรินิฏฺฐิเตเยว กาลกิริยาสมโย อนุปฺปตฺโต. อถสฺส มหาเจติยสฺส ทกฺขิณปสฺเส นิสินฺนสฺส ปญฺจนิกายวเสน ภิกฺขุสํเฆ @เชิงอรรถ: ๑ ฉ.ม. เอกโกว น ปริภุญฺชิสฺสามีติ, อิ. เอกโก น ภุญฺชิสฺสามีติ @๒ สี.,อิ. อทาสิ ๓ สี.,อิ. ปกฺขิปมานํ ๔ ฉ.ม.,อิ. อยํ สทฺโท น ทิสฺสติ @๕ สี.,อิ. ปหิเณยฺยุนฺติ ๗ ม. อุทกปุญฺเฉน สาฏกํ สชฺฌายํ กโรนฺเต ฉหิ เทวโลเกหิ ฉ รถา อาคนฺตฺวา ปุรโต ๑- อากาเส อฏฺฐํสุ. ราชา "ปุญฺญโปตฺถกํ อาหรถา"ติ อาทิโต ปฏฺฐาย ปุญฺญโปตฺถกํ วาจาเปสิ. อถ นํ กิญฺจิ กมฺมํ น ปริโตเสสิ. โส "ปุรโต วาเจถา"ติ อาห. โปตฺถกวาจโก "จูฬงฺคณิยยุทฺธปราชิเตน ตเทว ๒- อฏวึ ปวิสิตฺวา นิสินฺเนน เอกํ สรกภตฺตํ จตฺตาโร โกฏฺฐาเส กตฺวา ๓- โพธิยมาลกมหาติสฺสตฺเถรสฺส ๔- ภิกฺขา ทินฺนา"ติ อาห. ราชา "ฐเปหี"ติ ๕- วตฺวา ภิกฺขุสํฆํ ปุจฺฉิ "ภนฺเต กตโร เทวโลโก รมณีโย"ติ. สพฺพโพธิสตฺตานํ วสนฏฺฐานํ ตุสิตภวนํ มหาราชาติ. ราชา กาลํ กตฺวา ตุสิตภวนโต อาคเต รเถว ปติฏฺฐาย ตุสิตภวนํ อคมาสิ. อิทํ พลวกมฺมสฺส วิปากทาเน วตฺถุ. ยํ ปน กุสลากุสเลสุ อาสนฺนมรเณ อนุสฺสริตุํ สกฺโกติ, ตํ ยทาสนฺนํ นาม. ตเทว ยถา นาม โคคณปริปุณฺณสฺส วชสฺส ทฺวาเร วิวเฏ ปรภาเค ทมฺมควพลวคเวสุ สนฺเตสุปิ โย วชทฺวารสฺส อาสนฺโน โหติ อนฺตมโส ทุพฺพลชรคโวปิ, โสเอว ปฐมตรํ นิกฺขมติ, เอวเมว อญฺเญสุ กุสลากุสเลสุ สนฺเตสุปิ มรณกาลสฺส อาสนฺนตฺตา วิปากํ เทติ. ตตฺริมานิ วตฺถูนิ:- มธุองฺคณคาเม กิร เอโก ทมิฬโทวาริโก ปาโตว พลิสํ อาทาย คนฺตฺวา มจฺเฉ วธิตฺวา ตโย โกฏฺฐาเส กตฺวา เอเกน ตณฺฑุลํ คณฺหาติ, ๖- เอเกน ทธึ, เอกํ ปจติ. อิมินา นีหาเรน ปญฺญาส วสฺสานิ ปาณาติปาตํ ๗- กตฺวา อปรภาเค มหลฺลโก อนุฏฺฐานเสยฺยํ อุปคจฺฉติ. ๘- ตสฺมึ ขเณ คิริวิหารวาสี จูฬปิณฺฑปาติกติสฺสตฺเถโร "มา อยํ สตฺโต มยิ ปสฺสนฺเต นสฺสตู"ติ คนฺตฺวา ตสฺส เคหทฺวาเร อฏฺฐาสิ. อถสฺส ภริยา "สามิ เถโร อาคโต"ติ อาโรเจสิ. อหํ ปญฺญาส วสฺสานิ เถรสฺส สนฺติกํ น คตปุพฺโพ, กตเรน เม คุเณน เถโร อาคมิสฺสติ, คจฺฉาติ นํ วทถาติ. สา "อติจฺฉถ ภนฺเต"ติ อาห. เถโร นํ "อุปาสกสฺส @เชิงอรรถ: ๑ ฉ.ม.,อิ. ปรโต ๒ ฉ.ม. เต เทว ๓ ฉ.ม.,อิ. กาเรตฺวา @๔ ฉ.ม.,อิ. โพธิมาตุมหาติสฺสตฺเถรสฺส ๕ ก. อเปหีติ ๖ ม. ตณฺฑุเล คณฺหิ @๗ ม. ปาปํ, ฉ. ปาณาติปาตกมฺมํ ๘ สี.,อิ. อุปคญฺฉิ กา สรีรปฺปวตฺตี"ติ ปุจฺฉิ. ทุพฺพโล ภนฺเตติ. เถโร ฆรํ ปวิสิตฺวา สตึ อุปฺปาเทตฺวา "สีลํ คณฺหิสฺสสี"ติ อาห. อาม ภนฺเต เทถาติ. เถโร ตีณิ สรณานิ ทตฺวา ปญฺจสีลานิ ทาตุํ อารภิ. ตสฺส ปญฺจสีลานีติ วจนกาเลเยว ชิวฺหา ปปติ ๑-. เถโร "วฏฺฏิสฺสติ เอตฺตกนฺ"ติ นิกฺขมิตฺวา คโต. โสปิ กาลํ กตฺวา