ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย คลิกเพื่อเปลี่ยน ฐญ เป็นแบบไทย  
อรรถกถาเล่มที่ ๓๓ ภาษาบาลีอักษรไทย เถร.อ.๒ (ปรมตฺถที.๒)

                  ๓๙๒. ๘. องฺคุลิมาลตฺเถรคาถาวณฺณนา
      คจฺฉํ วเทสิ สมณ ิโตมฺหีติอาทิกา ๑- อายสฺมโต องฺคุลิมาลตฺเถรสฺส คาถา.
กา อุปฺปตฺติ?
      อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ
อุปจินิตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ โกสลรญฺโ ปุโรหิตสฺส ภคฺควสฺส นาม
พฺราหฺมณสฺส ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, ตสฺส ชาตทิวเส สกลนคเร อาวุธานิ
ปชฺชลึสุ, รญฺโ จ มงฺคลาวุธํ สยนปีเ ปิตํ ปชฺชลิ, ตํ ทิสฺวา ราชา ภีโต
สํวิคฺโค นิทฺทํ น ลภิ. ปุโรหิโต ตายํ เวลายํ นกฺขตฺตโยคํ อุลฺโลเกนฺโต
"โจรนกฺขตฺเตน ชาโต"ติ สนฺนิฏฺานมกาสิ. โส วิภาตาย รตฺติยา รญฺโ สนฺติกํ
คโต สุขเสยฺยํ ปุจฺฉิ. ราชา "กุโต อาจริย สุขเสยฺยํ, รตฺติยํ มยฺหํ มงฺคลาวุธํ
@เชิงอรรถ:  ฉ.ม. คจฺฉํ วเทสีติอาทิกา
ปชฺชลิ, ตสฺส โก นุ โข วิปาโก ภวิสฺสตี"ติ. มา ภายิ มหาราช, มยฺหํ
ฆเร ทารโก ชาโต, ตสฺส อานุภาเวน สกลนคเรปิ อาวุธานิ ปชฺชลึสูติ. กึ
ภวิสฺสติ อาจริยาติ. ทารโก โจโร ภวิสฺสตีติ. กึ เอกจารี โจโร, อุทาหุ
คณเชฏฺโกติ. เอกจาริโก เทว. กึ นํ มาเรมาติ. "เอกจาริโก เจ, ปฏิชคฺคถ ตาว
นนฺ"ติ อาห. ตสฺส นามํ กโรนฺตา ยสฺมา ชายมาโน รญฺโ จิตฺตํ วิเหเสนฺโต
ชาโต, ตสฺมา หึสโกติ กตฺวา ปจฺฉา ทิฏฺึ อทิฏฺนฺติ วิย อหึสโกติ โวหรึสุ.
      โส วยปฺปตฺโต ปุพฺพกมฺมพเลน สตฺตนฺนํ หตฺถีนํ พลํ ธาเรติ, ตสฺสิทํ
ปุพฺพกมฺมํ:- พุทฺธสุญฺเ โลเก กสฺสโก หุตฺวา นิพฺพตฺโต เอกํ ปจฺเจกพุทฺธํ
วสฺโสทเกน ตินฺตํ อลฺลจีวรํ สีตปีฬิตํ อตฺตโน เขตฺตภูมึ อุปคตํ ทิสฺวา
"ปุญฺกฺเขตฺตํ เม อุปฏฺิตนฺ"ติ โสมนสฺสชาโต อคฺคึ กตฺวา อทาสิ. โส ตสฺส กมฺมสฺส
พเลน นิพฺพตฺตนิพฺพตฺตฏฺาเน ถามชวพลสมฺปนฺโน จ หุตฺวา อิมสฺมึ ปจฺฉิมตฺตภาเว
สตฺตนฺนํ หตฺถีนํ พลํ ธาเรติ. โส ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา ทิสาปาโมกฺขสฺส อาจริยสฺส
สนฺติเก ธมฺมนฺเตวาสี หุตฺวา สิปฺปํ อุคฺคณฺหนฺโต อาจริยพฺราหฺมณํ ตสฺส ภริยญฺจ
สกฺกจฺจํ ปฏิชคฺคติ. เตนสฺส สา พฺราหฺมณี เคเห ลพฺภมาเนน ภตฺตาทินา สงฺคหํ กโรติ.
