ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย คลิกเพื่อเปลี่ยน ฐญ เป็นแบบดั้งเดิม  
อรรถกถาเล่มที่ ๓๔ ภาษาบาลีอักษรไทย เถรี.อ. (ปรมตฺถที.)

                          ๑๒. โสฬสกนิปาต
                    ๔๖๖. ๑. ปุณฺณาเถรีคาถาวณฺณนา
      โสฬสกนิปาเต อุทหารี อหํ สีเตติอาทิกา ปุณฺณาย เถริยา คาถา.
      อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ
อุปจินนฺตี วิปสฺสิสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิญฺญุตํ ปตฺตา ๑- เหตุ-
สมฺปนฺนตาย สญฺชาตสํเวคา ภิกฺขุนีนํ สนฺติกํ คนฺตฺวา ธมฺมํ สุตฺวา ลทฺธปฺปสาทา
ปพฺพชิตฺวา ปริสุทฺธสีลา ตีณิ ปิฏกานิ อุคฺคเหตฺวา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมกถิกา
จ อโหสิ. ยถา จ วิปสฺสิสฺส ภควโต สาสเน, เอวํ สิขิสฺส เวสฺสภุสฺส กกุสนฺธสฺส
โกนาคมนสฺส กสฺสปสฺส จ ภควโต สาสเน ปพฺพชิตฺวา สีลสมฺปนฺนา พหุสฺสุตา
ธมฺมธรา ธมฺมกถิกา จ อโหสิ. มานธาตุกตฺตา ปน กิเลเส สมุจฺฉินฺทิตุํ นาสกฺขิ.
มาโนปนิสฺสยวเสน กมฺมสฺส จ กตตฺตา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท อนาถปิณฺฑิกสฺส
เสฏฺฐิโน ฆรทาสิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติ, ปุณฺณาติสฺสา นามํ อโหสิ. สา
สีหนาทสุตฺตนฺตเทสนาย ๒- โสตาปนฺนา หุตฺวา ปจฺฉา อุทกสุทฺธิกํ พฺราหฺมณํ ทเมตฺวา
เสฏฺฐินา สมฺภาวิตา หุตฺวา เตน ภุชิสฺสภาวํ ปาปิตา ตํ ปพฺพชฺชํ อนุชานาเปตฺวา
ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺตี นจิรสฺเสว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ.
เตน วุตฺตํ อปทาเน ๓-:-
            "วิปสฺสิโน ภควโต            สิขิโน เวสฺสภุสฺส จ
             กกุสนฺธสฺส มุนิโน            โกนาคมนตาทิโน.
             กสฺสปสฺส จ พุทฺธสฺส          ปพฺพชิตฺวาน สาสเน
             ภิกฺขุนี สีลสมฺปนฺนา           นิปกา สํวุตินฺทฺริยา.
@เชิงอรรถ:  ฉ.ม. ปตฺวา   ม.มู. ๑๒/๑๔๖/๑๐๕   ขุ.อป. ๓๓/๑๘๔/๔๒๘
             พหุสฺสุตา ธมฺมธรา           ธมฺมตฺถปฏิปุจฺฉิกา
             อุคฺคเหตา จ ธมฺมานํ         โสตา ปยิรุปาสิตา.
             เทเสนฺตี ชนมชฺเฌหํ          อโหสึ ชินสาสเน
             พาหุสจฺเจน เตนาหํ          เปสลา อติมญฺญิสํ.
             ปจฺฉิเม จ ภเว ทานิ         สาวตฺถิยํ ปุรุตฺตเม
             อนาถปิณฺฑิโน เคเห          ชาตาหํ กุมฺภทาสิยา.
             คตา อุทกหาริยํ             โสตฺถิยํ ทิชมทฺทสํ
             สีตฏฺฏํ โตยมชฺฌมฺหิ           ตํ ทิสฺวา อิทมพฺรวึ.
             อุทหารี อหํ สีเต            สทา อุทกโมตรึ
             อยฺยานํ ทณฺฑภยภีตา          วาจาโทสภยฏฺฏิตา.
             กสฺส พฺราหฺมณ ตฺวํ ภีโต       สทา อุทกโมตริ
             เวธมาเนหิ คตฺเตหิ          สีตํ เวทยเส ภุสํ.