จาตุมฺมหาราชิกภวเน นิพฺพตฺติ. นิพฺพตฺตกฺขเณเยว ๒- "กึ นุ โข กมฺมํ กตฺวา มยา อิทํ ลทฺธนฺ"ติ อาวชฺเชนฺโต เถรํ นิสฺสาย ลทฺธภาวํ ญตฺวา เทวโลกโต อาคนฺตฺวา เถรํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺเต ๓- อฏฺฐาสิ. "โก เอโส"ติ จ วุตฺเต "อหํ ภนฺเต ทมิฬโทวาริโก"ติ อาห. กุหึ นิพฺพตฺโตสีติ. จาตุมฺมหาราชิเกสุ ภนฺเต, สเจ เม อยฺโย ปญฺจสีลานิ อทสฺส, อุปริเทวโลเก นิพฺพตฺโต อสฺสํ. อหํ กึ กริสฺสามีติ, ๔- ตฺวํ คณฺหิตุํ นาสกฺขิ ปุตฺตกาติ. โส เถรํ วนฺทิตฺวา เทวโลกเมว คโต. อิทํ ตาว กุสลกมฺเม วตฺถุ. อนนฺตรคงฺคาย ปน มหาวาตกาลอุปาสโก ๕- นาม อโหสิ. โส ตึส วสฺสานิ โสตาปตฺติมคฺคตฺถาย ทฺวตฺตึสาการํ สชฺฌายิตฺวา "อหํ เอวํ ทฺวตฺตึสาการํ สชฺฌายนฺโต โอภาสมตฺตมฺปิ นิพฺพตฺเตตุํ นาสกฺขึ, พุทฺธสาสนํ อนิยฺยานิกํ ภวิสฺสตี"ติ ทิฏฺฐิวิปลฺลาสํ ปตฺวา กาลกิริยํ กตฺวา มหาคงฺคาย นวอุสภิโก สุํสุมารเปโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ. เอกํ สมยํ กจฺฉปติตฺเถน ๖- สฏฺฐิปาสาณตฺถมฺภสกฏานิ อคมํสุ. โส สพฺเพปิ เต โคเณ จ ปาสาเณ จ ขาทิ. อิทํ อกุสลกมฺเม วตฺถุ. เอเตหิ ปน ตีหิ มุตฺตํ อญฺญาณวเสน กตํ กฏตฺตา วา ปน กมฺมํ นาม. ตํ ยถา นาม ๗- อุมฺมตฺตเกน ขิตฺตํ กณฺฑํ ๘- ยตฺถ วา ตตฺถ วา คจฺฉติ, เอวเมว เตสํ อภาเวน ยตฺถ กตฺถจิ วิปากํ เทติ. ชนกํ นาม เอกํ ปฏิสนฺธึ ชเนตฺวา ปวตฺตํ ชเนติ, ๙- ปวตฺเต อญฺญํ กมฺมํ @เชิงอรรถ: ๑ ม. ปจลติ ๒ ฉ.ม.,อิ....เยว จ ๓ สี.,อิ. จงฺกมเน, ฉ.ม. เอกมนฺตํ @๔ ฉ.ม.,อิ. กริสฺสามิ ๕ ฉ.ม. อนฺตรคงฺคาย ปน มหาวาจกาลอุปาสโก @๖ ฉ.ม. กจฺฉกติตฺเถน ๗ ม. ปน ๘ ฉ.ม. ทณฺฑํ ๙ ฉ.ม. ปวตฺตึ น ชเนติ วิปากํ นิพฺพตฺเตติ. ยถา หิ มาตา ชเนติเยว, ธาตี ๑- ปน ชคฺคติ, เอวเมว มาตา วิย ปฏิสนฺธินิพฺพตฺตกํ ชนกกมฺมํ, ธาตี วิย ปวตฺเต ปวตฺติกํ ๒- กมฺมํ. อุปตฺถมฺภกํ นาม กุสเลปิ ลพฺภติ อกุสเลปิ. เอกจฺโจ หิ กุสลํ กตฺวา สุคติภเว นิพฺพตฺตติ. ตตฺถ ฐิโต ปุนปฺปุนํ กุสลํ กตฺวา ตํ กมฺมํ อุปตฺถมฺเภตฺวา อเนกานิ วสฺสสตสหสฺสานิ ๓- สุคติภวสฺมึเยว วิจรติ. เอกจฺโจ อกุสลํ กตฺวา ทุคฺคติภเว นิพฺพตฺตติ. โส ตตฺถ ฐิโต ปุนปฺปุนํ อกุสลํ กตฺวา ตํ กมฺมํ อุปตฺถมฺเภตฺวา พหูนิ วสฺสสหสฺสานิ ทุคฺคติภวสฺมึเยว วิจรติ. อปโร นโย:- ชนกํ นาม กุสลมฺปิ โหติ อกุสลมฺปิ. ตํ ปฏิสนฺธิยมฺปิ ปวตฺเตปิ รูปารูปวิปากกฺขนฺเธ ชเนติ. อุปตฺถมฺภกํ ปน วิปากํ ชเนตุํ น สกฺโกติ, อญฺเญน กมฺเมน ทินฺนาย ปฏิสนฺธิยา ชนิเต วิปาเก อุปฺปชฺชนกํ สุขทุกฺขํ อุปตฺถมฺเภติ, อทฺธานํ ปวตฺเตติ. อุปปีฬกํ นาม อญฺเญน กมฺเมน ทินฺนาย ปฏิสนฺธิยา ชนิเต วิปาเก อุปฺปชฺชนกํ สุขทุกฺขํ ปีเฬติ พาธติ, อทฺธานํ ปวตฺเตตุํ น เทติ. ตตฺรายํ นโย:- กุสลกมฺเม วิปจฺจมาเน อกุสลกมฺมํ อุปปีฬกํ หุตฺวา ตสฺส วิปจฺจิตุํ น เทติ, อกุสลกมฺเมปิ วิปจฺจมาเน กุสลกมฺมํ อุปปีฬกํ หุตฺวา ตสฺส วิปจฺจิตุํ น เทติ. ยถา วฑฺฒมานกํ รุกฺขํ วา คจฺฉํ วา ลตํ วา โกจิเทว ทณฺเฑน วา สตฺเถน วา ภินฺเทยฺย วา ฉินฺเทยฺย วา, อถโข ๔- รุกฺโข วา คจฺโฉ วา ลตา วา วฑฺฒิตุํ น สกฺกุเณยฺย, เอวเมว กุสลํ วิปจฺจมานํ อกุสเลน อุปปีฬิตํ อกุสลํ วา ปน วิปจฺจมานํ กุสเลน อุปปีฬิตํ วิปจฺจิตุํ น สกฺโกติ. ตตฺถ สุนกฺขตฺตสฺส ๕- อกุสลกมฺมํ กุสลํ อุปปีเฬสิ, โจรฆาตกสฺส กุสลกมฺมํ อกุสลํ อุปปีเฬสิ. ราชคเห กิร ตาวกาฬโก ๖- ปญฺญาส วสฺสานิ โจรฆาตกมฺมํ อกาสิ. อถ @เชิงอรรถ: ๑ ฉ.ม. ธาติเยว ๒ สี.,อิ. สมฺปตฺตํ กมฺมํ, ม. สมฺปตฺติกมฺมํ, ฉ.สมฺปตฺตกมฺมํ @๓ ก. วสฺสหสฺสานิ ๔ ฉ.ม. อถ โส ๕ ม. ทุกฺขวตฺถุสฺส @๖ ฉ.ม. วาตกาฬโก. เอวมุปริปิ นํ รญฺโญ อาโรเจสุํ "เทว ตาวกาฬโก มหลฺลโก โจเร ฆาเตตุํ น สกฺโกตี"ติ. อปเนถ นํ ตสฺมา ฐานนฺตราติ. อมจฺจา ตํ อปเนตฺวา อญฺญํ ตสฺมึ ยาเน ฐปยึสุ. ตาวกาฬโกปิ ยาว ตํ กมฺมํ อกาสิ, ตาว อหตวตฺถานิ วา อจฺฉาทิตุํ สุรภิปุปฺผานิ วา ปิลนฺธิตุํ ปายาสํ วา ภุญฺชิตุํ อุจฺฉาทนนฺหาปนํ วา ปจฺจนุโภตุํ นาลตฺถ. โส "ทีฆรตฺตํ เม กิลิฏฺฐเวเสน จริตนฺ"ติ จินฺเตตฺวา "ปายาสํ เม ปจาหี"ติ ภริยํ อาณาเปตฺวา นฺหานิยสมฺภารานิ คาหาเปตฺวา นฺหานติตฺถํ คนฺตฺวา สีสํ นหาตฺวา อหตวตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา คนฺเธน ๑- วิลิมฺปิตฺวา ปุปฺผานิ ปิลนฺธิตฺวา ฆรํ อาคจฺฉนฺโต สาริปุตฺตตฺเถรํ ทิสฺวา "สงฺกิลิฏฺฐกมฺมโต จมฺหิ อปคโต, อยฺโย จ เม ทิฏฺโฐ"ติ ตุฏฺฐมานโส เถรํ ฆรํ เนตฺวา นวสปฺปิสกฺกรจุณฺณาภิสงฺขเตน ปายาเสน ปริวิสิ. เถโร ตสฺส อนุโมทนํ อกาสิ. โส อนุโมทนํ สุตฺวา อนุโลมิกกฺขนฺตึ ปฏิลภิตฺวา เถรํ อนุคนฺตฺวา นิวตฺตมาโน อนฺตรามคฺเค ตรุณวจฺฉาย คาวิยา มทฺทิตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาปิโต คนฺตฺวา ตาวตึสภวเน นิพฺพตฺติ. ภิกฺขู ตถาคตํ ปุจฺฉึสุ "ภนฺเต โจรฆาตโก อชฺเชว กิลิฏฺฐกมฺมโต อปนีโต อชฺเชว กาลกโต, กหํ นุ โข นิพฺพตฺโต"ติ. ตาวตึสภวเน ภิกฺขเวติ. ภนฺเต โจรฆาตโก ทีฆรตฺตํ ปุริเส ฆาเตสิ, ตุเมฺห จ เอวํ วเทถ, นตฺถิ นุ โข ปาปกมฺมสฺส ผลนฺติ. มา ภิกฺขเว เอวํ อวจุตฺถ, พลวกลฺยาณมิตฺตูปนิสฺสยํ ลภิตฺวา ธมฺมเสนาปติสฺส ปิณฺฑปาตํ ทตฺวา อนุโมทนํ สุตฺวา อนุโลมิกํ ขนฺตึ ปฏิลภิตฺวา โส ตตฺถ นิพฺพตฺโตติ. สุภาสิตํ สุณิตฺวาน นคเร ๒- โจรฆาตโก อนุโลมกฺขนฺตึ ลทฺธาน โมทตี ติทิวํ คโต. อุปฆาตกํ ปน สยํ กุสลมฺปิ อกุสลมฺปิ สมานํ อญฺญํ ทุพฺพลกมฺมํ ฆาเตตฺวา ตสฺส วิปากํ ปฏิพาหิตฺวา อตฺตโน วิปากสฺส โอกาสํ กโรติ. เอวํ ปน กมฺเมน กเต โอกาเส ตํ วิปากํ อุปฺปนฺนํ นาม วุจฺจติ. อุปจฺเฉทกนฺติปิ เอตสฺเสว นามํ. @เชิงอรรถ: ๑ ฉ.