ตํ อสหมานา อญฺเ มาณวา อาจริเยน สทฺธึ เภทํ อกํสุ. พฺราหฺมโณ เตสํ
วจนํ เทฺว ตโย วาเร อสทฺทหนฺโต หุตฺวา ปจฺฉา สทฺทหิตฺวา "มหาพโล มาณโว,
น สกฺกา เกนจิ มาราเปตุํ, อุปาเยน นํ มาเรสฺสามี"ติ จินฺเตตฺวา นิฏฺิตสิปฺปํ
อตฺตโน นครํ คนฺตุํ อาปุจฺฉนฺตํ มาณวํ อาห "ตาต อหึสก นิฏฺิตสิปฺเปน นาม
อนฺเตวาสินา อาจริยสฺส ครุทกฺขิณา ทาตพฺพา, ตํ มยฺหํ เทหี"ติ. สาธุ อาจริย
กึ ทสฺสามีติ. มนุสฺสานํ สหสฺสทกฺขิณหตฺถงฺคุลิโย อาเนหีติ. พฺราหฺมณสฺส กิร
อยมสฺส อธิปฺปาโย:- พหูสุ มาริยมาเนสุ เอกนฺตโต เอโก นํ มาเรยฺยาติ. ตํ
สุตฺวา อหึสโก อตฺตโน จิรปริจิตํ นิกฺกรุณตํ ปุรกฺขตฺวา สนฺนทฺธปญฺจาวุโธ โกสล-
รญฺโ วิชิเต ชาลินํ วนํ ปวิสิตฺวา มหามคฺคสมีเป ปพฺพตนฺตเร วสนฺโต ปพฺพตสิขเร
ตฺวา มคฺเคน ๑- คจฺฉนฺเต มนุสฺเส โอโลเกตฺวา เวเคน คนฺตฺวา องฺคุลิโย คเหตฺวา
รุกฺขคฺเค โอลมฺเพสิ. ตา คิชฺฌาปิ กากาปิ ขาทึสุ, ภูมิยํ นิกฺขิตฺตา ปูติภาวํ
อคมํสุ. เอวํ คณนาย อปริปูรมานาย ลทฺธา ลทฺธา องฺคุลิโย สุตฺเตน คนฺถิตฺวา
มาลํ กตฺวา ยญฺโปจิตํ วิย อํเส โอลมฺเพสิ, ตโต ปฏฺาย องฺคุลิมาโลเตฺววสฺส
สมญฺา อโหสิ.
      เอวํ ตสฺมึ มนุสฺเส มาเรนฺเต มคฺโค อวฬญฺโช อโหสิ. โส มคฺเค มนุสฺเส
อลภนฺโต คามูปจารํ คนฺตฺวา นิลียิตฺวา อาคตาคเต มนุสฺเส มาเรตฺวา องฺคุลิโย
คเหตฺวา คจฺฉติ. ตํ ตฺวา มนุสฺสา คามโต อปกฺกมึสุ, คามา สุญฺา อเหสุํ,
ตถา นิคมา ชนปทา จ. เอวํ เตน โส ปเทโส อุพฺพาสิโต อโหสิ. องฺคุลิมาลสฺส
จ เอกาย อูนา สหสฺสองฺคุลิโย สงฺคหา อเหสุํ. อถ มนุสฺสา ตํ โจรุปทฺทวํ
โกสลรญฺโ อาโรเจสุํ. ราชา ปาโตว นคเร เภรึ จราเปสิ "สีฆํ องฺคุลิมาลโจรํ
คณฺหาม, พลกาโย อาคจฺฉตู"ติ. ตํ สุตฺวา องฺคุลิมาลสฺส มาตา มนฺตานี นาม
พฺราหฺมณี ตสฺส ปิตรํ อาห "ปุตฺโต กิร เต โจโร หุตฺวา อิทญฺจิทญฺจ กโรติ,
ตํ `อีทิสํ มา กรี'ติ สญฺาเปตฺวา อาเนหิ, อญฺถา นํ ราชา ฆาเตยฺยา"ติ.
พฺราหฺมโณ "น มยฺหํ ตาทิเสหิ ปุตฺเตหิ อตฺโถ, ราชา ยํ วา ตํ วา กโรตู"ติ
อาห. อถ พฺราหฺมณี ปุตฺตสิเนเหน ๒- ปาเถยฺยํ คเหตฺวา "มม ปุตฺตํ สญฺาเปตฺวา
อาเนสฺสามี"ติ มคฺคํ ปฏิปชฺชิ. ภควา "อยํ `องฺคุลิมาลํ อาเนสฺสามี'ติ คจฺฉติ,
สเจ สา คมิสฺสติ, องฺคุลิมาโล `องฺคุลิสหสฺสํ ปูเรสฺสามี'ติ มาตรมฺปิ มาเรสฺสติ,
โส จ ปจฺฉิมภวิโก, สจาหํ น คมิสฺสํ, มหาชานิ อภวิสฺสา"ติ ตฺวา  ปจฺฉาภตฺตํ
ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต สยเมว ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา องฺคุลิมาลํ อุทฺทิสฺส ตึสโยชนิกํ
มคฺคํ ปทสาว ปฏิปชฺชมาโน อนฺตรามคฺเค โคปาลกาทีหิ วาริยมาโนปิ ชาลินํ
วนํ อุปคจฺฉิ. ตสฺมึ จ ขเณ ตสฺส มาตา เตน ทิฏฺา, โส มาตรํ ทูรโตว ทิสฺวา
"มาตรมฺปิ มาเรตฺวา อชฺช อูนงฺคุลึ ปูเรสฺสามี"ติ อสึ อุกฺขิปิตฺวา อุปธาวิ,
@เชิงอรรถ:  สี. มคฺเค    สี. ปุตฺตสิเนหสฺส พลวภาเวน
เตสํ อุภินฺนํ อนฺตเร ภควา อตฺตานํ ทสฺเสสิ, องฺคุลิมาโล ภควนฺตํ ทิสฺวา "กึ
เม มาตรํ วธิตฺวา องฺคุลิยา คหิเตน, ชีวตุ เม มาตา, ยนฺนูนาหํ อิมํ สมณํ ชีวิตา
โวโรเปตฺวา องฺคุลึ คเณฺหยฺยนฺ"ติ อุกฺขิตฺตาสิโก ภควนฺตํ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต
อนุพนฺธิ. อถโข ภควา ตถารูปํ อิทฺธาภิสงฺขารํ อภิสงฺขาสิ, ๑- ยถา ปกติอิริยาปเถน
คจฺฉนฺตมฺปิ อตฺตานํ องฺคุลิมาโล สพฺพถาเมน ธาวนฺโตปิ น สกฺโกติ สมฺปาปุณิตุํ. โส
ปริหีนชโว ฆุรุฆุรุปสฺสาสี กจฺเฉหิ เสทํ มุญฺจนฺโต ปทํ ๒- อุทฺธริตุมฺปิ
อสกฺโกนฺโต ขาณุ วิย ิโต ภควนฺตํ "ติฏฺ ติฏฺ สมณา"ติ อาห. ภควา คจฺฉนฺโตว
"ิโต อหํ องฺคุลิมาล, ตฺวญฺจ  ติฏฺา"ติ อาห. โส "อิเม โข สมณา สกฺยปุตฺติยา
สจฺจวาทิโน, อยํ สมโณ คจฺฉนฺโตเยว `ิโต อหํ องฺคุลิมาล, ตฺวญฺจ ติฏฺา'ติ
อาห, อหญฺจมฺหิ ิโต, โก นุ โข อิมสฺส อธิปฺปาโย, ปุจฺฉิตฺวา นํ ชานิสฺสามี"ติ
ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ:-
                [๘๖๖] "คจฺฉํ วเทสิ สมณ ิโตมฺหิ
                      มมญฺจ พฺรูสิ ิตมฏฺิโตติ
                      ปุจฺฉามิ ตํ สมณ เอตมตฺถํ
                      กถํ ิโต ตฺวํ อหมฏฺิโตมฺหี"ติ.
