ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย คลิกเพื่อเปลี่ยน ฐญ เป็นแบบไทย  
อรรถกถาเล่มที่ ๓๐ ภาษาบาลีอักษรไทย วิมาน.อ. (ปรมตฺถที.)

                        ๕.  กุญฺชรวิมานวณฺณนา
     กุญฺชโร เต วราโรโหติ กุญฺชรวิมานํ. ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควา
ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. อเถกทิวสํ ราชคหนคเร นกฺขตฺตํ
โฆสิตํ, นาครา วีถิโย โสเธตฺวา วาลุกํ โอกิริตฺวา ลาชปญฺจมกานิ ปุปฺผานิ
วิปฺปกิรึสุ, เคหทฺวาเร เคหทฺวาเร กทลิโย จ ปุณฺณฆเฏ จ เปสุํ, ยถาวิภวํ
นานาวิราควณฺณวิจิตฺตา ธชปฏากาทโย อุสฺสาเปสุํ, สพฺโพ ชโน อตฺตโน อตฺตโน
วิภวานุรูปํ สุมณฺฑิตปสาธิโต นกฺขตฺตกีฬํ กีฬิ, ๑- สกลนครํ เทวนครํ วิย
อลงฺกตปฏิยตฺตํ อโหสิ. อถ พิมฺพิสารมหาราชา ปุพฺพจาริตฺตวเสน มหาชนสฺส
จิตฺตานุรกฺขณตฺถญฺจ อตฺตโน ราชภวนโต นิกฺขมิตฺวา มหนฺเตน ปริวาเรน มหตา
ราชานุภาเวน โอฬาเรน สิริโสภคฺเคน นครํ ปทกฺขิณํ กโรติ.
     เตน จ สมเยน ราชคหวาสินี เอกา กุลธีตา รญฺโ ตํ วิภวสมฺปตฺตึ
@เชิงอรรถ:  สี. กีฬติ
สิริโสภคฺคํ ราชานุภาวญฺจ ปสฺสิตฺวา อจฺฉริยพฺภุตจิตฺตชาตา "อยํ เทวิทฺธิสทิสา
วิภวสมฺปตฺติ กีทิเสน นุ โข กมฺมุนา ลพฺภตี"ติ ปณฺฑิตสมฺมเต ปุจฺฉิ. เต ตสฺสา
กเถสุํ "ภทฺเท ปุญฺกมฺมํ นาม จินฺตามณิสทิสํ กปฺปรุกฺขสทิสํ, เขตฺตสมฺปตฺติยา
จิตฺตสมฺปตฺติยา จ สติ ยํ ยํ ปตฺเถตฺวา กโรนฺติ, ๑- ตํ ตํ นิปฺผาเทติเยว. อปิจ
อาสนทาเนน อุจฺจากุลีนตา โหติ, อนฺนทาเนน พลสมฺปตฺติปฏิลาโภ, วตฺถทาเนน
วณฺณสมฺปตฺติปฏิลาโภ, ยานทาเนน สุขวิเสสปฏิลาโภ, ทีปทาเนน จกฺขุสมฺปตฺติ-
ปฏิลาโภ, อาวาสทาเนน สพฺพสมฺปตฺติปฏิลาโภ โหตี"ติ. สา ตํ สุตฺวา
"เทวสมฺปตฺติ อิโต อุฬารา โหติ มญฺเ"ติ ตตฺถ จิตฺตํ เปตฺวา ปุญฺกิริยาย
อติวิย อุสฺสาหชาตา อโหสิ.