ม. คนฺเธ ๒ ม. นาคโร, ฉ.,อิ. นาคริโย ตตฺรายํ นโย:- กุสลกมฺมสฺส วิปจฺจนกาเล เอกํ อกุสลกมฺมํ อุฏฺฐาย ตํ กมฺมํ ฉินฺทิตฺวา ปาเตติ. อกุสลกมฺมสฺสาปิ วิปจฺจนกาเล เอกํ กุสลกมฺมํ อุฏฺฐาย ตํ กมฺมํ ฉินฺทิตฺวา ปาเตติ. อิทํ อุปจฺเฉทกํ นาม. ตตฺถ อชาตสตฺตุโน กมฺมํ กุสลจฺเฉทกํ อโหสิ, องฺคุลิมาลตฺเถรสฺส อกุสลจฺเฉทกนฺติ. เอวํ สุตฺตนฺติกปริยาเยน เอกาทส กมฺมานิ วิภตฺตานิ. อภิธมฺมปริยาเยน จ โสฬส กมฺมานิ วิภตฺตานิ, เสยฺยถีทํ:- "อตฺเถกจฺจานิ ปาปกานิ กมฺมสมาทานานิ คติสมฺปตฺตึ ปฏิพาฬฺหานิ น วิปจฺจนฺติ, อตฺเถกจฺจานิ ปาปกานิ กมฺมสมาทานานิ อุปธิสมฺปตฺตึ ปฏิพาฬฺหานิ น วิปจฺจนฺติ, อตฺเถกจฺจานิ ปาปกานิ กมฺมสมาทานานิ กาลสมฺปตฺตึ ปฏิพาฬฺหานิ น วิปจฺจนฺติ, อตฺเถกจฺจานิ ปาปกานิ กมฺมสมาทานานิ ปโยคสมฺปตฺตึ ปฏิพาฬฺหานิ น วิปจฺจนฺติ. อตฺเถกจฺจานิ ปาปกานิ กมฺมสมาทานานิ คติวิปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจนฺติ, อุปธิวิปตฺตึ, กาลวิปตฺตึ ปโยควิปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจนฺติ. อตฺเถกจฺจานิ กลฺยาณานิ กมฺมสมาทานานิ คติวิปตฺตึ ปฏิพาฬฺหานิ น วิปจฺจนฺติ, อุปธิวิปตฺตึ, กาลวิปตฺตึ, ปโยควิปตฺตึ ปฏิพาฬฺหานิ น วิปจฺจนฺติ. อตฺเถกจฺจานิ กลฺยาณานิ กมฺมสมาทานานิ คติสมฺปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจนฺติ, อุปธิสมฺปตฺตึ, กาลสมฺปตฺตึ, ปโยคสมฺปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจนฺตี"ติ ๑-. ตตฺถ ปาปกานีติ ลามกานิ. กมฺมสมาทานานีติ กมฺมคหณานิ. คหิตสมาทินฺนานํ กมฺมานเมตํ อธิวจนํ. คติสมฺปตฺตึ ปฏิพาฬฺหานิ น วิปจฺจนฺตีติอาทีสุ อนิฏฺฐารมฺมณานุภวนรเส ๒- กมฺเม วิชฺชมาเนเยว สุคติภเว นิพฺพตฺตสฺส ตํ กมฺมํ คติสมฺปตฺตึ ปฏิพาฬฺหํ น วิปจฺจติ นาม. คติสมฺปตฺติยา ปฏิพาหิตํ หุตฺวา น วิปจฺจตีติ อตฺโถ. โย ปน ปาปกมฺเมน ทาสิยา วา กมฺมการินิยา วา กุจฺฉิยํ นิพฺพตฺติตฺวา อุปธิสมฺปนฺโน โหติ, อตฺตภาวสมิทฺธิยํ ติฏฺฐติ. อถสฺส สามิกา ตํ ๓- รูปสมฺปตฺตึ ทิสฺวา "นายํ กิลิฏฺฐกมฺมสฺส อนุจฺฉวิโก"ติ อุปฺปาเทตฺวา อตฺตโนว @เชิงอรรถ: ๑ อภิ.วิ. ๓๕/๘๑๐/๔๑๒ ทสกนิทฺเทส ๒ ฉ.ม.,อิ....รเห ๓ ฉ.