      ตตฺถ สมณาติ ภควนฺตํ อาลปติ. มมนฺติ มํ. กถนฺติ เกนากาเรน. อยเญฺหตฺถ
อตฺโถ:- สมณ ตฺวํ คจฺฉนฺโตว สมาโน "ิโตมฺหี"ติ วเทสิ. มมญฺจ ิตํเยว
"อฏฺิโต"ติ พฺรูสิ วเทสิ, การเณเนตฺถ ภวิตพฺพํ, ตสฺมา ตํ สมณํ อหํ เอตมตฺถํ
ปุจฺฉามิ. กถํ เกนากาเรน ตฺวํ ิโต อโหสิ, อหญฺจ อฏฺิโตมฺหีติ. เอวํ วุตฺเต
ภควา:-
                [๘๖๗] "ิโต อหํ องฺคุลิมาล สพฺพทา
                      สพฺเพสุ ภูเตสุ นิธาย ทณฺฑํ
@เชิงอรรถ:  สี. อภิสงฺขริ          สี. ปาทํ
                      ตุวญฺจ ปาเณสุ อสญฺโตสิ
                      ตสฺมา ิโตหํ ตุวมฏฺิโตสี"ติ
คาถาย ตํ อชฺฌภาสิ.
      ตตฺถ ิโต อหํ องฺคุลิมาล สพฺพทา, สพฺเพสุ ภูเตสุ นิธาย ทณฺฑนฺติ
องฺคุลิมาล อหํ สพฺพทา สพฺพกาเล อาทิมชฺฌปริโยสาเนสุ ตสถาวรเภเทสุ สพฺเพสุ
สตฺเตสุ ทณฺฑํ นิธาย นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ ลชฺชี ทยาปนฺโน, ตโต อญฺถา
อวตฺตนโต เอวรูเปเนว ิโต. ตุวํ จ ปาเณสุ อสญฺโตสีติ ตฺวํ ปน สตฺเตสุ
สญฺมรหิโต อสิ, ลุทฺโธ โลหิตปาณิ หตปหเต นิวิฏฺโ อทยาปนฺโน, ตสฺมา
อสญฺโต วิรติวเสน อฏฺิโต, ตโต เอว ตาสุ ตาสุ คตีสุ ปริพฺภมนโตปิ ตุวํ
อิทานิ อิริยาปเถน ิโตปิ อฏฺิโต อสิ, อหํ ปน วุตฺตปฺปกาเรน ิโตติ. ตโต
องฺคุลิมาโล ยถาภุจฺจคุณปฺปภาวิตสฺส ชลตเล เตลสฺส วิย สกลํ โลกํ อภิพฺยาเปตฺวา
ิตสฺส ภควโต กิตฺติสทฺทสฺส สุตปุพฺพตฺตา เหตุสมฺปตฺติยา าณสฺส จ ปริปากคตตฺตา
"อยํ โส ภควา"ติ สญฺชาตปีติโสมนสฺโส "มหา อยํ สีหนาโท, มหนฺตํ
คชฺชิตํ, นยิทํ อญฺสฺส ภวิสฺสติ, สมณสฺส มญฺเ โคตมสฺส เอตํ คชฺชิตํ, ทิฏฺโ
วตมฺหิ มเหสินา สมฺมาสมฺพุทฺเธน, มยฺหํ สงฺคหกรณตฺถํ ภควา อิธาคโต"ติ
จินฺเตตฺวา:-
                [๘๖๘] "จิรสฺสํ วต เม มหิโต มเหสี
                      มหาวนํ สมโณ ปจฺจปาทิ
                      โสหํ จชิสฺสามิ สหสฺสปาปํ
                      สุตฺวาน คาถํ ตว ธมฺมยุตฺตนฺ"ติ
อิมํ คาถํ อภาสิ.
      ตตฺถ จรสฺสํ วตาติ จิรกาเลน วต. เมติ มยฺหํ อนุคฺคหตฺถาย. มหิโตติ
สเทวเกน โลเกน มหติยา ปูชาย ปูชิโต. มหนฺเต สีลกฺขนฺธาทิคุเณ เอสิ คเวสีติ
มเหสี. มหาวนํ สมโณ ปจฺจปาทีติ อิมํ มหารญฺ สมิตสพฺพปาโป ภควา ปฏิปชฺชิ.