             ชานนฺตี วต มํ โภติ          ปุณฺณิเก ปริปุจฺฉสิ
             กโรนฺตํ กุสลกมฺมํ            รุนฺธนฺตํ กตปาปกํ.
             โย จ วุฑฺโฒ ทหโร  วา      ปาปกมฺมํ ปกุพฺพติ
             อุทกาภิเสจนา ๑- โสปิ       ปาปกมฺมา ปมุจฺจติ.
             อุตฺตรนฺตสฺส อกฺขาสึ          ธมฺมตฺถสํหิตํ ปทํ
             ตญฺจ สุตฺวา สุสํวิคฺโค ๒-      ปพฺพชิตฺวารหา อหุ.
             ปูเรนฺตี อูนกสตํ             ชาตา ทาสิกุเล ยโต
             ตโต ปุณฺณาติ นามํ เม        ภุชิสฺสํ มํ อกํสุ เต.
@เชิงอรรถ:  ฉ.ม. ทกาภิเสจนา. เอวมุปริปิ   ฉ.ม. ส สํวิคฺโค
             เสฏฺฐึ ตโตนุชาเนตฺวา        ปพฺพชึ อนคาริยํ
             นจิเรเนว กาเลน           อรหตฺตมปาปุณึ.
             อิทฺธีสุ จ วสี โหมิ           ทิพฺพาย โสตธาตุยา
             เจโตปริยญาณสฺส            วสี โหมิ มหามุเน.
             ปุพฺเพนิวาสํ ชานามิ          ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ
             สพฺพาสวปริกฺขีณา            นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว.
             อตฺถธมฺมนิรุตฺตีสุ             ปฏิภาเน ตเถว จ
             ญาณํ เม วิมลํ สุทฺธํ          พุทฺธเสฏฺฐสฺส วาหสา.
             ภาวนาย มหาปญฺญา          สุเตเนว สุตาวินี
             มาเนน นีจกุลชา            น หิ กมฺมํ วินสฺสติ.
             กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ ฯเปฯ กตํ พุทฺธสฺส สาสนนฺ"ติ.
      อรหตฺตํ ปน ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทานวเสน:-
      [๒๓๖] "อุทหารี อหํ สีเต            สทา อุทกโมตรึ
             อยฺยานํ ทณฺฑภยภีตา          วาจาโทสภยฏฺฏิตา.
      [๒๓๗]  กสฺส พฺราหฺมณ ตฺวํ ภีโต       สทา อุทกโมตริ
             เวธมาเนหิ คตฺเตหิ          สีตํ เวทยเส ภุสํ.
      [๒๓๘]  ชานนฺตี วต มํ โภติ          ปุณฺณิเก ปริปุจฺฉสิ
             กโรนฺตํ กุสลํ กมฺมํ           รุนฺธนฺตํ กมฺมปาปกํ. ๑-
@เชิงอรรถ:  ฉ.ม. กตปาปกํ
      [๒๓๙]  โย จ วุฑฺโฒ ทหโร วา       ปาปกมฺมํ ปกุพฺพติ
             อุทกาภิเสจนา โสปิ          ปาปกมฺมา ปมุจฺจติ.
      [๒๔๐]  โก นุ เต อิทมกฺขาสิ         อชานนฺตสฺส อชานโก
            `อุทกาภิเสจนา ๑- นาม       ปาปกมฺมา ปมุจฺจติ.'
      [๒๔๑]  สคฺคํ นูน คมิสฺสนฺติ           สพฺเพ มณฺฑูกกจฺฉปา
             นาคา จ สุํสุมารา ๒- จ      เย จญฺเญ อุทเก จรา.
      [๒๔๒]  โอรพฺภิกา สูกริกา           มจฺฉิกา มิคพนฺธกา
             โจรา จ วชฺฌฆาตา จ        เย จญฺเญ ปาปกมฺมิโน.
             อุทกาภิเสจนา เตปิ          ปาปกมฺมา ปมุจฺจเร.
      [๒๔๓]  สเจ อิมา นทิโย เต         ปาปํ ปุพฺเพ กตํ วหุํ
             ปุญฺญมฺปิมา วเหยฺยุํ เต        เตน ตฺวํ ปริพาหิโร.
      [๒๔๔]  ยสฺส พฺราหฺมณ ตฺวํ ภีโต       สทา อุทกโมตริ
             ตเมว พฺรเหฺม มากาสิ        มา เต สีตํ ฉวึ หเน.