ม. ตสฺส ชาตปุตฺตํ ๑- วิย นํ ภณฺฑาคาริกาทิฏฺฐาเนสุ ฐเปตฺวา สพฺพสมฺปตฺตึ ๒- โยเชตฺวา ปริหรนฺติ. เอวรูปสฺส กมฺมํ อุปธิสมฺปตฺตึ ปฏิพาฬฺหํ น วิปจฺจติ นาม. โย ปน ปฐมกปฺปิกกาลสทิเส สุลภสมฺปนฺนรสโภชเน สุภิกฺขกาเล ๓- นิพฺพตฺตติ, ตสฺส วิชฺชมานมฺปิ ปาปกมฺมํ กาลสมฺปตฺตึ ปฏิพาฬฺหํ น วิปจฺจติ นาม. โย ปน สมฺมาปโยคํ นิสฺสาย ชีวติ, อุปสงฺกมิตพฺพยุตฺตกาเล อุปสงฺกมติ, ปฏิกฺกมิตพฺพยุตฺตกาเล ปฏิกฺกมติ, ปลายิตพฺพยุตฺตกาเล ปลายติ. ลญฺจทานยุตฺตกาเล ลญฺจํ ๔- เทติ, โจริกยุตฺตกาเล โจริกํ กโรติ. เอวรูปสฺส ปาปกมฺมํ ปโยคสมฺปตฺตึ ปฏิพาฬฺหํ น วิปจฺจติ นาม. ทุคฺคติภเว นิพฺพตฺตสฺส ปน ปาปกมฺมํ คติวิปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจติ นาม. โย ปน ทาสิยา วา กมฺมการินิยา วา กุจฺฉิสฺมึ นิพฺพตฺโต ทุพฺพณฺโณ โหติ ทุสฺสณฺฐาโน, "ยกฺโข นุ โข มนุสฺโส นุ โข"ติ วิมตึ อุปฺปาเทติ. โส เจ ปุริโส โหติ, อถ นํ "นายํ อญฺญสฺส กมฺมสฺส อนุจฺฉวิโก"ติ หตฺถึ วา รกฺขาเปนฺติ อสฺสํ วา โคณํ ๕- วา ติณกฏฺฐาทีนิ วา อาหราเปนฺติ, เขฬสรกํ วา คณฺหาเปนฺติ. สเจ อิตฺถี โหติ, อถ นํ หตฺถีอสฺสาทีนํ ภตฺตมาสาทีนิ วา ปจาเปนฺติ, กจวรํ วา ฉฑฺฑาเปนฺติ, อญฺญํ วา ปน ชิคุจฺฉนียํ กมฺมํ กาเรนฺติ. เอวรูปสฺส ปาปกมฺมํ อุปธิวิปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจติ นาม. โย ปน ทุพฺภิกฺขกาเล วา ปริหีนสมฺปตฺติกาเล วา อนฺตรกปฺเป วา นิพฺพตฺตติ, ตสฺส ปาปกมฺมํ กาลวิปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจติ นาม. โย ปน ปโยคํ สมฺปาเทตุํ น ชานาติ, อุปสงฺกมิตพฺพยุตฺตกาเล อุปสงฺกมิตุํ น ชานาติ ฯเปฯ โจริกยุตฺตกาเล โจริกํ กาตุํ น ชานาติ, ตสฺส ปาปกมฺมํ ปโยควิปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจติ นาม. โย ปน อิฏฺฐารมฺมณานุภวนรเส กมฺเม วิชฺชมาเนเยว คนฺตฺวา ทุคฺคติภเว นิพฺพตฺตติ, ตสฺส ตํ กมฺมํ คติวิปตฺตึ ปฏิพาฬฺหํ น วิปจฺจติ นาม. โย ปน @เชิงอรรถ: ๑ ม. อตฺตโนว ปุตฺตธีตรํ, ฉ. อตฺตโน ชาตปุตฺตํ ๒ สี. สพฺพสมฺปตฺตีหิ, @ฉ.ม. สมฺปตฺตึ ๓ สี. กุเล ๔ ฉ.ม. ลญฺชํ ๕ ฉ.ม.,อิ. โคเณ ปุญฺญกมฺมานุภาเวน ราชราชมหามตฺตาทีนํ เคเห นิพฺพตฺติตฺวา กาโณ วา โหติ กุณี วา ขญฺโช ๑- วา ปกฺขหโต วา, ตสฺส อุปราชเสนาปติภณฺฑาคาริกฏฺฐานาทีนิ น อนุจฺฉวิกานีติ น เทนฺติ. อิจฺจสฺส ตํ ปุญฺญํ อุปธิวิปตฺตึ ปฏิพาฬฺหํ น วิปจฺจติ นาม. โย ปน ทุพฺภิกฺขกาเล วา ปริหีนสมฺปตฺติกาเล วา อนฺตรกปฺเป วา มนุสฺเสสุ นิพฺพตฺตติ, ตสฺส ตํ กลฺยาณกมฺมํ กาลวิปตฺตึ ปฏิพาฬฺหํ น วิปจฺจติ นาม. โย เหฏฺฐา วุตฺตนเยเนว ปโยคํ สมฺปาเทตุํ น ชานาติ, ตสฺส กลฺยาณกมฺมํ ปโยควิปตฺตึ ปฏิพาฬฺหํ น วิปจฺจติ นาม. กลฺยาณกมฺเมน ปน สุคติภเว นิพฺพตฺตสฺส ตํ กมฺมํ คติสมฺปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจติ นาม. ราชราชมหามตฺตาทีนํ กุเล นิพฺพตฺติตฺวา อุปธิสมฺปตฺตึ ปตฺตสฺส ๒- อตฺตภาเว สมิทฺธิยํ ฐิตสฺส เทวนคเร สมุสฺสิตรตนโตรณสทิสํ อตฺตภาวํ ทิสฺวา "อิมสฺส อุปราชเสนา- ปติภณฺฑาคาริกฏฺฐานาทีนิ อนุจฺฉวิกานี"ติ ทหรสฺเสว สโต ตานิ ฐานนฺตรานิ เทนฺติ, เอวรูปสฺส กลฺยาณกมฺมํ อุปธิสมฺปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจติ นาม. โย ปฐมกปฺปิเกสุ วา สุลภนฺนปานกาเล ๓- วา นิพฺพตฺตติ, ตสฺส กลฺยาณกมฺมํ กาลสมฺปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจติ นาม. โย วุตฺตนเยเนว ปโยคํ สมฺปาเทตุํ น ชานาติ, ตสฺส กมฺมํ ปโยคสมฺปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจติ นาม. เอวํ อภิธมฺมปริยาเยน โสฬส กมฺมานิ วิภตฺตานิ. อปรานิปิ ปฏิสมฺภิทามคฺคปริยาเยน ทฺวาทส กมฺมานิ วิภตฺตานิ. เสยฺยถีทํ:- "อโหสิ กมฺมํ อโหสิ กมฺมวิปาโก, อโหสิ กมฺมํ นาโหสิ กมฺมวิปาโก, อโหสิ กมฺมํ อตฺถิ กมฺมวิปาโก, อโหสิ กมฺมํ นตฺถิ กมฺมวิปาโก, อโหสิ กมฺมํ ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก, อโหสิ กมฺมํ น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก, อตฺถิ กมฺมํ อตฺถิ กมฺมวิปาโก, อตฺถิ กมฺมํ นตฺถิ กมฺมวิปาโก, อตฺถิ กมฺมํ ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก, อตฺถิ กมฺมํ น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก, ภวิสฺสติ กมฺมํ ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก, ภวิสฺสติ กมฺมํ น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก"ติ. ๔- @เชิงอรรถ: ๑ ม. ขุชฺโช ๒ ม. อุปธิสมฺปตฺติลทฺธสฺส @๓ ก. สุลภนฺนปาเนสุ ๔ ขุ.ปฏิ. ๓๑/๕๒๓/๔๑๔ กมฺมกถา (สฺยา) ตตฺถ ยํ กมฺมํ อตีเต อายูหิตํ อตีเตเยว วิปากวารํ ลภิ, ปฏิสนฺธิชนกํ ปฏิสนฺธึ ชเนสิ, รูปชนกํ ปน ๑- รูปํ, ตํ อโหสิ กมฺมํ อโหสิ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ยํ ปน วิปากวารํ น ลภิ, ปฏิสนฺธิชนกํ ปฏิสนฺธึ รูปชนกํ วา รูปํ ชเนตุํ นาสกฺขิ, ตํ อโหสิ กมฺมํ นาโหสิ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ยํ ปน อตีเต อายูหิตํ เอตรหิ ลทฺธวิปากวารํ ๒- ปฏิสนฺธิชนกํ ปฏิสนฺธึ ชเนตฺวา รูปชนกํ วา รูปํ ชเนตฺวา ฐิตํ, ตํ อโหสิ กมฺมํ อตฺถิ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ยํ ปน อลทฺธวิปากวารํ ปฏิสนฺธิชนกํ ปฏิสนฺธึ รูปชนกํ วา รูปํ ชเนตุํ นาสกฺขิ, ตํ อโหสิ กมฺมํ นตฺถิ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ยํ ปน อตีเต อายูหิตํ อนาคเต วิปากวารํ ลภิสฺสติ, ปฏิสนฺธิชนกํ ปฏิสนฺธึ รูปชนกํ วา รูปํ ชเนตุํ สกฺขิสฺสติ, ตํ อโหสิ กมฺมํ ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ยํ ปน อนาคเต วิปากวารํ น ลภิสฺสติ, ปฏิสนฺธิชนกํ ปฏิสนฺธึ รูปชนกํ วา รูปํ ชเนตุํ น สกฺขิสฺสติ, ตํ อโหสิ กมฺมํ น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ยํ ปน เอตรหิ อายูหิตํ เอตรหิเยว วิปากวารํ ลภติ, ตํ อตฺถิ กมฺมํ อตฺถิ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ยํ ปน เอตรหิ วิปากวารํ น ลภติ, ตํ อตฺถิ กมฺมํ นตฺถิ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ยํ ปน เอตรหิ อายูหิตํ อนาคเต วิปากวารํ ลภิสฺสติ, ปฏิสนฺธิชนกํ ปฏิสนฺธึ รูปชนกํ วา รูปํ ชเนตุํ สกฺขิสฺสติ, ตํ อตฺถิ กมฺมํ ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ยํ ปน วิปากวารํ น ลภิสฺสติ, ปฏิสนฺธิชนกํ ปฏิสนฺธึ รูปชนกํ วา รูปํ ชเนตุํ น สกฺขิสฺสติ, ตํ อตฺถิ กมฺมํ น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ยํ ปน อนาคเต อายูหิสฺสติ, อนาคเตเยว วิปากวารํ ลภิสฺสติ, ปฏิสนฺธิชนกํ ปฏิสนฺธึ รูปชนกํ วา รูปํ ชเนสฺสติ, ตํ ภวิสฺสติ กมฺมํ ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ยํ ปน ๓- วิปากวารํ น ลภิสฺสติ, ปฏิสนฺธิชนกํ ปฏิสนฺธึ รูปชนกํ วา รูปํ @เชิงอรรถ: ๑ ฉ.ม. อยํ สทฺโท น ทิสฺสติ ๒ อิ. วิปากวารํ ๓ สี.,อิ. ยมฺปิ ชเนตุํ น สกฺขิสฺสติ, ตํ ภวิสฺสติ กมฺมํ น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. เอวํ ปฏิสมฺภิทามคฺคปริยาเยน ทฺวาทส กมฺมานิ วิภตฺตานิ. อิติ อิมานิ เจว ทฺวาทส อภิธมฺมปริยาเยน วิภตฺตานิ โสฬส กมฺมานิ อตฺตโน ฐานา โอสกฺกิตฺวา สุตฺตนฺติกปริยาเยน วุตฺตานิ เอกาทส กมฺมานิเยว ภวนฺติ. ตานิปิ ตโต โอสกฺกิตฺวา ตีณิเยว กมฺมานิ โหนฺติ ทิฏฺฐธมฺมเวทนียํ อุปปชฺชเวทนียํ อปรปริยายเวทนียนฺติ. เตสํ สงฺกมนํ นตฺถิ, ยถาฏฺฐาเนเยว ติฏฺฐนฺติ. ยทิ หิ ทิฏฺฐธมฺมเวทนียํ กมฺมํ อุปปชฺชเวทนียํ วา อปรปริยายเวทนียํ วา ภเวยฺย, "ทิฏฺเฐว ธมฺเม"ติ สตฺถา น วเทยฺย. สเจปิ อุปปชฺชเวทนียํ ทิฏฺฐธมฺมเวทนียํ วา อปรปริยายเวทนียํ วา ภเวยฺย, "อุปปชฺเช วา"ติ ๑- สตฺถา น วเทยฺย. อถาปิ อปรปริยายเวทนียํ ทิฏฺฐธมฺมเวทนียํ วา อุปปชฺชเวทนียํ วา ภเวยฺย, "อปเร วา ปริยาเย"ติ สตฺถา น วเทยฺย. สุกฺกปกฺเขปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอตฺถ ปน โลเภ วิคเตติ โลเก อปคเต นิรุทฺเธ. ตาลาวตฺถุกตนฺติ ตาลวตฺถุ วิย กตํ, มตฺถกจฺฉินฺนตาลํ วิย ปุน อวิรุฬฺหิสภาวํ กตนฺติ ๒- อตฺโถ. อนภาวํกตนฺติ อนุอภาวํ กตํ, ยถา ปุน นุปฺปชฺชติ, เอวํ กตนฺติ อตฺโถ. เอวสฺสูติ เอวํ ภเวยฺยุํ. เอวเมว โขติ เอตฺถ พีชานิ วิย