โสหํ จชิสฺสามิ สหสฺสปาปํ, สุตฺวาน คาถํ ตว ธมฺมยุตฺตนฺติ โสหํ ธมฺมยุตฺตํ
ธมฺมูปสํหิตํ ตว คาถํ สุณึ. โสหํ ตํ สุตฺวาน "จิรสฺสมฺปิ จิรกาเลนปิ สงฺคตํ
ปริจิตํ ปาปสหสฺสํ ปชหิสฺสนฺ"ติ จินฺเตตฺวา อิทานิ นํ อญฺทตฺถุ ปริจฺจชิสฺสามีติ
อตฺโถ. เอวํ ปน วตฺวา ยถา ปฏิปชฺชิ, ยถา จ ภควตา อนุคฺคหิโต, ตํ
ทสฺเสตุํ:-
                [๘๖๙] "อิจฺเจว โจโร อสิมาวุธญฺจ
                      โสพฺเภ ปปาเต นรเก อนฺวกาสิ
                      อวนฺทิ โจโร สุคตสฺส ปาเท
                      ตตฺเถว ปพฺพชฺชมยาจิ พุทฺธํ.
                [๘๗๐] พุทฺโธ จ โข การุณิโก มเหสิ
                      โย สตฺถา โลกสฺส สเทวกสฺส
                      ตเมหิ ภิกฺขูติ ตทา อโวจ
                      เอเสว ตสฺส อหุ ภิกฺขุภาโว"ติ
สงฺคีติการา อิมา เทฺว คาถา เปสุํ.
      ตตฺถ อิจฺเจวาติ อิติ เอว เอวํ วตฺวา อนนฺตรเมว. โจโรติ องฺคุลิมาโล.
อสินฺติ ขคฺคํ. อาวุธนฺติ เสสาวุธํ. โสพฺเภติ สมนฺตโต ฉินฺนตเฏ. ปปาเตติ เอกโต
ฉินฺนตเฏ. นรเกติ ภูมิยา ผลิตวิวเร. อิธ ปน ตีหิปิ ปเทหิ ยตฺถ ปตฺตํ ๑- อญฺเน
คเหตุํ น สกฺกา, ตาทิสํ ปพฺพตนฺตรเมว วทติ. อนฺวกาสีติ อนุ อกาสิ, ปญฺจวิธมฺปิ
อตฺตโน อาวุธํ อนุขิปิ ๒- ฉฑฺเฑสิ, ตานิ ฉฑฺเฑตฺวา ภควโต ปาเทสุ สิรสา นิปติตฺวา
"ปพฺพาเชถ มํ ภนฺเต "ติ อาห. เตน วุตฺตํ "อวนฺทิ โจโร สุคตสฺส ปาเท,
ตตฺเถว ปพฺพชฺชมยาจิ พุทฺธนฺ"ติ. เอวํ เตน ปพฺพชฺชาย ยาจิตาย สตฺถา ตสฺส
@เชิงอรรถ:  ฉ.ม. ปติตํ    ม. อนุ อนุ ขิปิ
ปุริมกมฺมํ โอโลเกนฺโต เอหิภิกฺขุภาวาย เหตุสมฺปตฺตึ ทิสฺวา ทกฺขิณหตฺถํ
ปสาเรตฺวา "เอหิ ภิกฺขุ, สฺวากฺขาโต ธมฺโม, จร พฺรหฺมจริยํ สมฺมา ทุกฺขสฺส
อนฺตกิริยายา"ติ อาห. สา เอว ตสฺส ปพฺพชฺชา อุปสมฺปทา จ อโหสิ. เตนาห "ตเมหิ
ภิกฺขูติ ตทา อโวจ, เอเสว ตสฺส อหุ ภิกฺขุภาโว"ติ.
      เอวํ เถโร สตฺถุ สนฺติเก เอหิภิกฺขุภาเวน ปพฺพชฺชํ อุปสมฺปทญฺจ ลภิตฺวา
วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺโต อรหตฺตํ ปตฺวา วิมุตฺติสุขํ ปฏิสํเวเทนฺโต ปีติโสมนสฺส-
ชาโต อุทานวเสน:-
         [๘๗๑] "โย จ ปุพฺเพ ปมชฺชิตฺวา     ปจฺฉา โส นปฺปมชฺชติ
               โสมํ โลกํ ปภาเสติ         อพฺภา มุตฺโตว จนฺทิมา.
         [๘๗๒] ยสฺส ปาปํ กตํ กมฺมํ         กุสเลน ปิธียติ
               โสมํ โลกํ ปภาเสติ         อพฺภา มุตฺโตว จนฺทิมา.
         [๘๗๓] โย หเว ทหโร ภิกฺขุ        ยุญฺชตี พุทฺธสาสเน
               โสมํ โลกํ ปภาเสติ         อพฺภา มุตฺโตว จนฺทิมา"ติ
คาถาตฺตยํ ๑- อภาสิ.