      [๒๔๕]  กุมฺมคฺคปฏิปนฺนํ มํ            อริยมคฺคํ สมานยิ
             อุทกาภิเสจนา โภติ          อิมํ สาฏํ ททามิ เต.
      [๒๔๖]  ตุยฺเหว สาฏโก โหตุ         นาหํ อิจฺฉามิ สาฏกํ
             สเจ ภายสิ ทุกฺขสฺส          สเจ เต ทุกฺขมปฺปิยํ.
      [๒๔๗]  มากาสิ ปาปกํ กมฺมํ          อาวิ วา ยทิ วา รโห
             สเจ จ ปาปกํ กมฺมํ          กริสฺสสิ กโรสิ วา.
@เชิงอรรถ:  ฉ.ม. ทกาภิเสจนา   ฉ.ม. สุสุมารา
      [๒๔๘]  น เต ทุกฺขา ปมุตฺยตฺถิ        อุเปจฺจาปิ ปลายโต
             สเจ ภายสิ ทุกฺขสฺส          สเจ เต ทุกฺขมปฺปิยํ.
      [๒๔๙]  อุเปหิ สรณํ พุทฺธํ            ธมฺมํ สํฆญฺจ ตาทินํ
             สมาทิยาหิ สีลานิ            ตํ เต อตฺถาย เหหิติ.
      [๒๕๐]  อุเปมิ สรณํ พุทฺธํ            ธมฺมํ สํฆญฺจ ตาทินํ
             สมาทิยามิ สีลานิ            ตํ เม อตฺถาย เหหิติ.
      [๒๕๑]  พฺรหฺมพนฺธุ ปุเร อาสึ         อชฺชมฺหิ สจฺจพฺราหฺมโณ
             เตวิชฺโช เวทสมฺปนฺโน       โสตฺติโย จมฺหิ นฺหาตโก"ติ
อิมา คาถา อภาสิ.
      ตตฺถ อุทหารีติ ฆเฏน อุทกํ วาหิกา ๑-. สีเต สทา ๒- อุทกโมตรินฺติ สีตกาเลปิ
สพฺพทา รตฺตินฺทิวํ อุทกํ โอตรึ. ยทา ยทา อยฺยกานํ อุทเกน อตฺโถ, ตทา
ตทา อุทกํ ปาวิสึ, อุทกโมตริตฺวา อุทกํ อุปเนสินฺติ อธิปฺปาโย. อยฺยานํ ทณฺฑ-
ภยภีตาติ อยฺยกานํ ทณฺฑภเยน ภีตา. วาจาโทสภยฏฺฏิตาติ วจีทณฺฑภเยน เจว
โทสภเยน จ อฏฺฏิตา ปีฬิตา, สีเตปิ อุทกโมตรินฺติ โยชนา.
      อเถกทิวสํ ปุณฺณา ทาสี ฆเฏน อุทกํ อาเนตุํ อุทกติตฺถํ คตา ตตฺถ
อทฺทส อญฺญตรํ พฺราหฺมณํ อุทกสุทฺธิกํ หิมปาตสมเย มหติ สีเต วตฺตมาเน ปาโตว
อุทกํ โอตริตฺวา สสีสํ นิมุชฺชิตฺวา มนฺเต ชปฺปิตฺวา อุทกโต อุฏฺฐหิตฺวา อลฺล-
วตฺถํ อลฺลเกสํ ปเวธนฺตํ ทนฺตวีณํ วาทยมานํ. ตํ ทิสฺวา กรุณาย สญฺโจทิตมานสา
ตโต นํ ทิฏฺฐิคตา วิเวเจตุกามา "กสฺส พฺราหฺมณ ตฺวํ ภีโต"ติอาทิคาถมาห.
ตตฺถ กสฺส พฺราหฺมณ ตฺวํ ๓- ภีโตติ อมฺโภ พฺราหฺมณ ๓- กุโต นาม ภยเหตุโต
ภีโต หุตฺวา. สทา อุทกโมตรีติ สพฺพกาลํ สายํ ปาตํ อุทกํ โอตริ. โอตริตฺวา
@เชิงอรรถ:  สี. ฆเฏน อุทกาหรณํ อกาสึ   ฉ.ม. ตทา  ๓-๓ ฉ.ม. อิเม ปาฐา น ทิสฺสนฺติ
จ เวธมาเนหิ กมฺปมาเนหิ คตฺเตหิ สรีราวยเวหิ สีตํ เวทยเส ภุสนฺติ สีตทุกฺขํ
อติวิย ทุสฺสหํ ๑- ปฏิสํเวทยสิ ปจฺจนุโภสิ.