     มาตาปิตโร จ ตสฺสา อหตํ วตฺถยุคํ นวปี เอกํ ปทุมกลาปํ สปฺปิมธุสกฺขรา
ตณฺฑุลขีรานิ จ ปริโภคตฺถาย เปเสสุํ. สา ตานิ ทิสฺวา "อหญฺจ ทานํ
ทาตุกามา, อยญฺจ เม เทยฺยธมฺโม ปฏิลทฺโธ"ติ ๒- ตุฏฺมานสา ทุติยทิวเส
ทานํ สชฺเชนฺตี อปฺโปทกมธุปายาสํ สมฺปาเทตฺวา ตสฺส ปริวารภาเวน
อญฺมฺปิ พหุํ ขาทนียโภชนียํ ปฏิยาเทตฺวา ทานคฺเค คนฺธปริภณฺฑํ กตฺวา
วิกสิตปทุมปตฺตกิญฺชกฺขเกสโรปโสภิเตสุ ปทุเมสุ ๓- อาสนํ ปญฺาเปตฺวา อหเตน
เสตวตฺเถน อตฺถริตฺวา อาสนสฺส จตุนฺนํ ปาทานํ อุปริ จตฺตาริ ปทุมานิ
มาลาคุฬญฺจ เปตฺวา อาสนสฺส อุปริ วิตานํ พนฺธิตฺวา มาลาทามโอลมฺพกทามานิ
โอลมฺเพตฺวา อาสนสฺส สมนฺตโต ภูมึ สเกสเรหิ ปทุมปตฺเตหิ สพฺพสนฺถรํ
สนฺถริตฺวา "ทกฺขิเณยฺเย อาคเต ปูเชสฺสามี"ติ ปุปฺผปูริตํ จงฺโกฏกํ เอกมนฺเต
เปสิ.
      อเถวํ กตทานูปกรณสํวิธานา สีสํ นฺหาตา สุทฺธวตฺถนิวตฺถา สุทฺธุตฺตราสงฺคา
เวลํ สลฺลกฺเขตฺวา เอกํ ทาสึ อาณาเปสิ "คจฺฉ เช อมฺหากํ ตาทิสํ ทกฺขิเณยฺยํ
@เชิงอรรถ:  ฉ.ม. กโรติ   ฉ.ม. ลทฺโธติ   สี. กตฺวา วิกสิเตสุ ปทุเมสุ
ปริเยสาหี"ติ. เตน จ สมเยน อายสฺมา สาริปุตฺโต สหสฺสถวิกํ นิกฺขิปนฺโต
วิย ราชคเห ปิณฺฑาย จรนฺโต อนฺตรวีถึ ปฏิปนฺโน โหติ. อถ สา ทาสี
เถรํ วนฺทิตฺวา อาห "ภนฺเต ตุมฺหากํ ปตฺตํ เม เทถา"ติ. "เอกิสฺสา อุปาสิกาย
อนุคฺคหตฺถํ อิโต เอถา"ติ จ อาห. เถโร ตสฺสา ปตฺตํ อทาสิ. สา เถรํ
เคหํ ปเวเสสิ. อถ สา อิตฺถี เถรสฺส ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา อาสนํ ทสฺเสตฺวา
"นิสีทถ ภนฺเต, อิทมาสนํ ปญฺตฺตนฺ"ติ วตฺวา เถเร ตตฺถ นิสินฺเน
สเกสเรหิ ปทุมปตฺเตหิ เถรํ ปูชยมานา อาสนสฺส สมนฺตโต โอกิริตฺวา
ปญฺจปติฏฺิเตน วนฺทิตฺวา สปฺปิมธุสกฺขราสมฺมิสฺเสน อปฺโปทกมธุปายาเสน ปริวิสิ.
ปริวิสนฺตี จ "อิมสฺส เม ปุญฺสฺสานุภาเวน ทิพฺพคชกูฏาคารปลฺลงฺกโสภิตา
ทิพฺพสมฺปตฺติโย โหนฺตุ, สพฺพาสุ ปวตฺตีสุ ปทุมา นาม มา วิคตา โหนฺตู"ติ
ปตฺถนํ อกาสิ. ปุน เถเร กตภตฺตกิจฺเจ ปตฺตํ โธวิตฺวา สปฺปิมธุสกฺขราหิ
ปูเรตฺวา ปีเ ๑- อตฺถตํ สาฏกํ จุมฺพฏกํ กตฺวา เถรสฺส หตฺเถ เปตฺวา เถเร
จ อนุโมทนํ กตฺวา ปกฺกมนฺเต เทฺว ปุริเส อาณาเปสิ "เถรสฺส หตฺเถ ปตฺตํ
อิมญฺจ ปลฺลงฺกํ วิหารํ เนตฺวา เถรสฺส นิยฺยาเตตฺวา อาคจฺฉถา"ติ. เต
ตถา อกํสุ.
     สา อปรภาเค กาลํ กตฺวา ตาวตึสภวเน โยชนสตุพฺเพเธ กนกวิมาเน
นิพฺพตฺติ อจฺฉราสหสฺสปริวารา, ปตฺถนาวเสน จสฺสา ปญฺจโยชนุพฺเพโธ ปทุม-
มาลาลงฺกโต สมนฺตโต ปทุมปตฺตกิญฺชกฺขเกสโรปโสภิโต มนุญฺทสฺสโน สุขสมฺผสฺโส
วิวิธรตนรํสิชาลสมุชฺชลเหมาภรณวิภูสิโต คชวโร นิพฺพตฺติ, ตสฺสูปริ ยถาวุตฺต-
โสภาติสยยุตฺโต โยชนิโก กนกปลฺลงฺโก นิพฺพตฺติ. สา ทิพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวนฺตี
อนฺตรนฺตรา ตํ กุญฺชรวิมานสฺส อุปริ รตนวิจิตฺตํ ปลฺลงฺกํ อภิรุยฺห มหตา
เทวตานุภาเวน นนฺทนวนํ คจฺฉติ. อเถกสฺมึ อุสฺสวทิวเส เทวตาสุ ยถาสกํ
@เชิงอรรถ:  ฉ.ม. ปลฺลงฺเก
ทิพฺพานุภาเวน อุยฺยานกีฬนตฺถํ นนฺทนวนฺ คจฺฉนฺตีสูติอาทินา สพฺพํ ปม-
ปีวิมานวณฺณนายํ อาคตสทิสํ, ตสฺมา ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อิธ
ปน เถโร ๑-:-
     [๓๑]   "กุญฺชโร เต วราโรโห     นานารตนกปฺปโน
             รุจิโร ถามวา ชวสมฺปนฺโน  อากาสมฺหิ สมีหติ.
     [๓๒]    ปทุมี ปทฺมปตฺตกฺขี         ปทฺมุปฺปลชุตินฺธโร
             ปทฺมจุณฺณาภิกิณฺณงฺโค       โสณฺณโปกฺขรมาลธา.
     [๓๓]    ปทุมานุสฏํ มคฺคํ          ปทฺมปตฺตวิภูสิตํ
             ิตํ วคฺคุมนุคฺฆาตี         มิตํ คจฺฉติ วารโณ.
     [๓๔]    ตสฺส ปกฺกมมานสฺส        โสณฺณกํสา รติสฺสรา
             เตสํ สุยฺยติ นิคฺโฆโส      ตูริเย ปญฺจงฺคิเก ยถา.
     [๓๕]    ตสฺส นาคสฺส ขนฺธมฺหิ      สุจิวตฺถา อลงฺกตา
             มหนฺตํ อจฺฉราสงฺฆํ        วณฺเณน อติโรจสิ.
     [๓๖]    ทานสฺส เต อิทํ ผลํ       อโถ สีลสฺส วา ปน
             อโถ อญฺชลิกมฺมสฺส        ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิตา"ติ
อาห.