      ตสฺสตฺโถ:- โย ปุคฺคโล คหฏฺโ วา ปพฺพชิโต วา กลฺยาณมิตฺตสํสคฺคโต
ปุพฺเพ ปาปมิตฺตสํสคฺเคน วา อตฺตโน วา ปฏิสงฺขานาภาเวน ปมชฺชิตฺวา สมฺมา-
ปฏิปตฺติยํ ปมาทํ อาปชฺชิตฺวา ปจฺฉา กลฺยาณมิตฺตสํสคฺเคน โยนิโส อุมฺมุชฺชนฺโต
นปฺปมชฺชติ, สมฺมา ปฏิปชฺชติ, สมถวิปสฺสนํ อนุยุญฺชนฺโต ติสฺโส วิชฺชา ฉ อภิญฺา
ปาปุณาติ, โส อพฺภาทีหิ มุตฺโต จนฺโท วิย โอกาสโลกํ อตฺตนา อธิคตาหิ
วิชฺชาภิญฺาหิ อิมํ ขนฺธาทิโลกํ ๒- โอภาเสตีติ.
      ยสฺส ปุคฺคลสฺส กตํ อุปจิตํ ปาปกมฺมํ กมฺมกฺขยกเรน โลกุตฺตรกุสเลน
@เชิงอรรถ:  ฉ.ม. คาถตฺตยํ    สี. อิมํ ขนฺธาทิโลกํ วา
อวิปาการหภาวสฺส อาหริตตฺตา วิปากุปฺปาทเน ทฺวารปิธาเนน ปิธียติ ถกียติ.
เสสํ วุตฺตนยเมว.
      ทหโรติ ตรุโณ, เตนสฺส โยคกฺขมสรีรตํ ทสฺเสติ. โส หิ อุปฺปนฺนํ
วาตาตปปริสฺสยํ อภิภวิตฺวา โยคํ  กาตุํ สกฺโกติ. ยุญฺชตี พุทฺธสาสเน สิกฺขตฺตเย
ยุตฺตปฺปยุตฺโต โหติ, สกฺกจฺจํ สมฺปาเทตีติ อตฺโถ.
      เอวํ ปีติโสมนสฺสชาโต วิมุตฺติสุเขน วิหรนฺโต ๑- ยทา นครํ ปิณฺฑาย ปวิสติ,
ตทา อญฺเนปิ ขิตฺโต เลฑฺฑุ เถรสฺส กาเย นิปตฺติ, อญฺเนปิ ขิตฺโต ทณฺโฑ
ตสฺเสว กาเย นิปตฺติ. โส ภินฺเนน ปตฺเตน วิหารํ ปวิสิตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ
คจฺฉติ. สตฺถา ตํ โอวทิ ๒- "อธิวาเสหิ ตฺวํ พฺราหฺมณ, อธิวาเสหิ ตฺวํ พฺราหฺมณ,
ยสฺส โข ตฺวํ พฺราหฺมณ กมฺมสฺส วิปาเกน พหูนิ วสฺสสหสฺสานิ นิรเย ปจฺเจยฺยาสิ,
ตสฺส ตฺวํ พฺราหฺมณ กมฺมสฺส วิปากํ ทิฏฺเว ธมฺเม ปฏิสํเวเทสี"ติ. อถ เถโร
อโนธิโส สพฺพสตฺเตสุ เมตฺตจิตฺตํ อุปฏฺเปตฺวา:-
                [๘๗๔] "ทิสาปิ เม ธมฺมกถํ สุณนฺตุ
                      ทิสาปิ เม ยุญฺชนฺตุ พุทฺธสาสเน
                      ทิสาปิ เม เต มนุเช ภชนฺตุ
                      เย ธมฺมเมวาทปยนฺติ สนฺโต.
         [๘๗๕] ทิสา หิ เม ขนฺติวาทานํ        อวิโรธปฺปสํสินํ
               สุณนฺตุ ธมฺมํ กาเลน           ตญฺจ อนุวิธียนฺตุ.
         [๘๗๖] น หิ ชาตุ โส มมํ หึเส        อญฺ วา ปน กญฺจิ นํ
               ปปฺปุยฺย ปรมํ สนฺตึ            รกฺเขยฺย ตสถาวเร.
                [๘๗๗] อุทกํ หิ นยนฺติ เนตฺติกา
                      อุสุการา ทมยนฺติ ๓- เตชนํ
@เชิงอรรถ:  สี. วิมุตฺติสุขวิหาเรน     ฉ.ม. โอวทติ      ปาลิ. นมยนฺติ. เอวมุปริปิ
                      ทารุํ ทมยนฺติ ตจฺฉกา
                      อตฺตานํ ทมยนฺติ ปณฺฑิตา.
         [๘๗๘] ทณฺเฑเนเก ทมยนฺติ           องฺกุเสภิ กสาหิ จ
               อทณฺเฑน อสตฺเถน            อหํ ทนฺโตมฺหิ ตาทินา.
         [๘๗๙] อหึสโกติ เม นามํ            หึสกสฺส ปุเร สโต
               อชฺชาหํ สจฺจนาโมมฺหิ          น นํ หึสามิ กญฺจิ นํ.
         [๘๘๐] โจโร อหํ ปุเร อาสึ          องฺคุลิมาโลติ วิสฺสุโต
               วุยฺหมาโน มโหเฆน           พุทฺธํ สรณมาคมํ.
         [๘๘๑] โลหิตปาณิ ปุเร อาสึ          องฺคุลิมาโลติ วิสฺสุโต
               สรณคมนํ ปสฺส               ภวเนตฺติ สมูหตา.
         [๘๘๒] ตาทิสํ กมฺมํ กตฺวาน           พหุํ ทุคฺคติคามินํ
               ผุฏฺโ กมฺมวิปาเกน           อนโณ ภุญฺชามิ โภชนํ.
