ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย คลิกเพื่อเปลี่ยน ฐญ เป็นแบบดั้งเดิม  
อรรถกถาเล่มที่ ๒๖ ภาษาบาลีอักษรไทย อุ.อ. (ปรมตฺถที.)

                        ๙. อุทปานสุตฺตวณฺณนา
    [๖๙] นวเม มลฺเลสูติ มลฺลา นาม ชานปทิโน ราชกุมารา, เตสํ
นิวาโส เอโกปิ ชนปโท รุฬฺหีวเสน "มลฺลา"ติ วุจฺจติ. เตสุ มลฺเลสุ, ยํ
โลเก "มลฺโล"ติ วุจฺจติ. เกจิ ปน "มาเลสู"ติ ปฐนฺติ. จาริกญฺจรมาโนติ
อตุริตจาริกาวเสน มหามณฺฑเล ชนปทจาริกญฺจรมาโน. มหตา ภิกฺขุสํเฆนาติ
อปริจฺเฉทคุเณน มหนฺเตน สมณคเณน. ตทา หิ ภควโต  มหาภิกฺขุปริวาโร
อโหสิ. ถูณํ นาม มลฺลานํ พฺราหฺมณคาโมติ ปุรตฺถิมทกฺขิณาย ทิสาย
มชฺฌิมปฺปเทสสฺส อวธิฏฺฐาเน มลฺลเทเส ถูณนามโก พฺราหฺมณพหุลตาย
พฺราหฺมณคาโม, ตทวสรีติ ตํ อวสริ, ถูณคามมคฺคํ สมฺปาปุณีติ อตฺโถ.
อสฺโสสุนฺติ สุณึสุ, โสตทฺวารสมฺปตฺตวจนนิคฺโฆสานุสาเรน ชานึสูติ อตฺโถ.
โขติ ปทปูรเณ, อวธารณตฺเถ วา นิปาโต. ตตฺถ อวธารณตฺเถน อสฺโสสุํเยว,
น เตสํ สวนนฺตราโย อโหสีติ วุตฺตํ โหติ. ปทปูรเณน ปทพฺยญฺชนสิลิฏฺฐตฺตมตฺตเมว.
ถูเณยฺยกาติ ถูณคามวาสิโน. พฺราหฺมณคหปติกาติ เอตฺถ พฺรหฺมํ
อณนฺตีติ พฺราหฺมณา, มนฺเต สชฺฌายนฺตีติ อตฺโถ. อิทเมว หิ ชาติพฺราหฺมณานํ
นิพฺพจนํ, อริยา ปน พาหิตปาปตฺตา "พฺราหฺมณา"ติ วุจฺจนฺติ. คหปติกาติ
ขตฺติยพฺราหฺมเณ วชฺเชตฺวา เย เกจิ อคารํ อชฺฌาวสนฺตา วุจฺจนฺติ, วิเสสโต
เวสฺสา. พฺราหฺมณา จ คหปติกา จ พฺราหฺมณคหปติกา.
    อิทานิ ยมตฺถํ เต อสฺโสสุํ, ตํ  ปกาเสตุํ ๑- "สมโณ ขลุ โภ โคตโมติอาทิ
วุตฺตํ. ตตฺถ สมิตปาปตฺตา "สมโณ"ติ เวทิตพฺโพ. วุตฺตเญฺหตํ "สมิตาสฺส
โหนฺติ ปาปกา อกุสลา ธมฺมา"ติอาทิ. ๒- ภควา จ อนุตฺตเรน อริยมคฺเคน
สพฺพโส สมิตปาโป. เตนสฺส ยถาภุจฺจคุณาธิคตเมตํ นามํ, ยทิทํ สมโณติ.