@เชิงอรรถ: ๑-๑  สี. สา เทวตา ทิพฺพวตฺถนิวตฺถา ทิพฺพาภรณวิภูสิตา อจฺฉราสหสฺสปริวารา
@สกภวนา นิกฺขมิตฺวา ตํ กุญฺชรวิมานํ อภิรุยฺห มหติยา เทวิทฺธิยา มหนฺเตน
@สิริโสภคฺเคน สมนฺตโต จนฺโท วิย สูริโย วิย จ โอภาเสนฺตี อุยฺยานํ คจฺฉติ. เตน จ
@สมเยน อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เหฏฺา วุตฺตนเยน เทวจาริกํ จรนฺโต ตาวตึสภวนํ
@อุปคโต ตสฺสา เทวตาย อวิทูเร อตฺตานํ ทสฺเสสิ. อถ สา เทวตา ตํ ทิสฺวา
@อุปฺปนฺนพลวปสาทคารวา สหสา ปลฺลงฺกโต โอรุยฺห เถรํ อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺจปติฏฺิเตน
@วนฺทิตฺวา ทสนขสโมธานสมุชฺชลํ อญฺชลึ ปคฺคยฺห นมสฺสมานา อฏฺาสิ. อถ นํ เถโร ตาย
@เทวตาย กตกมฺมํ กถาเปตฺวา สเทวกสฺส โลกสฺส กมฺมผลํ ปจฺจกฺขํ กาตุกาโม.
     #[๓๑]  ตตฺถ กุญฺชโร เต วราโรโหติ กุญฺเช คิริตเฏ ๑- รมติ อภิรมติ,
ตตฺถ วา รวติ ๒- โกญฺจนาทํ นทนฺโต วิจรติ, กุํ วา ปวึ ตทภิฆาเตน ๓- ชรยตีติ
กุญฺชโร. คิริจราทิเภโท มนุสฺสโลเก หตฺถี, อยํ ปน กีฬนกาเล กุญฺชรสทิสตาย
เอวํ วุตฺโต. อารุยฺหตีติ อาโรโห, อาโรหณีโยติ อตฺโถ. วโร อคฺโค เสฏฺโ
อาโรโหติ วราโรโห, อุตฺตมยานนฺติ วุตฺตํ โหติ. นานารตนกปฺปโนติ นานาวิธานิ
รตนานิ เอเตสนฺติ นานารตนา, กุมฺภาลงฺการาทิหตฺถาลงฺการา. เตหิ วิหิโต
กปฺปโน สนฺนาโห ยสฺส โส นานารตนกปฺปโน. รุจึ อภิรตึ เทตีติ รุจิโร,
มนุญฺโติ อตฺโถ. ถามวาติ ถิโร, พลวาติ อตฺโถ. ชวสมฺปนฺโนติ สมฺปนฺนชโว,
สีฆชโวติ วุตฺตํ โหติ. อากาสมฺหิ สมีหตีติ อากาเส อนฺตลิกฺเข สมฺมา
อีหติ, อารุฬฺหานํ โขภํ อกโรนฺโต จรติ คจฺฉตีติ อตฺโถ.
     #[๓๒]  ปทุมีติ ปทุมสมานวณฺณตาย "ปทุมนฺ"ติ ลทฺธนาเมน กุมฺภวณฺเณน
สมนฺนาคตตฺตา ปทุมี. ปทฺมปตฺตกฺขีติ กมลทลสทิสนยเน, อาลปนเมตํ ๔- ตสฺสา
เทวตาย. ปทฺมุปฺปลชุตินฺธโรติ ทิพฺพปทุมุปฺปลมาลาลงฺกตสรีรตาย ตหํ ตหํ
วิปฺผุรนฺตํ วิชฺโชตมานํ ปทุมุปฺปลชุตึ ธาเรตีติ ปทฺมุปฺปลชุตินฺธโร. ปทฺม-
จุณฺณาภิกิณฺณงฺโคติ ปทุมปตฺตกิญฺชกฺขเกสเรหิ สมนฺตโต โอกิณฺณคตฺโต.
โสณฺณโปกฺขรมาลธาติ เหมมยกมลมาลาภารี.