         [๘๘๓] ปมาทมนุยุญฺชนฺติ              พาลา ทุมฺเมธิโน ชนา
               อปฺปมาทญฺจ เมธาวี           ธนํ เสฏฺว รกฺขติ.
         [๘๘๔] มา ปมาทมนุยุญฺเชถ           มา กามรติสนฺถวํ
               อปฺปมตฺโต หิ ฌายนฺโต         ปปฺโปติ ปรมํ สุขํ.
         [๘๘๕] สฺวาคตํ นาปคตํ              เนตํ ทุมฺมนฺติตํ มม
               สวิภตฺเตสุ ธมฺเมสุ            ยํ เสฏฺ ตทุปาคมํ.
         [๘๘๖] สฺวาคตํ นาปคตํ              เตนํ ทุมฺมนฺติตํ มม
               ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา        กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ.
         [๘๘๗] อรญฺเ รุกฺขมูเล วา          ปพฺพเตสุ คุหาสุ วา
               ตตฺถ ตตฺเถว อฏฺาสึ          อุพฺพิคฺคมนโส ตทา.
         [๘๘๘] สุขํ สยามิ ายามิ            สุขํ กปฺเปมิ ชีวิตํ
               อหตฺถปาโส มารสฺส           อโห สตฺถานุกมฺปิโต.
         [๘๘๙] พฺรหฺมชจฺโจ ปุเร อาสึ         อุทิจฺโจ อุภโต อหุ
               โสชฺช ปุตฺโต สุคตสฺส          ธมฺมราชสฺส สตฺถุโน.
         [๘๙๐] วีตตโณฺห อนาทาโน           คุตฺตทฺวาโร สุสํวุโต
               อฆมูลํ วธิตฺวาน              ปตฺโต เม อาสวกฺขโย.
         [๘๙๑] ปริจิณฺโณ มยา สตฺถา          กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ
               โอหิโต ครุโก ภาโร          ภวเนตฺติ สมูหตา"ติ
อิมา คาถา อภาสิ.
      ตตฺถ ทิสาปีติ มยฺหํ ทิสาปิ อมิตฺตา ปจฺจตฺถิกาปิ เย มํ เอวํ อุปวทนฺติ
"ยถา มยํ องฺคุลิมาลสฺส วเสน าติวิโยคทุกฺขปเรตา ทุกฺขํ ปาปุณาม, เอวํ
องฺคุลิมาโลปิ ทุกฺขํ ปาปุณาตู"ติ. เม ธมฺมกถํ สุณนฺตูติ มยา สตฺถุ สนฺติเก
สุตํ จตุสจฺจธมฺมปฏิสํยุตฺตํ กถํ สุณนฺตุ. ยุญฺชนฺตูติ สุตฺวา จ ตทตฺถาย
ปฏิปชฺชนฺตุ. เต มนุเช ภชนฺตูติ ตาทิเส สปฺปุริเส กลฺยาณมิตฺเต ภชนฺตุ เสวนฺตุ.
เย ธมฺมเมวาทปยนฺติ สนฺโตติ เย สปฺปุริสา กุสลธมฺมเมว อุตฺตริมนุสฺสธมฺมเมว
นิพฺพตฺติตโลกุตฺตรธมฺมเมว จ อาทเปนฺติ สมาทเปนฺติ ๑- คณฺหาเปนฺติ.
      ขนฺติวาทานนฺติ อธิวาสนขนฺติเมว วทนฺตานํ, ตโต เอว อวิโรธปฺปสํสินนฺติ
เกนจิ อวิโรธภูตาย เมตฺตาย เอว ปสํสนสีลานํ. สุณนฺตุ ธมฺมํ กาเลนาติ ยุตฺตปฺ-
ปยุตฺตกาเล เตสํ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺตุ. ตญฺจ อนุวิธียนฺตูติ ตญฺจ ยถาสุตํ
ธมฺมํ สมฺมเทว อุคฺคหิตฺวา อนุกโรนฺตุ, ธมฺมานุธมฺมํ ปฏิปชฺชนฺตูติ อตฺโถ.
      น หิ ชาตุ โส มมํ หึเสติ โส มยฺหํ ทิโส ปจฺจตฺถิโก ชาตุ เอกํเสเนว
มํ น หึเส น พาเธยฺย. อญฺ วา ปน กญฺจิ นนฺติ น เกวลํ มํเยว,
อญฺ วาปิ กญฺจิ สตฺตํ น หึเสยฺย, ปปฺปุยฺย ปรมํ สนฺตินฺติ ปรมํ อุตฺตมํ
สนฺตึ นิพฺพานํ ปาปุเณยฺย, ปาปุณิตฺวา จ รกฺเขยฺย ตสถาวเรติ สพฺเพ จ สตฺเต
ปรมาย รกฺขาย รกฺเขยฺย, สิสฺสํ ปุตฺตํ ๒- วิย ปริปาเลยฺยาติ อตฺโถ.