ขลูติ อนุสฺสวตฺเถ นิปาโต. โภติ พฺราหฺมณชาติกานํ ชาติสมุทาคตํ อาลปนมตฺตํ,
@เชิงอรรถ:  ฉ.ม. ทสฺเสตุํ   ม.มู. ๑๒/๔๓๔/๓๘๐
วุตฺตมฺปิ เจตํ "โภวาทิ นาม โส โหติ, สเจ โหติ สกิญฺจโน"ติ. ๑- โคตโมติ
โคตฺตวเสน ภควโต ปริกิตฺตนํ. ตสฺมา "สมโณ ขลุ โภ โคตโม"ติ สมโณ
กิร โภ โคตมโคตฺโตติ อยเมตฺถ อตฺโถ. สกฺยปุตฺโตติ อิทํ ปน ภควโต
อุจฺจากุลปริทีปนํ. สกฺยกุลา ปพฺพชิโตติ สทฺธาปพฺพชิตภาวปริทีปนํ. เกนจิ
ปาริชุญฺเญน อนภิภูโต อปริกฺขีณํเยว ตํ กุลํ ปหาย เนกฺขมฺมาธิคมสทฺธาย
ปพฺพชิโตติ วุตฺตํ โหติ. อุทปานํ ติณสฺส จ ภุสสฺส จ ยาว มุขโต ปูเรสุนฺติ
ปานียกูปํ ติเณน จ ภุเสน จ มุขปฺปมาเณน วฑฺเฒสุํ, ติณาทีนิ ปกฺขิปิตฺวา
กูปํ ปิทหึสูติ อตฺโถ.
    ตสฺส กิร คามสฺส พหิ ภควโต อาคมนมคฺเค พฺราหฺมณานํ ปริโภคภูโต
เอโก อุทปาโน อโหสิ. ตํ ฐเปตฺวา ตตฺถ สพฺพานิ กูปตฬากาทีนิ
อุทกฏฺฐานานิ ตทา วิสุกฺขานิ นิรุทกานิ อเหสุํ. อถ ถูเณยฺยกา รตนตฺตเย
อปฺปสนฺนา มจฺเฉรปกตา ภควโต อาคมนํ สุตฺวา "สเจ สมโณ โคตโม
สสาวโก อิมํ คามํ ปวิสิตฺวา ทฺวีหตีหํ วเสยฺย, สพฺพํ อิมํ ชนํ อตฺตโน วจเน
ฐเปยฺย, ตโต พฺราหฺมณธมฺโม ปติฏฺฐํ น ลเภยฺยา"ติ ตตฺถ ภควโต อาสาย
ปริสกฺกนฺตา "อิมสฺมึ คาเม อญฺญตฺถ อุทกํ นตฺถิ, อมุํ อุทปานํ อปริโภคํ
กริสฺสาม, เอวํ สมโณ โคตโม สสาวกสํโฆ ๒- อิมํ คามํ น ปวิสิสฺสตี"ติ
สมฺมนฺตยิตฺวา สพฺเพ คามวาสิโน สตฺตาหสฺส อุทกํ คเหตฺวา จาฏิอาทีนิ
ปูเรตฺวา อุทปานํ ติเณน จ ภุเสน จ ปิทหึสุ. เตน วุตฺตํ "อุทปานํ ติณสฺส
จ ภุสสฺส จ ยาว มุขโต มุขโต ปูเรสุํ, `มา เต มุณฺฑกา สมณกา ปานียํ
อปํสู'ติ" .
    ตตฺถ มุณฺฑกา สมณกาติ มุณฺเฑ ๓- "มุณฺฑา"ติ สมเณ ๔- "สมณา"ติ
วตฺตุํ วฏฺเฏยฺย, เต ปน ขุํสนาธิปฺปาเยน หีเฬนฺตา เอวมาหํสุ. มาติ ปฏิเสเธ,
@เชิงอรรถ:  ขุ.ธ. ๒๕/๓๙๖/๘๖   ฉ.ม. สสาวโก   สี.,ม. มุณฺเฑสุ   สี.,ม. สมเณสุ
มา อปํสุ มา ปิวึสูติ อตฺโถ. มคฺคา โอกฺกมฺมาติ มคฺคโต อปสกฺกิตฺวา.
เอตมฺหาติ โย อุทปาโน เตหิ ตถา กโต, ตเมว นิทฺทิสนฺโต อาห. กิมฺปน
ภควา เตสํ พฺราหฺมณานํ ตํ วิปฺปการํ อนาวชฺชิตฺวา เอวมาห "เอตมฺหา
อุทปานา ปานียํ ปานียํ อาหรา"ติ, อุทาหุ อาวชฺชิตฺวา ชานนฺโตติ? ชานนฺโต
เอว ภควา อตฺตโน พุทฺธานุภาวํ ปกาเสตฺวา เต ทเมตฺวา นิพฺพิเสวเน กาตุํ
เอวมาห, น ปานียํ ปาตุกาโม เตเนเวตฺถ มหาปรินิพฺพานสุตฺเต วิย
"ปิปาสิโตสฺมี"ติ ๑- น วุตฺตํ. ธมฺมภณฺฑาคาริโก ปน สตฺถุ อชฺฌาสยํ อชานนฺโต
ถูเณยฺยเกหิ กตํ วิปฺปการํ อาจิกฺขนฺโต อิทานิ โส ภนฺเต"ติอาทิมาห.
    ตตฺถ อิทานีติ อธุนา, อมฺหากํ อาคมนเวลายเมวาติ อตฺโถ. เอโส
ภนฺเต อุทปาโนติ ปฐนฺติ. เถโร ทฺวิกฺขตฺตุํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ตติยวาเร "น โข
ตถาคตา ติกฺขตฺตุํ ปจฺจนีกา กาตพฺพา, การณํ ทิฏฺฐํ ภวิสฺสติ ทีฆทสฺสินา"ติ
มหาราชทตฺติยํ ภควโต ปตฺตํ คเหตฺวา อุทปานํ อคมาสิ. คจฺฉนฺเต เถเร
อุทปาเน อุทกํ ปริปุณฺณํ หุตฺวา อุตฺตริตฺวา สมนฺตโต สนฺทติ, สพฺพํ ติณํ
ภุสญฺจ อุปลวิตฺวา สยเมว อปคจฺฉิ. เตน จ สนฺทมาเนน สลิเลน อุปรูปริ
วฑฺฒนฺเตน ตสฺมึ คาเม สพฺเพว โปกฺขรณีอาทโย ชลาสยา วิสุกฺขา ปริปูรึสุ,
ตถา ปริขากุสุพฺภนินฺนาทีนิ จ. สพฺโพ คามปฺปเทโส มโหเฆน อชฺโฌตฺถโฏ
มหาวสฺสกาเล วิย อโหสิ. กุมุทุปฺปลปทุมปุณฺฑรีกาทีนิ ชลชปุปฺผานิ ตตฺถ ตตฺถ
อุพฺภิชฺชิตฺวา วิกสมานานิ อุทกํ สญฺฉาทึสุํ. สเรสุ หํสโกญฺจจกฺกวากการณฺฑวพกาทโย
อุทกสกุณิกา วสฺสมานา ตตฺถ ตตฺถ วิจรึสุ. ถูเณยฺยกา ตํ
มโหฆํ ตถา อุตฺตรนฺตํ สมนฺตโต วีจิตรงฺคสมากุลํ ปริยนฺตโต สมุฏฺฐหมานํ
รุจิรํ เผณุพุพฺพุฬกํ ทิสฺวา อจฺฉริยพฺภุตจิตฺตชาตา เอวํ สมฺมนฺเตสุํ "มยํ
สมณสฺส โคตมสฺส อุทกุปจฺเฉทํ กาตุํ วายมิมฺหา, อยมฺปน มโหโฆ ตสฺส
@เชิงอรรถ:  ที. มหา. ๑๐/๑๙๑/๑๑๓
อาคมนกาลโต ปฏฺฐาย เอวํ อภิวฑฺฒติ, นิสฺสํสยํ โข อยํ ตสฺส อิทฺธานุภาโว.
มหิทฺธิโก หิ โส มหานุภาโว. ฐานํ โข ปเนตํ วิชฺชติ, ยถา ยํ มโหโฆ
อุฏฺฐหิตฺวา อมฺหากํ คามมฺปิ โอตฺถเรยฺย. หนฺท มยํ สมณํ โคตมํ อุปสงฺกมิตฺวา
ปยิรุปาสิตฺวา อจฺจยํ เทเสนฺตา ขมาเปยฺยามา"ติ.
    เต สพฺเพว เอกชฺฌาสยา หุตฺวา สํฆสํฆี คณีภูตา คามโต นิกฺขมิตฺวา
เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ. อุปสงฺกมิตฺวา อปฺเปกจฺเจ ภควโต ปาเท สิรสา
วนฺทึสุ, อปฺเปกจฺเจ อญฺชลิมฺปณาเมสุํ, อปฺเปกจฺเจ ภควตา สทฺธึ สมฺโมทึสุ,
อปฺเปกจฺเจ ตุณฺหีภูตา นิสีทึสุ, อปฺเปกจฺเจ นามโคตฺตํ สาเวสุํ, เอวมฺปน กตฺวา
สพฺเพว เอกมนฺตํ นิสีทิตฺวา อิธ มยํ โภ โคตม โภโต เจว โคตมสฺส
โคตมสาวกานญฺจ อุทกปฏิเสธํ การยิมฺหา, อมุกสฺมึ อุทปาเน ติณญฺจ ภุสญฺจ
ปกฺขิปิมฺห. โส ปน อุทปาโน อเจตโนปิ สมาโน สเจตโน วิย โภโต คุณํ
ชานนฺโต วิย สยเมว สพฺพํ ติณํ ภุสํ อปเนตฺวา สุวิสุทฺโธ ชาโต, สพฺโพปิ
เจตฺถ นินฺนปฺปเทโส มหตา อุทโกเฆน ปริปุณฺโณ รมณีโยว ชาโต,
อุทกูปชีวิโน สตฺตา ปริตุฏฺฐา, มยมฺปน มนุสฺสาปิ สมานา โภโต คุเณ น
ชานิมฺห, เย มยํ เอวํ อกริมฺห, สาธุ โน ภวํ โคตโม ตถา กโรตุ, ยถา
อยํ มโหโฆ อิมํ คามํ น โอตฺถเรยฺย, อจฺจโย โน อจฺจคมา ยถาพาลํ, ตํ โน
ภวํ โคตโม อจฺจยํ ปฏิคฺคณฺหาตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา"ติ อจฺจยํ เทเสสุํ. ภควาปิ
"ตคฺฆ ตุเมฺห อจฺจโย อจฺจคมา ยถาพาลํ, ตํ โว มยํ ปฏิคฺคณฺหาม, อายตึ
สํวรายา"ติ เตสํ อจฺจยํ ปฏิคฺคเหตฺวา ปสนฺนจิตฺตตํ ญตฺวา อุตฺตริ อชฺฌาสยานุรูปํ
ธมฺมํ เทเสสิ. เต ภควโต ธมฺมเทสนํ สุตฺวา ปสนฺนจิตฺตา สรณาทีสุ
ปติฏฺฐิตา ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกมึสุ. เตสมฺปน อาคมนโต
ปุเรตรํเยว อายสฺมา อานนฺโท ตํ ปาฏิหาริยํ ทิสฺวา อจฺฉริยพฺภุตจิตฺตชาโต
ปตฺเตน ปานียํ อาทาย ภควโต อุปนาเมตฺวา ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสิ. เตน
วุตฺตํ "เอวํ ภนฺเตติ โข อายสฺมา อานนฺโท"ติอาทิ.
    ตตฺถ มุขโต โอวมิตฺวาติ สพฺพนฺตํ ติณาทึ มุเขน ฉฑฺเฑตฺวา.