    #[๓๓]  ปทุมานุสฏํ มคฺคํ ปทฺมปตฺตวิภูสิตนฺติ หตฺถิโน ปทนิกฺเขเป
ปทนิกฺเขเป ตสฺส ปาทํ สนฺธาเรนฺเตหิ มหนฺเตหิ ปทุเมหิ อนุสฏํ วิปฺปกิณฺณํ,
นานาวิราควณฺเณหิ เตสํเยว จ ปตฺเตหิ อิโต จิโต จ ปริพฺภมนฺเตหิ วิเสสโต
มณฺฑิตตาย วิภูสิตํ มคฺคํ คจฺฉตีติ โยชนา. ิตนฺติ อิทํ มคฺควิเสสนํ, ปทุม-
ปตฺตวิภูสิตํ หุตฺวา ิตํ มคฺคนฺติ อตฺโถ. วคฺคูติ จารุ, กิริยาวิเสสนเจตํ,
@เชิงอรรถ:  ม. คิริตเล   ม. จรติ   ก. ตทภิฆาเฏน   สี. อาลปนํ เหตํ
มกาโร ปทสนฺธิกโร. อนุคฺฆาตีติ น อุคฺฆาติ, อตฺตโน อุปริ นิสินฺนานํ อีสกมฺปิ
โขภํ อกโรนฺโตติ อตฺโถ. มิตนฺติ นิมฺมิตํ, นิกฺเขปปทํ วีติกฺกมนฺติ ๑- อตฺโถ. อยํ
เหตฺถ อตฺโถ "วคฺคุ จารุ ปทนิกฺเขปํ กตฺวา คจฺฉตี"ติ. มิตนฺติ วา ปริมิตํ
ปมาณยุตฺตํ, นาติสีฆํ นาติสณิกนฺติ วุตฺตํ โหติ. วารโณติ หตฺถี. โส หิ
ปจฺจตฺถิกวารณโต คมนปริกฺกิเลสวารณโต จ "วารโณ"ติ วุจฺจติ.
    #[๓๔] ตสฺส ปกฺกมมานสฺส, โสณฺณกํสา รติสฺสราติ ตสฺส ยถาวุตฺตสฺส
กุญฺชรสฺส คจฺฉนฺตสฺส โสณฺณกํสา สุวณฺณมยา ฆณฺฑา รติสฺสรา รมณียสทฺทา
มนุญฺนิคฺโฆสา โอลมฺพนฺตีติ อธิปฺปาโย. ตสฺส หิ กุญฺชรสฺส อุโภสุ ปสฺเสสุ
มหาโกลมฺพปฺปมาณา มณิมุตฺตาทิขจิตา เหมมยา อเนกสตา มหนฺติโย ฆณฺฑา
ตหํ ตหํ โอลมฺพมานา ปจลนฺติ, ยโต เฉเกน คนฺธพฺพเกน ปยุตฺตวาทิตโต
อติวิย มโนหรสทฺโท นิจฺฉรติ. เตนาห "เตสํ สุยฺยติ นิคฺโฆโส, ตูริเย
ปญฺจงฺคิเก ยถา"ติ.
     ตสฺสตฺโถ:- ยถา นาม อาตตํ วิตตํ อาตตวิตตํ ฆนํ สุสิรนฺติ เอวํ ปญฺจงฺคิเก
ตูริเย กุสเลหิ วาทิยมาเน านุปฺปตฺติยา มนฺทตารวิภาคํ ทสฺเสนฺเตน คายนฺเตน
สมีริโต วาทิตสโร วคฺคุ รชนีโย นิคฺโฆโส สุยฺยติ, เอวํ เตสํ โสณฺณกํสานํ
ตปนียฆณฺฑานํ นิคฺโฆโส สุยฺยตีติ.
    #[๓๕] นาคสฺสาติ หตฺถินาคสฺส. มหนฺตนฺติ สมฺปตฺติมหตฺเตนาปิ สงฺขฺยา-
มหตฺเตนาปิ มหนฺตํ. อจฺฉราสงฺฆนฺติ เทวกญฺาสมูหํ. วณฺเณนาติ รูเปน.
    #[๓๖] ทานสฺสาติ ทานมยปุญฺสฺส. สีลสฺสาติ กายิกสํวราทิสํวรสีลสฺส.
วาสทฺโท อวุตฺตวิกปฺปนตฺโถ. เตน อภิวาทนาทึ อวุตฺตํ จาริตฺตสีลํ สงฺคณฺหาติ.