@เชิงอรรถ:  สี. อาทาเปนฺติ สมาทาเปนฺติ          ม. ปิยํ ปุตฺตํ
      เอวํ เถโร อิมาหิ คาถาหิ ปเร ปาปโต ปริโมเจนฺโต ปริตฺตกิริยํ นาม
กตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปกาเสนฺโต "อุทกํ หี"ติ คาถมาห. ตตฺถ ปวิยา
ถลฏฺานํ ขณิตฺวา นินฺนฏฺานํ ปูเรตฺวา มาติกํ วา กตฺวา รุกฺขโทณึ วา เปตฺวา
อตฺตนา อิจฺฉิติจฺฉิตฏฺานํ อุทกํ เนนฺตีติ เนตฺติกา, อุทกหาริโน. เตชนนฺติ
กณฺฑํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ:- เนตฺติกา อตฺตโน รุจิยา อุทกํ นยนฺติ, อุสุการาปิ
ตาเปตฺวา วงฺกาภาวํ หรนฺตา เตชนํ อุสุํ ทมยนฺติ อุชุกํ กโรนฺติ, ตจฺฉกาปิ
เนมิอาทีนํ อตฺถาย ตจฺฉนฺตา ทารุํ ทมยนฺติ อตฺตโน รุจิยา อุชุํ วา วงฺกํ วา
กโรนฺติ. เอวํ เอตฺตกํ อารมฺมณํ กตฺวา ปณฺฑิตา สปฺปญฺา อริยมคฺคํ อุปฺปาเทนฺตา
อตฺตานํ ทเมนฺติ, อรหตฺตปฺปตฺตา ปน เอกนฺตทนฺตา นาม โหนฺตีติ.
      อิทานิ ปุริสทมฺมสารถินา สตฺถารา อตฺตโน ทมิตาการํ กตญฺุตญฺจ
ปกาเสนฺโต "ทณฺเฑเนเก"ติอาทิกา ปญฺจ คาถา อภาสิ. ตตฺถ ทณฺเฑเนเก ทมยนฺตีติ
ราชราชมหามตฺตาทโย ทณฺเฑน หตฺถิอสฺสาทินา พลกาเยน จ ปจฺจตฺถิกาทิเก
ทเมนฺติ, โคปาลาทโย จ คาวาทิเก ทณฺเฑน ยฏฺิยา ทเมนฺติ. หตฺถาจริยา หตฺถึ
องฺกุเสหิ อสฺสาจริยา อสฺเส กสาหิ จ ทเมนฺติ. อทณฺเฑน อสตฺเถน, อหํ ทนฺโตมฺหิ
ตาทินาติ อหํ ปน อิฏฺาทีสุ ๑- ตาทิภาวปฺปตฺเตน สมฺมาสมฺพุทฺเธน วินา เอว ทณฺเฑน,
วินา สตฺเถน, นิหิตทณฺฑนิหิตสตฺถภาเวน ทนฺโต ทมิโต นิพฺพิเสวโน คโต อมฺหิ.
      อหึสโกติ เม นามํ, หึสกสฺส ปุเร สโตติ สตฺถารา สมาคมโต ปุพฺเพ
หึสกสฺส เม สมานสฺส อหึสโกติ นามมตฺตํ อโหสิ. อชฺชาหนฺติ อิทานิ ปนาหํ,
"อหึสโก"ติ สจฺจนาโม อวิตถนาโม อมฺหิ, ตสฺมา น นํ หึสามิ กญฺจิปิ สตฺตํ
น หึสามิ น พาเธมิ, นนฺติ นิปาตมตฺตํ.
      วิสฺสุโตติ "ปาณาติปาตี ลุทฺโธ โลหิตปาณี"ติอาทินา ปญฺาโต. มโหเฆนาติ
กาโมฆาทินา มหตา โอเฆน, ตสฺส โอฆสฺส วิจฺเฉทกรํ พุทฺธํ สรณํ พุทฺธสงฺขาตํ
สรณํ อคมํ อุปคจฺฉึ. ๒-
@เชิงอรรถ:  สี. อิฏฺานิฏฺาทีสุ อารมฺมเณสุ          สี. อุปคญฺฉึ
      โลหิตปาณีติ ปาณมติปาตเนน ปเรสํ โลหิเตน รุหิเรน มกฺขิตปาณิ.
สรณคมนํ ปสฺสาติ มหปฺผลํ นาม สรณคมนํ ปสฺสาติ อตฺตานเมวาลปติ.
      ตาทิสํ กมฺมนฺติ อเนกสตปุริสวธํ ทารุณํ ตถารูปํ ปาปกมฺมํ. ผุฏฺโ กมฺม-
วิปาเกนาติ ปุพฺเพ กตสฺส ปาปกมฺมสฺส วิปาเกน ผุฏฺโ, สพฺพโส ปหีนกมฺโม
วิปากมตฺตํ ปจฺจนุโภนฺโต. อถวา ผุฏฺโ กมฺมวิปาเกนาติ  อุปนิสฺสยภูตสฺส กุสล-
กมฺมสฺส ผลภูเตน โลกุตฺตรมคฺเคน โลกุตฺตรกมฺมสฺเสว วา ผเลน วิมุตฺติสุเขน ผุฏฺโ.
สพฺพโส กิเลสานํ ๑- ขีณตฺตา อนโณ ภุญฺชามิ โภชนํ, โภชนาปเทเสน จตฺตาโรปิ
ปจฺจเย วทติ.
      อิทานิ ปุพฺเพ อตฺตโน ปมาทวิหารํ ครหามุเขน ปจฺฉา อปฺปมาทปฏิปตฺตึ
ปสํสนฺโต ตตฺถ จ ปเรสํ อุสฺสาหํ ชเนนฺโต "ปมาทมนุยุญฺชนฺตี"ติอาทิกา คาถา
อภาสิ. ตตฺถ พาลาติ พาเลฺยน สมนฺนาคตา อิธโลกปรโลกตฺถํ อชานนฺตา.