วิสฺสนฺทนฺโต มญฺเญติ ปุพฺเพ ทีฆรชฺชุเกน อุทปาเนน อุสฺสิญฺจิตฺวา
คเหตพฺพอุทโกโฆ ภควโต ปตฺตํ คเหตฺวา เถรสฺส คตกาเล มุเขน วิสฺสนฺทนฺโต
วิย สมติตฺติโก กากเปยฺโย หุตฺวา อฏฺฐาสิ. อิทญฺจ เถรสฺส คตกาเล
อุทกปฺปวตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ. ตโต ปรํ ปน ปุพฺเพ วุตฺตนเยน ตสฺมึ คาเม
สกลํ นินฺนฏฺฐานํ อุทเกน ปริปุณฺณํ อโหสีติ. อยมฺปนิทฺธิ น พุทฺธานํ
อธิฏฺฐาเนน, นาปิ เทวานุภาเวน, อถ โข ภควโต ปุญฺญานุภาเวน
ปริตฺตเทสนตฺถํ ราชคหโต เวสาลิคมเน วิย. เกจิ ปน "ถูเณยฺยกานํ ภควติ
ปสาทชนนตฺถํ เตสํ อตฺถกามาหิ เทวตาหิ กตนฺ"ติ. อปเร "อุทปานสฺส
เหฏฺฐา วสนกนาคราชา เอวมกาสี"ติ สพฺพนฺตํ อการณํ ยถา ภควโต
ปุญฺญานุภาเวเนว ตถา อุทกุปฺปตฺติยา ปริทีปิตตฺตา.
    เอตมตฺถํ วิทิตฺวาติ เอตํ อธิฏฺฐาเนน วินา อตฺตนา อิจฺฉิตนิปฺผตฺติสงฺขาตํ
อตฺถํ สพฺพาการโต วิทิตฺวา ตทตฺถทีปนํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ.
    ตตฺถ กึ กยิรา อุทปาเนน, อาปา เจ สพฺพทา สิยุนฺติ ยสฺส สพฺพกาลํ
สพฺพตฺถ จ อาปา เจ ยทิ สิยุํ ยทิ อุปลพฺเภยฺยุํ ยทิ อากงฺขามตฺตปฏิพทฺโธ,
เตสํ ลาโภ, เตน อุทปาเนน กึ กยิรา กึ กเรยฺย, กึ ปโยชนนฺติ อตฺโถ.
ตณฺหาย มูลโต เฉตฺวา, กิสฺส ปริเยสนญฺจเรติ ยาย ตณฺหาย วินิพทฺธา
สตฺตา อกตปุญฺญา หุตฺวา อิจฺฉิตาลาภทุกฺเขน วิหญฺญนฺติ, ตสฺสา ตณฺหาย
มูลํ, มูเล วา ฉินฺทิตฺวา ฐิโต มาทิโส สพฺพญฺญู พุทฺโธ กิสฺส เกน
การเณน ปานียปริเยสนํ, ๑- อญฺญํ วา ปจฺจยปริเยสนํ จเรยฺย. "มูลโต
@เชิงอรรถ:  ก. อุทกปริเยสนํ
เฉตฺตา"ติปิ ปฐนฺติ, ตณฺหาย มูลํ มูเลเยว วา ๑- เฉทโกติ อตฺโถ. อถ วา
มูลโต เฉตฺตาติ มูลโต ปฏฺฐาย ตณฺหาย เฉทโก. อิทํ วุตฺตํ โหติ:- โย
โพธิยา มูลภูตมหาปณิธานโต ปฏฺฐาย อปริมิตํ สกลํ ปุญฺญสมฺภารํ อตฺตโน
อจินฺเตตฺวา โลกหิตตฺถเมว ปริณามนวเสน ปริปูเรนฺโต มูลโต ปภุติ ตณฺหาย
เฉตฺตา, โส ตณฺหาเหตุกสฺส อิจฺฉิตาลาภสฺส อภาวโต กิสฺส เกน การเณน
อุทกปริเยสนํ จเรยฺย, อิเม ปน ถูเณยฺยกา อนฺธพาลา อิมํ การณํ อชานนฺตา
เอวมกํสูติ.
                       นวมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺฐิตา.
                          -------------


             อรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย เล่มที่ ๒๖ หน้า ๔๐๔-๔๐๙. http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=26&A=9033&modeTY=2              The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=26&A=9033&modeTY=2              อ่านอรรถกถาแปลไทย :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=155              เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=25&A=3910              พระไตรปิฎกฉบับบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=25&A=4183              The Pali Tipitaka in Roman Character :- http://84000.org/tipitaka/read/roman_read.php?B=25&A=4183              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๕ http://84000.org/tipitaka/read/?index_25

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย คลิกเพื่อเปลี่ยน ฐญ เป็นแบบดั้งเดิม

บันทึก ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๑. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]