      ชานนฺตี วต มํ โภตีติ โภติ ปุณฺณิเก ตฺวํ ตํ อุปจิตํ ปาปกมฺมํ รุนฺธนฺตํ
นิวารณสมตฺถํ กุสลํ กมฺมํ อิมินา อุทโกโรหเนน กโรนฺตํ มํ ชานนฺตี วต ๒-
ปริปุจฺฉสิ.
      นนุ อยมตฺโถ โลเก ปากโฏ เอว, ตถาปิ มยํ ตุยฺหํ วทามาติ ทสฺเสนฺโต
"โย จ วุฑฺโฒ"ติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ:- วุฑฺโฒ วา ทหโร วา มชฺฌิโม
วา โย โกจิ ปาณาติปาตาทิเภทํ ๓- ปาปกมฺมํ ปกุพฺพติ อติวิย กโรติ, โสปิ ภุสํ
ปาปกมฺมนิรโต ๔- อุทกาภิเสจนา สินาเนน ตโต ปาปกมฺมา ปมุจฺจติ อจฺจนฺตเมว
วิมุจฺจตีติ.
      ตํ สุตฺวา ปุณฺณิกา ตสฺส ปฏิวจนํ เทนฺตี "โก นุ เต"ติอาทิมาห. ตตฺถ
โก นุ เต อิทมกฺขาสิ, อชานนฺตสฺส อชานโกติ กมฺมวิปากํ อชานนฺตสฺส เต
สพฺเพน สพฺพํ กมฺมวิปากํ อชานโต อชานโก อวิทฺทสุ พาโล อุทกาภิเสจนเหตุ
ปาปกมฺมโต ปมุจฺจตีติ อิทํ อตฺถชาตํ โก นุ นาม อกฺขาสิ, น โส สทฺเธยฺยวจโน,
นาปิ เจตํ ยุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย.
      อิทานิสฺส ตเมว ยุตฺติอภาวํ วิภาเวนฺตี "สคฺคํ นูน คมิสฺสนฺตี"ติอาทิมาห.
ตตฺถ นาคาติ ภุชคา. ๕- สุํสุมาราติ กุมฺภีลา. เย จญฺเญ อุทเก จราติ เย จญฺเญปิ
วาริโคจรา มจฺฉมกรนนฺทิยาวตฺตาทโย จ, เตปิ สคฺคํ นูน คมิสฺสนฺติ เทวโลกํ
อุปปชฺชิสฺสนฺติ มญฺเญ, อุทกาภิเสจนา ปาปกมฺมโต มุตฺติ โหติ เจติ อตฺโถ.
      โอรพฺภิกาติ อุรพฺภฆาตกา. สูกริกาติ สูกรฆาตกา. มจฺฉิกาติ เกวฏฺฏา.
มิคพนฺธกาติ มาควิกา. วชฺฌฆาตาติ วชฺฌฆาตกมฺเม นิยุตฺตา.