ทุมฺเมธิโนติ นิปฺปญฺา, เต ปมาเท อาทีนวํ อปสฺสนฺตา ปมาทํ อนุยุญฺชนฺติ
ปวตฺเตนฺติ, ปมาเทเนว ๒- กาลํ วีตินาเมนฺติ. เมธาวีติ ธมฺโมชปญฺาย สมนฺนาคโต
ปน ปณฺฑิโต กุลวํสาคตํ เสฏฺ อุตฺตมํ สตฺตรตนธนํ วิย อปฺปมาทํ รกฺขติ.
ยถา หิ "อุตฺตมํ ธนํ นิสฺสาย โภคสมฺปตฺตึ ปาปุณิสฺสาม, ปุตฺตทารํ โปเสสฺสาม,
สุคติมคฺคํ ๓- โสเธสฺสามา"ติ ธเน อานิสํสํ ปสฺสนฺตา ธนํ รกฺขนฺติ, เอวํ ปณฺฑิโตปิ
"อปฺปมาทํ นิสฺสาย ปมชฺฌานาทีนิ ปฏิลภิสฺสามิ, มคฺคผลานิ ปาปุณิสฺสามิ, ติสฺโส
วิชฺชา ฉ อภิญฺา สมฺปาเทสฺสามี"ติ อปฺปมาเท อานิสํสํ ปสฺสนฺโต ธนํ เสฏฺว
อปฺปมาทํ รกฺขตีติ อตฺโถ.
      มา ปมาทนฺติ ปมาทํ มา อนุยุญฺเชถ ปมาเทน กาลํ มา วีตินามยิตฺถ.
กามรติสนฺถวนฺติ วตฺถุกาเมสุ กิเลสกาเมสุ จ รติสงฺขาตํ ตณฺหาสนฺถวมฺปิ มา
@เชิงอรรถ:  สี. สพฺพกิเลสานํ         สี. ปมาเทน         สี. สุคติคมนมคฺคํ
อนุยุญฺเชถ มา วินฺทิตฺถ มา ปฏิลภิตฺถ. อปฺปมตฺโต หีติ อุปฏฺิตสติตาย อปฺปมตฺโต
ปุคฺคโล ฌายนฺโต ฌายนปฺปสุโต ปรมํ อุตฺตมํ นิพฺพานสุขํ ปาปุณาติ.
      สฺวาคตํ นาปคตนฺติ ยํ ตทา มม สตฺถุ สนฺติเก อาคตํ อาคมนํ สตฺถุ
วา ตสฺมึ มหาวเน อาคมนํ, ตํ สฺวาคตํ สฺวาคมนํ, นาปคตํ อตฺถโต อเปตํ
วิคตํ น โหติ. เนตํ ทุมฺมนฺติตํ มมาติ ยํ ตทา มยา "สตฺถุ สนฺติเก ปพฺพชิสฺสามี"ติ
มนฺติตํ, อิทมฺปิ มม น ทุมฺมนฺติตํ, สุมนฺติตเมว. กสฺมา? สวิภตฺเตสุ ธมฺเมสูติ
สาวชฺชานวชฺชาทิวเสน ปการโต วิภตฺเตสุ ธมฺเมสุ ยํ เสฏฺ อุตฺตมํ ๑- ปวรํ
นิพฺพานํ. ตทุปาคมํ ตเทว อุปคจฺฉินฺติ อตฺโถ.
     "ยทา ปุถุชฺชนกาเล ปโยคาสยวิปนฺนตาย อรญฺาทีสุ ทุกฺขํ วิหาสึ, อิทานิ
ปโยคาสยสมฺปนฺนตาย ตตฺถ สุขํ วิหรามี"ติ สุขวิหารภาวญฺเจว "ปุพฺเพ ชาติมตฺเตน
พฺราหฺมโณ, อิทานิ สตฺถุ โอรสปุตฺตตาย พฺราหฺมโณ"ติ ปรมตฺถพฺราหฺมณภาวญฺจ
ทสฺเสนฺโต "อรญฺเ"ติอาทิมาห. ตตฺถ สุขํ สยามีติ สยนฺโตปิ สุขํ สุเขน นิทุกฺเขน
จิตฺตุตฺราสาทีนํ อภาเวน เจโตทุกฺขรหิโต ๒- สยามิ. ายามีติ ติฏฺามิ. ๓-
อหตฺถปาโส มารสฺสาติ กิเลสมาราทีนํ อโคจโร. อโห สตฺถานุกมฺปิโตติ
สตฺถารานุกมฺปิโต อโห.
      พฺรหฺมชจฺโจติ พฺราหฺมณชาติโก. อุทิจฺโจ อุภโตติ มาติโต จ ปิติโต จ
อุภโต อุทิโต สํสุทฺธคหณิโก. เสสํ ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตนยเมว.
                   องฺคุลิมาลตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
                        ----------------


             อรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย เล่มที่ ๓๓ หน้า ๓๕๘-๓๗๐. http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=33&A=8256&modeTY=1              The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=33&A=8256&modeTY=1              อ่านอรรถกถาแปลไทย :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=26&i=392              เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=26&A=7765              พระไตรปิฎกฉบับบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=26&A=7877              The Pali Tipitaka in Roman Character :- http://84000.org/tipitaka/read/roman_read.php?B=26&A=7877              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ http://84000.org/tipitaka/read/?index_26

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย คลิกเพื่อเปลี่ยน ฐญ เป็นแบบไทย

บันทึก ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๑. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]