@เชิงอรรถ:  สี. มิตนฺติ ติมิตํ, ปทนิกฺเขปปทวีติกฺกมนฺติ
     เอวํ เถเรน ปุจฺฉิตา สา เทวตา ปญฺหํ วิสฺสชฺเชสิ, ตมตฺถํ ทสฺเสตุํ:-
     [๓๗] "สา เทวตา อตฺตมนา  โมคฺคลฺลาเนน ปุจฺฉิตา
          ปญฺหํ ปุฏฺา วิยากาสิ   ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลนฺ"ติ
อยํ คาถา ธมฺมสงฺคาหเกหิ วุตฺตา, ตสฺสา อตฺโถ เหฏฺา วุตฺโต เอว.
     [๓๘] "ทิสฺวาน คุณสมฺปนฺนํ    ฌายึ ฌานรตํ สตํ
          อทาสึ ปุปฺผาภิกิณฺณํ     อาสนํ ทุสฺสสนฺถตํ.
     [๓๙] อุปฑฺฒํ ปทฺมมาลาหํ     อาสนสฺส สมนฺตโต
          อพฺโภกิริสฺสํ ปตฺเตหิ    ปสนฺนา เสหิ ๑- ปาณิหิ.
     [๔๐] ตสฺส กมฺมกุสลสฺส      อิทํ เม อีทิสํ ผลํ
          สกฺกาโร ครุกาโร จ   เทวานํ อปจิตา อหํ.
     [๔๑] โย เว สมฺมาวิมุตฺตานํ  สนฺตานํ พฺรหฺมจารินํ
          ปสนฺโน อาสนํ ทชฺชา   เอวํ นนฺเท ยถา อหํ.
     [๔๒] ตสฺมา หิ อตฺตกาเมน   มหตฺตมภิกงฺขตา
          อาสนํ ทาตพฺพํ โหติ    สรีรนฺติมธารินนฺ"ติ
เทวตาย วุตฺตคาถา.
    #[๓๘] ตตฺถ คุณสมฺปนฺนนฺติ สพฺเพหิ สาวกคุเณหิ สมนฺนาคตํ, เตหิ วา
ปริปุณฺณํ. เอเตน สาวกปารมิาณสฺส มตฺถกปฺปตฺตึ ทสฺเสติ. ฌายินฺติ
อารมฺมณูปนิชฺฌานํ ลกฺขณูปนิชฺฌานนฺติ ทุวิเธนปิ ฌาเนน ฌายนสีลํ, เตน
@เชิงอรรถ:  ก. สเกหิ
วา ฌาเปตพฺพํ สพฺพสงฺกิเลสปกฺขํ ฌาเปตฺวา ิตํ. ตโต เอว ฌาเน
รตนฺติ ฌานรตํ. สตนฺติ สมานํ, สนฺตํ วา, สปฺปุริสนฺติ อตฺโถ.
ปุปฺผาภิกิณฺณนฺติ ปุปฺเผหิ อภิกิณฺณํ, กมลทเลหิ อภิปฺปกิณฺณนฺติ อตฺโถ.
ทุสฺสสนฺถตนฺติ วตฺเถน อุปริ อตฺถตํ.
    #[๓๙] อุปฑฺฒํ ปทฺมมาลาหนฺติ อุปฑฺฒํ ปทุมปุปฺผํ อหํ. อาสนสฺส
สมนฺตโตติ เถเรน นิสินฺนสฺส อาสนสฺส สมนฺตา ภูมิยํ. อพฺโภกิริสฺสนฺติ
อภิโอกิรึ อภิปฺปกิรึ. กถํ? ปตฺเตหีติ, ตสฺส อุปฑฺฒปทุมสฺส วิสุํ วิสุํ กเตหิ
ปตฺเตหิ ปุปฺผวสฺสาภิวสฺสนกนิยาเมน โอกิรินฺติ อตฺโถ.