@เชิงอรรถ:  ม. ทุกฺขาวหํ   ม. ชนนฺตี จ   ฉ.ม. โย โกจิ หึสาทิเภทํ
@ ม. ปาปกมฺมนิวารโต    สี. นกฺกาติ ฌสา, ฉ.ม. วิชฺฌสา
      ปุญฺญมฺปิมา วเหยฺยุนฺติ อิมา อจิรวติอาทโย นทิโย ยถา ตยา ปุพฺเพ
กตํ ปาปํ ตตฺถ อุทกาภิเสจเนน สเจ วเหยฺยุํ ๑- นีหเรยฺยุํ, ตถา ตยา กตํ ปุญฺญมฺปิ
อิมา นทิโย วเหยฺยุํ ปวาเหยฺยุํ. เตน ตฺวํ ปริพาหิโร ตถา สติ เตน ปุญฺญ-
กมฺเมน ตฺวํ ปริพาหิโร วิรหิโตว ภเวยฺยาสีติ ๒- น เจตํ ยุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. ยถา
วา อุทเกน อุทโกโรหกสฺส ปุญฺญปวาหนํ น โหติ, เอวํ ปาปปวาหนมฺปิ น
โหตีติเยว. กสฺมา? นฺหานสฺส ปาปเหตูนํ อปฺปฏิปกฺขภาวโต. โย ยํ วินาเสติ,
โส ตสฺส ปฏิปกฺโข. ยถา อาโลโก อนฺธการสฺส, วิชฺชา จ อวิชฺชาย, น เอวํ
นฺหานํ ปาปสฺส. ตสฺมา นิฏฺฐเมตฺถ คนฺตพฺพํ "น อุทกาภิเสจนา ปาปกมฺมา ๓-
ปริมุตฺตี"ติ. เตนาห ภควา:-
                   "น อุทเกน สุจี โหติ
                    พเหฺวตฺถ นฺหายตี ชโน
                    ยมฺหิ สจฺจญฺจ ธมฺโม จ
                    โส สุจี โส จ พฺราหฺมโณ"ติ. ๔-
      อิทานิ ยทิ ปาปํ ปวาเหตุกาโมสิ, สพฺเพน สพฺพํ ปาปํ มา กโรหีติ
ทสฺเสตุํ "ยสฺส พฺราหฺมณา"ติ คาถมาห. ตตฺถ ตเมว พฺรเหฺม มากาสีติ ยโต
ปาปโต ตฺวํ ภีโต, ตเมว ปาปํ พฺรเหฺม พฺราหฺมณ ตฺวํ มา อกาสิ. อุทโกโรหนํ
ปน อีทิเส สีตกาเล เกวลํ สรีรเมว พาธติ นาม. ๕- เตนาห "มา เต สีตํ
ฉวึ หเน"ติ, อีทิเส สีตกาเล อุทกาภิเสจเนน ชาตํ สีตํ ตว สรีรจฺฉวึ มา
หเนยฺย มา พาเธสีติ อตฺโถ.
      กุมฺมคฺคปฏิปนฺนํ มนฺติ "อุทกาภิเสจเนน สุทฺธิ โหตี"ติ อิมํ กุมฺมคฺคํ
มิจฺฉาคาหํ ปฏิปนฺนํ ปคฺคยฺห ฐิตํ มํ. อริยมคฺคํ สมานยีติ "สพฺพปาปสฺส อกรณํ,
@เชิงอรรถ:  ฉ.ม. วหุํ   ฉ.ม. ภเวยฺยาติ   ฉ.ม. ปาปโต
@ ขุ.อุ. ๒๕/๙/๑๐๐   ฉ.ม. อยํ สทฺโท น ทิสฺสติ
กุสลสฺส อุปสมฺปทา"ติ ๑- อิมํ พุทฺธาทีหิ อริเยหิ คตมคฺคํ สมานยิ สมฺมเทว
อุปเนสิ, ตสฺมา โภติ อิมํ สาฏกํ ตุฏฺฐิทานํ อาจริยภาคํ ตุยฺหํ ททามิ, ตํ
ปฏิคฺคณฺหาติ อตฺโถ.
      สา ตํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ธมฺมํ กเถตฺวา สรเณสุ สีเลสุ จ ปติฏฺฐาเปตุํ "ตุยฺเหว
สาฏโก โหตุ, นาหํ อิจฺฉามิ สาฏกนฺ"ติ วตฺวา "สเจ ภายสิ ทุกฺขสฺสา"ติอาทิมาห.