กุสลากุสลกมฺมํ ทฏฺฐพฺพํ, ตานิ อคฺคินา ฑหนปุริโส วิย โยคาวจโร, อคฺคิ วิย มคฺคญาณํ, อคฺคึ ทตฺวา พีชานํ ฑหนกาโล วิย มคฺคญาเณน กิเลสานํ ทฑฺฒกาโล, ๓- มสิกตกาโล วิย ปญฺจนฺนํ ขนฺธานํ ฉินฺนมูลเก กตฺวา ฐปิตกาโล, มหาวาเต วา โอธุนิตฺวา นทิยา วา ปวาเหตฺวา อปฺปวตฺติกตกาโล วิย อุปาทินฺนกสนฺตานสฺส นิโรเธน ฉินฺนมูลกานํ ปญฺจนฺนํ ขนฺธานํ อปฺปฏิสนฺธิกภาเวน นิรุชฺฌิตฺวา ปุน ภวสฺมึ ปฏิสนฺธิอคหิตกาโล ๔- เวทิตพฺโพ. @เชิงอรรถ: ๑ ฉ.ม.,อิ. อุปปชฺช วาติ ๒ ก. อวิรุฬฺหภาวกตนฺติ @๓ ม. วธกกาโล ๔ สี. อคหณกาโล โมหชญฺจาปิ วิทฺทสูติ ๑- โมหชญฺจาปิ อวิทฺทสุ. อิทํ วุตฺตํ โหติ:- ยํ โส อวิทู อนฺธพาโล โลภชญฺจ โทสชญฺจ โมหชญฺจาปิ ๒- กมฺมํ กโรติ, เอวํ. กโรนฺเตน ยํ เตน ปกตํ กมฺมํ อปฺปํ วา ยทิ วา พหุํ. อิเธว ตํ เวทนิยนฺติ ตํ กมฺมํ เตน พาเลน อิธ สเก อตฺตภาเวเยว เวทนียํ, ตสฺเสว ตํ อตฺตภาเว วิปจฺจตีติ อตฺโถ. วตฺถุํ อญฺญํ น วิชฺชตีติ ตสฺส กมฺมสฺส วิปจฺจนตฺถาย อญฺญํ วตฺถุ นตฺถิ. น หิ อญฺเญน กตํ กมฺมํ น อญฺญสฺส อตฺตภาเว วิปจฺจติ. ตสฺมา โลภญฺจ โทสญฺจ, โมหชญฺจาปิ วิทฺทสูติ ตสฺมา โย วิทู เมธาวี ปณฺฑิโต ตํ โลภชาทิเภทํ กมฺมํ น กโรติ, โส วิชฺชํ อุปฺปาทยํ ภิกฺขุ, สพฺพา ทุคฺคติโย ชเห, อรหตฺตมคฺควิชฺชํ อุปฺปาเทตฺวา ตํ วา ปน วิชฺชํ อุปฺปาเทนฺโต สพฺพา ทุคฺคติโย ชหติ. เทสนาสีสเมเวตํ, สุคติโยปิ ปน โส ขีณาสโว ชหติเยว. ยมฺปิ เจตํ "ตสฺมา โลภญฺจ โทสญฺจ โมหญฺจา"ติ ๓- วุตฺตํ, เอตฺถาปิ โลภโทสสีเสน โลภชญฺจ โทสชญฺจ กมฺมเมว นิทฺทิฏฺฐนฺติ เวทิตพฺพํ. เอวํ สุตฺตนฺเตปิ ๔- คาถาสุปิ วฏฺฏวิวฏฺฏเมว กถิตนฺติ.อรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย เล่มที่ ๑๕ หน้า ๑๑๖-๑๓๐. http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=15&A=2612&modeTY=2 The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=15&A=2612&modeTY=2 อ่านอรรถกถาแปลไทย :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=20&i=473 เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=20&A=3535 พระไตรปิฎกฉบับบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=20&A=3545 The Pali Tipitaka in Roman Character :- http://84000.org/tipitaka/read/roman_read.php?B=20&A=3545 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๐ http://84000.org/tipitaka/read/?index_20
|
บันทึก ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๑.
การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย.
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]