    #[๔๐]  อิทํ เม อีทิสํ ผลนฺติ อิมินา "กุญฺชโร เต วราโรโห"ติอาทินา
เถเรน คหิตํ อคฺคหิตญฺจ อายุยสสุขรูปาทิเภทํ อตฺตโน ทิพฺพสมฺปตฺตึ เอกโต
ทสฺเสตฺวา ปุนปิ เถเรน อคฺคหิตเมว อตฺตโน อานุภาวสมฺปตฺตึ ทสฺเสตุํ ๑- "สกฺกาโร
ครุกาโร"ติอาทิมาห. เตน "น เกวลํ ภนฺเต ตุเมฺหหิ ยถาวุตฺตเมว อิธ
มยฺหํ ปุญฺผลํ, อปิจ โข อิทํ ทิพฺพํ อาธิปเตยฺยมฺปี"ติ ทสฺเสติ. ตตฺถ
สกฺกาโรติ อาทรกิริยา, เทเวหิ อตฺตโน สกฺกาตพฺพตาติ อตฺโถ. ตถา
ครุกาโรติ ครุกาตพฺพตา. เทวานนฺติ เทเวหิ. อปจิตาติ ปูชิตา.
    #[๔๑] สมฺมาวิมุตฺตานนฺติ สุฏฺุ วิมุตฺตานํ สพฺพสงฺกิเลสปฺปหายีนํ.
สนฺตานนฺติ สนฺตกายวจีมโนกมฺมานํ สาธูนํ. มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส จ สาสนพฺรหฺมจริยสฺส
จ จิณฺณตฺตา พฺรหฺมจารินํ. ปสนฺโน อาสนํ ทชฺชาติ  กมฺมผลสทฺธาย รตนตฺตย-
สทฺธาย จ ปสนฺนมานโส หุตฺวา ยทิ อาสนมตฺตมฺปิ ทเทยฺย. เอวํ นนฺเท ย
ยถา อหนฺติ ยถา อหํ เตน อาสนทาเนน เอตรหิ นนฺทามิ โมทามิ, เอวเมว
อญฺโปิ นนฺเทยฺย โมเทยฺย.
@เชิงอรรถ:  สี. ทสฺเสนฺตี
    #[๔๒] ตสฺมาติ เตน การเณน. หิสทฺโท นิปาตมตฺตํ. อตฺตกาเมนาติ
อตฺตโน หิตกาเมน. โย หิ อตฺตโน หิตาวหํ กมฺมํ กโรติ, น อหิตาวหํ, โส
อตฺตกาโม. มหตฺตนฺติ วิปากมหตฺตํ. สรีรนฺติมธารินนฺติ อนฺติมํ เทหํ ธาเรนฺตานํ,
     ขีณาสวานนฺติ อตฺโถ. อยํ เหตฺถ อตฺโถ:- ยสฺมา อรหตํ อาสนทาเนน อหํ
เอวํ ทิพฺพสมฺปตฺติยา โมทามิ, ตสฺมา อญฺเนาปิ อตฺตโน อภิวุทฺธึ ปตฺถยมาเนน
อนฺติมสมุสฺสเย ิตานํ อาสนํ ทาตพฺพํ, นตฺถิ ตาทิสํ ปุญฺนฺติ ทสฺเสติ. เสสํ
วุตฺตสทิสเมวาติ.
                      กุญฺชรวิมานวณฺณนา นิฏฺิตา.
                          ------------


             อรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย เล่มที่ ๓๐ หน้า ๓๒-๔๐. http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=30&A=695&modeTY=1              The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=30&A=695&modeTY=1              อ่านอรรถกถาแปลไทย :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=26&i=5              เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=26&A=91              พระไตรปิฎกฉบับบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=26&A=103              The Pali Tipitaka in Roman Character :- http://84000.org/tipitaka/read/roman_read.php?B=26&A=103              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ http://84000.org/tipitaka/read/?index_26

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย คลิกเพื่อเปลี่ยน ฐญ เป็นแบบไทย

บันทึก ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๑. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]