ตสฺสตฺโถ:- ยทิ ตุวํ สกลาปายิเก สุคติยญฺจ ๒- อผาสุกตาโทภคฺคตาทิเภทา ทุกฺขา
ภายสิ. ยทิ เต ตํ อปฺปิยํ อนิฏฺฐํ ๓-. อาวิ วา ปเรสํ ปากฏภาเวน อปฺปฏิจฺฉนฺนํ
กตฺวา กาเยน วาจาย ปาณาติปาตาทิวเสน วา ยทิ วา รโห อปากฏภาเวน
ปฏิจฺฉนฺนํ กตฺวา มโนทฺวาเรเยว อภิชฺฌาทิวเสน วา อณุมตฺตมฺปิ ปาปกํ ลามกํ
กมฺมํ มากาสิ มา กริ. อถ ปน ตํ ปาปกมฺมํ อายตึ กริสฺสสิ. เอตรหิ กโรสิ
วา, "นิรยาทีสุ จตูสุ อปาเยสุ มนุสฺเสสุ จ ตสฺส ผลภูตํ ทุกฺขํ อิโต เอตฺโต
วา ปลายนฺเต มยิ นานุพนฺธิสฺสตี"ติ อธิปฺปาเยน อุเปจฺจปิ สญฺจิจฺจ ปลายโตปิ
เต ตโต ปาปโต มุตฺติ โมกฺขา นาม ๔- นตฺถิ, คติกาลาทิปจฺจยนฺตรสมวาเย สติ
วิปจฺจเต เอวาติ อตฺโถ. "อุปจฺจา"ติ วา ปาโฐ, อุปติตฺวาติ อตฺโถ. เอวํ ปาปสฺส
อกรเณน ทุกฺขาภาวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปุญฺญสฺส กรเณนปิ ตํ ทสฺเสตุํ "สเจ
ภายสี"ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตาทินนฺติ ทิฏฺฐาทีสุ ตาทิภาวปฺปตฺตํ. ยถา วา ปุริมกา
สมฺมาสมฺพุทฺธา ปสฺสิตพฺพา, ตถา ปสฺสิตพฺพโต ตาทึ ๕-, ตํ สมฺพุทฺธํ ๖- สรณํ
อุเปหีติ โยชนา. ธมฺมสํเฆสุปิ เอเสว นโย. ตาทีนํ วรพุทฺธานํ ธมฺมํ อฏฺฐนฺนํ
อริยปุคฺคลานํ สํฆํ สมูหนฺติ โยชนา. ตนฺติ สรณคมนํ สีลานํ สมาทานญฺจ. เหหิตีติ
ภวิสฺสติ.
      โส พฺราหฺมโณ สรเณสุ สีเลสุ จ ปติฏฺฐาย อปรภาเค สตฺถุ สนฺติเก
ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา ฆเฏนฺโต วายมนฺโต นจิรสฺเสว เตวิชฺโช
หุตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทาเนนฺโต "พฺรหฺมพนฺธู"ติ คาถมาห.
@เชิงอรรถ:  ที.มหา. ๑๐/๙๐/๔๓, ขุ.ธ. ๒๕/๑๘๓/๔๙   สี. ชาติยา จ   ฉ.ม. น อิฏฺฐํ
@ ฉ.ม. อยํ สทฺโท น ทิสฺสติ   สี. ตาทินํ, ฉ.ม. ตาทิ   ฉ.ม. พุทฺธํ
      ตสฺสตฺโถ:- อหํ ปุพฺเพ พฺราหฺมณกุเล อุปฺปตฺติ มตฺเตน พฺรหฺมพนฺธุ นามาสึ.
ตถา อิรุพฺเพทาทีนํ อชฺเฌนาทิมตฺเตน เตวิชฺโช เวทสมฺปนฺโน โสตฺติโย นฺหาตโก
จ นามาสึ. อิทานิ สพฺพโส วาหิตปาปตาย สจฺจพฺราหฺมโณ ปรมตฺถพฺราหฺมโณ,
วิชฺชตฺยาธิคเมน เตวิชฺโช, มคฺคญาณสงฺขาเตน เวเทน สมนฺนาคตตฺตา เวทสมฺปนฺโน,
นิตฺถรสพฺพปาปตาย นฺหาตโก จ อมฺหีติ. เอตฺถ จ พฺราหฺมเณน วุตฺตคาถาปิ
อตฺตนา วุตฺตคาถาปิ ปจฺฉา เถริยา ปจฺเจกํ ภาสิตาติ สพฺพา เถริยา คาถา
เอว ชาตาติ.
                     ปุณฺณาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺฐิตา.
                      โสฬสกนิปาตวณฺณนา นิฏฺฐิตา.
                         ---------------


             อรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย เล่มที่ ๓๔ หน้า ๒๕๓-๒๖๑. http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=34&A=5429&modeTY=2              The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=34&A=5429&modeTY=2              อ่านอรรถกถาแปลไทย :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=26&i=466              เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=26&A=9569              พระไตรปิฎกฉบับบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=26&A=9605              The Pali Tipitaka in Roman Character :- http://84000.org/tipitaka/read/roman_read.php?B=26&A=9605              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ http://84000.org/tipitaka/read/?index_26

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย คลิกเพื่อเปลี่ยน ฐญ เป็นแบบดั้งเดิม

บันทึก ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๑. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]